“ไปแล้ว 7 เหลืออีก 3” ในขณะที่เสิ่นิเปลี่ยนะุ เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนจรวด เขาไม่สนใจะุอีกต่อไปแล้ว ก่อนจะรีบก้มศีรษะและหมอบลงกับพื้น
แรงปะทะในครั้งแรกทำความเสียหายต่อตัวถังน้ำมันซึ่งรั่วไหลอยู่ เสียงดังตูม RPG ะเิรถตู้จนกลายเป็ลูกบอลเพลิง ตัวรถปลิวลอยขึ้น้า
เสิ่นิซึ่งหมอบอยู่กับพื้นพลิกตัวหนีแรงปะทะจากอุณหภูมิที่ตกค้างจากคลื่นพลัง ด้วยท่าหมอบราบกันพื้นนั้น เขาลั่นไกสอยนักเลงซึ่งกำลังเปลี่ยนหัวรบ RPG อยู่
มือปืนที่ตามติดมาอีกสองคนไล่ตามจู่โจมด้วยปืนกล ตูม! ตูม! ตูม! ราวกับปืนพ่นลูกไฟ ออกมาได้ แต่กลับถูกซากรถตู้ที่ร่วงหล่นลงมาปิดกั้นไว้
“ยังเหลืออีกสอง” เสิ่นิเปลี่ยนะุในขณะที่นอนราบอยู่กับพื้น
ลูกน้องนักเลงนับว่ายังพอมีสมองอยู่บ้าง พวกมันใช้เชือกดึงมุมป้ายโฆษณาขึ้น โดยใช้แรงรถลาก ป้ายโฆษณาที่ขวางอยู่ถูกง้างออกเหมือนกับการเปิดประตู บรรดาลูกน้องยืนถือปืนกันด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด คิดว่าคงเป็ฉากาปืนอันน่าตื่นเต้น แต่สิ่งที่พวกนั้นเห็นมีแค่เพียงเสิ่นิที่ยืนอยู่ข้างรถตู้ซึ่งกำลังลุกเป็กองเพลิง รายล้อมไปด้วยผู้ซุ่มโจมตีซึ่งบ้างก็นอนหมดสติ บ้างก็นอนร่ำไห้อยู่ แม้แต่จะยืน พวกมันก็ยังทำไม่ไหว
“เสิ่นิ!” เซี่ยวอี๋ทิ้งัดำพลันย่ำเท้าไปข้างหน้า เพียงเพราะเสิ่นิหันกลับมาด้วย ทั้งปาก ทั้งเสื้อผ้า ล้วนเปียกโชกไปด้วยคราบเื
“นายเป็ยังไงบ้าง?” เซี่ยวอี๋สำรวจเนื้อตัวของเสิ่นิ
“ผมไม่เป็ไร ดีที่คาดเข็มขัดนิรภัย” เสิ่นิอมยิ้ม
“เืนี้มาจากไหน?” เซี่ยวอี๋ใช้นิ้วจิ้มไปที่คราบเืบนเสื้อผ้าของเขา หญิงสาวรู้สึกว่าสีและความรู้สึกที่นิ้วมันแปลกๆ เธอจึงลองชิมดู “บ้าเอ๊ย น้ำแตงโม? ไม่สิ ทำไมรสชาติของน้ำแตงโมมันถึงได้แย่ขนาดนี้?”
“เพราะผมพ่นออกมาจากปากไง” เสิ่นิลูบแก้มอย่างเขินอาย
“ฉิบหาย! แหวะ! แหวะ! แหวะ!” เซี่ยวอี๋รู้สึกอยากตาย
“ทำไมไม่ฆ่าพวกมัน?” ัดำเข็นรถเข้าไปหา และเมื่อเห็นพวกที่นอนกองอยู่บนพื้น เธอก็กล่าวขึ้นด้วยความสงสัย
“ไม่ได้ฆ่าคนมานานแล้ว ก็เลยหลีกเลี่ยงโดยที่ไม่รู้ตัว คุณคงไม่้าลงมีดซ้ำหรอกใช่ไหม?” เสิ่นิยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
ลูกน้องนักเลงจับเ้า Donald Duck ซึ่งโดนทุเรียนฟาดจนหมดสติไปขึ้นมา พอดึงหน้ากากออก ใบหน้าของมันก็ชุ่มไปด้วยเื แต่ศีรษะล้านที่เป็เอกลักษณ์และใบหน้าที่ออกไปทางชาวยุโรป เป็เื่สามารถคาดเดาได้ จนคนต้องร้องลั่นออกมาว่า “แก๊งสกินเฮด”
“ฉันเคยเห็นมันมาก่อน” ัดำหลับตาลง สมองของเธอค้นหาฐานข้อมูลโดยอัตโนมัติ “รหัส 17417 เขาเป็สมาชิกของแก๊งสกินเฮด แต่ถูกขับไล่ออกมาเมื่อหกเดือนก่อน ดูเหมือนว่าจะมีคนคิดยืมมือเขาฆ่าคน”
“รู้ไหมว่าใคร?” เสิ่นิถาม
“ไม่จำเป็ต้องรู้ ตอนนี้กำลังจะไปเจอคนคนนั้นแล้ว” ัดำยิ้มจนเห็นลักยิ้ม
การประชุมประจำเดือนของ 7 แก๊งใหญ่ไม่รอใคร พวกเขาเริ่มประชุมกันในเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง บนถนนสายหนึ่งของเวกัสซึ่งยังไม่ได้เจริญมากนัก การประชุมถูกจัดขึ้นภายในร้านอาหารฝรั่งธรรมดาๆ แห่งหนึ่ง บนโต๊ะตัวยาวมีกุ้งัออสเตรเลียซึ่งไม่ได้เข้ากับบรรยากาศของร้าน หอยเป๋าฮื้อสองหัวชั้นดี ซุปปลากะพง หอยงวงช้างผัดพริกเกลือ...
ร้านอาหารขนาดใหญ่แต่ไร้ผู้คน มีลูกค้าอยู่แค่ 6 ท่านเท่านั้นที่โต๊ะยาว หัวหน้าแก๊งผิวสี แมมบ้าดำ ผู้ช่วยเจียวหวา แก๊งชาวจีน ฮอนดะซังแห่งสามก๊ก และที่เป็ตัวแทนของตระกูลไมค์นั่นก็คือไมค์ ปีเตอร์ ลูกชายของเ้าพ่อ และยังมีคนที่รูปร่างเหมือนกับหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่สองตัวอีก คนผมสีบลอนด์สั้นและกำลังยัดขนมปังเข้าปาก เขาคือหัวหน้าแก๊งรัสเซียสกินเฮดในภูมิภาคสหรัฐ อิวานอฟ ส่วนอีกท่านหนึ่งที่เป็ชายชราท่าทางง่อนแง่น แก้มตอบ ปากแหลม กำลังใช้มีดและส้อมตัดชิ้นสเต๊กอย่างพิถีพิถันอยู่นั้นคือหัวหน้าแก๊งมาเฟียในสหรัฐ อันโตนิโอ
เนื่องจากัดำมาช้า พวกเขาจึงเริ่มรับประทานอาหารไปแล้ว 5 ถึง 6 นาที ทันใดนั้น รถแท็กซี่สีเหลืองคันหนึ่งก็จอดอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าของร้านอาหาร เมื่อยืนอยู่ที่ริมถนน แม้แต่ลูกน้องซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับถนนก็ยังแตกตื่น พลซุ่มยิงที่อยู่้าอาคารเองก็เฝ้าเล็งติดตาม
คนที่มากับรถคันนั้นก็คือัดำผู้ที่มาถึงสาย การปรากฏตัวของพวกเขาไม่ได้ทำให้คนประหลาดใจนัก ปีเตอร์ผู้ซึ่งวางแผนลอบสังหาร เมื่อ 10 นาทีก่อนเขาได้รับข้อความว่า “OK” แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับข่าวเลย โดยหลักการแล้วทำให้รู้ได้ว่างานล้มเหลว
เซี่ยวอี๋นำรถเข็นออกมาจากกระโปรงหลัง ส่วนเสิ่นิก็อุ้มัดำมานั่ง
ในขณะที่เซี่ยวอี๋เข็นรถเข็นไปยังประตู ยามร่างสูงใหญ่ที่มีผมสีบลอนด์ก็เข้ามาขวาง เขาพูดภาษาอังกฤษโดยไม่มีจังหวะจะโคนว่า “ติดตามผู้ร่วมประชุมได้เพียงท่านเดียว ไม่สามารถพกพาอาวุธได้”
“ผมไปเอง” เสิ่นิสลับตำแหน่งกับเซี่ยวอี๋ เขาสลับชุดสูทสะอาดสะอ้านกับน้องชายนักเลงคนหนึ่ง ชายหนุ่มถอดสายคาด Colt ออกมาวางไว้บนถาดซึ่งอยู่ข้างๆ กับผู้รักษาการณ์
นี่ยังไม่จบ ผู้รักษาการณ์ค้นตัวเสิ่นิ ชายผู้นั้นมีทักษะด้านการต่อสู้ เมื่อคลำไปก็ััได้ถึงกล้ามเนื้อของเสิ่นิ ร่างกายของหมอนี่ถือเป็อาวุธสังหารได้ไหมนะ?
หลังจากค้นตัวเสิ่นิแล้ว เขาก็ยังคลำไปที่ร่างกายของัดำอีก ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ โกรธจนแทบจะก่อา แต่ัดำกลับกางแขนออกทั้งสองข้างออกและบอกให้พวกเขาสงบสติอารมณ์
แม้ผู้เข้าร่วมประชุมจะมีแค่เพียงคนเดียวและผู้ติดตามอีกหนึ่ง ไม่อนุญาตให้พกพาอาวุธ แต่ก็ไม่เคยมีใครกล้าค้นตัวบอสใหญ่หลายท่าน นี่เป็ครั้งแรกที่ัดำถูกผู้ชายตรวจคลำ ผู้รักษาการณ์ออกแรงที่บริเวณหน้าอกของเธออย่างหยาบคาย
“เช็กเสร็จหรือยัง?” ัดำถามยามซึ่งถอยร่นไปยังตำแหน่งเดิม
“คุณเข้าไปได้” ยามพยักหน้า
“ไม่รีบ” ัดำหยิบปืนของเสิ่นิที่อยู่บนถาดมาและเล็งไปยังศีรษะของผู้รักษาการณ์ สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันที
เธอคือหัวหน้าแก๊ง ไม่ว่ายามจะกล้าสักแค่ไหน ก็ไม่อาจชักปืนออกมาได้ เขาได้แต่ยกมือขึ้นทั้งสองข้างอย่างตื่นตระหนก
“หน้าอกฉัน ให้ความรู้สึกสบายดีไหม?” ัดำยกปืนขึ้นถามด้วยรอยยิ้ม
เหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของยาม สิ่งนี้อาจเปรียบได้กับคำถามที่ว่า “เมื่อภรรยาของคุณคลอดลูกได้ยาก หมอทำคลอดเลยถามว่าจะช่วยแม่หรือช่วยลูก และในวินาทีนั้นเอง แม่ของคุณก็ะโลงไปในแม่น้ำเพื่อบังคับให้คุณช่วยลูกไว้ คุณจะทำอย่างไร?” มันเป็คำถามที่ยากในระดับเดียวกัน
“สะ...สบาย” ยามรักษาการณ์เอ่ยคำตอบที่ตนคิดว่าถูกต้อง แต่ความจริงแล้ว จะตอบอะไรมันก็ไม่สำคัญ
“ปัง!” ัดำเหนี่ยวไก ะุฝังเข้าไปที่ฝ่ามือขวาของยามผู้นั้น โพรงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ เืไหลนอง คาดว่าคงใช้การไม่ได้อีกแน่
เมื่อยิงปืนออกไปแล้ว เหล่าลูกสมุนโดยรอบก็พากันควักอาวุธออกมาด้วยความแตกตื่น พวกเขาเล็งซึ่งกันและกัน ฉากนั้นอยู่เหนือการควบคุม
“อย่าให้ฉันเห็นแกอีก ไม่อย่างนั้นมืออีกข้างของแกอาจจะรักษาไว้ไม่ได้เหมือนกัน ออกไปได้ ขอบคุณ” ในฐานะผู้เริ่มต้นเหตุการณ์ ัดำกลับไม่รีบไม่ร้อน เธอวางปืนกลับลงไปบนถาด ก่อนจะส่งสัญญาณให้เสิ่นิเข็นตนเข้าไปในร้านอาหาร
หลังจากที่ัดำเข้าไป บรรยากาศตึงเครียดบนท้องถนนก็ผ่อนคลายลง ทุกคนไม่มีใครอยากตายอย่างอนาถ ทั้งหมดต่างพากันเก็บปืนเข้าไปในเสื้อ
“ฉิบหาย นี่มันสถานที่บ้าบออะไรกัน ฉันเริ่มจะคิดถึงประเทศจีนแล้วสิ...” เซี่ยวอี๋คร่ำครวญ เป็ที่ทราบกันดีว่าประเทศจีน หากแค่พกมีดปอกผลไม้ก็เรียกนักเลงแล้ว ตำรวจพิเศษ ตำรวจอาชญากรหลายสิบนาย ทหารติดอาวุธ ล้วนพร้อมที่จะล้อมจับกุมตัวคนคนนั้นทันที
แต่ที่นี่ รู้สึกเหมือนว่าทุกคนพกปืนไว้ในกระเป๋า ช่างโหดกันเหลือเกิน
ภายในร้านอาหาร ความชุลมุนด้านนอกหน้าต่างนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับในนี้เลย ที่รับประทานก็รับประทานไป ที่ดื่มก็ดื่มไป
อันโตนิโอที่เห็นัดำก็หัวเราะออกมาเบาๆ “น้องสาว ทำไมทำหน้าหงุดหงิดแบบนั้น มาๆๆ ทานไอศกรีมดับไฟโกรธซะหน่อย”
“เพราะคุณมาสาย ก็เลยไม่ได้รอ น่องไก่หน่อยไหม?” อิวานอฟถือน่องไก่ซึ่งกัดไปแล้วหนึ่งคำ
“ไม่ล่ะ พวกคุณทานเถอะ มีคนลอบกัดฉันระหว่างทาง ก็เลยทำให้เสียเวลาไปบ้าง” ัดำถูกเข็นไปที่โต๊ะ ปกติเธอทานแค่เพียงสลัดผลไม้ เหมือนกับต่อต้านการเป็มนุษย์ เย้ยหยันต่อผู้ทานเนื้อสัตว์ เธอชอบทานผลไม้ที่สุด
“คุณสวยมาก ใครจะไม่อยากลองกัดดูล่ะ? แถมยังเอารถเข็นมาเองอีก แค่ยกขาขึ้นก็เอาได้แล้ว ฮ่าๆๆ” แมมบ้าดำกล่าวเหน็บแนมในขณะที่ทิ้งผ้าเช็ดปากในมือแล้วจุดซิการ์
“พูดจาไร้การศึกษา พ่อคุณไม่ได้อบรมสั่งสอนหรือยังไง?” ัดำทานแอปเปิลพลางยิ้มและกล่าวว่า “จริงสิ ลืมไปเลยว่าพ่อคุณเคยเป็ทาสรับใช้คนขาวเยี่ยงวัวเยี่ยงม้านี่ ตัวเองเป็หมา จะอบรมลูกให้เป็งาช้างได้อย่างไร?”
“สารเลว! แกรนหาที่ตายหรือยังไง!” แมมบ้าดำตบโต๊ะ
“ใจเย็นหน่อยคุณ พี่น้องคนดำ น้ำซุปกระเด็นหมดแล้ว” อันโตนิโอซึ่งกำลังดื่มซุปมีสีหน้าที่เศร้าหมอง
“ถ้าจะให้ยุติธรรม ัดำก็อย่าได้ลามปามไปถึงพ่อแม่ของคนอื่นสิ!” พอพูดถึงสายเื เจียวหวาก็ยืดแขนบิดข้อศอก
“งี่เง่า! อมเงินไปแล้วยังทำหน้าด้าน!” ฮอนดะถือโอกาสระบายความในใจ
เสิ่นิซึ่งยืนอยู่ทางด้านหลังสามารถเข้าใจสถานการณ์บนโต๊ะได้ภายใน 2 นาที เขาเข้าใจไปแล้วกว่าเจ็ดแปดส่วน เห็นได้ชัดว่าชายแคระชาวญี่ปุ่น ชายชาาวจีน และคนดำรวมหัวกัน ต่อต้านัดำ แต่ชายชราซึ่งนั่งนิ่งและมนุษย์รัสเซียซึ่งรูปร่างเหมือนกับะุนิวเคลียร์นั้นเอนเอียงไปทางัดำ
มีเพียงคนที่นั่งตรงตำแหน่งประธาน สวมสูทสีขาว ปีเตอร์ ผู้ซึ่งถือไวน์ชั้นดีไว้ในมือ เขายังไม่ได้แสดงจุดยืนของตน เขาไม่เผยไต๋
“ัดำ พบความเดือดร้อนหรือ? ถ้า้าก็พูดได้โดยอิสระนะ” ปีเตอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง
“ความเดือดร้อนไม่เคยลดลง สิ่งเดียวที่ฉัน้าก็คือหยุดพูดจาเสแสร้งกับฉัน” ัดำวางส้อมลง และดัดนิ้วตัวเอง เธอมองไปที่นอกร้าน ลูกน้องของเธอลากมือปืนที่เพิ่งลอบทำร้ายเธอออกมาจากท้ายรถแท็กซี่ ก่อนจะกดมันนาบลงกับกระจกร้าน เผยโฉมหน้าของมันต่อคนใหญ่คนโต
“วาซิลี่?!” อิวานอฟจำลูกน้องที่เขาขับไล่ออกจากแก๊งได้ในทันที “ทำไมเขาถึงอยู่กับคุณได้?”
“ระหว่างที่ฉันเดินทางมาที่นี่ ฉันโดนดักซุ่มโจมตี บอดี้การ์ดของฉันไม่เลวเลย เขาช่วยชีวิตฉันไว้และพบว่าคนกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็คนของอิวานนี่ ลูกน้องเก่าของน้องชายคุณ โชคดีที่ฉันความจำดี ไม่อย่างนั้นคงคิดว่าคุณอิวานอฟคิดอยากจะฆ่าฉันแล้ว” ัดำค่อยๆ กล่าวอย่างเป็เหตุเป็ผล
“จะเป็ไปได้อย่างไร? อิวานอฟเป็หนี้บุญคุณคุณ ตอนนั้นที่ผมค้าผงขาวแล้วถูกปิดล้อมด้วยตำรวจ ถ้าคุณไม่แจ้งข่าวให้ผมทราบ ผมก็คงถูกคนพวกนั้นเอาถึงตาย อิวานอฟเชื่อมั่นในมิตรภาพ คุณบอกว่าคุณไม่ได้เอาเงินคอร์รัปชันไป แสดงว่าคุณก็ไม่ได้เอาไปจริงๆ” อิวานอฟพูดจาอย่างตรงไปตรงมาราวกับหนุ่มจากดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือ เขาใช้มือขวาทุบที่หน้าอกอย่างแรง
“ฉันรู้ อิวานนี่ไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะหากคุณคิดจะฆ่าฉัน คุณก็คงจะลงมือด้วยตัวเอง หากไม่ใช่คุณ นั่นก็หมายความว่ามีคนจงใจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเรา” ัดำจิบน้ำเปล่า สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ประธานปีเตอร์อย่างพร้อมเพรียง