เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากทางเดินข้างห้องครัว กลิ่นน้ำหอมราคาแพงลอยมาตามสายลมบางเบา เธอเงยตาขึ้นเล็กน้อย ก็เห็นเงาร่างสูงใหญ่อยู่ตรงนั้น
ธีรัชในชุดสูทสีเข้มเนี้ยบกริบ ดูสมบูรณ์แบบและสง่างามเกินเอื้อม มือข้างหนึ่งของเขาล้วงกระเป๋าอย่างสบายๆ ขณะที่อีกข้างถือแก้วไวน์แกว่งเบาๆ ราวกับไม่มีอะไรเร่งรีบในโลกใบนี้
เขามองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย... เรียบเสียจนอ่านไม่ออกว่าข้างในนั้นมีความรู้สึกแบบไหนซ่อนอยู่
"ทำอะไร?"
"ฉัน... ล้างจานค่ะ" เธอตอบเสียงเบา ก้มหน้าลงจนแทบจมลงไปในอ่างล้างจาน
"ดี..." ธีรัชเอ่ยเสียงเนิบช้า "เหมาะกับเธอดี"
ใช่...นี่คือสิ่งที่เขา้า กดเธอให้ตกต่ำ ลากเธอลงสู่ความต่ำต้อยที่สุดที่เขาจะทำได้
ธีรัชยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้จนเงาของเขาทาบทับตัวเธอ
จากนั้นเขาโน้มตัวลง กระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ราวกับมีดปลายแหลม
"อย่าคิด...ว่าจะมีสิทธิ์ได้รับความเคารพจากใครในบ้านหลังนี้"
"สำหรับฉัน..." ธีรัชเว้นจังหวะ ก่อนจะกดเสียงต่ำเฉียบอีกระลอก
"เธอไม่มีค่ามากไปกว่าคนใช้คนหนึ่ง หรืออาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ"
จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่หันกลับมามอง ทิ้งให้มินตราอยู่ตรงนั้น ล้อมรอบด้วยอ่างล้างจานที่เต็มไปด้วยคราบไขมัน กับห้องครัวที่เย็นะเื
เสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังก้องไปทั่วผืนป่า
สายน้ำใสเย็นไหลเชี่ยวกรากลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์
กลุ่มนักเรียนที่มาเข้าค่ายฤดูร้อนต่างหัวเราะสนุกสนาน หยอกล้อและสาดน้ำใส่กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
แต่ธีรัช ไม่ใช่หนึ่งในนั้น
เขายืนแยกตัวออกมาจากกลุ่ม บนโขดหินริมลำธาร ดวงตาสีดำสนิททอดมองไกลออกไปด้วยความว่างเปล่า
เด็กชายวัยสิบเก้าปีในวันนั้น ไม่ได้้าเสียงหัวเราะ ไม่้ามิตรภาพ
เขาเพียงแค่้า... ให้เวลาที่น่าเบื่อนี้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
สายลมเอื่อยๆ พัดผ่านไป ขณะที่ฝนห่าใหญ่เริ่มโปรยปรายลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เสียงน้ำไหลเชี่ยวดังสะท้อนอยู่ในหู ภาพของสายน้ำที่เคยใสดูสงบนั้น บัดนี้กลับแฝงไปด้วยอันตรายที่มองไม่เห็น
เท้าของเขาเหยียบลงบนเนินดินที่ลื่นเฉอะแฉะโดยไม่ทันระวัง เพียงเสี้ยววินาที ร่างสูงใหญ่ของเขาก็เสียหลัก แล้วตกลงไปในกระแสน้ำเชี่ยวกรากทันที
น้ำเย็นเฉียบโอบรัดร่างของเขา ธีรัชตะเกียกตะกาย พยายามยึดเกาะทุกอย่าง แต่กระแสน้ำกลับซัดเขาอย่างไร้ปรานี เรี่ยวแรงกายค่อยๆ จางหาย เขากำลังจะจมน้ำ
เสียงกรีดร้องดังขึ้นริมน้ำ เพื่อนๆ ของเขาต่างตื่นตระหนก แต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยงชีวิตตามลงไปช่วย
ธีรัชถูกพัดไกลออกไปเรื่อยๆ
โขดหินกระแทกเข้ากับร่างกายเขาจนเจ็บแปลบ ความหนาวเย็นและความสิ้นหวังครอบงำสติจนเริ่มพร่าเลือน
และในวินาทีที่เขาเชื่อว่านี่อาจเป็จุดจบของเขา...
มือเล็กๆ ข้างหนึ่งคว้าแขนเขาไว้แน่น
"จับไว้!"
เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งฝ่ากระแสน้ำดังขึ้นอย่างแน่วแน่
เธอว่ายเข้ามา ดวงตาเปี่ยมด้วยความกล้า แม้ว่าตัวเองจะดูเล็กเกินไปสำหรับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากนี้
ธีรัช ไร้แรงจะคิด ทำได้เพียงจับมือเธอไว้แน่นตามสัญชาตญาณ
เด็กคนนั้นพยายามพยุงเขาให้ลอยขึ้นเหนือน้ำ
ทั้งที่ร่างกายของเขาหนักกว่าตัวเธอหลายเท่า
พวกเขาถูกพัดออกไปอีกเล็กน้อยก่อนที่เธอจะสามารถลากเขาเข้ามาใกล้โขดหิน
และในที่สุด ด้วยความช่วยเหลือของอาสาสมัคร ธีรัชก็ถูกดึงขึ้นจากกระแสน้ำ
เขานอนหอบหายใจรวยรินอยู่บนพื้นหญ้าเปียกชื้น
ภาพสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบลง...
คือใบหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้น
เด็กสาวที่มีผมยาวถักเปีย
ปลายเปียผูกโบสีฟ้าเล็กๆ ไว้
เธอยิ้มให้เขา ยิ้มอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน
หลายปีผ่านไป...
ธีรัชเติบโตขึ้นพร้อมกับภาพเลือนรางของเหตุการณ์วันนั้นในความทรงจำ
เขาจำได้เพียงมือเล็กๆ ที่คว้าเขาไว้ได้ทันเวลา รอยยิ้มที่อ่อนโยน และโบสีฟ้า... ที่โบกไหวท่ามกลางฝนที่โปรยปราย
แต่แล้ว... เื่ราวกลับบิดเบี้ยวไป จากคำบอกเล่าของทุกคน พิมพ์นาราคือคนที่ะโลงไปช่วยชีวิตเขา
และเมื่อเขาได้พบกับพิมพ์นาราอีกครั้ง หญิงสาวคนนั้นยืนยันกับเขาด้วยรอยยิ้มหวานว่าเธอคือผู้ช่วยชีวิตเขาในวันนั้น ธีรัชเชื่อทันที โดยไม่เคยตั้งคำถามใดๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้