แสงแดดยามบ่ายของเดือนพฤษภาคมร้อนระอุราวกับจะเผาผิวให้ไหม้เกรียม แต่สำหรับฝูงชนที่เบียดเสียดกันอยู่ใน "ตลาดนัดสนามหลวง 2" (ตลาดธนบุรี) ดูเหมือนความร้อนจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้
ลลินปาดเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาตามขมับ เธออยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์แสนธรรมดา สะพายกระเป๋าผ้าใบเก่าๆ ในกระเป๋ามีเงินเก็บส่วนตัวอยู่ 2,500 บาท ซึ่งถือว่าเป็เงินจำนวนไม่น้อยสำหรับนักศึกษาสมัยปี 48 แต่มันคือก้อนสุดท้ายที่เธอมี
"เอาล่ะ... ตาดีได้ ตาร้ายเสีย" ลลินพึมพำกับตัวเอง
ตลาดขายของเก่าในยุคนี้ยังเต็มไปด้วยความดิบเถื่อน ของแท้และของเก๊วางปะปนกันจนแยกไม่ออก พ่อค้าแม่ค้าต่างะโเชียร์แขกเสียงดังลั่น
ลลินเดินผ่านแผงขายพระเครื่อง แผงขายเครื่องทองเหลือง และถ้วยชามสังคโลก แต่เธอยังไม่กล้าใช้ "เนตรประเมินมูลค่า" สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะโควตา 3 ครั้งต่อวันนั้นมีค่าดั่งทองคำ
สายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับแผงหนึ่งที่มีคนมุงดูอยู่เยอะ เป็แผงขายเครื่องลายครามที่ดูหรูหรา วางเรียงรายสวยงาม พ่อค้าเป็ชายร่างท้วมสวมสร้อยทองเส้นโต กำลังโม้สรรพคุณแจกันใบใหญ่
"นี่ครับพี่ แจกันสมัยร.5 ของแท้แน่นอน ดูลายน้ำทองนี่สิครับ หลุดจำนำมาจากบ้านผู้ดีเก่า ผมปล่อยให้พี่ถูกๆ 5,000 บาทพอ!"
ลูกค้าหลายคนทำท่าทางสนใจ ลลินลองเพ่งมองดู มันสวยจริงๆ แวววาวไร้ที่ติ ‘ลองดูหน่อยละกัน ถือว่าเป็การทดสอบระบบ’
ลลินจ้องมองไปที่แจกันใบนั้น แล้วสั่งการในใจ 'ตรวจสอบ'
[ติ๊ง!] <เนตรประเมินทำงาน (ครั้งที่ 1/3)> <ชื่อวัตถุ: แจกันลายครามเลียนแบบ (เกรด A)> <ที่มา: ผลิตจากโรงงานเซรามิกในจังหวัดลำปาง ปี 2546> <มูลค่าจริง: 150 บาท>
ลลินแทบหลุดขำออกมาเมื่อเห็นหน้าจอโฮโลแกรม เกือบไปแล้ว... ถ้าไม่มีระบบ เธอคงคิดว่ามันเป็ของดีเหมือนคนอื่นๆ พ่อค้าคนนี้ฟันกำไรเละเทะแน่ๆ
เธอรีบเดินถอยออกมา ปล่อยให้เหยื่อรายอื่นต่อราคากันไป ลลินเดินลึกเข้าไปในโซนท้ายตลาด ซึ่งคนเริ่มบางตาลง แถวนี้ส่วนใหญ่เป็พวกของมือสองแบกะดิน ของวางกองๆ รวมกันดูสกปรกและไร้ราคา
สายตาของลลินกวาดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสะดุดเข้ากับ "แจกันทรงสูง" ใบหนึ่งที่วางหลบมุมอยู่หลังกองหนังสือเก่า มันถูกปกคลุมด้วยฝุ่นหนาเตอะและคราบดินแห้งกรัง ดูมอมแมมเหมือนขยะที่รอการทิ้ง
แต่สิ่งที่ดึงดูดลลินไม่ใช่ความสวยงาม แต่เป็ "ออร่าสีจางๆ" ที่ระบบส่งสัญญาณเตือนเบาๆ หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วขึ้นมาทันที
ลลินเดินเข้าไปนั่งยองๆ หน้าแผงนั้น คนขายเป็ลุงแก่ๆ ที่นั่งพัดวีด้วยหนังสือพิมพ์ ท่าทางไม่สนใจโลก
"ลุงคะ... หนังสือพวกนี้ขายยังไงคะ?" ลลินแกล้งหยิบหนังสือการ์ตูนเก่าๆ ขึ้นมาถาม เพื่อไม่ให้ดูมีพิรุธ
"เล่มละ 5 บาท 10 บาท เลือกเอาเลยหนู" ลุงตอบโดยไม่เงยหน้ามอง
ลลินทำทีเป็เลือกหนังสือ 2-3 เล่ม แล้วค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะที่แจกันมอมแมมใบนั้น 'ตรวจสอบ!' เธอสั่งการในใจเป็ครั้งที่ 2
[ติ๊ง!] <เนตรประเมินทำงาน (ครั้งที่ 2/3)> <ชื่อวัตถุ: แจกันลายครามเขียนสี ลายดอกโบตั๋น (ของแท้)> <ยุคสมัย: ราชวงศ์ชิง (รัชศกเฉียนหลง)> <รายละเอียด: เป็ของบรรณาการที่ถูกนำเข้ามาในไทยสมัยต้นรัตนโกสินทร์ สภาพสมบูรณ์ 95% (ต้องทำความสะอาด)> <มูลค่าประเมินปัจจุบัน: 800,000 - 1,200,000 บาท>
หนึ่งล้านบาท!!
มือของลลินสั่นระริก เธอต้องกัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้อง แจกันเปื้อนฝุ่นใบนี้มีค่าเท่ากับบ้านทั้งหลังในยุคนั้น!
ลลินสูดหายใจลึก พยายามคุมสีหน้าให้เรียบเฉยที่สุด ใช้วิชาการแสดงที่ (ไม่เคย) เรียนมา
"ลุงคะ หนูเอาการ์ตูน 3 เล่มนี้... แล้วก็... แจกันเน่าๆ ใบนี้ด้วยได้ไหมคะ พอดีแม่หนูชอบปลูกต้นไม้ หนูว่าจะเอาไปล้างแล้วใส่พลูด่างให้แม่หน่อย" ลลินถามเสียงใสซื่อ
ลุงเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง เห็นสภาพแจกันที่ดำปี๋ก็เบ้ปาก "อ๋อ... อันนั้นเหรอ มันติดมากับกองของเก่าที่เหมามา ลุงกะว่าจะทิ้งอยู่แล้ว หนักก็หนัก... เอ้า ถ้าหนูจะเอา ลุงคิด 100 เดียวพอ ค่าแบกมา"
100 บาท! แลกกับเงินล้าน!
"โห... ตั้งร้อยนึงเลยเหรอลุง มันเปื้อนขนาดนี้ แถมปากบิ่นนิดนึงด้วย (เธอโกหก)" ลลินแกล้งทำท่าลังเล วางแจกันลง "50 บาทได้ไหมคะ หนูมีค่ารถกลับบ้านแค่นี้เอง"
ลุงถอนหายใจ รำคาญที่จะต่อความยาวสาวความยืด "เออๆ เอาไปๆ 50 บาทก็ 50 บาท เห็นว่าเป็เด็กหรอกนะ ช่วยๆ กันซื้อไปให้หมด ลุงจะได้รีบกลับบ้าน"
"ขอบคุณค่ะลุง! ลุงใจดีจังเลย!"
ลลินรีบควักธนบัตรสีฟ้าใบละ 50 บาทส่งให้ลุงทันที มือเธอคว้าแจกันใบนั้นมากอดไว้แนบอกราวกับเป็ลูกในไส้ วินาทีที่ััเนื้อกระเบื้องเย็นเฉียบ ความรู้สึกแห่งชัยชนะก็แล่นพล่านไปทั่วร่าง
<ยินดีด้วย! ท่านได้รับวัตถุโบราณระดับ A> <ค่าประสบการณ์นักธุรกิจ +50 แต้ม>
ลลินรีบเดินออกจากร้าน พยายามไม่เดินเร็วจนผิดสังเกต แต่ในใจเธอกำลังะโโลดเต้น นี่ไม่ใช่แค่แจกัน... แต่มันคือ "ชีวิตใหม่" ของพ่อแม่ คือ "ทุนรอน" ที่จะใช้ตบหน้าคนที่เคยดูถูกเธอ
ทว่า... ขณะที่เธอกำลังจะเดินพ้นโซนของเก่า ชายร่างท้วมเ้าของร้านแจกันเกรด A เมื่อครู่ ก็เดินมาขวางทางเธอไว้ สายตาของเขาจ้องมองแจกันในอ้อมแขนลลินเขม็ง
"เดี๋ยวสิหนู... แจกันในมือหนูน่ะ ขอพี่ดูหน่อยได้ไหม?"
ลลินชะงัก กอดของในมือแน่นขึ้น สัญชาตญาณเตือนภัยดังลั่น ไอ้อ้วนฉวยโอกาสนี่... มันคงตาดีมองเห็นอะไรบางอย่างแน่!
