มอนสเตอร์เลเวล 1 ถือเป็สิ่งหายากสำหรับเกมนี้น่าเสียดายที่ตารางการ์ดของผมมีแค่ค้างคาวแวมไพร์ แต่ไม่มีนกขนสีเงินจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?!
ระหว่างที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ผมก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะยอมเดินจากไปด้วยความเสียดาย
ไว้ก่อนแล้วกันยังไงผมก็ต้องจัดการเก็บเ้านกขนสีเงินนี้ให้ได้
……
่ที่เดินไปมาอยู่ในป่าผมก็เก็บหญ้าใบไม้สีเงินพร้อมกับฆ่านกขนสีเงินไปพลางแม้ว่าการฆ่ามอนสเตอร์จะเป็เื่น่าเบื่อ แต่สำหรับผมมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเมื่อเทียบกับตอนที่ปฏิบัติภารกิจในเขตชายแดนซึ่งต้องเดินทางในทะเลทราย 36 ชั่วโมงเพื่อตามล่าพวกค้ายาเสพติดโดยไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเทียบกับตอนนั้นแล้วสถานการณ์ในเกมตอนนี้ที่กำลังทดสอบความอดทนก็เปรียบได้กับอยู่บน์อย่างไรอย่างนั้น
5 ชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหกตอนนี้ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้วไม่รู้ว่าผมใช้เวลาไปกับการฆ่าเ้านกขนเงินไปกี่ตัวแล้วเหมือนกันตอนนี้เลเวลของผมได้เดินทางมาถึง 15 แล้วไอเท็มระดับขาวที่ใช้สำหรับสวมใส่ก็มีถึง 5 ชิ้นแต่ผมกลับใส่ไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว ขณะนี้ผมมีเงินอยู่ 7 เหรียญทองน่าเสียดายที่ความทนทานของอาวุธผมเหลือไม่ถึง 10% แล้วผมจึงตัดสินใจกลับเมืองเพื่อซ่อมแซมก่อนจะมาเก็บเลเวลต่อ
“แกวกๆ …”
ทันใดนั้นเสียงของเ้านกขนสีเงินก็ดังขึ้นพร้อมดาบหนามในมือที่ฟาดใส่ศัตรู“ชิ้ง! ” ทำให้เ้านกนั่นลงไปนอนแอ้งแม้ง ในเวลาเดียวกันไอเท็มก็ดรอปลงมาถึง 2 ชิ้น ชิ้นแรกเป็เสื้อคลุมสีเขียว ส่วนอีกชิ้นเป็การ์ดที่ผม้าพอดีหัวใจของผมแทบหยุดเต้น การใช้เวลาจัดการกับมอนสเตอร์พวกนี้เป็เวลากว่า 5 ชั่วโมงในที่สุดผมก็ได้มันมา ให้ตายเถอะ เจ๋งสุดๆ ไปเลยโว้ย!
ผมก้มเก็บไอเท็มเ่าั้โดยเลือกเก็บการ์ดที่ถูกดรอปลงมาเป็ชิ้นแรกมันคือการ์ดนกขนสีเงินจริงๆ ด้วยผมใช้มันทันทีแล้วมันก็เข้าไปเพิ่มอยู่ภายในสมุดรวมการ์ดของผมเมื่อเปิดดูผมก็เห็นค่าสถานะการป้องกันของมัน
[นกขนสีเงิน]
พลังโจมตี:★★★☆
พลังป้องกัน :★★
HP:★★☆
ความเร็ว:★★★★
MP :★☆
สกิล : [บินโฉบ]
……
พลังโจมตี 3.5 ดาวกับความเร็ว 4 ดาวคุณสมบัตินับว่าเหมาะสมเอาไว้เป็สัตว์เลี้ยงประเภทโจมตีภายในเกมนี้เ้านี่คงเป็สัตว์เลี้ยงโจมตีที่เจ๋งที่สุดในตอนนี้แล้วกระมังแต่น่าเสียดายที่พลังป้องกันกับพลังเวทของมันน้อยไปหน่อยถ้าถูกโจมตีคงได้รับาเ็ไม่น้อย แต่ช่างมันเถอะแค่ให้มันช่วยเ้าของเก็บเลเวลได้ก็พอเพราะไม่มีใครฝากชีวิตตัวเองไว้กับสัตว์เลี้ยงจริงๆ หรอก
หลังจากดูการ์ดใบนั้นเสร็จผมก็ยกเสื้อคลุมสีเขียวขึ้นมาดูต่อเฮ้ย เจ๋งดีนี่!
[เสื้อคลุมขนสีเงิน](อุปกรณ์ระดับดำ)
ประเภท :เสื้อคลุม
พลังป้องกัน :30
ค่าโจมตีพื้นฐาน :+4
เลเวลที่สามารถใช้งานได้:15
……
เสื้อคลุมถือเป็ไอเท็มที่ไม่จำกัดอาชีพในการใช้นั่นหมายความว่ามันไม่ได้มีค่าสถานะสูงไปกว่าประเภทที่จำกัดอาชีพแต่สำหรับผมซึ่งมีพลังป้องกันแค่ 29 พอยต์ การได้มันมาเพิ่มถึง30 พอยต์ก็ทำให้ผมอึดขึ้นเป็สองเท่า ถือว่าเป็ของที่ดีมาก
หลังจากสวมใส่ด้านหลังของผมก็เกิดลมสีเขียวลอยออกมาจนทำให้ดูโปรในเวลาเดียวกันสถานะของมันก็ทะยานสูงขึ้นมากเช่นกัน
[เซียวเหยาจื้อจ้าย](ฮีลเลอร์ฝึกหัด)
เลเวล :15
พลังโจมตี :101-112
พลังป้องกัน :59
HP :240
MP :210
ค่าเสน่ห์ :0
……
พลังป้องกัน 59 พอยต์ ถือว่าทำให้ผมรองรับการจู่โจมได้มากขึ้นพอสมควรนะเนี่ยอย่างน้อยภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้มันก็ทำให้ผมดีใจแทบบ้าผมถือดาบแล้วกลับไปยังพิกัดที่ระบุไว้เมื่อ 5 ชั่วโมงก่อนเพื่อตามหาเ้านกขนสีเงินเลเวล1 ตัวนั้น ขอร้องละ อย่าเพิ่งถูกใครจับหรือถูกฆ่าตายไปก่อนนะเ้านกนั่นเป็ของฉัน ใครกล้าฆ่ามัน ฉันจะจัดการกับพวกมันให้หมดเลยคอยดู!
เมื่อมาถึงใต้ต้นไม้นั้นผมก็ก้มลงมองและเป็ไปอย่างที่คิด เ้านกนั่นยังอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย
ผมรีบหยิบการ์ดปิดผนึกกับ1 เหรียญเงินออกมา ทั้งหมดมีแค่ 2 ใบเท่านั้น ตอนที่การ์ดของผมจับไปที่เ้านกตัวนั้น มันก็เปล่งเสียงร้องพร้อมกับที่บนการ์ดปิดผนึกปรากฏค่าเฉลี่ยความสำเร็จในการปิดผนึกออกมา 27.4%!
ให้ตายเถอะวะมอนสเตอร์เลเวลต่ำขนาดนี้ แต่ทำไมโอกาสได้มาถึงน้อยขนาดนี้ละเนี่ย? ตอนนี้ผมมีการ์ดปิดผนึกแค่ 2 ใบเท่านั้น ขอร้องละช่วยส่งโชคมาให้ฉันทีเถอะ
สวบ!
ทันใดนั้นการ์ดปิดผนึกก็เกิดลำแสง7 เส้นสาดส่องลงมาจากฟากฟ้าก่อนจะล้อมรอบตัวเ้านกน้อยตัวนั้นทว่าแสงกะพริบเพียงไม่กี่วินาที การปิดผนึกก็ขึ้นข้อความว่า FAIL
อะไรวะเนี่ย!
ผมเดือดดาลขึ้นมาทันทีส่วนเ้านกตัวนั้นดูท่าจะไม่พอใจเช่นกันร่างของมันหมุนอยู่กลางอากาศครู่หนึ่งก่อนจะพุ่งโจมตีแล้วตะปบหน้าผากของผมจนเกิดค่าเสียหาย-14 พอยต์นี่คือผลที่ได้รับจากการโจมตีของเ้านกขนสีเงิน แม้แต่เลเวล 1 ยังสามารถทำให้เืของผมลดลงไปได้มากขนาดนี้ความสามารถของมันดูเหมือนว่าหากใช้เพื่อทำลายการป้องกันก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากเลยนะเนี่ย
ระหว่างที่กำลังรับมือการโจมตีของเ้านกน้อยผมก็หยิบการ์ดปิดผนึกใบที่ 2 ออกมานี่เป็การ์ดใบสุดท้ายของผมแล้ว!
สวบ!
การ์ดลอยขึ้นก่อนจะคลุมร่างของเ้านกน้อยตัวนั้นพร้อมกับผมที่เริ่มใช้พลังปิดผนึกอย่างต่อเนื่องเ้านกพยายามสลัดตัวเองให้หลุดจากการปิดผนึกมีหลายครั้งที่มันเกือบถูกดูดเข้าไปในวงเวท ทว่ามันก็พยายามดีดตัวเองออก่สุดท้ายฝ่ามือผมชุ่มไปด้วยเหงื่อและคอยภาวนาในใจตลอดเวลา‘เ้านกน้อยหยุดดิ้นทีเถอะโว้ยฉันสัญญาว่าจะเลี้ยงแกด้วยอาหารเลิศรสที่สุดเท่าที่โลกใบนี้มีเลย’
ในที่สุดดูเหมือนว่าคำอธิษฐานจะเกิดผลเพราะทันใดนั้นลำแสงสายหนึ่งก็สว่างวาบแล้วเ้านกน้อยเลเวล 1 ก็หายไป จากนั้นช่องเก็บสัตว์เลี้ยงก็ปรากฏรูปเ้านกขนสีเงินขึ้นมา
ติ๊ง!
ข้อความจากระบบ :ยินดีด้วยท่านได้ปิดผนึก[นกขนสีเงิน] สำเร็จแล้ว ท่านเป็ผู้เล่นคนที่ 3 ที่สามารถปิดผนึกสัตว์เลี้ยงได้สำเร็จท่านจะได้รับรางวัลจากภารกิจในครั้งนี้ด้วยค่า EXP 2,000 พอยต์และค่าเสน่ห์+1
……
สวบ!
แสงสีทองที่คุ้นเคยส่องสว่างขึ้นรอบๆเวลานี้เลเวลของผมเพิ่มเป็ 16 แล้วไม่น่าเชื่อว่าการปิดผนึกสัตว์เลี้ยงจะทำให้ได้รับค่า EXP เพิ่มขึ้นด้วย!แถมยังได้ค่าเสน่ห์อีกตั้ง 1 พอยต์แม้ว่าผมจะยังไม่รู้ว่ามันมีไว้เพื่ออะไรก็เถอะ แต่จะต้องเป็ของดีแน่ๆ
เมื่อเปิดตารางสัตว์เลี้ยงแล้วผมก็ดึงค่าสถานะของเ้านกขนสีเงินดูอืม... ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย
[นกขนสีเงิน]
เลเวล :1
พลังโจมตี:★★★☆
พลังป้องกัน :★★
HP :★★☆
ความเร็ว :★★★★
MP :★☆
สกิล: [โจมตีด้วยขนนก]
ค่าความเป็เลิศ :47%
……
ผมเริ่มจะเข้าใจข้อมูลเหล่านี้แล้วค่าสถานะของพวกมันจะถูกจัดอยู่ในรูปดาว โดยที่เ้านกขนสีเงินต่างก็อยู่ในระดับนี้ทั้งหมดแต่รูปร่างของพวกมันจะแตกต่างกัน เ้านกที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้มีค่าความเป็เลิศ 47% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงระดับของเ้านกขนสีเงิน ว่าแต่ค่าความเป็เลิศ 47%นี่มันมีประโยชน์ยังไงกันนะ?
ผมจึงเปิดกระทู้แล้วค้นหาคำว่าค่าความเป็เลิศของสัตว์เลี้ยง
[ค่าความเป็เลิศ]:กำหนดความผันผวนของคุณสมบัติของสัตว์เลี้ยงโดยทั่วไปแล้วค่าสถานะปัจจุบันของสัตว์เลี้ยงจะเท่ากับ [ค่าสถานะพื้นฐาน] x [1+ เปอร์เซ็นต์ค่าความเป็เลิศ] ค่าความเป็เลิศของสัตว์เลี้ยง 1 ตัวจะกำหนดข้อดีข้อเสียของมัน
……
เข้าใจแล้วคุณสมบัติที่แท้จริงของนกขนสีเงินของผมคือ 1.47 เท่าของคุณสมบัติพื้นฐานสัตว์เลี้ยงที่มีค่าความเป็เลิศ 100% จะเทียบเท่ากับค่าความเป็เลิศ0% จากสัตว์เลี้ยงที่มีค่าความเป็เลิศ 200% ให้ตายเถอะ นี่แปลว่าถ้าค่าความเป็เลิศของสัตว์เลี้ยงต่ำก็ทำอะไรไม่ได้เลยสิเนี่ย!
ผมตรวจสอบเ้านกขนสีเงินตรงหน้าอีกครั้งก็พบว่าเ้านกตัวนี้อยู่ในระดับกลางจนถึงต่ำซึ่งทำให้ความกระตือรือร้นในการได้ปิดผนึกสัตว์เลี้ยงของผมมอดดับไปแต่ก็ช่างมันเถอะ ดาบหนามในตอนนี้ก็ใช้งานไปเยอะแล้วกลับเมืองไปซ่อมอาวุธเสียหน่อยดีกว่าตอนนี้ในกระเป๋ามีหญ้าใบไม้สีเงินเกือบล้นแล้วด้วยผมไม่ได้อยากเอาของเหล่านี้ไปหลอมหรอกนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นค่าของมันแต่เป็เพราะผมไม่มีเงิน ตอนนี้ผม้าขายมันแลกเงินเพื่อยกระดับให้สูงขึ้น
……
แต่เนื่องจากการวาร์ปกลับเมืองต้องใช้เงินถึง1 เหรียญทอง ซึ่งผมไม่มีปัญญาหาเงินซื้อมันได้แน่นอนผมก็เลยตัดสินใจวิ่งกลับเมืองแทน
เมื่อวิ่งกลับไปที่เมืองแล้วผมก็ซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ตรงลานทางฝั่งประตูทิศเหนือนั้นครึกครื้นเป็อย่างมากคนมากมายเปิดแผงลอยขายไอเท็มที่ตัวเองหามาได้ โดยมีสินค้าหลากหลายละลานตาไปหมด
“ขายเกราะอุปกรณ์ระดับขาวเลเวล9 จ้า พลังป้องกัน 40 พอยต์อาชีพอัศวิน นักดาบ พระใช้ได้หมดจ้า ซื้อตอนนี้ให้ราคา 1 เหรียญเงินเท่านั้นใครที่เดินผ่านแถวนี้แวะมาดูก่อนได้จ้า พลาดแล้วจะเสียดายเด้อ”
“ขายโอสถชะเอมเทศจำนวนมากขวดละ 4 เหรียญทองแดงเท่านั้นนะจ๊ะ ถูกกว่าไปซื้อกับ NPCอีกนะ ซื้อให้แฟนสาวที่เป็ฮีลเลอร์ได้แต่ถ้ายังไม่มีแฟนก็เอาไปให้แฟนคนอื่นได้น้า! ”
“ขายมีดอุปกรณ์ระดับเหล็กดำเลเวล5 จ้า พลังโจมตี 12-15 ค่าความเร็ว +1คนที่เล่นอาชีพแอสซาซินต้องเข้ามาดูนะ ขายถูกๆ เลยจ้าแต่ถ้ามีเงินไม่ถึง 20 เหรียญเงินก็ไม่ต้องเข้ามาคุยนะเสียเวลาทำมาหากินจ้า”
……
ผมดูของในกระเป๋าตัวเองดูเหมือนไม่มีอะไรที่สามารถขายได้เลยแฮะ ผมจึงไปซื้อหม้อต้มยามาหลอมยามานาเลเวล 2 ออกมา 50 ขวด แต่ละขวดคิดว่าจะขายในราคา 40 เหรียญทองแดง ซึ่งถูกกว่าราคาที่ NPC ขายอยู่
จากนั้นผมก็วางเ้านกขนสีเงินตรงหน้าและแสดงค่าสถานะของมันก่อนจะะโว่า“สัตว์เลี้ยงปิดผนึก เพิ่งจับมาสดๆ ร้อนๆ เลยคร้าบสัตว์เลี้ยงตัวนี้มาพร้อมกับพลังโจมตีและความเร็ว มีสกิลโจมตีด้วยขนนกถือเป็าาแห่งสัตว์เลี้ยงสายโจมตีที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยนะคร้าบ มาก่อนได้ก่อนเร่เข้ามาประมูลราคากันได้เลยคร้าบ”
หลังจากพูดจบคนก็เริ่มมาออกันที่ร้านของผมพร้อมกับเริ่มเสนอราคา
นักดาบเลเวล 11 ที่สวมอุปกรณ์ระดับขาวพูดขึ้น “เฮ้เพื่อน 80 เหรียญทองแดงขายไหม?”
ทันใดนั้นฮีลเลอร์เลเวล 15 อีกคนหนึ่งก็แทรกตัวเข้ามา “พ่อหนุ่ม ฉันอยากได้จัง 40 เหรียญเงินสนใจไหม? ขายให้ฉันเถอะนายมีแฟนหรือเปล่าเนี่ย ถ้าไม่มี สนใจจะยกให้ฉันไหม? ”
ผู้คนที่อยู่แถวนั้นหัวเราะเสียงดังจนทำให้ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนต่อให้สวยปานนางฟ้า แต่ถ้าต้องแลกกับเ้านกขนสีเงินที่มีค่าความเป็เลิศ 100% ผมก็ไม่ยอมหรอกนะ
ผู้คนยังคงเปิดราคาอย่างต่อเนื่องแต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่มีใครเสนอราคาถึง 1 เหรียญทองสักคนหรืออาจเป็เพราะตอนนี้ยังเป็่เริ่มต้นเกม คนที่มีเงินต่างก็เอาเงินไปซื้อยาอีกอย่างมอนสเตอร์ก็ดรอปเหรียญแค่ไม่กี่เหรียญ การจะได้เงิน 1 หมื่นเหรียญเงินไม่ใช่เื่ง่ายเลย แต่ราคาภายในใจของผมอย่างน้อยๆ คือ 5เหรียญทอง ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่ขายหรอก
……
รออยู่นาน 20 นาที ในที่สุดก็มีนักแม่นปืนหนุ่มเดินเข้ามาบนบ่าของเขามีแสงสีดำลอยอยู่้า นั่นเป็เกราะข้อมืออุปกรณ์ระดับเหล็กดำแถมเ้านี่ก็เลเวล 18 และ ID ของเขาคือ‘ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะ’ อู้ว! ดูเหมือนว่าเถ้าแก่จะมาแล้วสินะเนี่ย
เมื่อเ้านี่เห็นนกขนสีเงินดวงตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา แต่ทันใดนั้นก็รีบข่มความรู้สึกทางสายตาเอาไว้เ้านี่ดูเป็มืออาชีพดีแฮะ คงจะมากดราคาสินะ!
ผมพยักหน้าก่อนจะยิ้มออกมา“เฮ้เพื่อน สนใจของชิ้นไหนเอ่ย? ”
“เ้านกขนสีเงินตัวนี้ราคาต่ำสุดอยู่ที่เท่าไร?ขอราคาเป็ธรรมด้วยนะ” ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะถามขึ้น
ผมเลียริมฝีปาก“นี่เป็ของที่ใครๆ ก็อยากได้ ราคาในใจตอนนี้คือ 5 เหรียญทองถ้าต่ำกว่านี้ฉันไม่ขาย นายก็น่าจะรู้นะว่า่เริ่มเกมแบบนี้หากมีสัตว์ตัวนี้ละก็การเพิ่มเลเวลของนายคงจะสูงมากเลยละ เื่นี้นายคงรู้ดีนะราคานี้ถือว่าคุ้มค่ากับการได้ไปแน่นอน”
ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆสิวะพยักหน้า “เข้าใจแล้ว รอแป๊บ พี่ใหญ่ฉันกำลังมาที่นี่แล้ว”
……
เพียงไม่นานก็มีนักดาบเลเวล18 ถือดาบแทรกตัวเข้ามากลางฝูงชนก่อนจะเดินตรงมาที่แผงลอยของผมพร้อมหัวเราะร่า“เมืองปาหวางมีสัตว์เลี้ยงด้วยเหรอเนี่ย? ฮ่าๆๆๆโชคดีชะมัดเลยนะเนี่ย ฉันจะซื้อของชิ้นนี้! ”
ผมพูด “เถ้าแก่ของชิ้นนี้ราคา 5 เหรียญทอง”
“5 เหรียญทอง?บ้าไปแล้ว! ” ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็ชะงักไป แล้วเสียงทุ้มต่ำก็ร้องดัง“เฮ้ย แกเองเหรอวะ! ”
ผมเงยหน้าขึ้นด้วยอาการตกตะลึงนี่มันเ้าซีฉู่ป้าหวาง คู่อริหมายเลข 1 ของฉันนี่หว่า...
สวบ!
ผมรีบเก็บแผงลอยก่อนยิ้มเหยๆ“ไม่ขายละ”
“นี่เดี๋ยวก่อนสิ...” ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะฉุดผมเอาไว้ “พี่ชาย...อย่าให้เื่ส่วนตัวมากระทบกับธุรกิจสิพี่ใหญ่ของเราอยากได้สัตว์เลี้ยงนี่มากเลยนะ เมื่อกี้นายบอกว่าจะขาย 5 เหรียญทองไม่ใช่เหรอ งั้นพวกเราตกลงที่ราคานี้แหละ...”
ผมขมวดคิ้วก่อนเอนหลังพิงกำแพงพลางกอดอกพูดด้วยรอยยิ้ม“ถ้าต้องขายของชิ้นนี้ให้เ้านี่ละก็ ฉันขอขายราคา 20 เหรียญทองถ้าน้อยกว่านี้แม้แต่ทองแดงเดียวฉันก็ไม่ขาย ว่าไง ยังอยากได้อยู่ไหมล่ะ? ”