เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นโจวเฉิงกับครูฝึกคนหนึ่งกระซิบกระซาบสนทนากันอยู่สักพัก ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าป่าไป
สีหน้าของโจวเฉิงดูไม่ค่อยดีนัก
แม้ในสายตาของนักศึกษาใหม่ จอมมารโจวจะดูเ็าขึงขังทุกวัน ทว่าสำหรับเซี่ยเสี่ยวหลานที่เป็หวานใจคนนี้ สามารถแยกแยะได้ว่าเมื่อไรที่โจวเฉิงจริงจังจริงๆ และเมื่อไรจริงจังไม่จริง
ความจริงจังในตอนนี้เป็ของจริงแน่นอน
เกิดเื่อะไรขึ้นกันนะ?
ทักษะการประกอบอาหารของเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นอ่อนปวกเปียก ให้ครัวสมัยใหม่แก่เธอทำอาหารออกมายังแค่พอใช้ได้เท่านั้น ดังนั้นสำหรับการทำอาหารนอกสถานที่เช่นนี้ เธอจึงถูกส่งตัวไปล้างข้าวสารริมธารแทน
วัตถุดิบสำหรับทำอาหารที่ขนมานั้นมีจำกัด นอกจากข้าวสารก็คือบะหมี่ ผักกาดขาว และมันฝรั่งอีกนิดหน่อย ส่วนเครื่องปรุงมีเพียงเกลือ ภายใต้ข้อจำกัดเช่นนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานยิ่งไม่มั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตน เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งใจทำหน้าที่เป็ผู้ช่วยคนอื่นเขาดีกว่า หนิงเสวี่ยเองก็ได้รับมอบหมายงานประเภทเดียวกัน บุปผางามบนยอดเขาสูงประจำสาขาสถาปัตยกรรมผู้นี้ เพื่อนๆ ทำใจให้สหายหนิงเสวี่ยเฝ้าหน้าเตาควันขโมงไม่ได้—อันที่จริงประสบการณ์ตั้งค่ายพักแรมนอกเมืองของหนิงเสวี่ยสมบูรณ์พร้อมกว่าคนส่วนใหญ่เสียอีก
เซี่ยเสี่ยวหลานมองไปทางป่าหลายครั้ง ทันใดนั้นหนิงเสวี่ยก็กระซิบขึ้นมาเบาๆ “พวกจี้เจียงหยวนกับสยฺงไป่เหยียนเข้าป่าไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว”
พวกจี้เจียงหยวนยังไม่กลับมา ดังนั้นโจวเฉิงจึงนำครูฝึกไปตามหาคนสินะ?
ทีนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว!
ในทางกลับกันเซี่ยเสี่ยวหลานก็รู้สึกประหลาดใจ หนิงเสวี่ยราวกับไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น แต่กลับรู้รายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวอย่างทั่วถึง สยฺงไป่เหยียนเคยฝึกกีฬาประเภทลู่และลาน ใครที่รอบรู้ล้วนทราบข้อมูลนี้ ส่วนจี้เจียงหยวน การรู้ว่าเขากลับมาจากอเมริกานั้นไม่ใช่เื่แปลก ทว่ารู้กระทั่งจี้เจียงหยวนคือแชมป์ระดับภูมิภาคของการแข่งขัน IPSC อะไรนั่น... หนิงเสวี่ยมีความมานะมากมายในการใส่ใจเื่พวกนี้ได้อย่างไร!
“เธอคงไม่ได้คิดจะไปตามหาพวกเขาสินะ?”
หนิงเสวี่ยเป็ห่วงใครกัน สยฺงไป่เหยียน หรือจี้เจียงหยวน?
การเข้าไปตามหาคนในป่าเขา มันช่างไร้สติเหลือเกิน เซี่ยเสี่ยวหลานจะต้องห้ามอย่างแน่นอน
หนิงเสวี่ยจ้องผิวน้ำในลำธารที่ใสสะอาด พร้อมทั้งส่ายศีรษะอย่างนิ่งสงบ “ไม่ไปหาหรอก เวลานี้สิ่งที่พวกเราต้องทำคืออย่าสร้างปัญหาเพิ่ม”
พูดจบหนิงเสวี่ยก็ถือผักกาดขาวที่ล้างเสร็จกลับไป
พอลมูเาพัดผ่าน สมองของเซี่ยเสี่ยวหลานปลอดโปรงขึ้น เมื่อครู่เธอโดนสหายหนิงเสวี่ยดูถูกกลายๆ อีกแล้วสินะ? หนิงเสวี่ยเปรยอย่างไร้ต้นสายปลายเหตุว่าจี้เจียงหยวนกับสยฺงไป่เหยียนเข้าป่าไปและยังไม่กลับมา หรือคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะเข้าไปตามหาคน จึงบอกเธอว่าอย่าไปโดยอ้อม?!
ด้วยความสัตย์จริง คนที่เธอห่วงคือโจวเฉิงเข้าใจไหม เธอไม่ได้สนใจความเคลื่อนไหวของพวกจี้เจียงหยวนเลยแม้แต่น้อย
----------------------------------------
“นักศึกษาพวกนี้น่าจะออกมาเก็บฟืนแล้วหลงทาง...”
ครูฝึกหมู่ของจี้เจียงหยวนแก้ต่างแทน เพราะกลัวว่าเมื่อโจวเฉิงเจอพวกเขาจะสั่งลงโทษเพิ่ม นักศึกษาชายกับครูฝึกเข้ากันได้ง่าย หลังจากผ่านการฝึกฝนมาสิบกว่าวัน ครูฝึกและกลุ่มของจี้เจียงหยวนจึงกลายเป็ ‘เพื่อน’ กันแล้ว อีกอย่างตอนนี้กำลังประเมินเลือก ‘หมู่ดีเด่น’ ด้วย ครูฝึกเองย่อมอยากให้นักศึกษาทหารที่ตนเป็ผู้อบรมมีผลคะแนนดี
“ถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังมีใจปิดบังความผิดแทนพวกเขาอีกนะ หาเ้าตัวให้พบก่อน เื่อื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน!”
ในป่าบนเขาละแวกนี้ มีคนของค่ายมาสำรวจล่วงหน้าแล้ว และไม่พบว่ามีพวกสัตว์ป่าขนาดใหญ่ ดังนั้นสิ่งที่โจวเฉิงกลัวก็มีเพียงพวกเขาไม่ระวังจนก้าวพลาดกลิ้งร่วงลงทางลาดอะไรมากกว่า
ส่วนเื่อย่างพวกจี้เจียงหยวนเดินไปยังทิศทางไหนนั้น ก็ยังไม่สามารถปิดบังโจวเฉิงได้
ป่าที่เวลาปกติเปลี่ยวร้างไร้คนอาศัย เมื่อมีคนเดินผ่าน ต้นไม้ใบหญ้าล้วนล้มนอนราบ กิ่งไม้หักบนพื้น จึงสามารถมองเห็นได้ว่ามีร่องรอยของใครบางคนผ่านไปมา
หักท่อนไม้หนาสองท่อนไว้สำรวจทาง ขณะเดินก็แหย่งูในพงหญ้าให้หนีไปก่อน เดือนกันยายนงูยังไม่จำศีล อีกทั้ง่ฤดูใบไม้ผลิท้องฟ้าสดใสอากาศสดชื่น เป็ฤดูกาลที่งูชอบเคลื่อนไหวพอดี ครูฝึกเรียกหาพวกจี้เจียงหยวนตลอดทาง หลังเดินหา 20 นาที โจวเฉิงก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
“ชู่”
“ครูฝึก พวกเราอยู่ตรงนี้...”
มีคนตอบรับจริงๆ ทว่าเสียงนั้นถูกข่มให้เบาโดยตั้งใจ อีกทั้งยังมีความสั่นเครือเล็กน้อย
โจวเฉิงและครูฝึกคลำทางไปอย่างระมัดระวัง พบว่าจี้เจียงหยวนกับสยฺงไป่เหยียน รวมถึงนักศึกษาชายอีกหนึ่งคน ตกลงไปในหลุมหลุมหนึ่ง
รอบข้างคือวัชพืชทั้งนั้น พวกเขาอาจมีใครสักคนเหยียบพลาด คนอื่นจึงยื่นมือไปคว้าเพื่อช่วยเหลือ ปรากฏว่าตกลงไปกันหมด
“พวกนายสามคน—”
“ชู่!”
ครูฝึกโมโห แค่หลุมความสูงสองเมตรยังปีนขึ้นมาไม่ได้?
การฝึกทหารในหลายวันที่ผ่านมาสูญเปล่าแล้วไม่ใช่หรือไร!
โจวเฉิงขัดจังหวะไม่ให้เขาพูดต่อ ครูฝึกมองไปยังทิศทางที่โจวเฉิงชี้ ที่แท้จี้เจียงหยวนกับสหายชายหนุ่มรวมสามคนไม่กล้าขยับเขยื้อนเพราะว่าก้นหลุมมีงู!
“งูบินเหนือหญ้า [1] ... ห้าตัว”
ครูฝึกรู้สึกคอแห้งขึ้นมา
บินเหนือหญ้าคือชื่อในภาษาถิ่นแถบนี้ สัตว์ที่กำลังล้อมพวกจี้เจียงหยวนทั้งสามคนอยู่คืองูพิษในพื้นที่จี้เป่ย ชื่อทางวิทยาศาสตร์คืองูพิษอูซูหลี่ มันต่างจากงูพิษทั่วไปที่ความเร็วในการโจมตีนั้นว่องไวมาก เวลาเลื้อยในพงหญ้า ไม่เพียงแต่จะมีสีละม้ายดงหญ้าแห้ง ความเร็วของมันราวกับบินอีกด้วย!
พวกของจี้เจียงหยวนทั้งสามคนตกลงไปในรังงูแล้วน่ะสิ!
อีกทั้งยังทำให้งูเหล่านี้โกรธแล้วด้วย พวกมันขดลำตัวประจันหน้ากับพวกจี้เจียงหยวน เตรียมพร้อมโจมตีทุกเวลา
ไม่แปลกใจที่พวกจี้เจียงหยวนจะไม่กล้าขยับ แม้แต่เสียงขานรับยังเบามาก เพราะกลัวจะยั่วโมโหงูพิษพวกนี้นั่นเอง
ครูฝึกมองโจวเฉิงด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ
ตอนนี้ในมือของพวกเขามีท่อนไม้สองท่อน ครูฝึกมีปืนไรเฟิลหนึ่งกระบอก ส่วนสิ่งที่โจวเฉิงพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาคือปืนพก
โจวเฉิงล้วงสมุดตรวจรายชื่อในกระเป๋าเสื้อครูฝึกออกมา และเขียนข้อความลงไปบนนั้น ‘ผมจะยื่นปืนกับท่อนไม้ให้พวกคุณ พวกคุณรอฟังคำสั่งผม พอบอกว่าลงมือก็เขี่ยงูที่อยู่ใกล้ตัวเองที่สุดให้ลอยไปไกลๆ งูสองตัวที่เหลือผมจะจัดการเอง’
จี้เจียงหยวนพยักหน้า สยฺงไป่เหยียนกับนักศึกษาชายอีกคนก็ใจกล้าไม่แพ้กัน ถ้าไม่ใช่เพราะร่วงลงหลุมแล้วงูล้อมพวกเขาทันที และพวกเขาทั้ง 3 คนไม่สามารถรับมืองู 5 ตัวพร้อมกันได้ พวกเขาคงลองจับงูไปนานแล้ว
ตอนนี้โจวเฉิงกับครูฝึกปรากฏกาย ทั้งสามถือว่าได้รับกำลังเสริม
โจวเฉิงและครูฝึกค่อยๆ ส่งท่อนไม้กับปืนไรเฟิลลงไป
โจวเฉิงครุ่นคิด จากนั้นเขียนลงบนกระดาษอีกครั้ง ‘จี้เจียงหยวน ห้ามคุณยิง!’
ความยาวระยะปลอดภัยของปืนไรเฟิลนั้นเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็ต้องเล็งด้วยซ้ำ แต่โจวเฉิงกลัวว่าถ้ายิงไม่โดน จะกลับกลายเป็ทำให้งูตื่นแทน
จี้เจียงหยวนรู้สึกเสียดายไม่น้อย เขาเห็นโจวเฉิงชักปืนพกออกมา โจวเฉิงคนเดียวจะรับมืองูสองตัวได้หรือ? งูพิษอูซูหลี่พวกนี้ ตัวเต็มวัยมีขนาดไม่เกิน 50 เิเ แม้งูจะยาวครึ่งเมตร แต่ตัวใหญ่แค่หัวแม่มือเท่านั้น เมื่อมันถูกรบกวน ความเร็วในการเคลื่อนไหวก็จะสูงมาก โจวเฉิงสามารถยิงโดนพวกมันได้หรือ?!
จี้เจียงหยวนสงสัยยิ่งนัก แต่เขาก็ทำได้เพียงปฏิบัติตามวิธีของโจวเฉิง
โจวเฉิงระบุงูตัวที่พวกเขาแต่ละคนต้องรับมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือข้างหนึ่งวางบนลำกล้องปืน
“ลงมือ!”
ท่อนไม้กับปืนของสยฺงไป่เหยียนและจี้เจียงหยวนเพิ่งััตัวงู โจวเฉิงก็เสร็จสิ้นการขึ้นลำกล้องและยิงแล้ว
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ระยะทางใกล้ขนาดนี้ นี่จึงเป็การยิงอย่างรวดเร็ว
ทำไมถึงมีเสียงปืนสามครั้ง เพราะว่านักศึกษาชายอีกคนประหม่าเกินไป ไม่ได้เขี่ยงูพ้นตัวในคราวเดียว งูพิษอูซูหลี่ตัวนั้นจึงเลื้อยจากท่อนไม้ตกลงมาข้างเท้าเขา ตาเห็นว่างูกำลังจะฉกข้อเท้าเขา ทว่านัดที่สามของโจวเฉิงโดนบริเวณหัวงู ซึ่งเป็ที่ที่ห่างจากปลายรองเท้าของเขาเพียง 2 เิเ ยิงหัวงูจนเละ!
นักศึกษาชายถอยหลังสองก้าว พิงผนังหลุมเพราะความใกลัว
ไม่โดนงูกัด ก็อาจโดนะุแทน เมื่อครู่เขาเพิ่งเผชิญหน้ากับสถานการณ์แสนอันตรายเช่นนี้!
ส่วนจี้เจียงหยวน เขาออกแรงบีบมือที่ถือปืนไรเฟิลไว้โดยไม่รู้ตัว—นี่คือความแข็งแกร่งแท้จริงของหัวหน้าครูฝึกโจว? เป้าหมายขนาดเล็กที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ยิงรวดเดียวสามนัด เข้าหัวทุกนัด! สิ่งที่ยิงโดนมิใช่ศีรษะคนขนาดใหญ่ ทว่าเป็หัวงูพิษซึ่งมีขนาดเท่าเหรียญ!
เชิงอรรถ
[1]草上飞 งูบินเหนือหญ้า หรือ งูอูซูหลี่ (ถอดเสียงจากภาษาจีน) คือ งูพิษในวงศ์งูแมวเซา ชื่อภาษาอังกฤษคือ Ussuri Mamushi สกุล Gloydius ซึ่งเป็งูพิษชนิด Pit Viper มีจุดเด่นคือหัวทรงสามเหลี่ยมที่ใหญ่กว่าคอคล้ายลูกศร กระจายอยู่ในเขตตะวันออกไกลของรัสเซีย คาบสมุทรเกาหลี และตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีขนาดั้แ่ประมาณ 17-67 เิเ ลำตัวบาง หางค่อนข้างสั้น รูปแบบของสีสันลวดลายประกอบด้วยสีดำ สีน้ำตาล สีเทา สีขาว สีเหลือง สีเขียวเข้ม สีน้ำตาลแดง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้