เย่เฟิงและหลงโม่หรานยืนเผชิญหน้ากัน บรรยากาศเย็นะเื
หลงโม่หรานคว้ากระบี่ พลังภายในปะทุจนเกิดกลิ่นอายพลังรุนแรง ในใจมีเพียงความคิดเดียวคือ การแทงกระบี่เข้าที่หัวใจเย่เฟิงให้สิ้นชีพ!
ขณะที่เย่เฟิงยืนอยู่ข้างหน้าร่างของซูเฟยหยิ่ง พร้อมกับคิดวิธีจัดการหลงโม่หรานเช่นกัน แต่เขาเพิ่งสังหารลิ่วจื่อไกว้ด้วยกระบี่และร่างกายอยู่ระหว่างฟื้นฟูพลังชี่ จึงจำเป็ต้องรอสักพัก ก่อนใช้กระบี่อีกครั้ง มิฉะนั้นพลังชี่จะแตกซ่านและผลที่ตามมาจะร้ายแรงกว่าการดูดซับพลังฟ้าดินเพื่อเพิ่มระดับพลังเสียอีก
ทั้งสองคนต่างประเมินฝ่ายตรงข้าม ด้านกลิ่นอายพลัง เย่เฟิงแทบจะแพ้หลงโม่หราน หากพูดกันตามตรงระดับพลังบ่มเพาะนั้นแตกต่างกันอย่างยิ่ง เสมือนเรือลำเล็กกลางพายุที่จวนจะล่มตลอดเวลา เพราะหลงโม่หรานเป็ยอดฝีมือที่มีระดับพลังถึงห้าสิบปี หญิงชราเจวี๋ยฉิงหรือลิ่วจื่อไกว้เทียบไม่ติด
พลังงานภายในที่ปะทุขึ้นมาของหลงโมราน ทำให้เย่เฟิงกระวนกระวายและรู้สึกกดดันมาก แน่นอนว่าพลังภายในของชายวัยกลางคนไม่ได้มีไว้เพื่ออวดเพียงอย่างเดียว แต่เป็การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด และตอนนี้เขาต้องพยายามสุดฝีมือเพื่อสังหารเย่เฟิง ไม่ปล่อยโอกาสให้เย่เฟิงมีชีวิตรอดได้
เพลงกระบี่บุปผาเหมันต์ฝ่าสายลมล้อมจันทรา— ลำนำคลั่งใต้จันทรา
เมื่อได้ยินชื่อเพลงกระบี่นี้ก็ััได้ถึงพลังอำนาจ ยิ่งกว่านั้นหลงโม่หรานบรรลุขั้นที่สามของเพลงกระบี่นี้แล้ว ซึ่งทุกวันนี้มีเพียงไม่กี่คนในยุทธจักรที่จะบรรลุถึงขั้นนั้นได้
ชั่วพริบตา หลงโม่หรานกวัดแกว่งกระบี่ในมือพร้อมกับพลังภายในปะทุขึ้นมาแล้วไหลเวียนไปที่ปลายกระบี่ ขณะร่ายรำเพลงกระบี่ด้วยท่าทางดุเดือด ก็ปล่อยกระบี่พลังปราณสีขาวที่มีความแหลมคมพุ่งใส่เย่เฟิงอย่างต่อเนื่องจากทุกทิศราวกับพายุ!
บ้าคลั่ง!
คำเดียวก็เพียงพอที่จะอธิบายถึงความปั่นป่วนที่เกิดจากเพลงกระบี่นี้ได้ หากศิษย์ทั่วไปของตระกูลหลงใช้เพลงกระบี่นี้ คงเป็ลำนำคลั่งใต้จันทราที่แลดูวุ่นวาย แต่หลงโม่หรานที่บรรลุถึงขั้นที่สามนั้น สามารถปลดปล่อยกระบี่พลังปราณจำนวนมากราวกับพายุคลั่งได้ อีกทั้งความเร็วยังสูงยิ่ง!
หากเย่เฟิงไม่มีทักษะจิตหยั่งรู้ คงไม่อาจตอบสนองได้ทัน แม้ปล่อยกระบี่พลังปราณออกมาได้ไม่ติดขัดและมีความเร็วใกล้เคียงกับความเร็วสูงสุดของเย่เฟิง แต่โชคดีที่เย่เฟิงมีทักษะจิตหยั่งรู้คอยช่วย ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีจากวิชากระบี่เช่นนี้ได้ แต่ที่น่าเศร้าก็คือ แม้ชายหนุ่มจะััถึงกระบี่พลังปราณที่บ้าคลั่งด้วยทักษะจิตหยั่งรู้ แต่ก็ไม่สามารถหลบหลีกมันได้ทั้งหมด
แม้ลูกบอลไฟเปลวสุริยะจะไม่สามารถละลายน้ำแข็งที่แช่ร่างซูเฟยหยิ่งไว้ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากระบี่พลังปราณเหล่านี้จะทำลายน้ำแข็งไม่ได้ ดูจากความรุนแรงแล้ว มันอาจทำลายชั้นน้ำแข็งที่ห่อหุ้มร่างของซูเฟยหยิ่งได้
หากเย่เฟิงหลบวิถีกระบี่พลังปราณพ้น มันต้องพุ่งเข้าหาร่างของซูเฟยหยิ่งแน่!
ชิ้ง!
กระบี่เจินชี่สีเขียวเข้มปรากฏในมือของเย่เฟิงทันที หากเขาไม่สามารถหลบการโจมตีหรือไม่สามารถใช้วิชากระบี่ไร้ตัวตนได้ ก็ต้องตั้งรับเพลงกระบี่ลำนำคลั่งใต้จันทราของอีกฝ่ายเท่านั้น
แม้กระบี่พลังปราณเหล่านี้จะพุ่งมาจากทุกทิศและรวดเร็วราวกับสายฟ้า แต่เย่เฟิงก็พยายามต้านทานกระบี่พลังปราณโดยอาศัยจิตหยั่งรู้ อีกทั้งอดทนจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมจึงจะสามารถจัดการได้ ชายหนุ่มกลั้นหายใจไปชั่วขณะ เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของฝ่ายตรงข้าม
กระบี่ที่น่าตกตะลึงของหลงโม่หรานทำให้สวีเซียวหยู่และศิษย์คนอื่นของสำนักหมัดเทวาต่างถอยออกไปไกล
เมื่อเห็นกระบี่พลังปราณสีขาวที่ดูอลหม่านวุ่นวายแต่ทรงพลังพุ่งใส่เย่เฟิง ไม่เพียงสวีเซียวหยู่และคนอื่นๆ แต่เหลยิและคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติต่างก็ตกตะลึง
นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่าปืนกลเสียอีก เป็ไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเห็นวิถีกระบี่พลังปราณสีขาวเ่าั้ด้วยตาเปล่า แม้แต่เครื่องมือตรวจจับขั้นสูงยังแสดงให้เห็นเพียงเส้นเลือนรางที่มาจากหลงโม่หรานและพุ่งไปยังเย่เฟิง ซึ่งเร็วกว่าะุสองเท่า
แบบนี้หลบไม่พ้นแน่
ทุกคนต่างก็คิดในใจเช่นนี้
สวีเซียวหยู่ส่ายหัวด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย หากระดับพลังบ่มเพาะของเย่เฟิงสูงกว่านี้ เขาคงปลดปล่อยพลังภายในออกมาเพื่อสร้างเป็เกาะคุ้มกัน และอาจลดความเสียหายจากกระบี่พลังปราณได้ แต่ด้วยระดับพลังบ่มเพาะเพียงสิบปีของเด็กหนุ่ม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการทำแบบนั้นเป็เพียงฝันของคนบ้าเท่านั้น
ดูเหมือนเ้าเด็กนี่คงมีชีวิตไม่พ้นวันนี้หรอก...
อีกด้านหนึ่ง สปีดโบตอีกสองลำเทียบท่าูเาน้ำแข็งแห่งนี้ มีทั้งตระกูลถังและวิหารดาบ์รวมสิบกว่าคน เมื่อมาอีกด้าน พวกเขาต่างก็เบิกตากว้างกับภาพอันน่าตกตะลึงบนลานน้ำแข็ง
หนิวเหมิ่งและเหลยิโต้เถียงกันอย่างดุเดือด แต่ก็พร้อมใจกันหยุดลงและจ้องไปที่ลานน้ำแข็งนั้น
ตาย!
ผู้คนรอบข้างเห็นร่างของเย่เฟิงราวกับถูกกระบี่พลังปราณแทงจนพรุนเป็พันๆ ครั้ง
อย่างไรก็ตามเย่เฟิงในเวลานี้ยังคงสงบนิ่ง
จิตใต้สำนึกของเขาพุ่งขึ้นระดับเดียวกับครั้งแรกนับั้แ่มายังโลกนี้ ทักษะจิตหยั่งรู้ของเขาจับวิถีกระบี่พลังปราณของหลงโม่หรานที่พุ่งเข้ามาอย่างชัดเจน แต่การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มไม่สามารถตอบสนองทันตามที่จิตหยั่งรู้ััได้ จึงต้านวิถีกระบี่พลังปราณได้บางจุดเท่านั้น
กระบี่สีเขียวเข้มเริ่มร่ายรำเพลงกระบี่ไม่หยุด
กระบี่พลังปราณพุ่งแทงที่ลำคอ แต่ก็ถูกกระบี่ในมือของเขาปัดป้องไว้ได้ จึงเบี่ยงทิศไปโดนที่ต้นขาของเย่เฟิงซึ่งไร้การป้องกันเสียงดัง ‘ฉึก’ ปรากฏาแที่เต็มไปด้วยเือย่างน่ากลัว
เมื่อกระบี่พลังปราณพุ่งสู่ตำแหน่งหัวใจ ก็ถูกเย่เฟิงปัดป้องด้วยกระบี่อย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีนี้ เขาจึงปกป้องจุดสำคัญบนร่างกายได้ แต่เพราะมันถึงขีดจำกัดแล้ว การเคลื่อนไหวจึงไม่เป็ไปตามใจคิด เพราะระดับพลังบ่มเพาะของเขาต่ำเกินไป
แทบจะทันทีที่กระบี่พลังปราณอันแสนบ้าคลั่งดั่งพายุกระหน่ำใส่ร่างเย่เฟิง ทำให้เขาได้รับาเ็จนเือาบ แต่โชคดีที่วิถีกระบี่พลังปราณทั้งหมดซึ่งพุ่งใส่จุดสำคัญจนอาจถึงแก่ชีวิตถูกเขาปัดป้องได้ทั้งหมด
การเคลื่อนไหวที่รุนแรงบ้าคลั่งของหลงโม่หรานไม่อาจคร่าชีวิตเย่เฟิงได้!
ทั่วทั้งยุทธจักร ผู้ที่สามารถทำเช่นนี้ได้มีไม่เกินจำนวนนิ้วมืุ์คนหนึ่ง แม้แต่เย่เวิ่นเทียนก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้ ทั้งหมดเพื่อให้หลงโม่หรานปลดปล่อยพลังภายในออกมา หากการโจมตีครั้งนี้หลงโม่หรานไม่สามารถสังหารเย่เฟิงได้ เขาก็จะกลายเป็เพียงคนไร้พลังจนไม่อาจต้านทานอะไรได้เลยใน่เวลาสั้นๆ
“หลงโม่หราน นี่เต็มที่ของแกแล้วเหรอ?”
เย่เฟิงยืนขึ้นโดยไม่สนใจาแนับสิบจุดที่เืไหล เขาเย้ยหยันอีกฝ่ายก่อนหัวเราะเสียงดัง
เป็เพราะชายหนุ่มอาศัยกระบี่เจินชี่ตลอดจนทักษะจิตหยั่งรู้ ต่อไปเป็ตาเขาบ้างล่ะ!
เมื่อทุกคนรอบข้างได้ยินเสียงหัวเราะของเย่เฟิง สีหน้าของพลันเปลี่ยนไป เย่เฟิงต้านทานเพลงกระบี่ของหลงโม่หรานได้อย่างไรกัน?
เป็ไปไม่ได้!
ทุกคนต่างคิดว่าตัวเองกำลังฝัน เห็นได้ชัดว่าเย่เฟิงมีระดับพลังบ่มเพาะเพียงสิบปี เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
ใบหน้าของหลงโม่หรานพลันมืดครึ้มทันที
เกือบแล้ว อีกแค่นิดเดียว!
เขารู้สึกได้ว่าหากระดับพลังของเขาสูงกว่านี้ไม่กี่ปี ลำนำคลั่งใต้จันทราคงสามารถสังหารเย่เฟิงได้แน่นอน น่าเสียดาย แม้ระดับพลังจะแตกต่างกัน แต่เย่เฟิงก็ยังสามารถต้านทานความเร็วของกระบี่พลังปราณของเขาได้ ตอนนี้พลังชี่ในร่างกายของเขาถูกใช้ไปจนเกือบหมดแล้ว หากเย่เฟิงใช้ทักษะเดียวกับที่เพิ่งใช้ไปก่อนหน้านี้ เป็ไปได้ที่เขาจะไม่อาจต้านทานอีกฝ่าย
ทำอย่างไรดี?
ขณะนี้ ไม่มีใครสังเกตเลยว่าอีกด้านหนึ่ง หนิวเหมิ่ง เหลยิ และเ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมากกว่ายี่สิบคนเริ่มออกจากูเาน้ำแข็งไปอย่างเงียบๆ แล้ว...