เมื่ออวี้จิ่นถูกบิดาและพี่ชายพากลับมาถึงจวนก็มีจางฮูหยินและฮูหยินผู้เฒ่า ต่างพากันมานั่งรออยู่ภายในห้องรับแขกแล้ว เพราะเื่ที่อวี้จิ่นาเ็จากการถูกเหมาซูเจียวทำร้าย รู้ถึงหูของทั้งสองจากพ่อบ้านเจียง เพราะจางฮูหยินได้สั่งเอาไว้ว่าเื่ของอวี้จิ่น ไม่ว่าเื่เล็กหรือเื่ใหญ่ต้องรายงานกับนางทุกเื่
“พรึ่บ! ลูกแม่!/หลานย่า!”
“จิ่นเอ๋อร์มาให้แม่ดูหน่อยสิลูกเจ็บมากหรือไม่ เหมาซูเจียวนางกล้าดีอย่างไรถึงมาทำร้ายลูกของแม่เช่นนี้”
“นั่นสิอากุ่ย แล้วศาลต้าหลี่มีคำตัดสินว่าอย่างไร หากนางไม่ถูกลงโทษแม่ไม่ยอมแน่และเื่นี้ จะต้องถึงพระกรรณของไทเฮา” ฮูหยินผู้เฒ่ามีความสนิทสนมกับไทเฮา ครั้งสามีของนางยังมีชีวิตอยู่
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วงนางถูกลงโทษโบยห้าไม้ จากเ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่แล้วขอรับ ท่านแม่ลองคิดดูว่าน้ำหนักมือที่ตีในแต่ละครั้ง ย่อมทำให้ผิวของนางแตกจนได้เืเชียวนะขอรับ”
“ใช่เ้าค่ะท่านย่านางต้องนอนรักษาตัวนานกว่าข้าแน่นอน เพราะาแที่มืออีกไม่กี่วันก็หายไม่ทิ้งรอยแผลเป็ด้วยเ้าค่ะ ถึงตอนนั้นพวกท่านจะได้ชิมอาหารฝีมือของข้าแล้วล่ะ” อวี้จิ่นดึงความสนใจจากท่านย่าของตนไปเื่อื่น เนื่องจากไม่อยากให้นางไม่สบายใจ
“เจ็บตัวเพียงนี้ยังจะมีแก่ใจพูดเล่นอีกนะ ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรอีกเลยรีบพาจิ่นเอ๋อร์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และนอนพักจะดีกว่าเ้าค่ะท่านแม่” จางฮูหยินเห็นรอยเืบนชุดของบุตรสาว ก็พาลให้รู้สึกโกรธเหมาซูเจียวไม่หาย
“อืม ก็ดีเหมือนกันเพราะจิ่นเอ๋อร์ดื่มยาไปยังมิได้นอนพัก อ้อ ลืมบอกท่านแม่กับน้องหญิง นี่คือตงลู่คนของอาเหยียนต่อจากนี้ไป จะมาเป็องครักษ์ของจิ่นเอ๋อร์คอยดูแลติดตาม ไม่ว่ายามอยู่ในจวนหรือออกไปด้านนอก” แม่ทัพใหญ่เกือบลืมเื่ของตงลู่ไปเสียแล้ว
“ข้าน้อยตงลู่คารวะฮูหยินผู้เฒ่าและจางฮูหยินขอรับ”
“ต่อไปต้องรบกวนเ้าช่วยคุ้มครองหลานสาวข้าด้วยนะ ส่วนเื่ที่พักก็ให้พ่อบ้านเจียงจัดการให้เ้าก็แล้วกัน หลานย่าเ้าต้องพักผ่อนให้มากล่ะไว้ย่าจะมาเยี่ยมเ้าอีกนะ” ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกว่าตนเองกระปรี้กระเปร่ากว่าเมื่อก่อนมาก หลังจากที่ได้ดื่มยาบำรุงของหลานสาว
“เ้าค่ะ ท่านย่าท่านก็ต้องพักผ่อนเช่นกันนะเ้าคะ”
“ท่านแม่พาจิ่นเอ๋อร์กลับเรือนเถิดขอรับ ข้ากับท่านพ่อยังมีงานที่ต้องสะสางอีกเล็กน้อย หากจัดการเสร็จยังต้องไปที่ค่ายทหารอีกขอรับ” เจียงหยวนยังค้างเื่การจะส่งเจียงเล่อ ไปเก็บหลักฐานที่เจียงกุ้ยฉินซุกซ่อนเอาไว้
“จ้ะ ท่านพี่กับอาหยวนอย่าลืมทานอาหารที่เตรียมไว้ให้นะเ้าคะ”
“พี่รู้แล้วน้องหญิงพาลูกไปพักเถิด”
หลังจากสตรีอันเป็ที่รักทั้งสามกลับเรือนไปแล้ว สองพ่อลูกก็กลับไปยังห้องหนังสืออีกครั้ง ซึ่งยามที่อยู่ในศาลต้าหลี่เจียงหยวนคิดเื่หนึ่งขึ้นมาได้
“ว่าอย่างไรอาหยวนเ้ามีเื่อะไรก็พูดมาเถิด” แม่ทัพใหญ่ถามบุตรชายทันทีที่มาถึงห้องหนังสือ
“ขอรับท่านพ่อ ยามที่อยู่ศาลต้าหลี่ข้านึกเื่ที่อาเหยียนกำลังทำอยู่ จึงอยากถามความคิดเห็นของท่านพ่อว่า หากเราจัดการเจียงกุ้ยฉิน พร้อม ๆ กับพวกเสนาบดีจินดีหรือไม่ อย่างไรเสียวันนั้นฝ่าาต้องมีราชโองการ สำหรับปะาขุนนางฏมากมาย ถือว่าเป็โอกาสที่ดีของพวกเราด้วยนะขอรับท่านพ่อ” เจียงหยวนไม่อยากให้บิดาของตนพลาดโอกาสครั้งนี้ไป
“อืม นั่นสินะถือว่าพวกเราช่วยกำจัดขุนนางกังฉิน แม้โทษของเจียงกุ้ยฉินไม่ถึงกับปะาชีวิต อย่างไรเสียตำแหน่งย่อมหลุดมือ เมื่อถูกฝ่าาส่งไปรับตำแหน่งต่างเมือง พวกเรายังสามารถส่งคนตามไปจัดการทีหลังได้ ยิ่งคนพวกนั้นถูกพิษของจิ่นเอ๋อร์ไป ดูสิว่าจะมีหน้าใช้ชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหนกัน ฮ่า ๆ ๆ” มีหรือที่แม่ทัพใหญ่จะไม่ลงมือเมื่อมีโอกาสดีเช่นนี้ ถึงเวลาที่ผลกรรมจะตามสนองกับครอบครัวนี้เสียที
“เจียงเล่อคืนนี้เ้าไปนำหลักฐานจากที่ซ่อน อย่างที่น้องสาวของข้าได้บอกไว้กลับมาอย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว แม้แต่โต๊ะทำงานของเ้ากรมขุนนางก็อย่ามองข้าม ลองค้นดูสักเล็กน้อยเผื่อได้หลักฐานอื่นเพิ่มเติม พวกมันต้องดิ้นไม่หลุดแน่ในครานี้” เจียงหยวนไม่ปล่อยให้คนชั่วที่ทำกับน้องสาวรอดพ้นความผิดไปได้แน่
“รับทราบขอรับคุณชาย ทางด้านคุณชายฟู่จะให้บ่าวไปแจ้งเกี่ยวกับเื่นี้หรือไม่ขอรับ” เจียงเล่อเห็นด้วยอย่างมาก ที่เ้านายจะใช้วิธีนี้กำจัดตระกูลเจียงสายรอง
“ไม่ต้องทางด้านอาเหยียนข้าจะให้หลี่อี้ไปบอกเอง เ้าจัดการเื่หลักฐานให้เรียบร้อยก็พอแล้ว”
“ขอรับคุณชาย
“พ่อบ้านเจียงข้ามีงานให้เ้าทำ” แม่ทัพใหญ่ไม่ลืมเื่ที่จะประกาศเกี่ยวกับอวี้จิ่น
“เชิญนายท่านสั่งการขอรับ”
“เ้าพาบ่าวไพร่ไปหาซื้อข้าวสารและพวกธัญพืช อีกสามวันข้าจะตั้งโรงทานหน้าจวนเพื่อเป็การประกาศ เื่ของบุตรสาวของข้าที่นางรอดชีวิตและได้กลับมาอย่างปลอดภัย ก่อนจะตั้งโรงทานหนึ่งวันอย่าลืมให้บ่าวไพร่ นำเื่นี้ประกาศให้ชาวบ้านได้รับรู้ด้วยเล่า” แม่ทัพใหญ่ตั้งโรงทานครั้งนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าทุกตระกูลที่เคยทำมาก่อน
“รับทราบขอรับนายท่าน บ่าวจะคัดเลือกธัญพืชเป็อย่างดีชาวบ้านที่มารับแจก จะได้กินอิ่มท้องไม่มีธัญพืชเสียหายปะปนแน่นอนขอรับ” พ่อบ้านเจียงย่อมเข้าใจสถานการณ์ได้ดี เขาจะให้เ้านายขายหน้าไม่ได้เด็ดขาด
“เช่นนั้นก็ไปทำตามหน้าที่ของพวกเ้าได้แล้ว ส่วนเ้าอาหยวนตามพ่อไปที่ค่ายทหารเพื่อจัดการงานในส่วนของเ้าเสีย”
“ทราบแล้วขอรับท่านพ่อ”
ทางด้านสองพ่อลูกพูดคุยปรึกษากันเรียบร้อย ก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนต่อไป แต่ทางอวี้จิ่นที่มารดาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้า และสั่งให้นอนพักผ่อนนั้นกลับลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง เมื่อมารดากลับออกจากห้องของนาง จากนั้นจึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อ้าพิสูจน์ เื่ยาวิเศษที่ส่งให้กับตนเองถึงสองครั้ง
‘นี่ร้านสมุนไพรวิเศษเ้าพูดได้หรือไม่ เหตุใดถึงส่งยาให้ข้าได้โดยที่ข้ายังไม่ได้ร้องขอเล่า ถ้าเ้าพูดไม่ได้ระหว่างเราจะสื่อสารกันอย่างไรดีล่ะ’
‘สวัสดีขอรับนายหญิง’
‘เฮ้ย!! เ้าพูดได้จริง ๆ ด้วย แล้วเ้ามีชื่อเรียกหรือไม่เล่าหากไม่มี ข้าจะตั้งชื่อให้เองยามที่สื่อสารกันจะได้ง่ายขึ้นว่าอย่างไร’
‘รบกวนนายหญิงแล้วขอรับ’
‘อืมมมม เอาเป็ชื่อเฉินหนงก็แล้วกันนะเ้าชอบหรือไม่’
‘ชอบขอรับขอบคุณนายหญิง ว่าแต่ตอนนี้ท่าน้ายาเพื่อรักษาแผลที่มือของท่านก่อนหรือไม่ขอรับ’
‘หืม ก็ดีข้าไม่อยากเจ็บตัวนาน ๆ ประเดี๋ยวท่านแม่ไม่ยอมให้ข้าออกไปด้านนอกกันพอดี เฉินหนงเ้าจัดยามาได้เลยยิ่งเป็ยาที่ทาปุ๊บหายปั๊บได้ยิ่งดี’
‘เฉินหนงจัดให้เดี๋ยวนี้เลยขอรับ’
‘พรึ่บ! กึก!’
‘นายหญิงทายาลงไปบาง ๆ บนแผล แค่ชั่วพริบตามือของท่านจะหายเป็ปลิดทิ้งขอรับ’
‘จริงรึเฉินหนง!! นี่มันยาวิเศษของจริงชัด ๆ มาลองพิสูจน์กันเถิด’
อวี้จิ่นเปิดกระปุกยาใช้ปลายนิ้วเรียวป้ายยาขึ้นมาและทาลงบนฝ่ามือ นางรู้เย็นมากยามที่มือัักับยา จนทายาเสร็จเรียบร้อย ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดคุยกับเฉินหนง แผลบนฝ่ามือก็ค่อย ๆ จางหายไปจนหมด
‘เฮือกกกก!!!!!! เกินไปแล้วนี่มันเกินไปมากจริง ๆ เฉินหนงยาของเ้าคือยาที่ทหารในสนามรบใฝ่ฝันเลยนะรู้หรือไม่ ข้าไม่รู้สึกถึงการเคยมีาแอยู่บนฝ่ามืออีกยอดเยี่ยม ๆ’ อวี้จิ่นไม่รู้จะหาคำใดมาชื่นชมยาวิเศษชนิดนี้
‘มันย่อมเป็ยาวิเศษสิขอรับ เพราะส่วนผสมของมันมีน้ำอมฤต ที่เทพโอสถใช้ปรุงยาบน์เก้าชั้นฟ้าเชียวนะขอรับ’
‘ห๊าาาาาาา!!!!! น้ำอมฤต!!! ตุบ ขอบคุณท่านเทพชะตาเ้าค่ะที่มอบร้านยาสมุนไพรนี้ให้กับข้านะเ้าคะ ข้าขอสัญญาว่าจะใช้ยาวิเศษเหล่านี้ช่วยคนดีเท่านั้น หรือหากเป็ยาพิษร้ายแรงข้าจะใช้กับคนที่ทำชั่วที่สุดเช่นกันเ้าค่ะ’ อวี้จิ่นนึกไปถึงกิจการที่นางกำลังวางแผนว่าจะเปิด เมื่อมีข่าวดีจากจวนใต้เท้ากวนหลังครบสามเดือนหลังจากนี้
‘นายหญิงข้าลืมบอกกับท่านไปอีกหนึ่งอย่างขอรับ’
‘หืม เ้าลืมบอกอะไรงั้นหรือเฉินหนง’
‘อย่างที่ท่านสงสัยก่อนหน้านี้ ขอเพียงแค่ท่านคิดในใจว่า้ายาชนิดใดบ้าง ข้าจะรับรู้ได้ทันทีและยาที่ท่าน้าจะอยู่ในมือของท่าน เช่นสองครั้งที่ผ่านมาขอรับ แต่หากอยากหลบเลี่ยงความสงสัยของคนใกล้ชิดแล้วละก็ นายหญิงสั่งยากับข้าไว้ล่วงหน้าเมื่อท่านว่างก็ค่อยนำมันออกไปจากมิติก็ได้เช่นกันขอรับ’
‘เฉินหนงแบบนี้เหมาะสมกับกิจการของข้ามาก เช่นนั้นภารกิจสร้างชื่อเสียงของหมอดูเทวดาที่มีความรู้เื่ยาสมุนไพร ก็ถึงเวลาที่จะช่วยลูกค้ารายแรกในเมืองหลวงเสียที เ้าช่วยจัดยาเกี่ยวกับเื่การมีบุตรยาก ที่นำไปต้มดื่มประมาณสองเดือนให้ข้าหน่อยสิ พรุ่งนี้จะมีคนมารับที่จวนครั้งนี้ช่วยคนตั้งครรภ์ได้ กิจการของข้าจะมีชื่อเสียงทันที’
‘ได้ขอรับหากจัดการเสร็จข้าจะส่งออกไปด้านนอกให้เอง ยามนี้ท่านควรกลับไปอยู่ในห้องได้แล้วขอรับเผื่อมีสาวใช้มาปรนนิบัติท่าน’
‘อืม ขอบใจเ้ามากนะเฉินหนงไว้ข้าจะหาสมุนไพรดี ๆ มามอบให้เ้าทำยาอีกก็แล้วกันนะ ข้าไปก่อนล่ะ’
อวี้จิ่นเมื่อกลับออกมาจากมิติก็นอนเล่นไปมา ไม่นานก็ผล็อยหลับไปจากฤทธิ์ของยาที่ได้ดื่ม ขณะรอการไต่สวนคดีของศาลต้าหลี่ ด้านด้านฟู่หลงเหยียนที่มาถึงกรมอาญา ก็ได้พบกับบิดาของตนซึ่งฝ่าาทรงมีพระกระแสรับสั่งลับ ให้มาช่วยตรวจหลักฐานและกำกับดูแลการไต่สวนนักโทษให้ยอมรับสารภาพ
“คารวะท่านพ่อและใต้เท้าถงขอรับ ขออภัยที่ข้ามาถึงที่นี่ล่าช้า เนื่องจากมีเหตุให้ต้องจัดการเล็กน้อยกับบุตรสาวขุนนางใหญ่ขอรับ” ฟู่หลงเหยียนมาถึงช้าไปราวหนึ่งเค่อ ซึ่งมันสร้างความฉงนและงุนงงให้กับบิดา และใต้เท้าถงของกรมอาญายิ่งนัก
“ไม่เป็ไรหรอกใต้เท้าผู้ตรวจการ ตัวข้ากับฟู่กั๋วกงเองก็เพิ่งจะมาถึงก่อนหน้าท่านเล็กน้อย และเริ่มตรวจหลักฐานทั้งหมดที่ท่านนำกลับมาเช่นกัน เชิญนั่ง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคนพวกนี้จะซุกซ่อนหลักฐานไว้มากมาย เพื่อใช้มัดตนเองกับการกระทำผิดมาตลอดหลายปีได้” ใต้เท้าถงมิได้พูดปดตัวเขากับฟู่กั๋วกงเพิ่งมาได้ไม่นานจริง ๆ
“มีเื่อันใดเกิดขึ้นงั้นหรือ ถึงสำคัญมากจนมาทำงานได้ล่าช้าพ่อขอฟังเหตุผลของเ้าสำหรับครั้งนี้ได้ไหม”
ฟู่กั๋วกงไม่เคยเห็นบุตรชายมีนิสัยเช่นนี้มาก่อน ที่ผ่านมาบุตรชายไม่เคยลืมเวลาทำงาน เขามักจะมาตรงตามเวลาแต่ไม่ใช่ในวันนี้ ต้องมีสาเหตุที่ทำให้บุตรชายของตนเปลี่ยนไป
“เรียนท่านพ่อตามตรง ข้าไปเยี่ยมบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่เจียง ซึ่งพวกเราได้รู้จักและเดินทางร่วมกัน ั้แ่เมืองเฉียนโจวจนถึงเมืองหลวง และข้ารับอาสาพานางออกมาเดินเล่นดูบรรยากาศของเมืองหลวง แต่ขณะที่ข้าเผลอพูดคุยกับทหารตรวจการอยู่นั้น มีบุตรสาวคนโตของเสนาบดีเหมา เข้าไปทำร้ายนางจนได้รับาเ็ ทั้งยังข่มขู่มิให้คุณหนูเจียงมายุ่งวุ่นวายกับข้า เมื่อเหตุการณ์เป็เช่นนี้จึงได้ไปร้องเรียนที่ศาลต้าหลี่ และทำการไต่สวนลงโทษก่อนที่จะมาพบพวกท่านที่นี่ขอรับ” ฟู่หลงเหยียนตอบคำถามบิดาอย่างไม่ปิดบังความรู้สึก เพราะเขาไม่คิดหลบสายตาของบิดาสักนิด
“แสดงว่าเื่ที่เ้าออกปากไล่พระชายาขององค์ชายหก ก็เป็เื่จริงสินะแน่ใจแล้วใช่หรือไม่ ว่าไม่มีอันใดติดค้างอยู่ในใจของเ้าแล้ว” ฟู่กั๋วกงที่เพิ่งทราบเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้จากฮูหยินของตน
“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วขอรับท่านพ่อ และความสุขที่ท่านพ่อพูดถึงนั้นข้าก็ได้ค้นพบแล้ว โดยที่นางไม่ต้องทำตัวให้เป็เหมือนใครขอรับ”
“นี่ถือว่าเป็ข่าวดีล่วงหน้าก็ว่าได้นะใต้เท้าผู้ตรวจการ เมื่อใดที่ท่านได้ฤกษ์มงคลอย่าลืมเชิญข้าไปร่วมงานด้วยคนเล่า ฮ่า ๆ ๆ” ใต้เท้าถงพอจะทราบเื่ของฟู่หลงเหยียนอยู่บ้าง เนื่องจากเื่ในยามนั้นเป็ที่กล่าวถึงอย่างมากในเมืองหลวง
“ได้สิขอรับ”
“ฮ่า ๆ ๆ เอาล่ะ ๆ มาเริ่มลงมือตรวจหลักฐานเหล่านี้ก่อนเถิด จะได้แยกออกไปเป็เื่ ๆ เพื่อถวายต่อฝ่าา สำหรับใช้ตัดสินโทษพวกขุนนางกังฉินเสียที” แม้จะดีใจแต่เื่งานย่อมต้องมาก่อน
ทั้งสามคนใช้เวลาตรวจสอบแยกแยะหลักฐานตรงหน้า ไปหนึ่งชั่วยามครึ่งจากนั้นจึงลงไปยังคุกที่ขังนักโทษ จากเมืองเฉียนโจวและเริ่มนำตัวมาทรมานตามวิธีของกรมอาญา เพื่อรีดเอาความจริงอีกครั้งเมื่อถูกทัณฑ์ทรมานหนักเข้า พวกนักโทษถึงได้ยอมประทับลายนิ้วมือ เป็การรับสารภาพ เื่การค้าเกลือเถื่อนร่วมกับเสนาบดีจิน รวมถึงขุนนางในราชสำนักกับขุนนางท้องถิ่นอีกหลายคน
ขณะที่ฟู่หลงเหยียนเตรียมจะกลับจวนพร้อมบิดา ใน่ปลายยามโหย่วหลี่อี้ที่รับคำสั่งจากเจียงหยวน ก็มารอพบเขาอยู่ด้านนอกประตู เพื่อถ่ายทอดเื่ราวเกี่ยวกับการกำจัดเจียงกุ้ยฉิน
“หืม หลี่อี้เ้ามาทำอะไรที่นี่ หรือว่าจิ่นเอ๋อร์มีอาการอื่นแทรกซ้อนงั้นรึ” ฟู่หลงเหยียนยามนี้เป็ห่วงอวี้จิ่นจนเสียสมาธิไปหลายครั้ง
“มิใช่ขอรับคุณชายฟู่ อาการของคุณหนูดีขึ้นมากแล้วขอรับ ที่ข้าน้อยที่รอพบคุณชายกับฟู่กั๋วกงอยู่ที่นี่ เพราะได้รับคำสั่งจากคุณชายให้มาแจ้งกับพวกท่านว่า หลังจากฟู่กั๋วกงยื่นฎีกาถวายหลักฐานการค้าเกลือเถื่อน ของเสนาบดีจินและขุนนางที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะขอร่วมมอบหลักฐานการเรียกรับสินบน ของรองเ้ากรมขุนนางเจียงกุ้ยฉินด้วยขอรับ” หลี่อี้ไม่คิดว่าฟู่หลงเหยียนยามนี้ หายใจเข้าออกก็เป็น้องสาวของเ้านายอยู่ตลอดเวลา
“หืม ย่อมเป็การดีที่แม่ทัพใหญ่ยินดีมอบหลักฐาน เื่รับสินบนให้พวกเราความน่าเชื่อถือ ย่อมมีมากตามไปด้วยแล้วหลักฐานที่ว่านั่น อยู่ไหนเล่าหลี่อี้เ้ามิได้นำติดตัวมารึ” ฟู่กั๋วกงเอ่ยถามกับหลี่อี้ถึงหลักฐานการเรียกรับสินบนของเจียงกุ้ยฉิน
“เรียนฟู่กั๋วกง หลักฐานที่ว่านี้เจียงเล่อจะไปนำมันมาจากที่ซ่อนในคืนนี้ เมื่อได้ครบแล้วจะนำไปมอบให้กับท่านที่จวนด้วยตนเองขอรับ”
“อ้อ เป็เช่นนี้นี่เอง เอาเป็ว่าข้าจะรอรับหลักฐานอยู่ที่จวนนะ พ่อไปขึ้นรถม้ากลับจวนก่อนก็แล้วกันเ้าเองก็รีบตามมาเล่า” ฟู่กั๋วกงเห็นว่าบุตรชายคล้ายมีบางอย่าง้าถามกับหลี่อี้ ดังนั้นตัวของฟู่กั๋วกงจึงต้องยอมถอยไปก่อน
“ขอรับท่านพ่อข้าจะรีบตามไปขอรับ”
“เอ่อ คุณชายฟู่มีสิ่งใดจะสอบถามกับข้าหรือขอรับ”
“หึ ข้าอ่านง่ายถึงเพียงนั้นเชียวรึหลี่อี้ เอาเป็ว่าเ้าเก่งมากที่ดูออกว่าข้า้าสอบถามกับเ้า ที่เ้าบอกว่าจิ่นเอ๋อร์ดีขึ้นมากแล้วจริงหรือเท็จมากน้อยเพียงใด”
“เรียนคุณชายฟู่ อาการของคุณหนูดีขึ้นจริง ๆ ขอรับ ข้าเห็นกับตาว่าคุณหนูยังดูสดใสร่าเริง ไม่มีท่าทีของคนได้รับาเ็แต่อย่างใด ที่สำคัญอีกสามวันท่านแม่ทัพใหญ่จะจัดตั้งโรงทาน เพื่อแจกจ่ายอาหารแห้งให้กับชาวบ้าน โดยเป็การจัดตั้งโรงทานสำหรับประกาศ เื่การกลับมาของคุณหนูอวี้จิ่น หากคุณชายว่างจะไปร่วมก็ได้นะขอรับ”
“อืม ฝากบอกอาหยวนกับจิ่นเอ๋อร์ด้วยว่า ข้าจะไปร่วมงานนี้ถ้าไม่มีธุระอะไรเพิ่มเติมเ้ารีบกลับจวนเถิด เผื่อพวกบ้านรองจะจ้างใครมาทำร้ายคนในจวนอีก”
“ขอรับคุณชายฟู่”
เมื่อทำหน้าที่สำเร็จหลี่อี้จึงกลับจวนทันที ส่วนฟู่หลงเหยียนย่อมกลับจวนเช่นเดียวกัน เพื่อเตรียมสิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์ไปช่วยโรงทานของอวี้จิ่นด้วย และในคืนวันเดียวกันเจียงเล่อได้ลอบเข้าไปยังกรมขุนนาง ซึ่งหลักฐานที่ว่าอยู่ในจุดที่อวี้จิ่นได้บอกไว้จริง ๆ และเขายังได้หลักฐานเพิ่มอีกเล็กน้อยจากโต๊ะของเ้ากรมขุนนาง หลังจากเก็บทั้งหมดได้
ก็นำมันไปมอบให้กับฟู่กั๋วกงที่จวนตามคำสั่งเ้านายทันที
