ย้อนเวลามาเป็นท่านอ๋องน้อย 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์


     “ลั่วเอ๋อร์คารวะท่านป้าขอรับ” หลี่ลั่วแสดงมารยาทในฐานะผู้น้อย

     “ยังมีข้าด้วย?” ซื่อจื่อหลี่เฉินถาม เขาเป็๲คนที่ชอบอยู่กับเด็กเล็ก ไม่มีจุดมุ่งหมายอื่น เด็กวัยขนาดหลี่ลั่วนั้นเป็๲หลานชายของเขาได้เลย

     “ลั่วเอ๋อร์คารวะท่านลุงขอรับ”

     ได้ทำความรู้จักกันพอสมควรที่หน้าประตูแล้ว จากนั้นหลี่เฉินและหลี่หลินซื่อจึงได้เชิญพวกเขาไปยังห้องโถงใหญ่ ตำแหน่งที่นั่งประธานในห้องโถงนั้นมีกั๋วกงและกั๋วกงฮูหยินนั่งอยู่ กั๋วกงมีอายุหกสิบสองปี และกั๋วกงฮูหยินอายุห้าสิบเก้าปี

     “มาแล้ว มาแล้วเ๯้าค่ะ” หมัวมัวข้างกายกั๋วกงฮูหยินรีบขานเมื่อมองเห็นกลุ่มคนเดินใกล้เข้ามา

     “มาแล้วหรือ รีบพาเข้ามาให้ข้าดูหน่อย” กั๋วกงฮูหยินลุกขึ้น

     “เ๯้าอย่าร้อนใจไปเลย ข้าไปดูแทนเ๯้าเอง” กั๋วกงเหฺยพูดแล้วตนเองก็ลุกขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องนั้นหัวเราะขึ้นมา

     วันนี้หากเป็๲เด็กธรรมดาๆ ทั่วไปเข้าสู่ผังสกุลย่อมไม่มีพิธีการอะไรใหญ่โต แต่หลี่ลั่วนั้นมาสืบทอดตำแหน่งโหวของจวนโหว เมื่อวานฝ่า๤า๿ทรงแต่งตั้งด้วยองค์เอง และยังพระราชทานชื่อให้ด้วย คุณสมบัติเช่นนี้ย่อมไม่เหมือนกัน

     “นายท่านและฮูหยินนั่งลงเถิดเ๯้าค่ะ เหล่าไท่เหฺยและเสี่ยวโหวเหฺยมาถึงแล้วเ๯้าค่ะ” หมัวมัวพูดแล้วก็เดินเข้ามาก่อนพวกเขาไม่กี่ก้าว

     ปรากฏว่าเมื่อหมัวมัวกลับมายืนอยู่ข้างกายกั๋วกงฮูหยิน หลี่เหล่าไท่เหฺยและคนอื่นๆ ก็ตามเข้ามา หลี่หลินซื่อจับมือหลี่ลั่ว ทุกคนต่างมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า เห็นได้ชัดว่าได้พูดคุยกันมาตลอดทาง

     “คารวะอารอง อาสะใภ้รอง”

     “คารวะท่านปู่น้อย ท่านย่าสะใภ้น้อย”

     คนในห้องโถงใหญ่เยอะมาก หลี่ลั่วเห็นแล้วรู้สึกตาลาย คนในยุคโบราณเดิมการแต่งกายก็ยุ่งยากซับซ้อนอยู่แล้ว จดจำยาก ในเวลานี้ผู้คนมากมาย กลิ่นน้ำหอม กลิ่นชาด กลิ่นเครื่องหอม กลิ่นนานาชนิดจากทุกๆ คน หลี่ลั่วรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

     “ลั่วเอ๋อร์ นี่คือท่านปู่ใหญ่ของเ๽้า” หลี่หลินซื่อจับจูงมือหลี่ลั่วพร้อมกับแนะนำ

     หลี่ลั่วหยิบถ้วยน้ำชาที่สาวใช้ยื่นส่งให้ คุกเข่าลงยกน้ำชาให้กั๋วกง “ลั่วเอ๋อร์คารวะท่านปู่ใหญ่ เชิญท่านปู่ใหญ่ดื่มน้ำชาขอรับ” เสียงของเด็กน้อยสดใสดังกังวาน แผ่นหลังนั้นยืดตั้งตรงยิ่งนัก แต่ทุกคนคงคาดไม่ถึงว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่ เขากำลังคิดหาวิธีให้ฝ่า๢า๡พระราชทานรางวัลให้เขาได้รับการยกเว้นจากการคุกเข่า

     “เด็กดี” กั๋วกงเหฺยดื่มน้ำชา มองไปยังหลี่ลั่วด้วยความพออกพอใจ หลี่ลั่วหน้าตางดงาม ไม่เหมือนเด็กที่โตอยู่ข้างนอกจวนถึงห้าปีเลยแม้แต่น้อย แล้วอีกอย่างเขาคือผู้สืบทอดตำแหน่งโหวของจวนโหว ฝ่า๤า๿ทรงพระราชทานชื่อให้ สำหรับกั๋วกงเหฺยแล้วนั้น เกียรติของจวนโหวก็เป็๲เกียรติของครอบครัวสกุลหลี่ด้วยเช่นกัน เขาในฐานะหัวหน้าครอบครัวของบ้านสกุลหลี่ย่อมต้องยินดี พูดแล้วจึงหยิบอั่งเป่าออกมาซองหนึ่ง นี่คือของขวัญพบหน้า

     “ขอบคุณท่านปู่ใหญ่ขอรับ” หลี่ลั่วยิ้มหวานแล้วส่งอั่งเป่าให้ผิงอัน

     “ลั่วเอ๋อร์ นี่คือท่านย่าใหญ่ของเ๽้า

     หลี่ลั่วยกถ้วยน้ำชา แล้วคุกเข่าลงยกน้ำชาให้กั๋วกงฮูหยินอีก “ลั่วเอ๋อร์คารวะท่านย่าใหญ่ เชิญท่านย่าใหญ่ดื่มน้ำชาขอรับ”

     “อืม เด็กดี” กั๋วกงฮูหยินอายุมากแล้ว ย่อมชมชอบเด็กน้อยหน้าตางดงามเช่นหลี่ลั่ว อีกทั้งยังเป็๲เด็กน่ารัก นางดื่มน้ำชาไปอึกหนึ่งแล้วกวักมือเรียกหลี่ลั่ว “เข้ามาเร็ว ให้ย่าดูหน่อย”

     หลี่ลั่วลุกขึ้น ยิ้มจนตาหยีเดินเข้าไปหยุดข้างหน้ากั๋วกงฮูหยิน กั๋วกงฮูหยินท่านนี้แม้จะอายุมากแล้ว ทว่ามีรอยยิ้มที่อ่อนโยน ลักษณะสง่างามแผ่กระจายไปทั่วตัว แววตาทั้งคู่เมตตาปราณี ผู้คนเห็นก็รู้ว่าเป็๞เหล่าฮูหยินที่เฉลียวฉลาด หลี่ลั่วจึงคลานขึ้นไปบนขาของกั๋วกงฮูหยินด้วยตนเอง ดวงตาทั้งคู่ที่สดใสและอยากรู้อยากเห็นมองไปที่นาง

     การกระทำเช่นนี้ทำให้กั๋วกงฮูหยินรู้สึกปลาบปลื้มปิติยิ่งนัก เดิมทีคิดว่าเป็๲เด็กที่ไปเติบโตข้างนอก ตอนนี้มีฐานะสูงส่งแล้ว นิสัยก็ไม่น่าจะเข้าถึงได้ง่าย ไฉนเลยจะรู้ได้ว่าเด็กน้อยตรงหน้านี้ใจกว้างไม่ตระหนี่ตัว พูดจามีมารยาท มีคุณลักษณะโดดเด่นไปทั้งตัว เพียงมองดูก็รู้ว่าเป็๲เด็กในครอบครัวขุนนางชั้นสูงที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาเป็๲อย่างดี

     “หลานน้อย เ๯้าเรียนพื้นฐานรู้จักตัวหนังสือแล้วหรือไม่?” กั๋วกงฮูหยินลูบศีรษะของหลี่ลั่วพลางเอ่ยถามยิ้มๆ

     “สามขวบก็ปูพื้นฐานแล้วขอรับ รู้จักตัวหนังสือไม่น้อย” หลี่ลั่วตอบ อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่เช่นเหล่าไท่ไท่คนนี้แล้วต้องโอ้อวดอย่างภูมิใจนิดๆ จึงจะทำให้พวกเขาชมชอบมากขึ้น ส่วนการถ่อมตนต้องใช้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนในวัยเดียวกัน คนชราเมื่ออายุมากขึ้นแล้ว มักจะชอบเด็กที่เข้าใจเหตุผลและเอาแต่ใจตนเองเล็กน้อย

     “ไอหยา ยังไม่รู้จักถ่อมตนจริงๆ เช่นนั้นหรือ” รอยยิ้มของกั๋วกงฮูหยินเปิดกว้างกว่าเดิมขึ้นไปอีก “เช่นนั้นท่องหนังสือให้ข้าฟังสักหน่อย ท่องอะไรดีเล่า?”


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้