พวกเขาทักทายกันไปมา ทว่าบทสนทนาก็มีเพียงแค่สบายดีหรือไม่ คิดถึงเป็อย่างมาก ท่าทางสง่างาม พวกคำจอมปลอมที่ดูเหมือนจะซาบซึ้งอะไรเหล่านี้ ช่างผิดจังหวะไปไกลจริงๆ ระหว่างที่คนพวกนี้ค่อยๆ เข้าหากัน อิ่นซีเินั่นก็ห่างออกไปไกลแล้ว อ๋าวหรานคาดว่าฉากวีรบุรุษช่วยสาวงามของจิ่งฝานคงจะไม่ได้ออกแสดงแล้ว
หวางฮวายเหล่ยกับจิ่งเคอคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก็นึกถึงพวกจิ่งฝานขึ้นมาได้ ถามว่า “พี่ชาย ท่านเหล่านี้เองก็เป็พี่ชายน้องสาวจากตระกูลจิ่งหรือ? ไม่ทราบว่ามีนามว่ากระไร?”
จิ่งเคอมองจิ่งฝานทีหนึ่ง สีหน้านิ่งเฉย ไม่มีท่าทางกระตือรือร้น ประดับรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนตอนที่คุยกับหวางฮวายเหล่ยแม้แต่น้อย “ท่านนี้คือจิ่งฝาน นายน้อยแห่งตระกูลจิ่ง”
หวางฮวายเหล่ยใ “จิ่งฝาน? นายน้อย?”
จิ่งเคอพยักหน้าแล้วก็ชี้มาทางพวกจิ่งจื่อ แนะนำทีละคนว่า “ท่านนี้คือจิ่งจื่อ ส่วนนี่คือจิ่งเซียงน้องสาวแท้ๆ ของจิ่งฝาน ท่านนี้คืออ๋าวหราน นายน้อยแห่งหมู่บ้านสกุลอ๋าว”
เทียบกับความใในสถานะของจิ่งฝาน หวางฮวายเหล่ยเหมือนจะใในสถานะของอ๋าวหรานมากกว่า ตอนที่ได้ยินคำว่านายน้อยแห่งหมู่บ้านสกุลอ๋าวนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที จ้องอ๋าวหรานแล้วพูดว่า “เ้าก็คือคนตระกูลอ๋าว?”
อ๋าวหรานยิ้มให้ “หมู่บ้านสกุลอ๋าวเล็กๆ ของข้าไม่รู้ว่ามีชื่อเสียงถึงเพียงนี้ั้แ่เมื่อไร แม้แต่ตระกูลหวางจากภาคตะวันตกอันห่างไกลก็ยังรู้จัก?”
หวางฮวายเหล่ยหัวเราะกระอักกระอ่วนออกมาสองเสียง “แค่ข่าวลือที่ได้ยินมาก็เท่านั้น ตลอดทางที่เดินทางมาก็ได้ยินอะไรมาบ้าง”
จิ่งเคอยิ้มบางถามหวางฮวายเหล่ยว่า “ไม่รู้ว่าน้องฮวายเหล่ยมาภาคตะวันออกครั้งนี้มาด้วยเื่อันใด? ...น้องฮวายเหล่ย?”
หวางฮวายเหล่ยสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จิ่งเคอเรียกเขาถึงสองรอบถึงจะตอบรับ “หา? อ๋อ ข้าเพียงแค่อยู่แต่ที่บ้านจนเบื่อแล้ว จึงคิดอยากจะออกมาหาประสบการณ์เสียหน่อย อีกทั้งเมื่อก่อนได้ยินท่านแม่พูดถึงท่านลุงท่านพี่ทั้งหลาย แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้เจอเลย พวกเราอยู่ห่างไกลกันมาก จะมาพบปะเจอหน้ากันให้ได้สักครั้งช่างยากนัก”
จิ่งเคอพยักหน้า “เป็เช่นนั้นจริงๆ น้องชายเ้าต้องมาอยู่หลายวันหน่อย จะได้รำลึกความหลังกัน”
คำนี้ตรงใจหวางฮวายเหล่ยพอดี “ แน่นอน ถึงตอนนั้นคงต้องรบกวนมากหน่อยแล้ว”
พูดจบ ก็มองไปทางจิ่งฝาน “ได้หรือไม่? น้องจิ่งฝาน”
จิ่งเหวินเยว่เป็ลูกสาวคนโตแห่งตระกูลจิ่ง ทว่าแต่งงานช้า ถึงแม้จะบอกว่าสตรีในโลกแห่งนี้ขอแค่เ้ามีความสามารถ ที่บ้านมีประวัติความเป็มา จะแต่งงานตอนไหนก็ย่อมได้ แต่โดยรวมแล้วเด็กสาวพวกนี้ก็ยังแต่งงานค่อนข้างเร็วอยู่ดี
จิ่งเหวินเยว่เป็ลูกสาวคนโตแห่งตระกูลจิ่ง ั้แ่เด็กก็เรียบร้อยรู้ความ หน้าตายังงดงามดึงดูดคน เป็ที่รักของท่านปู่ของจิ่งฝานเป็อย่างยิ่ง จึงตั้งใจรั้งให้นางอยู่ข้างกาย จนเมื่ออายุยี่สิบเอ็ดปีถึงจะแต่งให้กับบิดาของหวางฮวายเหล่ย ตอนนั้นบิดาของหวางฮวายเหล่ยอายุยี่สิบหกแล้ว แต่ก็นับว่าหล่อเหลา แล้วยังเป็คนของตระกูลที่มีประวัติความเป็มายาวนานอีกด้วย ท่านปู่ของจิ่งฝานเองก็ตกลงอย่างยินดี ทั้งสองแต่งงานกันปีแรกก็มีหวางฮวายเหล่ย แก่กว่าจิ่งฝานถึงสามปีเต็มๆ
จิ่งฝานยังไม่ทันตอบคำ จิ่งเคอก็พูดว่า “พูดอะไรอย่างนั้น คนบ้านเดียวกันไม่จำเป็ต้องเกรงใจ ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ ไปเถิด พาเ้าไปกินอาหารขึ้นชื่อของพวกเราที่นี่ คุยไปกินไป”
ทั้งสองกำลังจะไป กลับเห็นจิ่งฝานไม่ขยับตัว “น้องจิ่งฝานไม่ไปหรือ?”
จิ่งฝานแค่มองพวกเขาไปทีหนึ่ง “พวกเรายังมีธุระ ขอไม่ไปกับพวกเ้าแล้ว”
พูดจบ ก็หันกายจากไป พวกอ๋าวหรานก็รีบตามไป
จิ่งเซียงดึงปลายแขนเสื้อของจิ่งฝาน “ท่านพี่ พวกเราจะไปไหนกันหรือ?”
จิ่งฝาน “เดินเล่นไปเรื่อยๆ ”
จิ่งเซียง “พวกเราไม่ไปกับพวกท่านพี่จิ่งเคอหรือ? อย่างไรเสียหวางฮวายเหล่ยนั่นก็เป็ลูกของท่านอาเหวินเยว่”
จิ่งฝาน “ไม่ต้อง”
จิ่งจื่อมือกอดอก สีหน้าจริงจัง “เ้าหวางฮวายเหล่ยคนนี้เดินทางมาตั้งไกล เกรงว่าคงไม่ใช่แค่มาท่องเที่ยวกระมัง”
หลางฉา “แน่นอนว่าต้องมีจุดมุ่งหมายอื่นด้วยอยู่แล้ว”
จิ่งจื่อ “!!!”
จิ่งเซียง “???”
อ๋าวหราน “.......”
จิ่งเซียง “ทำไมเ้ายังตามพวกเรามาอีก?”
หลางฉา “ข้าก็ต้องตามพวกเ้าแน่อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะให้ข้าตามหวางฮวายเหล่ยเ้าคนสำมะเลเทเมานั่นหรือ?”
จิ่งเซียง “ไม่ใช่ เ้าตามพวกเรามาเพื่ออะไร?”
หลางฉา “อยากพูดคุยกับพวกท่านอย่างไรเล่า อย่างไรเสียอยู่กับคนหน้าตาดี อารมณ์ก็จะดีไปด้วย”
พูดอยู่ ก็หันไปส่งยิ้มงดงามให้จิ่งฝาน สวยงามราวมวลผกา
จิ่งเซียง “เ้า!”
จิ่งจื่อขัดคำพูดของจิ่งเซียง ถามว่า “เมื่อกี้ที่เ้าบอกว่าหวางฮวายเหล่ยมาที่นี่ยังมีจุดประสงค์อื่นอยู่อีก หมายความว่าอย่างไร?”
หลางฉายิ้มพลางหันศีรษะไปมองอ๋าวหราน “ไม่รู้ว่าคุณชายอ๋าวท่านนี้ทราบหรือไม่?”
อ๋าวหรานใจหาบวูบ แต่ใบหน้ากับแสดงสีหน้ามึนงงไม่รู้เื่ “ไม่รู้สิ?”
หลางฉายิ้มบาง “คุณชายอ๋าวนี่ช่างน่ารักเสียจริง” พูดอยู่ ก็ยื่นมือไปลูบเส้นผมบนคอของอ๋าวหราน อ๋าวหรานอยากจะถอยหลังยิ่งนัก
หลางฉากลับรุกหน้าไปหนึ่งก้าว “คุณชายอย่าขยับ มีอะไรอยู่ที่คอ” ในระหว่างที่พูดก็ไม่หยุดมือ ปัดไปที่คอของอ๋าวหราน เหมือนจะปัดอะไรร่วงลงไป เสร็จแล้วก็ยังไม่ยอมถอยไป นิ้มมือถูไถอยู่ที่ข้างคอของอ๋าวหราน
ตอนนี้หากยังดูไม่ออกอีกว่าอีกฝ่ายกำลังลวนลามตัวเองล่ะก็ เขาก็คงจะเป็ไอโง่แล้ว อ๋าวหรานรีบถอยหลังออกไปสองก้าว หลางฉาไม่ใ นิ้วมือของนางเหมือนยังติดใจอยู่ ตอนที่อ๋าวหรานถอยหลังไปแล้ว ยังวาดผ่านหน้าอกของอ๋าวหรานไปเบาๆ
จิ่งเซียงที่อยู่อีกด้านหนึ่งดึงอ๋าวหรานไปอยู่ด้านหลังตัวเอง มองหลางฉาด้วยความเกรี้ยวกราด “นี่ทำอะไรกัน ไม่รู้จักอับอายบ้างเลยสินะ”
หลางฉาหัวเราะคิกคักพูดว่า “โปรดปรานของสวยๆ งามๆ เป็นิสัยของทุกคนนี่นา ลำคอของคุณชายอ๋าวน่ามองมากจริงๆ ตัวคนก็น่ารัก ข้าแค่อดไม่ไหวลูบไปนิดหน่อยเท่านั้น แต่อย่างไรข้ายังชอบพี่ชายเ้ามากกว่าอยู่ดี”
จิ่งเซียงโกรธ “เ้า! มันจะมากไปแล้วนะ”
อ๋าวหรานดึงจิ่งเซียงไว้ ไม่ให้นางโกรธ “แม่นางหลางฉาสนุกมากพอแล้ว อย่าตามพวกเรามาอีกเลย”
จิ่งจื่อที่ยืนอยู่อีกทางอึ้งไปตั้งนาน จู่ๆ ก็เมื่อนึกอะไรออกขึ้นมา ชี้ไปที่หลางฉาพูดว่า “เ้า เ้าคงไม่ใช่โจรเด็ดดอกไม้นั่นใช่หรือไม่?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้