ในไร่ที่แสนจะอบอุ่นแสงแดดสีส้ม แม้จะส่องสว่างแต่ไม่ทำให้รู้สึกร้อน วันนี้อากาศค่อนข้างหนาว
“จูเจี่ย เก็บไข่เป็ดกับไข่ไก่ในเล้าให้แม่ด้วย”แป๋มยังไม่ทันจะขยับตัว จูจิ้นวิ่งไปหยิบตะกร้าออกไปก่อนแป๋มเสียอีก
เสี่ยวซงมองสองคนพี่น้อง ทำท่าจะขยับตัวตามไปช่วย
“เสี่ยวซง มาช่วยข้าหอบฟืนมาเก็บไว้ใกล้เตาผิง อากาศค่อนข้างหนาวไม่แน่คืนนี้อาจมีหิมะแรก ดีที่เราเก็บผักบางส่วนส่งวังหลวงเสียเกือบหมด หิมะตกได้ก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่”เ้าบ้านเฉินเดินนำเสี่ยวซงที่ช่วยหอบฟืนมาเก็บไว้ในห้องครัว ใกล้เตาผิงและเตาทำกับข้าวข้างเล้าไก่ แป๋มนึกภาพขี้ไก่และความสกปรกทว่าสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็อย่างที่คิด ยายป้ากวาดทำความสะอาดจนเอี่ยมอ่อง พื้นแห้งสะอาดตา มีเศษหางจากข้าวสาลีกองบนพื้นเป็กระจุกบ้างก็ปุไปบนพื้นเล้าไก่ ไข่ไก่วางเรี่ยราดเหมือนถูกนำมาวางไว้ แป๋มเลิกคิ้วเมื่อจูจิ้นเก็บไข่ไก่ใส่ไปในตะกร้าหลายสิบลูก
ไก่ไข่ตัวอ้วนขนสีน้ำตาลแดง ไม่ได้ตื่นใแต่กลับเดินเข้าหาย่อตัวลงนอนหมอบเหมือนอยากจะออกไข่อยู่ตลอดเวลา แป๋มยิ้ม
“จูเจี่ยไข่วันนี้เยอะกว่าทุกวัน คงเป็เพราะเมื่อวานท่านพ่อเก็บเศษผักในสวนมาให้มันจิกกินเป็อาหารว่าง”
“ไก่กินผักด้วยหรือ”
"มีแต่จูเจี่ยที่ไม่ชอบกินผัก เ้าวัวน้อยเ้าลูกหมาลูกหมูในคอกแล้วก็ไก่ กินผักทั้งนั้น จูเจี่ยชอบกินแต่เนื้อสัตว์ถึงได้อ้วนแบบนี้”น้องรักหักเหลี่ยมโหด
“เ้าไม่ชอบกินเนื้อหรือไรถึงพูดแบบนี้”
“เนื้อนะหรือกินเข้าไปนานๆ ก็ไม่ได้มีรสชาติดีอะไรสู้ผักก็ไม่ได้ ผักแต่ละชนิดรสชาติแตกต่างกันออกไป”โอ้นี่ แป๋มถูกเด็กเมื่อวานซืนลูบคม ทำไมรู้มากขนาดนี้เ้าเด็กนี่หากอยู่ในโลกปัจจุบัน คงเรียนหนังสือเก่งน่าดู
“แล้ว จูจิ้นชอบกินผักอะไรที่สุด”
“ผักชี”หาเด็กนี่ชอบผักชี ในที่ที่แป๋มอยู่ถึงกับมีการตั้งกลุ่มในเฟชบุ๊คแอนตี้ผักชี แต่เด็กนี่กลับบอกว่าชอบผักชีที่สุด
“จูเจี่ยเล่าทำไมไม่ชอบกินผัก”
“ข้า...ข้ารู้สึกว่ามันเหม็นเขียว”จูจิ้นเลิกคิ้วสูงทำตัวโตเกินวัยแต่มือยังเก็บไข่ใส่ตะกร้าจนเกือบจะเต็มตะกร้าแล้ว
“ข้ออ้าง... ท่านแม่ทำอาหารจากผักได้รสดีที่สุด สองสามวันก่อนจำไม่ได้หรือไร พวกคนวังมารับเอาผักที่ไร่ของเราต่างพูดเป็เสียงเดียวกันเมื่อท่านพ่อชวนกินข้าว เขาบอกว่าไม่เคยกินอาหารจานผักที่ไหนอร่อยเท่าที่นี่” แป๋มเริ่มรู้สึกว่าเ้าน้องชายเริ่มมีความน่ารักขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยนางก็รักแม่ของนางเชิดชูแม่มากกว่าใคร
“เราต้องไปเก็บไข่เป็ดอีก เดี๋ยวข้าอาสาไปหยิบตะกร้ามาอีกใบ”จูจิ้นวิ่งกลับไปที่บ้านพร้อมกับตะกร้าไข่ แป๋มสุดลมหายใจเข้าลึกๆ นึกเสียว่ามาเที่ยว ที่นี่ก็ไม่เลวมีที่อยู่ที่กิน ..มีครอบครัวที่อบอุ่น ครอบครัวที่อบอุ่นหรือเปล่า
เสี่ยวซงหอบฟืนจนหมดในชั่่วพริบตานั่งบีบแขนบีบขาอยู่ใกล้เตาผิง จูจิ้นดึงมือเสี่ยวซงให้ลุกขึ้น
“พี่ชายเสี่ยวซง ไปเก็บไข่เป็ดกัน”เสี่ยวซงยิ้มเห็นเขี้ยวเสน่ห์ก่อนจะลุกทั้งๆ ที่เมื่อยขบ แป๋มเลิกคิ้วเมื่อจูจิ้นลากแขน เสี่ยวซงมาที่เล้าเป็ด
“ข้าไปล่ะท่านช่วยพี่สาวเก็บไข่เป็ดด้วยนะ”ส่งตะกร้าในมือให้เสี่ยวซง ตัวเองวิ่งหายวับไปกับตา แป๋มเผลอมองสายตาคมของอีกคน ที่บัดนี้กลับไม่ได้มีท่าทีเขินอายทว่ากลับมองเหมือนคนใหม่ ท่าทีไม่เหมือนคนเร่ร่อนอีกต่อไป จากที่ครั้งแรกมองอย่างไรก็เหมือนคนไร้บ้าน ตอนนี้กลับมองว่าหน้าตาต่างจากคนนบ้านไร่ไม่น้อย
เสี่ยวซงย่อตัวมุดเข้าไปในเล้าเป็ดด้วยเขาตัวสูงลิบ
“แป๋มทำท่าจะเข้าไปบ้างแต่อีกคนกลับส่งเสียงออกมาเสียก่อน
“เ้าไม่ต้องเข้ามาข้าเก็บไข่ให้เอง”แป๋มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ทางเข้าเล้าเป็ด สภาพเล้าเป็ดไม่ต่างจากเล้าไก่นัก เสี่ยวซงมุดออกมาจากเล้าเปิดยื่นตะกร้าไข่เป็ดที่มีไข่อยู่เต็มตะกร้า
“ข้าเพิ่งจะเคยเก็บไข่เป็ดครั้งแรก”
"ขะ ข้าก็เหมือนกันหลายอย่างที่เคยทำครั้งแรก”เสี่ยวซงขมวดคิ้ว
“เ้าเป็ลูกสาวบ้านนี้ทำไมบอกว่าครั้งแรก”ถามด้วยแปลกใจในคำพูด ไม่สิดันพูดความจริง
“ท่านก็เป็ คนเร่ร่อนมาก่อนไม่น่าเชื่อว่าจะเคยทำเื่พวกนี้ครั้งแรก”ดีนะที่ฉลาด5555ไม่ได้แดกพี่หรอกไอ้น้อง
“ขะข้าๆๆ ก็แค่ไม่เคยมีไร่มีสวนมาก่อน อีกทั้งพ่อแม่เป็ใครก็ไม่เคยรู้ เ้าเสียอีกพูดออกมาได้อย่างไรแบบนั้นว่าไม่เคย”อ้าปากค้าง นึกคำตอบไม่ออก
“จูเจี่ย กินข้าวได้แล้ว”เสียยายป้าะโดังมาจากในบ้าน ลมหนาวพัดโชย แป๋มรีบวิ่งกลับเข้าไปข้างใน รอดตัวไปไม่ต้องตอบคำถามที่ตอบไม่ได้
เมนูที่ทำเอาแป๋มเบ้ปาก
ผักต้ม ผักผัด ผักดอง
“จูเจี่ย อาหารทุกอย่างอร่อยในตัวของมันเอง วันนี้พ่อสั่งให้แม่เขาทำสุดฝีมือเพื่อเ้า” เหลือบตามองอโวคาโด้ราดน้ำผึ้ง ที่สีสันน่ากินเป็บ้า เหลืองอมเขียวราดด้วยน้ำเชื่อมสีน้ำตาลของผึ้งป่า
“นั่นเป็สูตรพิเศษเชียวลองกินดู ไม่กี่วันจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง”ท่านพ่อช่างมีน้ำใจ
“ข้ากินเฉพาะสิ่งนี้ได้หรือไม่”ชี้มือไปที่อโวคาโด้ราดน้ำผึ้ง ฮูหยินเฉินยิ้ม
“กินเสร็จแล้วไปเก็บมาเพิ่ม เ้ารู้ไหมผลไม้ชนิดนี้กว่าจะสุกต้องมาเก็บไว้เสียหน่อยจึงจะรสดีสีสวย”แป๋มยิ้ม ถือเอาถ้วยอาโวคาโด้ราดน้ำผึ้งมากินแทนข้าวรสดีจนเผลอเลียปาก เสี่ยวซงเหลือบตามองไปที่ของหวานในมือแป๋ม
"ท่านลุง ทำไมอาหารรสชาติหวานจึงทำให้ผอมลงได้"
"ผลไม่ชนิดนี้ไร้แป้งและนำตาลเติมน้ำผึ้งลงไปเพิ่มรสชาติให้มีรสหวาน กลิ่นหอมของน้ำผึ้งป่าทำให้ยิ่งน่ากิน อีกทั้งรสหวานมันยิ่งทำให้กินได้มาก อิ่มแล้วจึงรู้สึกสบายท้องขับถ่ายง่าย"
เสี่ยวซงพยักหน้าช้าๆพุ้ยข้าวใส่ปากไปไม่กี่คำก็บอกว่าพอ
“เสี่ยวซงตัวเล็กบอบบางราวกับจะปลิวได้ ข้าเติมข้าวให้อีกถ้วยจึงดี”ท่านแม่รับถ้วยข้าวของเสี่ยวซงมาตักข้าวในหม้อเติมลงไป แต่แป๋มมองว่าอีกคนไม่อยากจะกินผักเช่นกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้