หลังจากเจี๋ยงเสวี่ยลี่และซูหยวนหยวนเข้ามาในบ้านตระกูลซูพวกเขาก็มักจะหาวิถีทางรังแกูเี่อันอยู่เป็นิจในบางครั้งเธอก็ถูกพวกเขาเอาเปรียบจนแอบเข้าไปนั่งกอดเข่าร้องไห้ในห้องอยู่คนเดียวบนเตียงก็มี
ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่เธอไม่เคยได้ััรสชาติของการถูกกลั่นแกล้งเลยสักครั้งและไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะบนโลกนี้จะมีใครมาทำร้ายเธอ
แต่สุดท้ายเธอก็ได้เรียนรู้จากคราบน้ำตาในวันนั้นว่าคนที่คอยปกป้องเธออย่างแม่ได้จากเธอไปแล้วซูอี้เฉิงเองแม้อยากจะปกป้องเธอมากแค่ไหน แต่เขาก็อยู่ไกลถึงอเมริกาคนที่เธอจะพึ่งได้ในยามนี้ก็มีแต่ตัวเอง
กาลเวลาผ่านไปสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเธอก็เริ่มมีมากขึ้น เธอกลายเป็คนขี้ระแวงและเซนซิทีฟราวกับตัวเม่นที่แม้เพียงสายลมพัดผ่านดอกหญ้าสั่นไหวก็จะชูขนหนามแหลมคมขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากภัยอันตรายสองแม่ลูกพวกนั้นรังแกเธอเมื่อไร เธอก็จะหาวิธีเอาคืนจนได้ทุกครั้งทำให้ใครก็ไม่สามารถรังแกเธอได้อีก
แต่ว่าคราวนี้ในโรงแรมที่ไม่คุ้นเคย ขณะที่เธอกำลังมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์กลับถูกใครก็ไม่รู้อุ้มตัวขึ้นมา
แต่ที่เธอไม่ดิ้นขัดขืนเลยแม้แต่น้อยนั่นก็เพราะว่า...
คนคนนั้นคือลู่เป๋าเหยียนเธอรู้ดี
เธอมั่นใจว่าเขาจะไม่มีทางทำร้ายเธอแน่นอน
อาจเป็เพราะไว้ใจรวมถึงความกล้าที่มีมากขึ้นตามระดับแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นเืูเี่อันจึงเอนเข้าไปซบอกเขาอย่างไม่เกรงกลัว แถมยังขยับศีรษะให้เข้าที่มือของเธอััอยู่ตรงไหนบนตัวเขาก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เธอรู้สึกสบายใจกับอ้อมอกอันแข็งแกร่งและปลอดภัยของชายคนนี้เหลือเกิน
ทางด้านลู่เป๋าเหยียนการทีู่เี่อันทำตัวเหมือนลูกแมวน้อยยั่วสวาทที่ใช้มือััไปทั่วแผงอกของเขาถ้าไม่ติดว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ข้างนอก เขาคงไม่อาจควบคุมตัวเองเอาไว้ได้แน่ๆ
แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงข่มใจอุ้มเธอขึ้นรถและบอกให้อาเฉียนขับรถตรงกลับบ้าน
ที่จริงเมื่อกี้อาการเวียนหัวของูเี่อันเริ่มดีขึ้นมากแล้วแต่เมื่อขึ้นมาบนรถ อาการกลับยิ่งรุนแรงขึ้น เธอขยับตัวไปมาอยู่ในอ้อมกอดของเขาพลางบ่นงึมงำเบาๆ ราวกับลูกแมว
ลู่เป๋าเหยียนกอดเธอไว้แน่นจากนั้นจึงยกมือปัดผมยาวสลวยที่ปรกอยู่บนใบหน้าของเธอ
“เป็อะไรไป”
“ปวดหัว...”
ลู่เป๋าเหยียนให้อาเฉียนขับรถให้ช้าลงและเปิดหน้าต่างเล็กน้อยให้สายลมในยามค่ำคืนพัดผ่านเข้ามา ูเี่อันเริ่มสงบขึ้นขนตางอนยาวของเธอไม่ขยุกขยิกอีกแล้ว เธอหายใจเป็จังหวะและหลับไป
ตามปกติอาเฉียนใช้เวลาอย่างมากก็แค่หนึ่งชั่วโมงในการขับรถถึงบ้านแต่วันนี้เขาใช้เวลาไปถึงชั่วโมงกว่าอาเฉียนนำรถเข้าไปจอดในบ้านอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวน
ลู่เป๋าเหยียนเห็นว่าูเี่อันคงไม่ตื่นขึ้นมาง่ายๆเลยไม่ได้ส่งเสียงปลุก และอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน
เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้พวงแก้มของเธอเป็สีแดงระเรื่อน่ามองใบหน้าเธอในยามนี้ดูน่าหลงใหลกว่าทุกครั้ง เมื่อเข้าไปใกล้จะกลิ่นเหล้าผลไม้อ่อนๆซึ่งเหมือนเป็แรงดึงดูดอย่างประหลาด ที่ทำให้คนมองอดเผลอใจไปกับมันไม่ได้
ลู่เป๋าเหยียนไม่อาจต้านทานความเย้ายวนตรงหน้าเขาก้มหน้าลิ้มรสของเหล้าผลไม้รวมถึงความหอมหวานเฉพาะตัวจากริมฝีปากอิ่มนุ่มของคนตรงหน้า
เขาดื่มด่ำกับมันอยู่เพียงชั่วครู่ก่อนที่จะห่มผ้าใหู้เี่อันแล้วออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เพราะเขาเองก็ไม่มั่นใจว่าหากอยู่นานกว่านี้ตนจะเผลอทำอะไรลงไปหรือไม่
ในตอนนั้นเองลุงสวีก็วิ่งขึ้นมาที่ชั้นบน
“คุณชายครับ ดีไซเนอร์ผู้ช่วยของโซเฟียมาแล้วครับคุณชายจะ...”
“บอกให้พวกเขารอก่อนเจี่ยนอันหลับอยู่”
พูดจบลู่เป๋าเหยียนก็เดินเข้าห้องหนังสือไปลุงสวีจึงรีบลงไปต้อนรับดีไซเนอร์ทั้งหลายที่อุตส่าห์รีบมาที่นี่ถึงแม้ในใจเขาจะสงสัยมากก็ตามว่าทำไมูเี่อันถึงถูกเ้านายของเขาอุ้มเข้าบ้านมาแบบนี้
พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าแสงสีทองอ่อนที่อาบอยู่บนกำแพงเริ่มจางหาย ราวกับกำลังประกาศว่าวันนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
...
กว่าูเี่อันจะตื่นขึ้นมาท้องฟ้าก็เริ่มมืด เธอแยกไม่ออกเป็เวลารุ่งสางหรือพลบค่ำความทรงจำของเธอขาดหายไปเป็่ๆ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าตนเองมานอนอยู่บนเตียงได้อย่างไร
เธอลุกจากเตียงแล้วจึงเดินออกจากห้องและก็เจอกับลู่เป๋าเหยียนที่เพิ่งออกมาจากห้องหนังสือพอดี
เวลาอยู่ที่บ้านเขามักจะทำตัวสบายๆเขาพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นไปอยู่ตรงข้อศอก และปลดกระดุมเสื้อสองเม็ดบนเอาไว้เผยให้เห็นแนวกระดูกไหปลาร้าเซ็กซี่น่ามอง ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้เขาดูสง่าน้อยลงเลยแต่กลับยิ่งดูเย้ายวนหัวใจคนมองเข้าไปใหญ่
เพราะคนรับใช้ยังไม่ได้เปิดไฟตามระเบียงทางเดินจึงมีเพียงแสงไฟสีอ่อนจากโคมไฟติดผนังไม่กี่ดวงที่กำลังส่องสว่างแสงเ่าั้สะท้อนลงบนใบหน้าหล่อเหลาน่าค้นหาของเขาภาพนี้ทำให้คนที่ได้เห็นถึงกับหายใจสะดุด
ปีศาจชัดๆ...
ูเี่อันเริ่มจำได้ว่าเธอเมาอยู่ที่โรงแรม และตอนหลังปีศาจตนนี้นี่แหละที่พาเธอกลับมา
ดีนะที่ยังมีเขาดูแลเธอ
ลู่เป๋าเหยียนเดินตรงเข้ามา“ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า”
ูเี่อันส่ายหน้า“ไม่เป็ไรแล้วล่ะ” จากนั้นจึงถามอย่างแปลกใจ “ทำไมนายถึงรู้ล่ะว่าฉันปวดหัว”
“เธอเป็คนบอกฉันเองตอนอยู่บนรถ”ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วพลางตอบ “ลืมไปแล้ว?”
ูเี่อันดื่มเหล้าทีไรมักจะชอบหลงลืมเื่ราวต่างๆ
“เกิดเื่อะไรขึ้นบนรถงั้นเหรอ...ฉันจำไม่ค่อยได้...แต่ฉันจำได้นะว่านายเป็คนมารับฉันขอบคุณมาก!”
เธอยิ้มกว้างสดใสอย่างเอาใจแต่ลู่เป๋าเหยียนก็ยังทำเสียงเข้ม
“ทีหลังห้ามไปดื่มเหล้าคนเดียวข้างนอกอีกไม่งั้นชีวิตนี้เธออย่าหวังว่าจะได้กลับไปทำงานที่สถานีตำรวจอีกเลย”
เอ่อ เื่แบบนี้ใครจะไปรับปากได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก?
ูเี่อันก้มหน้าพลางตอบ“ทีนายยังดื่มเหล้าคนเดียวตั้งเยอะเวลาอยู่ข้างนอก แถมยังสูบบุหรี่อีกแล้วมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน?”
เธอยังจะกล้าต่อล้อต่อเถียงเขาอีกอย่างนั้นเหรอ? ถ้าวันนี้เขาไม่ได้ไปรับเธอที่โรงแรมไม่รู้ว่าเธอจะเจอใครเข้าหาหรืออาจจะทำยิ่งกว่านั้นก็ได้
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มอย่างหงุดหงิด“เธอเคยเห็นฉันเมา?”
“ฉันไม่ได้เมานะ!”ูเี่อันค้านหัวชนฝา “ตอนบ่ายฉันก็แค่...แค่เวียนๆ หัวเท่านั้น...”
ลู่เป๋าเหยียนยกมือนวดขมับ“งั้นเพื่อความยุติธรรม อีกหน่อยเธอห้ามดื่มเหล้าคนเดียวข้างนอกอีกเด็ดขาดส่วนฉันจะเลิกบุหรี่เป็การแลกเปลี่ยน”
ปกติเธอก็ไม่ค่อยออกไปข้างนอกคนเดียวอยู่แล้วโอกาสที่จะดื่มเหล้าข้างนอกยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ ถ้าเป็แบบนี้คนที่ต้องเลิกบุหรี่อย่างลู่เป๋าเหยียนดูเหมือนจะเสียเปรียบกว่าสินะ? ูเี่อันคิดเปรียบเทียบในใจ
“ดีล!”เธอตอบรับอย่างพอใจ
ลู่เป๋าเหยียนลูบศีรษะเธอ“กลับห้องไปก่อน เดี๋ยวจะมีคนขึ้นมาหาเธอ”
ว่าแล้วเขาก็เดินลงไปข้างล่างโดยทีู่เี่อันไม่ทันเห็นรอยยิ้มบางบนใบหน้าเขา
ยัยซื่อบื้อเขาไม่ใช่ซูอี้เฉิงสักหน่อย เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบดื่มเหล้าสูบบุหรี่อยู่แล้วหลายปีก่อนหน้านี้ถึงจะเคยสูบบุหรี่อยู่่หนึ่งก็ตาม แต่ไม่นานเขาก็เลิกมันที่หลายวันก่อนกลับมาสูบอีกครั้งก็เพราะมีเื่กลุ้มใจคิดไม่ตกเพราะฉะนั้นเขาไม่มีความจำเป็ต้องเลิกบุหรี่ด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สูบอีกอยู่แล้วแตู่เี่อันกลับทำหน้าเหมือนกำลังได้เปรียบเขาอยู่ซะอย่างนั้น
ทางด้านูเี่อันเธอกำลังยืนงง จะมีใครขึ้นมาหาเธออย่างนั้นเหรอ?
ตอนนั้นเองลุงสวีก็พาหญิงสาวสองคนขึ้นมา
หนึ่งในนั้นยิ้มพลางกล่าวทักทายกับเธอ
“สวัสดีค่ะคุณนายลู่พวกเราเป็ผู้ช่วยดีไซเนอร์ของ SophiaRudolph โซเฟียให้พวกเรามาวัดตัวคุณนายค่ะถ้ายังไงรบกวนกลับเข้าไปที่ห้องนอนก่อนนะคะ”
SophiaRudolph?
ูเี่อันคิดอยู่นานจึงนึกออกว่าโซเฟียคือดีไซเนอร์ชื่อดังในวงการเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์เธอมีชื่อเสียงเื่การตัดชุดให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนเป็อย่างมากว่ากันว่าบรรดาคุณหญิงคุณนายในแวดวงไฮโซรวมถึงดาราดังระดับสากลต่างก็พากันส่งข้อมูลของตัวเองไปให้เธอเพียงเพื่อหวังว่าเธอจะช่วยตัดชุดให้สักชุด
แต่โซเฟียกลับปฏิเสธบุคคลเ่าั้ไปหลายต่อหลายคนโดยไม่สนใจว่าจะเป็คนดังขนาดไหน
ทว่าลู่เป๋าเหยียนกลับเชิญโซเฟียมาตัดชุดให้เธอได้แถมโซเฟียยังส่งผู้ช่วยมาวัดตัวเธออีก?
ูเี่อันพยายามปั้นสีหน้านิ่งโดยไม่เผยความใออกไปเธอเชิญผู้ช่วยทั้งสองเข้าห้องไปในห้องนอนจากนั้นจึงให้ความร่วมมือในขณะที่พวกเธอช่วยกันวัดขนาดรอบตัวเธอทุกซอกทุกมุมเป็อย่างดี
หญิงสาวที่ทำหน้าที่จดรายละเอียดลงบน iPad อดถอนหายใจอย่างชื่นชมไม่ได้
“คุณนายลู่หุ่นดีเพอร์เฟคมากเลยค่ะมิน่าพอโซเฟียเห็นรูปของคุณปุ๊บก็ตัดสินใจจะตัดชุดให้คุณทันทีที่จริงโซเฟียไม่ใช่คนเื่เยอะหรือว่าหยิ่งอะไรหรอกนะคะแต่คนพวกนั้นไม่สามารถสวมชุดของโซเฟียได้สวยงามอย่างที่เธอตั้งใจซึ่งนั่นเป็เื่ที่โซเฟียรับไม่ได้ที่สุด”
ูเี่อันแค่ยิ้มตอบเมื่อวัดตัวเสร็จเรียบร้อย เธอจึงเดินไปส่งหญิงสาวทั้งสองที่ชั้นล่าง
ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วคนรับใช้ยกอาหารค่ำที่พ่อครัวทำเตรียมเอาไว้ออกมา ูเี่อันนึกอะไรขึ้นมาได้จึงวิ่งไปหาลู่เป๋าเหยียน
“ขอโทษทีนะ...ไว้พรุ่งนี้ฉันจะทำอาหารเช้าแทนละกัน!”
มื้อค่ำของลู่เป๋าเหยียนควรเป็เธอที่ต้องรับผิดชอบแถมเธอยังรับเงินจากเขามาแล้วด้วย...
แต่เขาก็ไม่ว่าอะไรและส่งสายตาเชิงบอกให้เธอนั่งลง แต่เมื่อเห็นเธอไม่ขยับตะเกียบจึงถามขึ้น
“ไม่กินเหรอ”
เพราะอาหารที่ชิมไปเมื่อ่บ่ายยังคงหลงเหลืออยู่เต็มกระเพาะเธอจึงส่ายหน้า
“ฉันไม่หิว นายกินเถอะ”
พูดจบเธอก็ลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินออกไปลู่เป๋าเหยียนจึงปรายตามองเธอพลางถาม
“จะไปไหน”
ูเี่อันชี้ไปที่ด้านนอก“ฉันอยากไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ มีอะไรหรือเปล่า”
“มี” ลู่เป๋าเหยียนตอบ“นั่งลง กินข้าวเป็เพื่อนฉัน”
“…”
ที่จริงเธอจะเชิดใส่เขาและสะบัดมือเดินจากไปก็ได้แต่เหมือนสมองเธอถูกเขาควบคุมเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น เธอทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่ายโดยไม่ขัดขืน
“พรุ่งนี้ฉันยังต้องไปที่บริษัทอีกหรือเปล่า”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว“เื่งานเลี้ยงครบรอบบริษัทเธอเพิ่งจัดการไปได้แค่ครึ่งเดียวก็คิดจะหนีแล้วงั้นเหรอ”
“...ทำไมพูดซะฉันดูไร้จริยธรรมขนาดนั้น”ูเี่อันพูดเสียงเซ็ง “พรุ่งนี้ฉันไปกับนายก็หมดเื่แล้วใช่ไหม”
ลู่เป๋าเหยียนได้ยินดังนั้นถึงพอใจูเี่อันมองเขาจัดการอาหารตรงหน้า แต่แล้วก็เผอเรอขึ้นมา
เขาวางตะเกียบลงและมองูเี่อันสายตาเย็น ูเี่อันยกมือขึ้นปิดปากพลางทำหน้าเสียใจ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจแต่ตอนบ่ายคงกินเยอะไปจริงๆ ตอนนี้ฉันเห็นอะไรก็รู้สึกอิ่มไปหมดยิ่งเห็นนายกำลังกินอยู่ก็ยิ่ง...”
ลู่เป๋าเหยียนหลับตาลงสักครู่แล้วจึงพูดขึ้น“โอเค”
เขาเรียกให้คนเอากับข้าวไปเก็บจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นบน ูเี่อันนิ่งอึ้งไปแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขกอย่างผ่อนคลาย
ไม่รู้ว่าเพราะเธอเผลอหลับไปใน่เย็นหรือเปล่าทำให้ห้าทุ่มแล้วเธอก็ยังไม่รู้สึกง่วงสักนิดว่าแล้วจึงปิดทีวีและเดินออกไปที่สวนดอกไม้
สวนดอกไม้ขนาดใหญ่สไตล์ยุโรปที่มีเรือนกระจกตั้งอยู่ในสวน ด้านในนั้นมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือเอาไว้นั่งเล่นฆ่าเวลาได้อย่างดี แต่เพราะหลังจากเธอย้ายเข้ามาที่นี่ก็เกิดเื่ยุ่งมากมายทำให้ไม่มีเวลามาทำความคุ้นเคยกับที่นี่สักเท่าไร
เธอค่อยๆ เดินไปตามทางเดินที่ทำจากหินกรวดสีงาช้างดอกไม้และใบหญ้าขึ้นอยู่ระหว่างหินกรวดแต่ละก้อนเมื่อเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก็เห็นพระจันทร์เสี้ยวที่ส่องแสงลงมาสะท้อนกายเธอจนเกิดเงาเป็แนวยาวเธอเดินไล่ตามเงาตัวเองแก้เบื่อที่ไม่ว่าจะไล่ตามเท่าไรก็ไม่มีวันสิ้นสุดอย่างสนุกสนาน
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าด้านหลังของตนนั้นมีั์ตาสีนิลของใครบางคนกำลังจับจ้องอยู่
