ชายหนุ่มชุดเกราะทองที่เผชิญหน้ากับอวี่เชียนหนิง มีท่าทีต่างจากตอนเผชิญหน้ากับคนอื่นอย่างสิ้นเชิง
หลงอวี้ที่มองจากข้างๆ นั้นเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ยิ่งทำให้เขาเข้าใจถึงความสำคัญของพลังอำนาจในโลกนี้มากกว่าเดิม!
หากมีพลัง ก็จะมีสถานะ แม้แต่คนของราชวงศ์ก็ยังไม่กล้าทำอะไร!
‘ไม่คิดเลยว่าเฟิงชิงชิงที่รอดชีวิตจากเงื้อมมือข้า กลับตายด้วยฝีมือของอวี่เชียนหนิงแทน...’
หลงอวี้คิดในใจ
ผู้าุโอวี้และหลิงหานที่อยู่ข้างๆ พากันขมวดคิ้วเป็ปมทันที เห็นคนในลัทธิเดียวกันถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ย่อมต้องรู้สึกไม่ดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้าุโอวี้!
แต่กระนั้น ฐานะของชายหนุ่มชุดเกราะทองและอวี่เชียนหนิงนั้นพิเศษเกินไป แม้แต่ผู้าุโอวี้ก็ไม่มีสิทธิ์เสนอหน้าไปพูดอะไร!
หากเสนอหน้าไป ก็มีแต่จะถูกทำให้อับอายเท่านั้น
ผู้าุโอวี้มีชีวิตอยู่มานานจนป่านนี้ ย่อมรู้ดีว่าตระกูลราชวงศ์นั้นหมายถึงอะไร ประมุขของลัทธิหมายถึงอะไร
ถึงจะเห็นเฟิงชิงชิงตายไปต่อหน้าต่อตา ทว่าตัวเขากลับไม่อาจทำอะไรได้เลย!
หลงอวี้เมื่อเห็นสีหน้าของผู้าุโอวี้ ในใจยิ่งรู้สึกกระหายในพลังมากขึ้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อย่างน้อยผู้าุโอวี้ ผู้เฒ่าขาวและผู้เฒ่าดำต่างก็ดีกับเขาไม่น้อย เพียงเท่านี้ก็นับว่าลัทธิสยบฟ้าเป็เหมือนบ้านหลังหนึ่งสำหรับเขาแล้ว เขารู้สึกสนิทใกล้ชิดมากยิ่งกว่าตระกูลเฟิงเสียอีก!
‘การกลั่นแกล้งของราชวงศ์ วันหน้าข้าจะให้มันชดใช้เป็ร้อยเท่า!’
หลงอวี้ตัดสินใจแล้ว!
อวี่เชียนหนิงที่เผชิญหน้ากับชายหนุ่มเกราะทองไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว นางเพียงเดินออกจากป่าโสมโบราณเฉยๆ
ตอนที่ออกมานางได้เหลือบมองหลงอวี้และหลิงหานครู่หนึ่ง แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความดูถูก
“พวกเ้าสองคนนับว่ามีฝีมือเข้าตาข้าอยู่บ้าง ข้าจะรอพวกเ้าที่งานประลองยุทธ์เจ็ดสำนัก และฆ่าพวกเ้าทิ้งต่อหน้าฝูงชน ทำให้ผู้คนทั้งหมดได้รู้ว่าลัทธิพันไหมคืออันดับหนึ่งของเจ็ดสำนักลัทธิ!”
คำพูดนี้แสดงออกถึงความหยิ่งผยองลำพองตนเป็ที่สุด อวี่เชียนหนิงผู้นี้มันไม่หลงตัวเองไปหน่อยหรือ?
งานประลองยุทธ์เจ็ดสำนัก เป็งานประลองวรยุทธ์ครั้งใหญ่ระหว่างเจ็ดสำนักลัทธิใหญ่ของอาณาจักรต้าถังที่จัดขึ้นทุกๆ ห้าปี ผู้ที่ได้เข้าร่วมการประลองล้วนเป็ลูกศิษย์หัวกะทิของสำนักลัทธิ อย่างเช่น ปู้สิงแห่งลัทธิสยบฟ้า หรือฮวาปู๋เซี่ยแห่งสำนักน้ำแข็งเยือก
อวี่เชียนหนิงผู้นี้แม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังเทียบกับยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ได้อย่างสิ้นเชิง!
“ศิษย์พี่ งานประลองเจ็ดสำนักจะมีตอนไหนหรือ?”
หลงอวี้ถามเสียงเบา
“ยังมีเวลาอีกครึ่งปี งานประลองเจ็ดสำนักจะจัดขึ้นที่เขตพระราชฐานของอาณาจักรต้าถัง”
หลิงหานพูดพร้อมกำหมัดแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกคาดหวัง
งานประลองยุทธ์เจ็ดสำนักเป็ศึกของยอดฝีมือรุ่นเยาว์จากทั่วทั้งอาณาจักรต้าถัง หากสามารถขึ้นไปบนเวทีนี้ได้ ก็เท่ากับว่าเป็อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่เป็ที่น่าจับตามองของทั้งอาณาจักร แม้จะพ่ายแพ้ก็นับเป็เกียรติอย่างใหญ่หลวง!
ไม่เพียงแค่นั้น งานประลองยุทธ์เจ็ดสำนักยังมีความหมายพิเศษสำหรับหลิงหานอีกด้วย!
แต่เป็เื่ที่ไม่จำเป็ต้องบอกให้คนนอกรับรู้ แม้จะเป็หลงอวี้ หลิงหานก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อใจหลงอวี้ แต่เป็เพราะมันไม่จำเป็ต่างหาก
หลังจากอวี่เชียนหนิงเดินออกมา ลูกศิษย์ของลัทธิพันไหมที่มีวรยุทธ์ขั้นหกอีกห้าคนก็เดินตามออกมาจากป่าโสมโบราณด้านหลัง แต่ละคนต่างยกระดับพลังขึ้นไม่น้อย ดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่มีลูกศิษย์ของสำนักน้ำแข็งเยือกและลัทธิสยบฟ้าออกมาอีก
ทุกคนต่างรู้ว่า อวี่เชียนหนิงเป็คนฆ่าทุกคนที่พบเห็นตอนอยู่ในป่าทิ้ง แทบจะล้างบางลูกศิษย์ของอีกสองสำนักลัทธิใหญ่ที่เหลือจนหมด!
เื่นี้ทำให้ผู้าุโอวี้และผู้าุโของสำนักน้ำแข็งเยือกต่างก็มีสีหน้าย่ำแย่เป็อย่างมาก
“การกระทำของลัทธิพันไหม ข้าต้องเอาไปรายงานท่านประมุขแน่ ข้าลาล่ะ!”
ผู้าุโของสำนักน้ำแข็งเยือกผู้นั้นพูดเสียงเรียบ จากนั้นก็พาเฟิงเหยาและลูกศิษย์อีกคนที่รอดชีวิตเดินทางออกจากที่นี่ ก่อนจากไปยังไม่ลืมที่จะทิ้งคำขู่ไว้
“ถึงเวลาแล้ว พวกเขาคงไม่ออกมากันแล้วล่ะ... พวกเราก็กลับกันเถิด”
ผู้าุโอวี้ถอนหายใจ จากนั้นก็พาหลงอวี้และหลิงหานหันหลังเดินจากไป
ตอนมามีลูกศิษย์ทั้งหมดสิบหกคน ล้วนเป็อัจฉริยะระดับหัวกะทิของลัทธิทั้งสิ้น แต่สุดท้ายกลับเหลือรอดเพียงสองคน ส่วนคนอื่นๆ ล้วนถูกอวี่เชียนหนิงนำกลุ่มไล่ฆ่าจนตายหมด!
เื่นี้ ผู้าุโอวี้ต้องนำไปรายงานท่านประมุขลัทธิสยบฟ้าแน่ ไม่มีทางปล่อยให้ลัทธิพันไหมกำเริบเสิบสานเช่นนี้ตลอดไปอย่างแน่นอน!
......
หลงอวี้และหลิงหานขี่ม้าตามผู้าุโอวี้ไป เริ่มเดินทางออกจากเมืองแห่งโสมโบราณ
“เร่งความเร็วหน่อย”
ผู้าุโอวี้ส่งเสียงเร่ง ราวกับััถึงลางร้ายบางอย่างได้
อย่าว่าแต่ผู้าุโอวี้เลย แม้แต่หลงอวี้ก็ยังััได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ การที่อวี่เชียนหนิงลงมือฆ่าล้างบางลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้าและสำนักน้ำแข็งเยือกในป่าโสมนั้นต้องเป็แผนการร้ายของพวกมันแน่!
ทั้งสามคนควบม้ากลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ระหว่างทางนั้นเอง จู่ๆ ก็มีลมพายุพัดมาจากทางด้านหลัง
“พวกมันมาแล้ว พวกเ้าแยกกันไปคนละทาง ต้องกลับไปที่ลัทธิแล้วรายงานเื่ที่เกิดขึ้นกับท่านประมุขให้ได้!”
ผู้อาวุสโอวี้พูดเสียงเครียด ใบหน้าแก่ชราเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว
“ผู้าุโอวี้ แล้วท่านเล่า?”
หลิงหานยังไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของผู้าุโอวี้ เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้
“พวกมันส่งคนมาไล่ล่าเรา คิดจะกำจัดพวกเราทิ้งทั้งหมด พวกเ้ารีบหนีไปซะ!”
หลังจากผู้าุโพูดจบ ก็สะบัดฝ่ามือทั้งสองข้าง ปล่อยลมปราณตบเข้าที่บั้นท้ายม้าของทั้งสองคน
พริบตานั้น ม้าที่ทั้งสองขี่ก็ได้วิ่งตะบึงสุดชีวิต พาทั้งสองคนมุ่งหน้าออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ได้มีเสียงหัวเราะชั่วร้ายดังขึ้นจากลมพายุด้านหลังของผู้าุโอวี้
“ฮ่าๆๆ! คิดว่าจะหนีรอดอย่างนั้นหรือ?”
ท่ามกลางเสียงหัวเราะได้มีเงาร่างสามสายปรากฏขึ้นท่ามกลางลมพายุ หนึ่งในนั้นได้ปะทะกับผู้าุโอวี้ ส่วนที่เหลืออีกสองคนได้แยกกันไล่ตามหลงอวี้และหลิงหาน!
“ยอดฝีมือของลัทธิพันไหม รีบหนีเร็ว!”
หลงอวี้เห็นเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น รีบเร่งหลิงหานทันที
“พวกมันกล้าทำขนาดนี้ได้อย่างไร?”
หลิงหานมีสีหน้าตื่นตระหนกสุดขีด คาดไม่ถึงว่าคนของลัทธิพันไหมจะกล้าถึงเพียงนี้ ขนาดออกมาจากป่าโสมโบราณก็ยังคิดจะตามฆ่าพวกเขาอีก พวกมันไม่กลัวว่าจะทำให้ลัทธิสยบฟ้าพิโรธจนเกิดาระหว่างลัทธิขึ้นเลยหรือ?
“ถ้ามีราชวงศ์คอยหนุนหลัง จะมีเื่ที่ไม่กล้าทำด้วยหรือ?”
หลงอวี้คิดวิเคราะห์ ก็พอจะคาดเดาได้ว่าเื่นี้ต้องเกี่ยวข้องกับราชวงศ์แน่นอน
หลิงหานมีสีหน้าเคร่งเครียดทันที
“เช่นนั้นก็หมายความว่า ที่อวี่เชียนหนิงพูดเมื่อกี้ว่า จะฆ่าพวกเราทิ้งในงานประลองเจ็ดสำนัก ที่จริงแล้วเป็แค่การเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเราเท่านั้น นางตั้งใจตามมาเก็บพวกเราที่ไม่ทันได้เตรียมตัวทิ้งทั้งหมดในคราวเดียว!”
พอได้ยินคำพูดของหลิงหาน หลงอวี้ก็แอบคิดในใจว่า ศิษย์พี่ผู้นี้ก็ไม่ได้โง่งมขนาดนั้น แค่บอกใบ้เล็กน้อยก็สามารถเชื่อมโยงเื่ราวทั้งหมดได้แล้ว
เพียงแต่ตอนนี้ คิดเื่เ่าั้ไปก็ไม่มีประโยชน์
ยอดฝีมือของลัทธิพันไหมสองคนกำลังวิ่งไล่ตามอยู่บนทุ่งหญ้า ความเร็วของพวกมันเหนือกว่าม้าของพวกเขาเสียอีก!
‘ไอ้สองคนนี้ เกรงว่ามันจะเป็ยอดฝีมือที่อยู่เหนือวรยุทธ์ทั้งเก้าขั้นไปแล้ว อยู่ระดับเดียวกับชายหนุ่มชุดเกราะนั่นและปู้สิง ข้ากับหลิงหานไม่ใช่คู่ต่อสู้พวกมันแน่!’
หลงอวี้คิดในใจ ดูเงาร่างของอีกฝ่ายที่รวดเร็วดุจสายฟ้า สีหน้าเริ่มไม่สู้ดี
หากเป็เช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วทั้งเขาและหลิงหานต้องโดนตามทันแน่!
แต่ในตอนนั้นเอง แรงกดดันอันทรงพลังที่สร้างความหวาดผวาให้กับใจคนพลันถูกส่งมาจากตัวของผู้าุโอวี้ เพียงพริบตาเดียวมันก็แผ่ขยายไปทั่วสารทิศ ปกคลุมเ้าสองคนที่กำลังไล่ตามหลงอวี้หลิงหานไว้ด้วย
“ิญญาแท้ ฝ่ามือสยบฟ้า จงปรากฏ!”
ผู้าุโอวี้ะโอย่างน่าเกรงขาม จากนั้นด้านหลังของเขาก็ได้มีเงาฝ่ามือมหึมาข้างหนึ่งปรากฏขึ้น มันแผ่กฎเกณฑ์ฟ้าดินแห่งการกดทับออกมา
เงาของฝ่ามือั์นั่น นิ้วข้างเดียวมีขนาดเท่าความสูงของคนหนึ่งคน หนึ่งฝ่ามือสามารถฟาดคนนับสิบจนแบนไปพร้อมกันได้!
มหาพลังฟ้าดินแห่งการกดทับสายหนึ่งถูกอัดแน่น แผ่ออกมาจากเงาฝ่ามือั์นั่น เพียงครู่เดียวก็สะกดศัตรูทั้งสามคนเอาไว้ได้
“คิดจะไล่ตามไปหรือ ข้ามศพข้าไปก่อน!”
ผู้าุโอวี้แผดเสียงอย่างเกรี้ยวกราด แม้จะไม่เห็นเขาเคลื่อนไหว แต่ที่ด้านหลังของเขากลับมีเงาฝ่ามือั์นั่นโผล่ขึ้นอีกครั้ง มันจับตัวเ้าคนที่กำลังไล่ตามไว้ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะโยนกลับไปด้านหลังทันที
แม้ฝ่ามือั์นั่นจะเป็เพียงเงา แต่กลับสามารถโยนคนผู้นั้นจนตัวลอยออกไปได้!
“นั่นมันวิทยายุทธ์อะไรกัน?”
หลงอวี้หันกลับไปมอง อดรู้สึกอึ้งทึ่งไม่ได้ ระดับพลังของผู้าุโสูงส่งเกินหยั่งถึง สามารถสร้างฝ่ามือที่ใหญ่โตขนาดนี้ ทั้งยังปล่อยมหาพลังฟ้าดินแห่งการกดทับออกมาได้ด้วย บรรลุถึงกฎเกณฑ์ฟ้าดินได้ลึกซึ้งกว่าเขาหลายเท่า!
“ไม่ ไม่ใช่วิทยายุทธ์ มันคือิญญาแท้!”
หลิงหานและหลงอวี้ที่เดินทางไปด้วยกัน มีความรู้สึกกังวลปนอยู่ในน้ำเสียงเล็กน้อย
“เหนือวรยุทธ์ทั้งเก้าขั้นขึ้นไป ผู้ฝึกยุทธ์จะสร้างิญญาแท้ขึ้นมาใช้สื่อสารกับฟ้าดินได้! ทันทีที่สร้างิญญาแท้ขึ้นมาได้ ก็จะสามารถก้าวสู่ขอบเขตพลังอีกระดับได้ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่หากยังอยู่ในวรยุทธ์เก้าขั้นก็ไม่มีทางเอาชนะยอดฝีมือที่สร้างิญญาแท้ขึ้นมาได้!”
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นพลันใจหาย
ิญญาแท้งั้นหรือ?
เหนือวรยุทธ์เก้าขั้นขึ้นไป คือการสร้างิญญาแท้ หากทำได้ถึงจะสามารถก้าวขึ้นไปสู่อีกระดับชั้นได้!
“รูปแบบของิญญาแท้ที่แต่ละคนสร้างได้ล้วนแตกต่างกัน อย่างเช่น ิญญาแท้ของผู้าุโอวี้นั้นมีเคล็ดสยบฟ้าเป็พื้นฐาน สร้างเป็ฝ่ามือั์สยบฟ้า สามารถหยิบยืมพลังของกฎเกณฑ์ฟ้าดินมาใช้ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”
หลิงหานกล่าวต่อ
“ิญญาแท้ ร้ายกาจมาก”
หลงอวี้ตาเป็ประกายขึ้นมา
แต่หลังจากนั้นก็เกิดเื่ที่ทำให้ทั้งสองคนต้องใจหายหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“ตาแก่นี่ ในเมื่อเ้าอยากตายขนาดนี้ อย่างนั้นพวกข้าจะสงเคราะห์ให้!”
ยอดฝีมือลัทธิพันไหมทั้งสามคนที่ได้เผชิญหน้ากับิญญาแท้ ฝ่ามือสยบฟ้าของผู้าุโอวี้ ไม่ลนลานเลยแม้แต่น้อย พวกมันแยกกันมาล้อมผู้าุโอวี้ไว้
หลังจากนั้น ด้านหลังของยอดฝีมือทั้งสามก็ได้มีเงาร่างมนุษย์ปรากฏขึ้น ส่งกลิ่นอายอำมหิตออกมา พริบตาเดียวก็เข้าปะทะกับฝ่ามือั์สยบฟ้าของผู้าุโอวี้
“พวกมันก็มีิญญาแท้หรือเนี่ย!”
หลงอวี้เห็นเช่นนั้นก็กัดฟัน รู้ว่าผู้าุโอวี้น่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสามคน พวกมันวางแผนลอบโจมตีมาก่อนแล้ว มีหรือที่จะไม่คาดคะเนระดับความสามารถของผู้าุโอวี้ไว้ก่อน
“ศิษย์พี่ พวกเรารีบไปกันเถิด!”
หลงอวี้รีบควบม้าเร่งความเร็วขึ้นทันที
พลังของหลงอวี้ในตอนนี้ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยอดฝีมือที่สร้างิญญาแท้ได้แล้วแน่นอน หากยังอยู่ต่อต้องถูกฆ่าตายแน่ ในเมื่อผู้าุโอวี้ถ่วงเวลาให้พวกเขาอยู่ พวกเขาก็ไม่อาจทำให้ความพยายามของผู้าุโสูญเปล่า!
ใบหน้าของหลิงหานเต็มไปด้วยความเจ็บใจ เพียงแต่หลังจากที่เงาร่างของผู้าุโอวี้และสามคนนั้นหายไปจากสายตาแล้ว เขาก็หันหน้ากลับมาควบม้าต่อไป
“หากเกิดเื่อะไรขึ้นกับผู้าุโอวี้ วันหน้าข้า…หลิงหานผู้นี้จะทำให้ชื่อของลัทธิพันไหมหายไปจากโลกนี้แน่!”
หลิงหานเผยสีหน้าโกรธเกรี้ยว ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น หลงอวี้เองก็มีความคิดนั้นเช่นเดียวกัน
เพียงแต่พวกเขาในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไป หากยังอยู่ต่อไปก็ไม่ต่างกับการเอาชีวิตไปทิ้งอย่างเสียเปล่า
สู้พวกเขาเร่งเดินทางกลับลัทธิ นำเื่ที่เกิดขึ้นไปรายงานประมุขยังจะดีเสียกว่า!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้