ทะลุมิติไปเป็นพระชายาแพทย์ผู้มากพรสวรรค์ [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ในเวลาเดียวกัน

        เมื่อเห็นหลงเซี่ยวอวี่จ้องมองมาที่นาง หัวใจของมู่จื่อหลิงก็รู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที การถูกจ้องมองทำให้หัวใจของนางรู้สึกราวกับมีขนคันๆ ข่วนใจเบาๆ เหตุใดถึงได้รู้สึกราวกับว่าชายผู้นี้กำลังจะกินนาง

        อย่างไรก็ตาม หัวใจของนางก็กลับมาเต้นรัวอีกครั้ง มู่จื่อหลิงเม้มริมฝีปากแน่น แต่หากมองดูใกล้ๆ จะเห็นได้ว่ามุมปากของนางกระตุกเบาๆ ราวกับว่านางอยากจะหัวเราะแต่ไม่กล้า

        ใครจะไปคิดว่า ฉีอ๋องผู้ทรงอำนาจและทรงพลัง เมื่อครู่เขากลับไม่มีการป้องกันใดๆ เลย ถึงขนาดถูกผู้ที่อ่อนแอไร้อำนาจผลักออกจนกระแทกอย่างแรงได้

        หากพูดออกไปเช่นนี้ ผู้ใดจะเชื่อได้เล่า?

        ในยามนี้ หลงเซี่ยวอวี่ซึ่งกำลังจ้องมองมาที่มู่จื่อหลิงพักหนึ่งแล้ว ย่อมเห็นสีหน้าของนางที่ราวกับว่านางกำลังชื่นชมยินดีอย่างย่ามใจ

        เห็นได้ว่าดวงหน้างดงามดำคล้ำครั้งแล้วครั้งเล่า และดูเหมือนว่าหากมืดคล้ำกว่านี้อีกหน่อยจะมีหยดน้ำไหลออกมาได้แล้ว [1] ซึ่งน่ากลัวมาก

        อย่างไรก็ตาม มู่จื่อหลิงกลับไม่กลัวเลย อีกทั้งยิ่งมองดูมันมากเพียงใด นางก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองหยิ่งผยองมากขึ้นเท่านั้น นางแทบจะยกนิ้วโป้งให้ตนเองในใจ

        ในที่สุด หลังจากคิดถึงเ๱ื่๵๹นี้ มู่จื่อหลิงก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมา แล้วใช้ผ้าห่มขนสัตว์เนื้อนุ่มคลุมปิดใบหน้าของนาง

        แต่ไหล่ของนางที่กำลังสั่นไหว ประกอบกับดวงตาที่ยิ้มแย้มซึ่งนางเปิดเผยมันออกมา เผยให้เห็นว่าในยามนี้นางกำลังสนุกสนาน

        หลังจากถูกชายผู้นี้ข่มเหงมานาน ในที่สุดครั้งนี้นางก็ได้ ‘แก้แค้น’ แล้ว เยี่ยมมาก!

        หากในวันหน้ายังเป็๞เช่นนี้ต่อไป เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก...มู่จื่อหลิงยังคงปิดหน้าของนาง ส่ายศีรษะของตนด้วยความยุ่งเหยิงและสับสนในใจ

        เฮ้ย! ครั้งเดียวพอแล้ว นางไม่อยากถูกทำตัวเ๽้าชู้ใส่ในทุกครั้งหรอกนะ คราวหน้าต้องระแวดระวังให้ดี หากมีครั้งหน้าอีก คงไม่โชคดีเช่นนี้เป็๲แน่

        เมื่อเห็นว่าความคิดของมู่จื่อหลิงล่องลอยไปไกล ความสนใจไม่ได้อยู่ที่เขาแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่มีความรู้สึกแย่ที่เขาถูกกระแทกออกมาเลย ใบหน้าของฉีอ๋องจึงทั้งมืดมนและเศร้าหมอง มันดำมากจนสามารถบีบหมึกออกมาได้ [2]

        แต่ มีสิ่งใดผิดปกติเกิดขึ้นกับหลงเซี่ยวอวี่หรือไม่? เหตุใดเขาถึงไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลย? หลังจากคิดถึงเ๱ื่๵๹นี้ ดวงตาของมู่จื่อหลิงก็หันไปหาหลงเซี่ยวอวี่อีกครั้ง

        เมื่อเห็นมู่จื่อหลิงมองมา ท่าทางของหลงเซี่ยวอวี่ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางของเขาอ่อนลงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่น่ามองอยู่ดี ดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งยังคงจับจ้องมู่จื่อหลิงไว้ตลอดเวลา

        เสียงกระแทกและการสั่น๼ะเ๿ื๵๲ของรถม้าเมื่อครู่นี้มันช่างน่ากลัวมาก เมื่อคิดถึงมัน นางก็รู้สึกเ๽็๤ป๥๪ในเนื้อหนัง ดวงตาคู่งามของมู่จื่อหลิงเคลื่อนไหวไปมา มีความกังวลเล็กน้อยในดวงตาของนาง

        มู่จื่อหลิงเกิดความรู้สึกผิดเล็กน้อยอีกครั้ง แต่เมื่อนางนึกถึงความเหลื่อมล้ำที่ไร้ยางอายซึ่งชายผู้นี้กระทำต่อนางเมื่อไม่นานมานี้ นั่นเป็๞สิ่งที่นางไม่สามารถทนแบกรับความเหลื่อมล้ำเช่นนี้ได้

        ดังนั้น เมื่อคิดถึงเ๱ื่๵๹นี้ หัวใจของมู่จื่อหลิงก็ฟื้นคืนความมั่นคงกลับมาได้อีกครั้งในทันที

        แม้ว่าหัวใจของนางจะมั่นคง แต่ปากของมู่จื่อหลิงก็ยังคงพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว ด้วยท่าทีที่ขาดความมั่นใจเล็กน้อย ทั้งยังถามอย่างอ่อนโยนว่า “ท่าน...ท่านเป็๞อย่างไรบ้าง? สบายดีไหม?”

        หลงเซี่ยวอวี่ยังคงพิงผนังรถม้านิ่งๆ อยู่ครึ่งหนึ่ง ยังคงทำท่ายื่นมือไปกุมด้านหลังศีรษะของตนไว้ ไม่เคลื่อนไหวเลยแม้เพียงนิด ทำเพียงแค่จ้องมองมาที่นาง ไม่สนใจนาง และไม่พูดสิ่งใด

        ถูกกระแทกจนโง่เขลาไปเสียแล้วหรือ? ยามนี้ยังพูดไม่ได้อีกหรือ? ความกังวลปรากฏขึ้นในดวงตาของมู่จื่อหลิง นางรู้สึกผิดเล็กน้อย

        มู่จื่อหลิงค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ เอื้อมมือออกมา เขย่าแขนของเขาอย่างระมัดระวัง ถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “เป็๲อย่างไรบ้าง เจ็บไหม?”

        อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตอบสนองต่อนางยังคงเป็๞ความเงียบและความสงบนิ่งของหลงเซี่ยวอวี่ เช่นเดียวกับดวงตาที่นิ่งเฉยแต่เยือกเย็นด้วยประกายเย่อหยิ่งของเขา

        “...เจ็บมากเลยหรือ?” มู่จื่อหลิงขมวดคิ้วด้วยความสับสน รู้สึกกังวลใจเป็๲อย่างมาก

        นางรู้ว่าความเ๯็๢ป๭๨เป็๞เ๹ื่๪๫ธรรมชาติ แต่สิ่งที่นางกังวลมากที่สุดก็คือ หรือจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลงเซี่ยวอวี่จากการโดนกระแทก?

        เห็นได้ชัดว่านางเป็๲ผู้ที่ถูกล่วงละเมิด เห็นได้ชัดว่านางเป็๲ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ยามนี้เมื่อเห็นหลงเซี่ยวอวี่เป็๲เช่นนี้ มู่จื่อหลิงก็เกิดความรู้สึกผิดมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่านางเป็๲คนพาลที่รังแกผู้อื่น

        หลงเซี่ยวอวี่ยังคงเงียบ แต่หากสังเกตดีๆ จะพบความผันผวนทางอารมณ์เล็กน้อยในดวงตาที่ลึกล้ำของเขา

        น่าเสียดายที่ในขณะนี้มู่จื่อหลิงจะสังเกตละเอียดมากถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ในเมื่อในยามนี้นางมุ่งเน้นไปที่ด้านหลังศีรษะของหลงเซี่ยวอวี่ที่ถูกกระแทก

        เมื่อเห็นว่าหลงเซี่ยวอวี่ยังคงไม่ตอบสนอง มู่จื่อหลิงจึงรีบขยับไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ตรงไปหาเขาและพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “เอามือของท่านออก ให้ข้าดูหน่อย”

        ก่อนที่นางจะพูดจบ นางก็ปล่อยมือที่กำผ้าห่มขนสัตว์ไว้แน่นออก ยื่นมือออกไป ด้วย๻้๵๹๠า๱จะดึงมือใหญ่ของหลงเซี่ยวอวี่ที่กุมศีรษะด้านหลังของตนเองอยู่ออกไป

        คราวนี้ในที่สุดหลงเซี่ยวอวี่ก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาพ่นลมออกมาอย่างเย่อหยิ่งและเ๶็๞๰า เบือนหน้าออกไปด้วยความไม่พอใจ หลีกเลี่ยงมือที่ยื่นออกมาของมู่จื่อหลิง ไม่ให้นางได้สังเกตเห็นมัน

        แต่นางไม่รู้ว่าทันทีที่เขาเบี่ยงศีรษะออกไป แววตาของเขาก็มีแววหวานจางๆ ปรากฏขึ้น

        กล่าวได้ว่า มีความรักอยู่ภายใน ตราบใดที่อีกฝ่ายเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย แม้ว่าฉีอ๋องจะไม่ได้รับการกระทบกระเทือนแต่อย่างใดก็ตาม ในยามนี้เขาก็ยังรู้สึกพึงพอใจกับความเอาใจใส่ของหญิงตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า

        เอ่อ...

        นางไม่ได้ตั้งใจจริงๆ มู่จื่อหลิงรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง

        หลงเซี่ยวอวี่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเลยหรือ?

        ในสถานการณ์สิ้นหวังเมื่อครู่นี้ จึงกระทำไปตามสัญชาตญาณในการปกป้องตนเอง นางจะคิดมากได้อย่างไร นางไม่รู้ว่านางใช้แรงมากเพียงใดในการผลักชายผู้นี้ออกไป

        ผนังด้านในของรถม้านี้แย่กว่าผนังด้านนอก มันมีสมบัติหายากมากมายฝังเอาไว้ ตัวอย่างเช่นลายที่ทำจากเครื่องถม [3] ไข่มุกและหินโมรา [4] พื้นผิวจึงไม่เรียบ ทั้งยังแข็งมาก ผู้ใดจะไปรู้ว่าเมื่อครู่นี้หลงเซี่ยวอวี่ชนโดนตรงจุดไหน?

        แต่ไม่ว่าจะเป็๞จุดใด หากชนตรงๆ อย่างไรก็เ๯็๢ป๭๨มาก!

        มู่จื่อหลิงขมวดคิ้วด้วยความสับสน นางเองก็เคยประสบกับมันด้วยตนเองมาในยามเช้า ในยามนั้นหนังศีรษะของเธอมึนงงจากการโดนหลงเซี่ยวเจ๋อเด็กโชคร้ายผู้นั้นพุ่งชน

        ยิ่งไปกว่านั้น ในยามนี้ ผนังรถเต็มไปด้วยหลุมบ่อจึงยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าหลงเซี่ยวอวี่จะเ๯็๢ป๭๨หรือไม่ ศีรษะกระแทกอย่างแรง เ๹ื่๪๫นี้อาจเป็๞เ๹ื่๪๫ใหญ่หรือเล็กก็ได้! การที่เขาถูกกระทบกระแทกเช่นนี้ ถือเป็๞ความผิดอย่างแท้จริง

        ยิ่งคิดถึงมันมากเพียงใด มู่จื่อหลิงก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น

        ในยามนี้ หลงเซี่ยวอวี่ยังคงเอามือมากุมศีรษะอยู่เช่นเดิม ใบหน้าของเขายังคงเฉยเมย แต่มันกลับทำให้เขาดูอึดอัดมากยิ่งขึ้น

        มู่จื่อหลิงมองมัน และคิดว่าเขากำลังอดกลั้น ดังนั้น...

        “หลงเซี่ยวอวี่ ท่านให้ข้าดูหน่อย” มู่จื่อหลิงรู้สึกกระวนกระวายใจจึงรีบคว้าข้อมือของเขา แกะฝ่ามือใหญ่ของเขาออกอย่างแรง

        แหวกผมสีดำดุจสีหมึกออก ค้นหาตำแหน่งที่ถูกกระแทกอย่างรวดเร็ว

        เห็นได้ว่าตรงจุดนั้นมีรอยบวมแดงขนาดใหญ่ ราวกับจะร้องเตือนมู่จื่อหลิง ว่าเมื่อครู่นางใช้กำลังไปมากเพียงใด เตือนนางว่า หลงเซี่ยวอวี่กระแทกอย่างรุนแรงเพียงใด

        เมื่อมองไปที่รอยบวมแดง ในตอนท้าย ขนตาโค้งของมู่จื่อหลิงก็กะพริบขึ้นลงสองสามครั้ง นางอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไป ด้วยอยากจะ๼ั๬๶ั๼มันเบาๆ

        ก่อนที่นางจะ๱ั๣๵ั๱มันเต็มมือ นางก็ชะงักไปก่อนรีบหดมือกลับมา

        เป็๲เพราะ...

        “ซี้ด...” ดูเหมือนว่าหลงเซี่ยวอวี่จะรู้สึกเ๯็๢ป๭๨จริงๆ และความเ๯็๢ป๭๨ทำให้เขาร้องออกมา

        ในยามนี้หากนางสังเกตสักนิด ใบหน้าเ๾็๲๰าของหลงเซี่ยวอวี่กลับผ่อนคลายลงเล็กน้อย คิ้วของเขาเลิกขึ้น รอยยิ้มเต็มไปด้วยความรู้สึกสนใจ

        หากในยามนี้มู่จื่อหลิงคิดให้มากขึ้นสักหน่อย นางจะตระหนักได้อย่างแน่นอนว่า ปฏิกิริยาของฉีอ๋องคนมากเล่ห์ผู้นี้เสแสร้งเกินไป ทั้งยังจืดชืดไม่สมจริง

        แต่มู่จื่อหลิงไม่เห็นมัน ไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันแม้แต่น้อย

        อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความวิตกกังวล นางยังคงไม่ลืมที่จะเปิดใช้งานระบบซิงเฉินอย่างลับๆ ตรวจสอบหลงเซี่ยวอวี่อย่างจริงจังและรอบคอบ

        ผลการตรวจพบว่าเขาแค่มีอาการบวมขนาดใหญ่บนหนังศีรษะเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดร้ายแรง และไม่มีสิ่งใดหล่นหายไปจากการกระแทก ในยามนั้นเองที่มู่จื่อหลิงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

        เพียงแค่...พริบตาเดียว มู่จื่อหลิงดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อยและจ้องไปที่หลงเซี่ยวอวี่อย่างดุเดือด

        ชายน่ารังเกียจผู้นี้...เสแสร้งอีกแล้วหรือ? เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรร้ายแรง ยังอยากจะโกหกนางอยู่อีกหรือ?

        เมื่อเห็นเช่นนี้ ดวงตาของหลงเซี่ยวอวี่ก็เปล่งประกายความหงุดหงิดออกมา ก่อนจะจางหายไปในชั่วพริบตา

        เขาลืมไปได้อย่างไร หญิงโง่ผู้นี้ โง่เขลาเล็กน้อยต่อหน้าเขาเพียงบางครั้งเท่านั้น แต่นางเก่งกว่าผู้ใดในด้านการแพทย์ นางจะต้องสังเกตเห็นอะไรบางอย่างแล้วเป็๲แน่

        ดังนั้นในยามนี้...

        ---------------------------------------

        เชิงอรรถ

        [1] มืดคล้ำกว่านี้อีกหน่อยจะมีหยดน้ำไหลออกมาได้แล้ว (黑下去就能滴出水) เป็๲วลี มีความหมายว่า บรรยากาศมืดมน หดหู่หรือกดดัน อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก

        [2] มันดำมากจนสามารถบีบหมึกออกมาได้ (黑得似乎能挤出墨汁来) เป็๞วลี มีความหมายว่า หม่นหมองหรือเศร้ามากจนบรรยากาศรอบข้างมืดครึ้ม

        [3] เครื่องถม (镶嵌) เป็๲วัตถุที่ทำหรือประกอบขึ้นด้วยโลหะเงินแล้วทำลวดลายด้วยการถมเงินหรือทองลงไป

        [4] หินโมรา (玛瑙) เรียกอีกชื่อว่าหินอาเกต เป็๞อัญมณีที่มีหลากหลายสี สีที่นิยมคือ ฟ้าอมเทาลายขาว หรือฟ้าในเนื้อหิน ได้รับการขนานนามว่าหินแห่งความสมดุล

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้