กลุ่มของกูเฟยเยี่ยนกลับมาโดยไม่ได้ทำให้ผู้อื่นตื่นใ ทว่าเหมยกงกงกลับเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะทหารยามประตูเมืองไปรายงานความลับ ก็ต้องเป็เพราะภายในจวนตระกูลเฉิงมีคนของเทียนอู่ฮ่องเต้อยู่
เทียนอู่ฮ่องเต้ใจร้อนเสียจริง!
กูเฟยเยี่ยนหันไปมองจวินจิ่วเฉินโดยไม่รู้ตัว ทว่าจวินจิ่วเฉินหลบหลีก กูเฟยเยี่ยนจึงตระหนักได้ว่าต้องเลี่ยงการสงสัยและจะต้องไม่สร้างปัญหายุ่งยากให้กับเตี้ยนเซี่ย
เหมยกงกงแสดงความเคารพต่อจวินจิ่วเฉิน ก่อนจะแสร้งทำเป็พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นยินดี “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ข้าพเ้าออกมาทำธุระนอกพระราชวังจึงถือโอกาสมาเยี่ยมท่านแม่ทัพเฉิง ข้าน้อยคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินข่าวดีในทันทีที่เข้าประตูมา เตี้ยนเซี่ย ครั้งนี้ลำบากท่านแล้ว! ”
จวินจิ่วเฉินพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
เหมยกงกงรีบหันไปมองหลินฟูเหรินผู้เฒ่าแล้วแสร้งทำเป็พูดด้วยความสุขุมจริงจัง “ฟูเหรินผู้เฒ่า ฝ่าาประทับอยู่ในพระราชวังโดยที่ทรงกังวลอาการาเ็ของท่านแม่ทัพเฉิงตลอดทั้งวัน ท่านได้ยินข่าวดีแล้วยังไม่ส่งคนไปทูลรายงานอีก! นี่ท่านจะทำให้ฝ่าาทรงห่วงใยมากขึ้นหรือ?
“จริงด้วย ข้าดีใจจนเลอะเลือนไปแล้ว!”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าอธิบายแล้วรีบส่งคนเข้าไปทูลรายงานในพระราชวัง
กูเฟยเยี่ยนฟังออกว่าละครจอมปลอมของเหมยกงกงนั้นที่จริงแล้วคือเจตนาพูดให้นางฟังเพื่อบอกนางว่าเทียนอู่ฮ่องเต้กำลังรอให้นางพาแพทย์กู้เข้าไปในพระราชวัง เหมยกงกงมาเพื่อตามติดนางโดยเฉพาะ
นางไม่กระโตกกระตากแล้วแอบคิดในใจว่า “ฮ่องเต้ผู้เฒ่า ท่านค่อยๆ รอไปเถอะ! ”
เหมยกงกงจึงอยู่ที่นี่โดยยืนรออยู่ข้างกายของจวินจิ่วเฉิน
ระยะเวลาค่อยๆ ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ทว่าภายในห้องก็ยังไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว กูเฟยเยี่ยนจึงเคาะประตูพลางกระซิบแ่เบา “แพทย์กู้หิวหรือไม่? ให้ข้าส่งอาหารเข้าไปให้ท่านหรือไม่? ”
น้ำเสียงสุภาพของกู้อวิ๋นหย่วนดังออกมาจากในห้องโดยทันที “ไม่ต้องๆ ขอบคุณมาก”
กูเฟยเยี่ยนรีบใช้โอกาสนี้ซักถาม “แพทย์กู้ สถานการณ์ราบรื่นหรือไม่? ”
กู้อวิ๋นหย่วนไม่ได้ตอบตามตรงแต่พูดว่า “หยุดใจร้อนแล้วคอยด้วยความอดทน”
กูเฟยเยี่ยนจึงไม่ได้ถามต่อไปอีก
หลินฟูเหรินผู้เฒ่ามีความสงสัยในตัวของกู้อวิ๋นหย่วนมาั้แ่แรกแล้ว เมื่อนางเห็นสถานการณ์เช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะกระซิบถาม “หนูน้อยเยี่ยน หรือว่าส่งคนไปเชิญซูไท่อีมาดูดี? ”
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยปลอบใจ “ฟูเหรินผู้เฒ่าหยุดใจร้อนแล้วคอยด้วยความอดทน ในเมื่อแพทย์กู้ไม่คุ้นชินกับการมีคนช่วยเหลือ เช่นนั้นต่อให้ซูไท่อีมาแล้วก็จะเป็การรบกวนเสียเปล่า สถานการณ์ของท่านแม่ทัพมีความซับซ้อน การรักษาไม่ใช่เื่ที่กระทำได้ในระยะเวลาอันน้อยนิด”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่ารีบดึงนางออกมาด้านข้างแล้วกระซิบถามถึงสถานการณ์ของกู้อวิ๋นหย่วน ทว่าอันที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนอยากทำความเข้าใจสถานการณ์ของกู้อวิ๋นหย่วนมากกว่าหลินฟูเหรินผู้เฒ่าเสียอีก น่าเสียดายที่ไม่มีทางได้เข้าใจ
ทุกคนยังคงรอต่อไป ใน่เวลาอาหารเย็นกูเฟยเยี่ยนก็ได้ไปถามอีกครั้ง ทว่ากู้อวิ๋นหย่วนยังคงตอบแบบเดิม อย่าว่าแต่หลินฟูเหรินผู้เฒ่าเลย แม้แต่เหมยกงกงที่ไม่เคยเห็นกู้อวิ๋นหย่วนยังเกิดความกังวล
กูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉินยังถือได้ว่าสงบนิ่ง ทว่าจนถึงกลางดึกแล้วภายในห้องก็ยังคงไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว ในที่สุดพวกเขาสองคนก็เกิดความรู้สึกไม่สบายใจแล้ว
ขาของเฉิงอี้เฟยทำการรักษาได้แค่การฝังเข็ม นี่ก็ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว ระยะเวลาในการรักษาควรที่จะสิ้นสุดลงแล้วไม่ใช่หรือ? ในตอนนี้สถานการณ์ภายในห้องเป็อย่างไรกันแน่? หรือว่าจนถึงบัดนี้กู้อวิ๋นหย่วนก็ยังไม่พบวิธีการรักษา?
ในขณะนี้ความหวังทั้งหมดล้วนอยู่ที่กู้อวิ๋นหย่วน หากว่ากู้อวิ๋นหย่วนรักษาไม่ได้ เช่นนั้นขาของเฉิงอี้เฟยก็จบเห่แน่!
กูเฟยเยี่ยนยิ่งคิดยิ่งเครียด ในขณะที่นางกำลังจะไปเคาะประตูจู่ๆ กู้อวิ๋นหย่วนก็เปิดประตูออก
ทุกคนต่างก็มองไปด้วยความกังวล หลินฟูเหรินจึงเอ่ยถามด้วยความกระสับกระส่าย “แพทย์กู้ สถานการณ์เป็อย่างไรบ้าง? ขาของเฉิงอี้เฟยรักษาให้หายได้หรือไม่? ”
กู้อวิ๋นหย่วนไม่สนใจที่จะตอบ เขารีบยื่นใบสั่งยาออกมาหนึ่งแผ่นพลางเอ่ยออกมาด้วยความจริงจัง “ฟูเหรินผู้เฒ่าโปรดเคี่ยวยาสมุนไพรนี้แล้วส่งมา ยิ่งเร็วยิ่งดี! ”
นี่…
ทุกคนต่างก็ใทว่ากูเฟยเยี่ยนใมากยิ่งกว่า เมื่อนางร้อนใจจึงะโใส่เขาไปตรงๆ “อาการาเ็ที่ขานั้นไม่สามารถใช้ยาได้ ข้าบอกท่านอย่างชัดเจนแล้ว ท่านทำอะไรไป? ”
หากไม่ใช่เพราะต้องรักษาด้วยการฝังเข็มเท่านั้น นางก็คงจะไม่สิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไปเชิญเขามาหรอก!
เดิมทีกู้อวิ๋นหย่วนก็หวาดกลัวกูเฟยเยี่ยนอยู่แล้ว และเมื่อเขาโดนะโใส่เช่นนี้จึงใก้าวถอยไปหลายก้าวด้วยใบหน้าที่ดูไร้เดียงสา ไม่ช้าเขาจึงรีบอธิบายออกมา “ขาของท่านแม่ทัพนั้นรักษาหายแล้ว ในตอนนี้ข้าน้อยกำลังรักษาม้ามและกระเพาะอาหารของท่านแม่ทัพ…
กู้อวิ๋นหย่วนยังพูดไม่จบทุกคนก็ใอีกครั้ง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าแพทย์กู้จะรักษาโรคกระเพาะของเฉิงอี้เฟย
หากกล่าวว่าก่อนหน้านี้คือความใ เช่นนั้นในครั้งนี้คือความตื่นเต้นดีใจอย่างแน่นอน! หลินฟูเหรินผู้เฒ่าปลื้มปีติยินดีอย่างยิ่ง นางดีใจจนทำอะไรไม่ถูก “ดีเหลือเกิน! ดีเหลือเกิน! อี้เฟยยืนขึ้นได้แล้ว เขาไม่เป็อะไรแล้ว…”
กูเฟยเยี่ยนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเช่นกัน จากนั้นจึงรับใบสั่งยามาดูด้วยความตั้งใจ
ทว่ากู้อวิ๋นหย่วนยังคงรีบร้อน “ใกล้จะถึงยามอิ๋น [1] แล้ว ใน่เวลานี้คือ่เวลาที่ดีที่สุดแห่งการฝังเข็มสิงเจิน หากพลาด่เวลานี้ไปก็ต้องรอคืนวันพรุ่งนี้แล้ว ทว่าตามกฎของพวกเราตระกูลกู้แล้วข้าน้อยลงจากเขาหนึ่งครั้งทำได้เพียง…”
กู้อวิ๋นหย่วนยังพูดไม่จบกูเฟยเยี่ยนก็ใจนเหงื่อไหลพลั่กแล้วรีบหยุดเขา “ท่าน้ายาสมุนไพรชนิดใด ข้ามีทั้งหมด รีบเข้าไปเร็ว อย่าเสียเวลาเลย! ข้าจะเป็ผู้ช่วยท่านเอง! ”
หมอนี่จะพูดอะไรกัน?
เขาจะพูดว่าตามกฎของพวกเขาตระกูลกู้แล้วเขาออกจากเขามาหนึ่งครั้งทำได้เพียงรักษาได้หนึ่งโรค? หรือทำได้เพียงรักษาได้หนึ่งวัน? หรือทำได้เพียงรักษาได้หนึ่งคน? แต่ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรความหมายก็ไม่ต่างกันมากนัก หากอู๋กงกงได้ยินเข้า นางจบเห่แน่!
กู้อวิ๋นหย่วนยังคง้าพูดต่อ แต่กูเฟยเยี่ยนก้าวมาประชิดตัวเขาด้วยความเด็ดขาดพลางเอ่ยออกมาแ่เบาด้วยความรีบร้อน “กลางดึกกลางดื่นเช่นนี้จะไปตามหายาสมุนไพรได้จากที่ใด? ท่านคิดว่าที่นี่คือบ้านของท่านหรือ! ต่อให้ไปที่ห้องยาสำนักหมอหลวงก็ไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น! ยาสมุนไพรเหล่านี้ยังต้องเคี่ยวอีก! นอกจากข้าแล้วไม่มีใครสามารถมอบให้ท่านได้ก่อนยามอิ๋น! ”
กู้อวิ๋นหย่วนก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว กูเฟยเยี่ยนคือผู้ที่ถ้าไม่ทำก็ไม่ทำ แต่พอได้ทำแล้วก็จะทำให้ถึงที่สุด นางเอ่ยออกมาเสียงดัง “การที่ได้ช่วยเหลือแพทย์กู้นั้นนับเป็เกียรติและความโชคดีของข้า”
หลังจากที่นางพูดจบก็หันหลังไปปิดประตูห้องทันที ความรวดเร็วนี้ทำให้กู้อวิ๋นหย่วนไม่มีช่องทางในการปฏิเสธ
ผู้คนที่อยู่ด้านนอกล้วนไม่ได้ดูใบสั่งยาแผ่นนั้นจึงไม่ทราบว่ามีตัวยาสมุนไพรอยู่กี่ชนิด บัดนี้พวกเขาทำได้เพียงคิดว่าเป็สถานการณ์คับขัน ทางด้านของจวินจิ่วเฉินนั้นฟังออกถึงต้นสายปลายเหตุมาั้แ่แรกแล้ว และเห็นได้ชัดว่าเขาก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน
เหมยกงกงแสดงความยินดีกับหลินฟูเหรินผู้เฒ่าแล้วขอให้หลินฟูเหรินผู้เฒ่าส่งคนไปรายงานข่าวในพระราชวังอีกครั้งหนึ่ง
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าสองจิตสองใจ “เหมยกงกง ดึกดื่นป่านนี้แล้วฝ่าาน่าจะบรรทมแล้วนะ? มันไม่เหมาะสมที่จะรบกวนการบรรทมของฝ่าาเลย”
เหมยกงกงแทบอยากจะไปรายงานด้วยตนเอง ทว่าปลีกตัวออกไปไม่ได้ เขาจึงได้เอ่ยอธิบาย “ฟูเหรินผู้เฒ่า ขาทั้งสองข้างของท่านแม่ทัพเฉิงมีความสัมพันธ์กับทหารหลายหมื่นนายของเทียนเหยียน ค่ำคืนนี้ฝ่าาจะเข้าบรรทมได้หรือ? ท่านดูสิขนาดจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยยังเฝ้าอยู่ที่นี่หนึ่งคืนเลย ท่านรีบส่งคนไปในรายงานในพระราชวังเถอะ ฝ่าาจะได้สบายพระทัย”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าพยักหน้าติดต่อกันหลายครั้งแล้วรีบส่งคนเข้าไปในพระราชวัง
เหมยกงกงไม่ได้โกหกไปเสียหมด เพราะเทียนอู่ฮ่องเต้ยังไม่บรรทมจริงๆ และบรรทมไม่หลับด้วย เขากำลังรอให้กูเฟยเยี่ยนพาแพทย์กู้เข้าไปในพระราชวังด้วยความกระสับกระส่ายใจ!
เหมยกงกงแอบคิดว่าจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้วก่อนฟ้าสางน่าจะสามารถพาแพทย์กู้เข้าไปในพระราชวังได้ แพทย์รักษาท่านนี้อายุน้อยและดูเหมือนว่าจะพูดคุยได้ง่ายอีกด้วย เมื่อฝ่าาได้พบคงจะมีความสุขมากแน่ๆ!
ภายในห้องนั้นเฉิงอี้เฟยไม่ได้สติอยู่บนเตียงนอน เขาเปลือยกายท่อนบนโดยที่หน้าท้อง ข้างลำตัวและศีรษะล้วนถูกเข็มทองปักไว้ไม่น้อยเลย ในส่วนของขาทั้งสองข้างนั้นอยู่ในสภาพดีแม้กระทั่งมองไม่เห็นถึงร่องรอยการกระทำใดๆ
กู้อวิ๋นหย่วนหลบไปไกลมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในตอนนี้เขากำลังมองกูเฟยเยี่ยนอย่างระมัดระวัง “เ้า เ้า…ทำไมหนูน้อยอย่างเ้าถึงไม่มีเหตุผลเช่นนี้? ”
——————————
เชิงอรรถ
[1] ยามอิ๋น หมายถึง ระยะเวลาั้แ่ตีสามถึงตีห้า