ที่ตึกสูงแห่งหนึ่งใจกลางเมืองแห่งสายฝน มันคือที่ตั้งของกิลด์กุหลาบดำ กิลด์สัตว์ร้ายอันดับ 8 ในเมืองแห่งสายฝน ภายในห้องรับรองขนาดใหญ่ หญิงสาวที่มีใบหน้าสง่างามและดวงตาคมกริบ มองออกไปยังทิศทางของกำแพงเมืองที่ตระหง่าน เธอััได้ถึงคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากสัตว์ร้ายระดับเพชรได้ในระยะไกล หญิงสาวคนนั้นคือ เมิ่งหลิน เด็กสาวที่หนีออกจากตระกูลเมิ่งในเมืองระดับ 4
เมิ่งหลินเดินทางมาที่เมืองสายฝนเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน แล้วได้สร้างกิลด์สัตว์ร้ายที่มีชื่อว่า กุหลาบดำ ด้วยความพยายามและความร่ำรวยที่เธอนำติดตัวมาด้วย เธอสามารถรวมเหล่าผู้ควบคุมสัตว์ร้ายที่มีฝีมือจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงผู้ทรงพลังให้เข้ามาร่วมกิลด์ และทำให้กิลด์สามารถติด 1 ใน 10 กิลด์ที่ดีที่สุดได้ภายในเวลา 3 เดือนเท่านั้น
ทันใดนั้นเสียงของชายคนหนึ่งได้ดังขึ้น “หัวหน้า เมืองแห่งนี้จะไม่เป็อะไรแน่เหรอ”
เมิ่งหลินหันกลับมามองชายคนหนึ่ง แสงไฟในห้องสะท้อนใบหน้าอันงดงามของเธอ ผมสีดำเงางามที่ไหลลงมาถึงเอว รูปร่างของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทรงอำนาจ เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเมืองนี้หรอก เย่เฟิง”
เย่เฟิง ชายผู้ที่ปลุกพร์ระดับ F มองเธอด้วยแววตาสงสัย “แต่ว่าประชาชนธรรมดาล่ะ? พวกเขาจะปลอดภัยหรือเปล่า?”
เมิ่งหลินหัวเราะเบา ๆ พร้อมยิ้มกว้าง “ฉันได้ส่งคนไปปกป้องพวกเขาแล้ว นายไม่ต้องห่วง”
เมื่อได้ยินคำตอบนั้น เย่เฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อ ลี่จวน น้องสาวบุญธรรมของกู่เทียนที่อยู่ในกิลด์ ก็พูดขึ้น
“พี่ชายเย่ ข้าอยากเล่นกับหมาป่าตัวน้อยอีกจังเลย!”
เย่เฟิงยิ้มพลางเรียก ลูกหมาป่าจันทรา ออกมา มันเป็ลูกสัตว์ร้ายที่เขาได้รับมาจากลี่จวนเมื่อไม่นานมานี้
เมิ่งหลินยิ้มพร้อมมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าและนึกถึงอดีต ใน่หลายเดือนก่อนเป็ครั้งแรกที่เธอได้พบกับ เย่เฟิง ที่หอการค้าดวงดาว ซึ่งเป็เหตุการณ์ที่เธอไม่มีวันลืม ในตอนนั้น เธอเกือบจะถูกหลอกขายวัตถุดิบระดับสูงในราคาที่ต่ำเกินความเป็จริง เย่เฟิงที่บังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ช่วยเธอตรวจสอบวัตถุดิบอย่างละเอียด และทำให้เธอรอดพ้นจากการถูกเอาเปรียบ
ถึงแม้จะเป็ความผิดพลาดจากการประเมินของหอการค้าดวงดาว แต่เมิ่งหลินก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไร ด้วยความที่พลังอำนาจของหอการค้าดวงดาวนั้นยิ่งใหญ่มาก แม้แต่กองกำลังเื้ัของเธอเองก็ไม่อยากมีปัญหาด้วย และคำขอโทษที่จริงใจของหอการค้าก็ทำให้เื่ราวจบลงอย่างสงบ
หลังจากเหตุการณ์นั้น เมิ่งหลินได้พบเจอเย่เฟิงบ่อยครั้งมากขึ้น จนเธอเริ่มรู้สึกว่าเย่เฟิงเป็คนที่มีความสามารถและจิตใจดี และเย่เฟิงยังเป็คนประเภทที่ดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาหาตัวได้ด้วย หลังจากเริ่มสนิทกันมากขึ้นในที่สุด เธอจึงตัดสินใจชวนเย่เฟิงให้เข้าร่วมกับกิลด์กุหลาบดำ แม้ว่าเป็กฎของกิลด์จะรับแต่ผู้หญิงเท่านั้น แต่ว่าเย่เฟิงได้รับการยกเว้นเป็พิเศษ
ขณะที่บรรยากาศในห้องดูเหมือนจะผ่อนคลาย ทันใดนั้นเอง บอดี้การ์ดของเมิ่งหลินได้เรียกสัตว์ร้ายออกไปโจมตีไปที่หน้าต่างทันที เสียงะเิดังสนั่นทำให้ทุกคนในห้องหันขวับไปที่หน้าต่างทันที
ตูมมมม!
กระจกหน้าต่างแตกออกเป็เสี่ยง ๆ แรงะเิที่เกิดขึ้นทำให้ลมกรรโชกเข้ามาในห้อง
“อะไรกัน!?” เย่เฟิงถามด้วยเสียงดัง ขณะที่เขาพยายามปกป้องลี่จวนและลูกหมาป่าจันทรา
เสียงะเิจากการโจมตีของบอดี้การ์ดของเมิ่งหลินดังก้องไปทั่ว ควันหนาทึบปกคลุมตึกจนมองไม่เห็นสิ่งใด เสียงะเิและแรงสั่นะเืสร้างความใให้กับประชาชนในละแวกใกล้เคียงทันที หลายคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเพื่อบันทึกเหตุการณ์โดยไม่กลัวอันตรายและลืมเื่เสียงคำรามของหมาป่าเมื่อกี้ไปหมดแล้ว
ท่ามกลางควันหนาทึบ เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังแหวกว่ายออกมาอย่างจากควันนั้น น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “โอ้โห...ทักทายกันรุนแรงจังเลยนะคะ”
ทันใดนั้น บอดี้การ์ดระดับ มรกต จำนวน 7 คน รวมถึงสมาชิกกิลด์กุหลาบดำหลายร้อยคนที่ได้รับการแจ้งเตือน รีบรุดเข้ามาที่ตึกอย่างรวดเร็ว บรรยากาศแห่งความตึงเครียดปกคลุมไปทั่วทั้งตึกในทันที
ลี่จวน เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวในควันนั้น ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความใ ก่อนภาพในหัวของเธอจะฉายชัดถึงความทรงจำในอดีต
ภาพถ้วยน้ำซุปสีม่วง ที่ส่งกลิ่นเหม็นประหลาดพร้อมควันสีเขียวลอยเอื่อย ๆ ขึ้นมา ลี่จวนจำได้ทันทีว่าเ้าของเสียงนั้นคือใคร “กวงเยว่!” ลี่จวนกระซิบชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ
กวงเยว่คือภรรยาของกู่หลง และเป็ผู้บริหารของหอการค้าดวงดาวสาขาเมืองสายฝน และยังเป็เชฟระดับหกดาวเพียง 13 คนในพันธมิตรสัตว์ร้ายหรือในโลกนี้ด้วย
เมื่อควันค่อย ๆ จางลง เผยให้เห็นร่างของกวงเยว่ที่ บินเข้ามาอยู่กลางห้องในชุดคลุมสีดำ เธอมีรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้า แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเ็า
ลี่จวนตัวสั่นด้วยความกลัว เธอหันไปส่งสัญญาณให้ทุกคนลงมือทันที “โจมตีซะ! โจมตีเลย!”
เมื่อได้รับคำสั่งจากลี่จวน เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องไปทั่ว เมิ่งหลินหันไปมองพวกเขาด้วยความใพยายามจะหยุดพวกเขา แต่ขณะนั้นเองออร่าพลังระดับสูงปกคลุมทั่วทั้งตึก ออร่าพลังของสัตว์ร้ายระดับ มรกต ก็พุ่งทะยานตรงไปยังกวงเยว่ พร้อมเสียงะโ “แกกล้าแตะต้องคุณหนูของตระกูลเมิ่งงั้นเหรอ!”
กวงเยว่เพียงยิ้มเล็กน้อย เธอยังคงยืนอยู่อย่างมั่นคง ไม่แสดงอาการหวาดกลัวแม้แต่น้อย “ทำอะไรงั้นเหรอ? ฉันแค่มาจับโจรก็เท่านั้นเอง”
ตูมมมมมมมมมม
ที่กำแพงของเมืองแห่งสายฝน
บนกำแพงเมืองขนาดใหญ่ ยามที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่างแสดงสีหน้าหวาดกลัว เมื่อมองไปที่ฝูงหมาป่าจำนวนมหาศาลที่ยืนล้อมเมืองทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับความตายได้ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกัน บนก้อนเมฆสูง หญิงชราคนหนึ่งในชุดคลุมสีเทายืนมองเหตุการณ์ด้านล่างด้วยแววตาเบื่อหน่าย เธอพึมพำเบา ๆ “สมกับเป็เมืองระดับสาม… อ่อนแอจริง ๆ ดูยามพวกนั้นสิเป็ยแค่ระดับทองเท่านั้นเอง”
หมาป่าสีดำั์ ที่ยืนอยู่ด้านล่าง เงยหน้าขึ้นหอนเสียงดังลั่น มันพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ส่งลูกของข้าคืนมาซะไอ้พวกมนุษย์”
เสียงหอนของมันกดดันไปทั่วทั้งเมือง พลังงานมหาศาลทำให้คนที่มีระดับพลังต่ำกว่า ระดับทอง ต้องทรุดตัวลงกับพื้น
แต่ในวินาทีนั้นเอง เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ “เ้าพอจะบอกได้หรือไม่ว่าลูก ๆ ของเ้า มีรูปลักษณ์อย่างไร… ดำน้อย?”
ทันใดนั้น แรงกดดันมหาศาลจากหมาป่าสีดำก็หายไปในชั่วพริบตา ยามบนกำแพงที่ล้มลงไปก่อนหน้านี้ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา พวกเขาหันไปมองชายสองคนที่บินอยู่้ากำแพงพร้ะโกนออกมา
“สวัสดีครับ ท่านเ้าเมือง และท่านอดีตเ้าเมือง”
บนก้อนเมฆที่ลอยเหนือเมืองสายฝน
หญิงชราในชุดคลุมสีเทาหม่นยืนอยู่บนก้อนเมฆ ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังชายสองคนที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองเบื้องล่าง ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “ออร่านี่…. แปลกมาก…หรือว่ากู่โม่ได้ทะลวงผ่านไปถึงระดับ าาแล้วงั้นเหรอ”
หมาป่าสีดำ ที่ยืนอยู่ไกลๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เ้าเรียกใครว่าดำน้อยกัน!”
กู่โม่ ที่บินลงมายืนอยู่บนกำแพงและหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่ได้พูดกับใครสักหน่อย ใครอยากรับชื่อนี้ก็สไลด์หน้ามา ฉันไม่หวง”
คำพูดของกู่โม่ยิ่งจุดไฟแห่งความโกรธในใจของหมาป่าสีดำ มันคำรามดังลั่นก่อนจะกระโจนเข้าใส่ทั้งสองคนทันที พร้ะโกน “ไอ้มนุษย์ชั้นต่ำ! จงไปตายซะ!”
กู่โม่พูดขึ้น “อ่อนแอ” ก่อนจะเรียกสัตว์ร้ายออกมาทันที “ไป! พยัคฆ์ขาวหน้าปีศาจ!”
เสียงคำรามของพยัคฆ์ขาวหน้าปีศาจสะท้อนก้องทั่วบริเวณ พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากมันทำให้พื้นที่รอบ ๆ รู้สึกเหมือนถูกปกคลุมด้วยความหนาวเย็นอันน่าหวาดกลัว พยัคฆ์ขาวหน้าปีศาจคำรามสวนกลับไปยังหมาป่าสีขาวอย่างรุนแรง
หมาป่าสีดำะโเข้ามาขวางทันที “พวกที่อ่อนแอ… ถอยไปก่อน!”
ฝูงหมาป่าจันทราส่วนใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังถอยออกไปอย่างรวดเร็วตามคำสั่งของมัน ทันใดนั้น หมาป่าสีดำเงยหน้าขึ้นหอนก่อนจะะโเรียก “พวกเ้า! ออกมาช่วยข้าได้แล้ว มันเสียเวลา!”
ทันใดนั้นเองเสียงหัวเราะเย็นะเืดังมาจากที่ไกล ๆ “ฮิฮิ ข้าหวังว่าเ้าจะทำตามสัญญานะ ข้า้ามนุษย์หนึ่งล้่านคน อย่าลืมซะล่ะ”
อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นตามมา “ข้าก็้าอีกหนึ่งล้านเช่นกัน อย่าลืมสิ่งที่รับปากไว้ด้วยละ ดำน้อย”
บนท้องฟ้า เผยให้เห็นร่างของสัตว์ร้ายอีก 7 ตัวที่ค่อย ๆ ปรากฏตัวออกมา แต่ละตัวเปล่งออร่าพลังที่น่าหวาดหวั่น สัตว์ร้ายเ่าั้ต่างอยู่ในระดับ เพชร ระดับสูงสุด ยามที่อยู่บนกำแพงถึงกับตัวสั่นขณะมองพวกมัน
หนึ่งในยามกระซิบด้วยเสียงสั่นเครือ “นั่นมัน… ัเหล็กเงิน ทูตแห่งลม และหมูป่าเพลิงนรก…”
อีกคนพูดขึ้นด้วยเสียงสิ้นหวัง “ทางนั้นมัน… งูดินดำ ลิง 6 แขน ม้าลายแห่งแสง และเหยี่ยวสายฟ้า…”
“พวกเรากำลังจะตายใช่ไหม…”
ยามบนกำแพงต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวผิดกับหน่วยลับตระกูลที่ยังคงไม่สะทกสะท้านอะไร
ในขณะที่ทุกคนอยู่ในความตื่นตระหนก กู่หลงที่ยืนอยู่บนกำแพงเพียงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพูดกับตัวเอง “เป็อย่างที่เ้าตัวแสบนั้นบอกไว้เลยแฮะ ถึงจะไม่ทั้งหมดก็เถอะ… ถ้าอย่างงั้นก็ถึงเวลาที่ฉันต้องทำงานแล้วสินะ”
ทันใดนั้นเอง กู่หลงหายตัวไปในชั่วพริบตา สัตว์ร้ายที่เห็นต่างก็หัวเราะเยาะ “ดูสิ! มันกลัวจนหนีไปแล้ว!” หนึ่งในสัตว์ร้ายพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
อีกตัวกล่าวเสริม “พวกมนุษย์ช่างน่าสมเพชจริง ๆ”
บนก้อนเมฆ หญิงชราที่เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดแสดงสีหน้าสงสัย แต่ในจังหวะนั้นเอง เธอรู้สึกถึงความเ็ปที่แผ่กระจายไปทั่วร่างอย่างฉับพลัน
“ตึ๊ก!” ความเ็ปทิ่มแทงไปทั่วร่าง เธอพยายามมองลงไปที่ลำตัวของตัวเองก่อนจะเห็นมือของใครบางคนทะลุผ่านอกของเธอ มือข้างนั้นกำหัวใจของเธอไว้ ก่อนจะบีบมันจนแตกกระจาย
เสียงของกู่หลงดังขึ้น “ลี่ถิง ผู้ควบคุมสัตว์ร้ายระดับเพชรระดับต่ำ 1 ในคนที่ที่ช่วยเหลือเมิ่งหลินในการหนีออกจากตระกูล เพื่อให้แผนการของลูกชายฉันสำเร็จเธอต้องเสียสละสักหน่อย”
กู่หลงเช็ดเืออกจากมือด้วยความสงบ ก่อนจะหันไปมองที่ฝูงหมาป่าจันทราที่กำลังถอยหนีอยู่ “ไปที่รังของหมาป่าจันทราก่อนก็แล้วกัน”
ทันใดนั้น กู่หลงเรียก ัอัสนีบริสุทธิ์ ออกมา ร่างของัเปล่งประกายสายฟ้าสีทองขณะพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า มันรับร่างของกู่หลงขึ้นไปบนหลัง ก่อนจะบินออกไปด้วยความเร็วสูงสุด พร้อมปล่อยสายฟ้าออกมาขณะที่มันกำลังบิน ฝูงหมาป่าจันทราด้านล่างถูกสายฟ้าผ่าจนตายทั้งหมดในเวลาไม่นาน…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้