หลงเหยียนเช็ดน้ำตา เขารู้ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเสียใจ เพราะคนของสำนักมารอาจมาเมืองัได้ทุกเมื่อ
ตอนนี้มีความเป็ไปได้สองทาง ทางแรก สำนักมารไม่รู้ด้วยซ้ำพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อไปที่ใด สองก็คือ ต่อให้สำนักมารู้ว่าเขามาเมืองั ก็ไม่รู้ว่าเขาตายที่เทือกเขาหยุนหลัวแล้ว เมื่อในเมืองัไม่มีใครมีพลังอยู่ในระดับที่สามารถเอาชนะพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อได้
ทว่าสิ่งที่ทำให้ผู้าุโกังวลใจนั่นก็คือตัวตนของพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อ ตำแหน่งของเขาในสำนักมารคงไม่ต่ำต้อย เป็หนึ่งในสี่ราชัน ข่าวนี้เขาก็เพิ่งรู้ก่อนที่อวีเหวินสังหารจะถูกฆ่าตาย
“ท่านปู่ สำนักบงกชมารคือหนึ่งในสำนักแยกของสำนักมาร เช่นนั้นพวกเราส่งคนไปจับคนของสำนักบงกชมารมาเลยดีหรือไม่ จับขังไว้ในคุก อู่หยาตายแล้ว ส่วนสตรีพวกนั้น?”
ผู้าุโแห่งตระกูลส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ในเมื่อพวกนางรู้ว่าอู่หยาตายแล้ว ไม่แน่ สตรีพวกนั้นอาจออกจากเมืองักันหมดแล้วก็ได้ ผู้นำของพวกนางคือสตรีที่ชื่อไป๋กงเซวี่ย นางมีพลังระดับชีพัขั้นที่หกเท่านั้น ไม่มีทางกลับมาแก้แค้นแทนอู่หยาหรอก”
“เพียงแต่… อย่างน้อยสี่ราชันแห่งสำนักมารต้องมีพลังระดับชีพเทพ ต่อให้ออกตามหาพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อ มากสุดก็คงออกมาแค่สองคน หากพวกเขาสืบมาเจอตระกูลหลงของเรา เช่นนั้น…”
ผู้าุโมองไปทางหลงห่าวเทียน “เช่นนั้นเทียนเอ๋อ พวกเราสองคนต้องรีบทำเวลา หลอมหญ้าวิเศษนี้เพื่อเลื่อนระดับพลังตนให้ถึงชีพเทพ จากนั้นก็ฝึกวิชาระดับมายาสองเล่มนั้น เกรงว่านี่คงเป็วิธีป้องกันสุดท้ายของเรา เหยียนเอ๋อใกล้ออกเดินทางแล้ว พวกเราตระกูลหลงต้องข้ามผ่านไปได้อย่างปลอดภัย”
หลงเหยียนหันไปมองทุกคนแล้วกล่าวว่า “ท่านปู่ หลานได้ยินตัวแทนตระกูลอู่ตี้บอกว่าระดับชีพเทพแบ่งออกเป็สามระดับคือ ระดับชีพมนุษย์ ระดับชีพธรณี และระดับชีพ์ ทุกระดับแบ่งออกเป็ขั้นต้น กลาง และสูง คิดว่าพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อน่าจะมีพลังระดับชีพมนุษย์ซึ่งเป็ขั้นแรกของระดับชีพเทพ”
“สามขั้นเท่ากับหนึ่งระดับย่อย ข้าคิดว่า มากสุดสี่ราชันก็มีพลังไม่ต่างจากพยัคฆ์ร้ายหรอก นั่นก็คือระดับชีพมนุษย์ ซึ่งเป็ขั้นแรกของระดับชีพเทพ เช่นนั้นก็ยังดี ให้ข้าได้มีเวลาฝึกไม่กี่วันก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ทว่าหากต้องรับมือกับชีพธรณีจริงๆ เกรงว่าเราคงรับมือไม่ไหว อีกอย่างยังมีชีพ์ คาดว่าอย่างน้อยประมุขสำนักมารต้องมีพลังระดับชีพธรณีแล้วแน่”
เมื่อนึกถึงรายละเอียดของการเรียกระดับพลัง ระดับชีพธรณีและชีพ์ทำให้หลงเหยียนรู้สึกกลัว เพื่อตระกูลหลง เพื่อไม่ให้หลังจากไปเมืองหยุนจงแล้วถูกหมางเมิน เขาต้องฝึกตนให้แกร่งขึ้น โลหิตในตัวพลุ่งพล่าน หัวใจเขาเต็มไปด้วยความอยากต่อสู้
“ท่านปู่ วางใจเถิด ต่อให้พวกเขารู้แล้วอย่างไร ไม่รู้ว่ามันเป็เื่ที่ยังห่างอีกไกลเท่าไร อีกหนึ่งสิ่ง ไม่แน่พยัคฆ์ร้ายจูเก๋ออาจท่องอยู่ในโลกภายนอกเป็ประจำอยู่แล้ว ไม่อยู่สำนักมารหลายเดือนเป็ปกติ ทำให้คนสำนักมารไร้ข้อสงสัย ถึงตอนนั้น ต่อให้พวกเขารู้ ท่านกับลุงใหญ่ก็มีพลังระดับชีพเทพแล้ว ส่วนข้า เมื่อไปถึงเมืองหยุนจง มีตัวแทนตระกูลอู่ตี้ช่วยดูแล คิดว่าไม่นานก็ได้เข้าตระกูลอู่ตี้แล้วกลายเป็ส่วนหนึ่งของพวกเขา เดิมทีตระกูลใหญ่เ่าั้ต้องส่งคนมาปกป้องครอบครัวของสมาชิกอยู่แล้ว หากต้องสู้กับสำนักมารจริงๆ พวกเรามีโอกาสชนะมากกว่า”
“แม้สำหรับเรา สำนักมารจะเป็สำนักที่สูงส่งนัก ทว่าสำหรับตระกูลอู่ตี้ พวกเขาอาจเป็แค่มหาอำนาจเล็กๆ ในเมืองเท่านั้น มิเช่นนั้น เหตุใดตอนที่ตัวแทนตระกูลอู่ตี้อยู่ พยัคฆ์ร้ายจูเก๋อถึงซ่อนตัวไม่กล้าออกมาเล่า อีกทั้งข้าเชื่อว่าหลังจากไปเมืองหยุนจง ต้องได้รับทรัพยากรที่มากยิ่งกว่า ระยะเวลาการฝึกพลังก็สั้นลง”
เมื่อได้ยินการคาดคะเนจากหลงเหยียนแล้ว ผู้าุโแห่งตระกูลก็เชื่อมั่นในด้านพร์ของพลังยุทธ์ในตัวหลงเหยียน การเลื่อนระดับพลังในเวลาอันสั้น หากตระกูลหลงมีภัย เชื่อว่าหลงเหยียนต้องเร่งกลับมาโดยเร็วได้แน่
หากเป็ไปได้ หลงเหยียนสาบานในใจ หากวันหนึ่งที่เขาแข็งแกร่งมากพอแล้ว เขาต้องกำจัดสำนักที่เป็ภัยต่อสังคมอย่างสำนักมารให้ได้
ระดับชีพธรณีและชีพ์น่ะหรือ หลงเหยียนมีิญญาัอยู่เื้ั นั่นเป็ถึงิญญาัที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก คาดว่าคงไม่มีใครเลื่อนพลังได้เร็วเท่าเขาแล้ว
แน่นอนว่าระดับพลังของราชสีห์หิรัณย์ก็เพิ่มเร็วขึ้นเช่นกัน หลงเหยียนรู้ว่าเขาคือสัตว์เทพ ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าปีศาจอสูรทั่วไปมากเท่าไร เขาเป็สัตว์เทพที่เป็รองแค่เผ่าเทพัเท่านั้น
ทุกคนไม่มีใครสงสัยคำพูดของหลงเหยียน เพราะภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง เขาสามารถกลายเป็ยอดฝีมือแถวหน้าในเมืองั ไม่มีใครเป็คู่ต่อสู้ของเขา มีเพียงสถานที่กว้างใหญ่เท่านั้นที่เหมาะแก่การเติบโตของเขา ฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรหลงเหยียนก็ต้องออกจากที่นี่ และคนในตระกูลหลงก็หวังให้หลงเหยียนออกไปเปิดโลกกว้างภายนอกเช่นกัน
เว่ยเวยให้เวลาหลงเหยียนสิบห้าวัน ตอนนี้ผ่านไปแล้วสองวัน สุดท้ายคนเราก็ต้องแยกจากกัน ในเมื่อต้องเจ็บ เช่นนั้นก็ขอไม่ยืดเยื้อเสียดีกว่า หลังจากนี้อีกสามวัน หลงเหยียนตัดสินใจออกเดินทางไปยังเมืองหยุนจง ไม่รู้ว่าด้านหน้ามีอันตรายมากเท่าไรที่กำลังรอเขาอยู่ ถึงกระนั้น หลงเหยียนก็หาได้กลัวไม่
“ยังมีเวลาอีกสามวันหรือ? พี่เหยียนก็จะไปแล้ว…”
หลงหยุนฉีและหลงอวี่ซีมองไปทางหลงเหยียน พวกนางรู้สึกอาลัยอาวรณ์เขาเหลือเกิน
“พี่เหยียน ไปถึงที่นั่น ท่านต้องรู้จักปกป้องตนด้วยนะ อย่าลืมพวกเรา หากมีเวลาต้องกลับมาหาเราบ้างนะ”
หลงเหยียนอดรู้สึกเสียใจไม่ได้ “มันแน่นอนอยู่แล้ว ที่นี่คือบ้านของข้า ยังเหลือเวลาสิบกว่าวัน อย่างไรก็ตาม ข้ากลัวว่าระหว่างเดินทางจะมีเื่กะทันหัน ความจริงข้าก็ไม่อยากจากบ้านไปเร็วเช่นนี้”
เขารู้ดี เมื่อใดที่ตนออกจากตระกูล โอกาสใกล้ชิดกันก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะหลงหลิงเคยบอกว่าดินแดนกว้างใหญ่ที่ถูกเรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็ดินแดนที่กว้างใหญ่ไร้ขีดจำกัด หากมีโอกาส อนาคตหลงเหยียนต้องออกไปท่องโลกที่กว้างใหญ่ให้ได้
ผู้าุโแห่งตระกูลมองหลงเหยียน “ในเมื่อเหยียนเอ๋อตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็ตามนี้เลยแล้วกัน เมื่อไปถึงเมืองหยุนจง เ้าต้องระวังตัวให้มาก”
หลงเหยียนพยักหน้า “ท่านปู่วางใจเถิด ข้าจะระวังตัวให้ดี”
แววตาของเขาเด็ดเดี่ยว ไม่ว่าอย่างไรสำนักมารก็เป็ปมที่คาในใจหลงเหยียน หากไม่แก้ปมในใจ เขาคงมิอาจข่มตานอนได้
อาทิตย์กำลังตกดิน เวลาผ่านไปหนึ่งวัน คนในตระกูลหลงก็ถูกรับกลับจวนจนครบ ในนั้นมีสตรีของตระกูลหลงที่แต่งงานแล้วสิบกว่าคน ถูกคนตระกูลเซียวล่วงเกิน อย่างไรก็ตาม เพราะตระกูลเซียวถูกทำลายแล้ว พวกนางก็ไม่มีอะไรต้องเคียดแค้นอีกต่อไป
อีกสามวันก็เป็วันส่งศพของหลงป้าเทียน เมื่อส่งหลงป้าเทียนแล้ว หลงเหยียนจะจากไปอย่างวางใจ นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่หลงป้าเทียนตายแล้ว เขาจะได้การยอมรับและความเคารพจากตระกูล นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่าตระกูลหลงไม่มีทางยอมพ่ายแพ้แบบง่ายๆ
ต่อให้ร่างกายเหน็ดเหนื่อยเพียงใด หลงเหยียนก็ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่นาทีเดียว เขานั่งขัดสมาธิ มองราชสีห์หิรัณย์ที่อยู่ข้างกาย เ้าหมอนี่ไม่พูดไม่จามาครึ่งวันแล้ว มีหรือที่หลงเหยียนจะไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่?
“สิงโตน้อย เ้าเอาต้นเซียนหอมหมื่นลี้นี้ไปหลอมเถิด”
หลงเหยียนหยิบหญ้าวิเศษออกมา…
ทันใดนั้น ราชสีห์หิรัณย์แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะเมื่อได้ต้นเซียนหอมหมื่นลี้ เขาก็สามารถแปลงกายใช้ร่างมนุษย์ได้่หนึ่ง และเหตุผลที่ราชสีห์หิรัณย์อยากแปลงกายเป็มนุษย์ก็เพราะเขาอยากเฉิดฉายต่อหน้าหลงเหยียน ความหล่อเหลาของเขา ต่อให้มีหลงเหยียนสิบคนก็ต้านไม่ได้
ทว่าหากหลงเหยียนหลอมหญ้าวิเศษต้นนี้ มันจะช่วยให้ระดับพลังของเขาเลื่อนขึ้นมากโข สังหารพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อ ช่วยคนตระกูลหลง ความจริงก็เป็ผลงานของราชสีห์หิรัณย์เช่นกัน หากไม่ใช่เพราะมันปลดผนึกกระบี่สังหารัได้ในเวลาสำคัญ พวกเขาก็คงพ่ายแพ้ไปแล้ว
ต่อให้เป็หลงเหยียนเองก็คงผสานิญญาัไม่ได้ ตอนนั้นหลงเหยียนแทบสิ้นลมหายใจแล้ว เพราะมีจิตของิญญาั มันถึงปลุกให้หลงเหยียนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
--------------------