ซย่านีสูดลมหายใจเข้าลึก ในชาติที่แล้วไม่เคยมีเื่แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน! แน่นอนว่าอาจเป็เพราะหลังจากที่เกิดเื่ขึ้นกับเธอ ภายในบ้านก็เลยวุ่นวายกัน จนไม่มีใครสนใจลูกๆ เลย
“เกิดอะไรขึ้น?” ถูกเรียกผู้ปกครองแบบนี้ เ้าลูกคนนี้คงไม่ได้ทำเื่ดีไว้แน่! ทว่าซย่านียังคงใจเย็น เธอไม่ได้โกรธมากนัก เธอเอ่ยถามลูกชายว่า “ลูกไปก่อเื่อะไรไว้ล่ะ? ไม่ได้ทำการบ้าน? คุยตอนเรียน? ไม่ทำตามกฎในชั้นเรียน? หรือว่ามีเื่ต่อยตี?”
ขณะที่ซย่านีเอ่ยถาม ซ่งตงซวี่ก็ส่ายหน้าตอบ เขาเงยหน้ามองซย่านีด้วยสีหน้าลังเล พูดเสียงอ้ำอึ้ง “แค่...ก็แค่...ยังไงก็เถอะ...” สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่พูดว่า “เดี๋ยวไป แม่ก็รู้เองแหละ”
ซย่านีสูดหายใจเข้าลึก แล้วค่อยๆ ถอนหายใจออกมา เธอปรับอารมณ์ให้สงบลง พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนและใกล้ชิด “ไม่เป็ไร ลูกยังเด็ก ทำผิดบ้างก็ถือว่าเป็เื่ปกติ ตอนที่แม่ยังเด็กก็เคยทำผิดประจำ ขอแค่รู้ตัวว่าทำผิดแล้วปรับปรุงตนเองก็พอแล้ว แบบนี้สิถึงจะเป็เด็กดี” ซย่านีเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกประโยค “แม่อยากฟังจากปากของลูก ว่ามีเื่อะไรกันแน่”
อาจเป็เพราะทัศนคติของซย่านี จึงทำให้ซ่งตงซวี่มีความกล้าขึ้นมา เขาพูดขึ้น “ก็แค่...ก็แค่...ผะ...ผมเอาขนมของเพื่อนร่วมชั้นมา”
เขาใช้คำว่า ‘เอา’ มา
แล้วคำนั้น ความหมายของมันหมายถึงขโมยหรือว่าแย่งชิงหรือเปล่านะ?
ซย่านียังคงรักษารอยยิ้มเบาๆ บนใบหน้าของตนเองเอาไว้ “ลูกเอาขนมนั่นมาจากไหน? อาศัยจังหวะตอนที่เพื่อนร่วมชั้นของลูกไม่อยู่แล้วไป ‘เอา’ ขนมมาจากกระเป๋าของเขา หรือว่า ‘เอา’ มาจากในมือของเพื่อนร่วมชั้นของลูกเลย?”
ซ่งตงซวี่เบะปากราวกับว่าตนถูกดูแคลนเข้าแล้ว เขาะโสุดเสียง “ผมไม่มีทางขโมยอะไรทั้งนั้น!”
ซ่งวั่งซูยิ้มเยาะ “งั้นนายก็คง ‘แย่ง’ มาล่ะสิ”
ซ่งตงซวี่ปาหนังสือใส่ซ่งวั่งซูอย่างเดือดดาล “พี่ขำอะไรไม่ทราบ! ทำเหมือนว่าพี่ไม่ได้กินช็อกโกแลตที่ผมแย่งมางั้นแหละ?!”
ซ่งวั่งซูเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เธอรอดจากการถูกหนังสือปาใส่ จู่ๆ เธอถูกน้องชายโจมตีกะทันหันแบบนี้ ใครบ้างจะไม่โกรธ ดังนั้นเธอจึงอยากจะเอาคืนอีกฝ่าย เธอตวาดเสียงดังลั่น “นายทำบ้าอะไรฮะ! ถ้าฉันรู้ว่านายแย่งขนมนั่นมาจากคนอื่น ฉันก็คงไม่กินหรอก! ซ่งตงซวี่นายเป็ผีหิวกลับชาติมาเกิดหรือไง? แม้แต่ของกินก็ยังจะแย่งคนอื่นเขามา หัดอายคนอื่นบ้างเถอะ”
เด็กทั้งสองคนกำลังจะตีกันในไม่ช้านี้แล้ว
“พอได้แล้ว!”
ซย่านีรู้สึกเหมือนหัวจะะเิ!
เธอชี้ไปทางซ่งวั่งซูพลางกล่าวว่า “ทำการบ้านของลูกไปซะ” จากนั้นเธอก็ชี้ไปทางซ่งตงซวี่อีกคน “ส่วนลูกตามแม่มา!”
“บอกแม่มา ทำไมลูกถึงต้องแย่งขนมมาจากเพื่อนร่วมชั้นด้วย” ซย่านีลากซ่งตงซวี่ออกมานอกห้อง
ซ่งตงซวี่ก้มหน้าลง เตะเท้าลงบนพื้นไปมาพลางกล่าวว่า “ผมไม่เคยกินช็อกโกแลตมาก่อน ก็เลยอยากลองชิมดู...มันขม ไม่อร่อยเลยสักนิด!”
“ถ้าลูกอยากกินก็บอกพ่อกับแม่สิ ทำไมต้องแย่งขนมเพื่อนร่วมชั้นด้วย?” ซย่านีพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ครั้นคิดถึงจุดจบในชาติก่อนที่ลูกคนนี้ อาชญากรผู้ลงมือก่ออาชญากรรมจนต้องติดคุก เธอก็ตะคอกอีกฝ่ายด้วยท่าทีเข้มงวด “สิ่งที่ลูกทำ มันคือการปล้นชิงมาจากคนอื่น ลูกเข้าใจไหม? การปล้นของจากคนอื่นมีโทษต้องติดคุกนะ!”
ซ่งตงซวี่ใจนตัวสั่นเทิ้ม เขาดูออกว่าซย่านีโกรธแล้วจริงๆ เขาก้มหน้าลงพลางเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว”
เห็นเขายอมรับผิดอย่างรวดเร็ว ซย่านีก็มีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของเธอยังคงแข็งกร้าวอยู่มาก “แค่พูดขอโทษกับแม่ แล้วคิดว่าทุกอย่างจะจบหรือ?”
ซ่งตงซวี่ส่ายหน้า “ยังต้องขอโทษครูด้วยครับ”
“ยังมีใครอีกไหม?”
ซ่งตงซวี่คิดอยู่ชั่วขณะ “ผมยังต้องขอโทษถังเสี่ยวหลงด้วย”
ซย่านีเห็นเขารู้เื่แบบนี้ ความโกรธก็ค่อยๆ ลดลง และน้ำเสียงของเธอก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย “พรุ่งนี้ก็ไปขอโทษครูกับเพื่อนร่วมชั้นของลูกซะนะ” ซย่านีเงียบไปชั่วขณะ “ลูกเอ๋ย สิ่งที่พี่สาวลูกพูดมานั้น พี่ของลูกไม่ได้พูดผิดเลยสักนิด ลูกทำเื่แบบนี้ ช่างขายหน้าคนมากจริงๆ ถึงการรังแกคนที่อ่อนแอกว่า จะทำให้ไม่มีใครดูถูกลูกได้ แต่ลูกคิดว่าตัวเองต่อสู้เก่งมาก คนอื่นก็เลยกลัวลูกและพากันหลบเลี่ยงลูก ทว่าการกระทำเหล่านี้เป็เื่น่าภูมิใจหรือจ๊ะ? เ้าคนอันธพาลจางหู่ที่อยู่ซอยข้างๆ นั่นก็ต่อสู้เก่งมากนี่น่า แต่ลูกเคยเห็นเพื่อนบ้านในละแวกนี้มีใครเคยทักทายเขาก่อนบ้างไหม?”
ซ่งตงซวี่สับสนงุนงง ราวกับกำลังครุ่นคิดว่าจางหู่คือใคร
ซย่านีรู้ว่าเด็กคนนี้อายุเพียงหกขวบ มีเหตุผลมากมายที่เขายังฟังไม่ค่อยเข้าใจนัก เธอจึงปรับสีหน้าให้เป็ปกติพลางกล่าวว่า “นี่จะเป็ครั้งสุดท้าย ถ้ายังเกิดเื่แบบนี้ขึ้นอีกครั้งล่ะก็ ซ่งตงซวี่ แม่จะเป็คนจับลูกส่งสถานีตำรวจด้วยตัวเองเลย คอยดู! แม่พูดคำไหนคำนั้น”
ทางด้านซย่านีที่เพิ่งจะสั่งสอนลูกชายเสร็จ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังมาจากตรอกด้านนอก
ซย่านีสูดหายใจเข้าหนึ่งที ก่อนจะผลักหลังลูกชายเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ ลูกกลับห้องไปทำการบ้านเถอะ พรุ่งนี้ตอนเช้าแม่จะไปโรงเรียนกับลูกเอง”
หลังจากที่ลูกชายของซย่านีกลับห้องแล้ว ซย่านีก็หลับตาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของตนเองหยุดเต้นไปแล้ว พวกเขาจะหาหลี่เสวี่ยหรูเจอไหมนะ? แล้วจะเห็นหลี่เสวี่ยหรูถูกย่ำยีกับตาตัวเองกันไหม?
หัวใจเธอเหมือนจะติดปีกนำลิ่วออกไปทางประตูก่อนเท้าของเธอจะก้าวซะอีก สายตาของซย่านีเหลือบไปเห็นหลี่เสวี่ยหรูที่ถูกห้อมล้อมอยู่กลางฝูงชน เธอเดินไปพูดคุยไป พร้อมกับหัวเราะร่าจากที่ไกลๆ เธอก็พลันหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มเสียแล้ว
ทำไมกันนะ?
ทำไมถึงกลายเป็แบบนี้ไปได้?
เธอเห็นกับตาตัวเองชัดๆ ว่าหลี่เสวี่ยหรูถูกดึงเข้าโพรงหญ้าไปแล้ว! ทำไมตอนนี้หลี่เสวี่ยหรูถึงกลับมาแบบไร้รอยขีดข่วนได้เล่า?
จางหวาเฟิงล่ะ? ไอ้คนไม่ได้เื่เอ๊ย!
ทันทีที่หลี่เสวี่ยหรูเงยหน้าขึ้น เธอก็สบสายตาเข้ากับซย่านี พริบตานั้นความคิดของเธอก็คล้ายคลึงกับซย่านียิ่งนัก เธอเองก็กำลังคิดว่า ทำไมกันนะ เธอวางแผนได้หมดจดงดงามถึงเพียงนี้ ทำไมถึงยังปล่อยให้ซย่านีหนีรอดไปได้? อีกนิดเดียวก็จะจัดการยัยนั่นได้แล้วเชียว!
หลี่เสวี่ยหรูถูกจางหวาเฟิงลากเข้าโพรงหญ้าไปจริงๆ แต่เธอโชคดีมาก เพิ่งจะถูกอีกฝ่ายเปลื้องผ้า เธอก็ได้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นช่วยเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะจางหวาเฟิงวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วล่ะก็ ป่านนี้เขาคงถูกจับตัวส่งสถานีตำรวจไปแล้ว
พอคิดถึงเื่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ หลี่เสวี่ยหรูก็พลันหัวใจเต้นระรัว
“พี่ซย่านี” หลี่เสวี่ยหรูเดินเข้ามาหาซย่านีพร้อมกับใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มจอมปลอม “ฉันเพิ่งได้ยินมาจากเหม่ยอวิ๋น ว่าพี่เพิ่งเจอเข้ากับอันธพาล...ต้องโทษฉันเอง ถ้าฉันกลับมาพร้อมกับพี่ พี่ก็คงไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย”
ฝูงชนได้ยินกันทั่ว ยัยตัวดีนี่นะ ที่แท้แล้วซย่านีเองก็ได้เจอกับเ้าอันธพาลนั่นแล้ว! ตอนที่พวกเขาพากันวิ่งตามออกไป เพียงแค่ได้ยินว่าหลี่เสวี่ยหรูอาจจะเจออันธพาล ดังนั้นพวกเขาจึงรีบตามคนมาช่วย ผลลัพธ์ก็คือพวกเขามาได้ครึ่งทางก็พบหลี่เสวี่ยหรูเข้าแล้ว คนก็ดูปกติดี ไม่เห็นจะมีเื่อะไรเกิดขึ้นเลย
หลังจากวุ่นวายกันอยู่ตั้งนาน ที่แท้คนที่เจอกับพวกอันธพาลก็คือซย่านีต่างหาก ไม่ใช่หลี่เสวี่ยหรู!
ในค่ำคืนเงียบสงบ จะเกิดเื่อะไรขึ้นถ้าได้เจอกับพวกอันธพาลเข้า? คนจำนวนมากพากันมองซย่านีด้วยสายตาแปลกๆ
ซย่านียังไม่ทันได้อธิบายอะไร ซ่งเหม่ยอวิ๋นผู้เป็น้องสามีของเธอก็เบียดตัวออกจากฝูงชนมายืนอยู่ด้านหน้าสุด ถลึงตาจ้องมองซย่านีอย่างร้ายกาจ พร้อมกับพยุงหลี่เสวี่ยหรูพลางกล่าวอย่างเดือดดาล “พี่เสวี่ยหรู พี่อย่าไปสนใจเธอเลย! เธอรู้อยู่เต็มอกว่าเ้าอันธพาลนั่นตามหาพี่อยู่ รู้ทั้งรู้ว่าพี่จะเจอกับอันตราย ยังไม่ยอมไปบอกพี่หรือไม่ก็รีบไปแจ้งตำรวจให้ไปจับเ้าอันธพาลนั่นอีก เธอรู้จักแต่หนีเอาตัวรอด!”
สายตาของผู้คนรอบด้านหันไปมองที่หลี่เสวี่ยหรูทันควัน แท้จริงแล้วคนที่เ้าอันธพาลคนนั้นตามหา ก็คือหลี่เสวี่ยหรูงั้นหรือ?
พวกมนุษย์ป้าที่จมูกยื่นจมูกยาวในตรอกพลันได้กลิ่นเื่ซุบซิบขึ้นมาทันที
หลี่เสวี่ยหรูแทบจะคุมสีหน้าของตนเองไม่อยู่ เธอกัดฟันกรอด ยัยโง่เอ๊ย!
ส่วนซย่านีนั้นแทบจะหลุดหัวเราะออกมา น้องสามีของเธอคนนี้ช่างโง่เง่าได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ!
“ทำไมฉันต้องไม่หนีด้วยล่ะ?” ซย่านีเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ “จู่ๆ ผู้ชายคนนั้นก็ะโออกมาจากข้างทางแล้วคว้าตัวฉันไว้ เขาพยายามจะกอดฉัน ทำเอาฉันใแทบแย่! อีกอย่างนะ ผู้ชายคนนั้นก็คือคนรักเก่าของหลี่เสวี่ยหรูตอนที่อยู่ชนบท แบบนี้แล้วเขายังจะกล้าทำอะไรหลี่เสวี่ยหรูได้อีก!? ในฐานะคนนอกคนหนึ่ง ฉันไม่กล้าเข้าไปยุ่งเื่ของคนสองคนหรอกนะ!”
ผู้คนรอบด้านพากันส่งเสียงฮือฮา ที่แท้ก็เป็คนรักเก่ามาหาถึงบ้านนี่เอง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้