หลังจากที่อวิ๋นเหนียงจัดการเื่ของร้านฝูหรงเซวียนเรียบร้อยแล้ว นางก็เดินทางไปเมืองหลวง พร้อมกับส่งคนไปแจ้งข่าวกับฟางซื่อที่บ้านตระกูลอวิ๋นว่านางมีธุระต้องออกไปข้างนอก หากมีเื่ด่วนก็ให้ติดต่อคนนั้นคนนี้ของร้านฝูหรงเซวียนแทน
นี่เป็เื่ราวในภายหลัง ขอข้ามไปก่อน
กลับมาที่ศาลาว่าการ หลังจากที่ทุกคนทำงานกันอย่างหนักมาหลายวัน ในที่สุดก็สามารถปิดคดีลอบสังหารเจิ้นหย่วนโหวได้ บรรดาขุนนางในศาลาว่าการ ั้แ่ท่านนายอำเภอลงมาจนถึงเ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็เหนื่อยล้าไปตามๆ กัน
โชคดียังดีที่ท่านโหวคนใหม่ยังหนุ่ม จิตใจอ่อนโยนและมีเมตตา ไม่ได้ตำหนิพวกเขาเื่การตรวจสอบที่หละหลวมหรือการป้องกันที่ไม่ดีพอ มิเช่นนั้น ทั้งศาลาว่าการของพวกเขาคงต้องรับโทษกันถ้วนหน้า
ทหารองครักษ์ที่ท่านโหวส่งมาตรวจสอบคดีจากไปแล้ว คดีนี้ก็ได้ข้อสรุป คนร้ายสองคนถูกตัดสินปะาชีวิต คำตัดสินถูกส่งไปยังกรมอาญาเพื่อพิจารณาแล้ว รอเพียงให้ฮ่องเต้ทรงลงพระนาม ก็สามารถปะาชีวิตได้
เตียวซวี่อันจึงคลายความกังวลลง แม้ว่าเขาไม่ได้มีอูอี๋เหนียงเป็อนุภรรยาคนเดียว แต่ก็ทนต่อความอ่อนหวานเอาใจของนางไม่ได้
ถึงแม้ว่าอูอี๋เหนียงจะตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว แต่นางก็ยังเอาใจใส่ดูแลเขาเป็อย่างดี แถมยังให้สาวใช้หน้าตาสะสวยสองคนมาปรนนิบัติเตียวซวี่อันพร้อมกัน
เตียวซวี่อันที่หลงอยู่ในบรรยากาศอ่อนหวาน จึงใช้เวลาสองวันเต็มๆ อยู่ที่เรือนของอูอี๋เหนียงโดยไม่ไปไหนเลย ตลอดสองวันมานี้ อูอี๋เหนียงกับสาวใช้สองคนต่างก็ผลัดกันปรนนิบัติเขา จนเตียวซวี่อันแทบจะปล่อยิญญาหลุดลอยไปหลายครั้ง
อูอี๋เหนียงรู้จักดูสีหน้าของเตียวซวี่อันเป็อย่างดี เวลานี้พอเห็นว่าเตียวซวี่อันมีความสุข นางก็แสร้งร้องไห้สะอึกสะอื้น
เตียวซวี่อันรีบถาม “โอ๋ๆ น้องหญิงของข้า เ้าเป็อะไรไป?”
ใต้เท้าเตียวผู้สง่างามและเด็ดขาด มีใบหน้าเ็าและยุติธรรมเสมอบนบัลลังก์ศาลาว่าการ ในบัดนี้กลับเปลือยอก เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ในอ้อมกอดมีหญิงสาวตั้งครรภ์อยู่ หน้าอกเปิดเผยออกมาครึ่งหนึ่ง ดูไม่ต่างจากแขกในหอนางโลม
อูอี๋เหนียงเช็ดน้ำตาเบาๆ พลางเอ่ยว่า “ก็เื่ที่พี่ชายไร้ประโยชน์ของข้าก่อเื่ขึ้นมาน่ะสิเ้าคะ ก่อนหน้านี้ใต้เท้าให้เขารับงานไปอย่างหนึ่งมิใช่หรือเ้าคะ ให้นำหินเืไก่ ที่ใต้เท้าเพิ่งได้มาไปแกะสลักเป็ตราประทับส่วนตัว”
“แต่พี่ชายของข้ากลับทำตราประทับหาย! ใต้เท้า นั่นมันตราประทับส่วนตัวของท่านนะเ้าคะ หาก... หากตกไปอยู่ในมือคนชั่วร้าย แล้วนำไปก่อเื่วุ่นวาย ต่อให้พี่ชายของข้าตายหมื่นครั้งก็ชดใช้ความผิดครั้งนี้ไม่ได้”
เตียวซวี่อันได้ยินดังนั้นก็คว้าหยอกหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นจากการตั้งครรภ์ของอูอี๋เหนียง บีบเคล้นจนนางหลุดเสียงครางออกมาสองครั้ง เตียวซวี่อันก็ยิ่งรู้สึกพอใจมากขึ้น
“ข้าก็นึกว่าเื่อะไร ที่แท้ก็เื่แค่นี้เอง ง่ายมาก เดี๋ยวข้าจะสั่งให้หัวหน้าอวี๋ไปหาพี่ชายเ้าที่ตำบลไป๋อวิ๋น บอกให้เขาเล่าเื่ราวทั้งหมดให้หัวหน้าอวี๋ฟังอย่างละเอียด จากนั้นก็ให้ค้นหาอย่างละเอียด หากไม่ได้ทำหายในที่ลึกลับอะไร ก็ต้องหาตราประทับเจอแน่ๆ”
“ต่อให้หาไม่เจอก็ไม่เป็ไร แค่ตราประทับอันเดียว เื่นี้ไม่ใช่เื่ใหญ่โตอะไร ทำหายก็ทำหายไปเถอะ ข้าจะถูกถอดถอนจากตำแหน่งเพียงเพราะทำตราประทับหายงั้นหรือ? มาเถิด ให้ข้าดูดนมให้เ้าบ้าง ลูกไม่ได้กินนมเ้า เดี๋ยวจะคัดจนเจ็บ...”
อูอี๋เหนียงพยายามหลบเลี่ยงเตียวซวี่อัน แต่การหลบเลี่ยงของนางกลับเหมือนยิ่งเติมเชื้อไฟ
“ฮือ... ใต้เท้า พี่ชายบอกว่าเขามีเบาะแสแล้วเ้าค่ะ ตราประทับนั้นหายไปในวันที่ท่านโหวถูกลอบสังหาร ตอนนั้นเขาเพิ่งนำตราประทับกลับไปที่ร้าน แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆ จะมีคนสองคนบุกเข้ามาในร้าน หลังจากที่คนทั้งสองคนนั้นจากไป ตราประทับของใต้เท้าก็หายไป... ฮือ...”
ที่เรือนหลังของศาลาว่าการมีศาลเ้าเล็กๆ อยู่แห่งหนึ่ง เก๋อซื่อ ฮูหยินเอกของเตียวซวี่อันไม่สนใจเื่ในบ้าน ทั้งวันเอาแต่กินเจ นั่งสวดมนต์และทำบุญที่ศาลเ้า
ตอนนี้นางกำลังคุกเข่าอยู่หน้าพระพุทธรูป สวดมนต์ไปพลางเลื่อนสร้อยลูกประคำ ท่าทางดูแก่ชรา ระหว่างคิ้วมีแต่ความเศร้าโศกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา
ในเวลานี้สาวใช้สวมชุดสีเขียวอมฟ้าก็เดินเข้ามา หยุดอยู่ห่างจากนางสองก้าว แล้วโค้งคำนับรายงานว่า “ฮูหยิน บรรดาอนุมาขอเข้าพบฮูหยินเ้าค่ะ พวกนางรออยู่หน้าศาลเ้า”
เก๋อซื่อค่อยๆ ลืมตาขึ้น ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “บอกให้พวกนางไปรอที่เรือนข้า อย่ามารบกวนความสงบของพระพุทธองค์ที่นี่!”
สาวใช้รับคำแล้วถอยออกไป “เ้าค่ะ ฮูหยิน”
ครู่หนึ่งต่อมา ที่ห้องโถงในเรือนของเก๋อซื่อ มีหญิงสาวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส ศีรษะประดับด้วยปิ่นปักผมหยกมากมายนั่งอยู่
พอเห็นเก๋อซื่อเดินเข้ามา พวกนางก็รีบลุกขึ้นยืน ยังไม่ทันจะคำนับก็เริ่มร้องทุกข์ “ฮูหยิน ท่านต้องให้ความเป็ธรรมกับพวกเรานะเ้าคะ ใต้เท้าทำงานหนักที่ศาลาว่าการทั้งวันทั้งคืน แต่พอกลับมาถึงจวน ยังไม่ทันได้พักผ่อน ก็ถูกนังอูอี๋เหนียงคนนั้นล่อลวงไปที่เรือนแล้ว”
“ใช่แล้ว ไม่รู้ว่านางกับสาวใช้สองคนนั้นใช้วิธีสกปรกอะไร ถึงได้ทำให้ใต้เท้าไม่ยอมออกจากเรือนของนางมาสองวันแล้ว”
“ที่สำคัญคือสองวันนี้ ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน นางก็... นี่ไม่ใช่ว่านางจะสูบพลังของใต้เท้าจนหมดตัวหรือเ้าคะ?”
“ฮูหยิน ท่านต้องทำตัวให้สมกับเป็ฮูหยินใหญ่สิเ้าคะ ท่านเป็ฮูหยินเอกของท่านนายอำเภอ จะปล่อยให้นางผู้นั้นมาทำลายสุขภาพของใต้เท้าได้อย่างไร?”
เหล่าหญิงสาวต่างร้องไห้น้ำตาไหลพราก มองเก๋อซื่อด้วยแววตาตัดพ้อ เก๋อซื่อเพียงแค่เหลือบมองพวกนางอย่างเ็า ก่อนจะยิ้มเยาะแล้วเอ่ยว่า “ฮูหยินใหญ่? รอให้พวกเ้าเคารพข้าในฐานะฮูหยินใหญ่ก่อน แล้วค่อยมาพูดคำนี้ ส่วนเื่ท่านนายอำเภอ จะแย่งชิงมาได้หรือไม่ ก็เป็ความสามารถของพวกเ้า! มาหาข้าแล้วได้อะไร? ไปกันได้แล้ว!”
กล่าวจบเก๋อซื่อก็ไม่สนใจพวกนาง เดินเข้าไปในห้องด้านในด้วยท่าทีที่มั่นใจและหนักแน่น สาวใช้สองคนของนางจึงโค้งคำนับแล้วพูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงเ็าและห่างเหิน “เชิญอี๋เหนียงทุกท่านกลับเรือนเถิดเ้าค่ะ อย่ามารบกวนการพักผ่อนของฮูหยินเลย”
เหล่าหญิงสาวจะทำอะไรได้อีก? ได้แต่เดินออกจากเรือนของเก๋อซื่อด้วยความไม่เต็มใจ
เมื่อกลับมาถึงห้องของตนเอง เก๋อซื่อก็ถอนหายใจ “แยกย้ายกันไปเถอะ แยกย้ายกันไปเถอะ บ้านนี้แยกกันไปก็ดี”
สาวใช้ที่กำลังนวดขาให้ได้ยินดังนั้นก็ใ แต่ไม่กล้าถามอะไร ได้แต่นวดขาให้นางต่อไป แต่เก๋อซื่อกลับพูดต่อ “เซียงฉิน ไปเอาหีบที่เก็บสัญญาขายตัวของพวกเ้ามา”
เซียงฉินได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดเผือด รีบคุกเข่าลงแล้วโขกหัวอย่างรวดเร็ว “ฮูหยิน เมตตาข้าด้วยเถิด อย่าขายข้าไปเลย ขอร้องล่ะเ้าค่ะฮูหยิน!”
เก๋อซื่อลูบหัวนางเบาๆ พร้อมกับยิ้ม “เด็กโง่ เ้าปรนนิบัติข้ามาสิบกว่าปี ข้าจะยอมขายเ้าได้ลงคอหรือ? ข้าแค่จะคืนสัญญาขายตัวให้เ้ากับชุ่ยเซียง พร้อมกับอาหนิวกับอาหู่ก็เท่านั้น”
“พวกเ้าเอาสัญญาขายตัวไป แล้วก็รีบไปยกเลิกสัญญาขายตัวนั้นเสีย จากนั้นก็ไปจดทะเบียนสมรสซะ อานิวกับอาหู่เป็เด็กดีและซื่อสัตย์ เหมาะสมกับเ้าและชุ่ยเซียงยิ่งนัก ข้าเตรียมสินเดิมไว้ให้พวกเ้าสองคนแล้ว ส่วนอานิวกับอาหู่ก็ได้เงินทุนสำหรับสร้างเนื้อสร้างตัวเช่นกัน”
เซียงฉินใมาก ก่อนหน้านี้ฮูหยินยังพูดว่า ‘แยกย้ายกันไปเถอะ’ แต่ตอนนี้กลับบอกว่าจะคืนสัญญาขายตัวให้พวกนาง และให้เงินทุนพวกนางสร้างเนื้อสร้างตัว ฮูหยินคิดจะทำอะไรกันแน่?
แต่เก๋อซื่อกลับเร่งเร้า “ยังไม่ไปเอาอีก? รีบไปจัดการ... ข้ากลัวว่าหากช้าไปกว่านี้จะไม่มีโอกาสแล้ว!”
เซียงฉินไม่เข้าใจว่าเก๋อซื่อกำลังพูดอะไร แต่เนื่องจากนางเคารพเก๋อซื่อมาโดยตลอด นางจึงทำตามคำสั่งทันที
เก๋อซื่อหยิบสัญญาขายตัวของทั้งสี่คนออกมา จากนั้นก็บอกกับเซียงฉินว่า “เ้าไปตามพวกเขาทั้งสามคนมา โขกหัวคำนับให้ข้าสักครั้ง ยกชาคารวะให้ข้าสักถ้วย ถือว่าข้าเป็คนจัดงานแต่งงานให้พวกเ้าแล้วกัน”