เมื่อหันหน้ากลับมา เซียวหลิงอวิ๋นก็ต้องเบิกตากว้างมองไปที่ฉินหรูเยียนที่ยังคงถูกเปลวเพลิงห้อมล้อมด้วยความใ “เดี๋ยว ทะ...ทำไมถึงได้ว่อกแว่กขณะกำลังหลอมกายอยู่ในเพลิงหงส์ แถมยังมีแรงเหลือพูดได้อีก”
“ร่างกายของอามันทำไมหรื...” รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินหรูเยียนที่เพิ่งปรากฏขึ้นเมื่อสักครู่ก็ต้องหยุดชะงักลง แล้วปากเล็กของนางก็ส่งเสียงร้องออกมา “อ๊าก!” ในเวลานี้ทุกคนต่างก็ััได้ว่าเปลวเพลิงรอบตัวนางเริ่มสะบัดพลิ้วไหวอย่างรุนแรง และลุกโชนมากขึ้น!
“หรูเยียน!” เสิ่นเยาเยวี่ยก็ดูจะมีอาการกังวลมากกว่าฉินว่านซานเล็กน้อย สีหน้าของนางฉายแววตึงเครียด!
“ผู้าุโใจเย็นๆ ก่อน!”
“ศิษย์พี่หญิงอย่าเพิ่งวู่วาม!”
ในขณะเดียวกัน เซียวหลิงอวิ๋นและิ่ชางไห่ก็พูดพร้อมกัน!
“เ้าหนุ่ม เยียนเอ๋อกำลังหลอมกายด้วยเพลิงหงส์อยู่ใช่หรือไม่?” ิ่ชางไห่หันหน้ามา มองไปที่เซียวหลิงอวิ๋น
“อะแฮ่ม ก็น่าจะเป็เช่นนั้นขอรับ” หลุดปากพูดออกไปจนได้ เซียวหลิงอวิ๋นจึงได้แต่พูดอ้อมแอ้มตอบกลับ!
หลอมกายด้วยเพลิงหงส์? ทางด้านฉินว่านซาน ตี๋จั๋วรื่อ และสองตระกูลหม่าต่างก็พากันเบิกตากว้าง!
ใช้เปลวไฟของหงส์เพลิงมาชำระร่างกาย แค่คิดก็รู้สึกร้อนรุ่มแทนแล้ว!
“อ๊าก!” ใบหน้าที่งดงามของฉินหรูเยียนก็ปรากฏซึ่งความเ็ปอย่างสุดจะทานทนเอาไว้ได้ เงยหน้าขึ้น ส่งเสียงร้องอย่างรุนแรง! เปลวเพลิงสีแดงทองทั่วกายโบกสะบัดอย่างรุนแรง! ราวกับสายลมกรรโชกพัดผ่าน ชุดของฉินหรูเยียนถูกเผาไหม้จนกลายเป็เถ้าถ่านในทันที เซียวหลิงอวิ๋นพลันเบิกตากว้าง แต่ก็ยังไม่ทันจะได้เหลือบมองร่างกายที่ขาวเนียนสล้างนั้น เปลวเพลิงสีแดงทองก็ราวกับกลายเป็กองเพลิงของจริงในทันที เข้าปกปิดร่างกายอันน่าหลงใหลของฉินหรูเยียนเอาไว้จนมิดชิด
สิ่งที่ทุกคนมองเห็นได้มีเพียงลูกไฟสีแดงทองเท่านั้น!
เหล่าผู้าุโต่างหันมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคาดคิดว่าสถานการณ์จะดำเนินไปในทิศทางที่แปลกประหลาดเช่นนี้!
“หลิงอวิ๋น หรูเยียนจะไม่เป็อะไรใช่หรือไม่!” ในที่สุดฉินว่านซาน เ้าสำนักดาบิญญาเมฆายังอดใจไม่ไหวที่จะถามเสียงเบา
นี่คือมหาโชคลาภเลยนะ จะเป็อะไรอย่างอื่นไปได้อีก เซียวหลิงอวิ๋นได้แต่คิดเช่นนั้นในใจ และกล่าวปลอบโยนออกไป “ขอผู้าุโโปรดวางใจ เื่นี้ย่อมเป็เื่ดีอย่างแน่นอน!”
“ทุกคนไม่ต้องห่วงไป การหลอมกายด้วยเพลิงหงส์เช่นนี้ คือโชคชะตาและโอกาสของเด็กคนนี้แล้ว! ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็โชคดีของสำนักดาบิญญาเมฆาของเราด้วย!” ตี๋จั๋วรื่อมีความรอบรู้ คำพูดของเขาทำให้หัวใจของทุกคนสงบลงในทันที!
หงส์เพลิง การหลอมกายด้วยไฟของหงส์เพลิง หงส์เพลิงคือสัตว์วิเศษในแดน์ เช่นนั้นลูกนกที่ปล่อยเปลวเพลิงออกมาให้หรูเยียนใช้ก่อนหน้านี้คือหงส์เพลิงอย่างนั้นหรือ หม่าิหย่วนที่พยายามลืมตาบวมปูดได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ
อย่างนี้ก็หมายความว่า คนที่เปิดเส้นลมปราณได้เองในสำนักิญญาเมฆาโดยไม่ผ่านพิธีเปิดเส้นลมปราณิญญา ซ้ำยังก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดบนท้องฟ้าอย่างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ส่องแสงพร้อมกัน และมีหงส์เพลิงส่งเสียงร้อง นั่นก็คือหญิงสาวตรงหน้าเขา ไม่สิ ต้องเป็ศิษย์อาหญิงหรูเยียนของหม่าิหย่วนแน่! โอ้โห พร์ของนางช่างน่าทึ่งจริงๆ
ก้าวเข้าสู่ชั้นผู้ใช้พลังิญญาได้ไม่ถึงเดือน กลับสามารถบดขยี้ตัวเราที่เป็ผู้ใช้พลังิญญาขั้นกลางได้แล้ว! แข็งแกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว สมแล้วที่เป็หลานของผู้าุโสูงสุดทั้งหลาย ข้าต้องกอดขาคู่นี้เอาไว้ให้แน่นๆ แล้ว ยังมีศิษย์อาที่เป็อัจฉริยะหมื่นปีคนนี้อีก! คนเดียวก็สามารถจัดการกับศิษย์นักยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูงห้าคนของสำนักิญญาศรัทธาจนหาทางกลับบ้านไม่ถูก เก่งกาจขนาดนี้ หากไม่เรียกว่าเป็อัจฉริยะหมื่นปีแล้ว คงไม่รู้จะไปเรียกใครหน้าไหนอีก!
เ้าโง่เอ๊ย เห็นศิษย์อาพูดคุยกับเหล่าผู้าุโสูงสุดได้อย่างสนิทสนมแล้ว ยังจะสงสัยอะไรอีก ดีล่ะ ต่อไปนี้หากมีใครกล้าสงสัยอะไรพวกท่านอีก ข้าหม่าิหย่วนคนนี้จะตบปากพวกเขาสั่งสอนเอง!
หม่าิหย่วนสืบทอดสายเืที่ฉลาดและไหวพริบดีของตระกูลหม่ามาอย่างครบถ้วนจริงๆ ทันทีที่เล็งเห็นความสำคัญของขาสองข้างของเซียวหลิงอวิ๋นและฉินหรูเยียน รวมถึงความสัมพันธ์ของเหล่าผู้าุโสูงสุดด้วยแล้ว ตัวเขาจึงคิดจะสานความสัมพันธ์กับอัจฉริยะทั้งสองคนนี้ทันที หม่าิหย่วนก็เปลี่ยนจากกลุ่มผู้ริษยากลายมาเป็ผู้สนับสนุนที่คลั่งไคล้แทน!
คนเริ่มเข้ามามุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!
ภายใต้สัญญาณมือของเหล่าผู้าุโสูงสุด หม่าหัวอวิ๋นก็เหินขึ้นฟ้า ขับไล่ผู้คนออกไปทีละคน!
บนยอดเขาแต่ละแห่ง เหล่าผู้ดูแลยอดเขาแต่ละคนรู้ดีั้แ่แรกแล้วว่าผู้าุโสูงสุดทั้งสี่รวมตัวกันอยู่ที่นั่น จึงไม่เข้าไปวุ่นวายอีก!
ลูกไฟสีแดงทองก็ห่อหุ้มอยู่อย่างนี้เป็เวลาถึงสี่ชั่วยามเต็ม! จนกระทั่งท้องฟ้ามืดลง แสงสว่างจากดวงไฟิญญาบนยอดเขาก็สว่างขึ้นทีละดวง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังแกร๊กราวกับเสียงลูกเจี๊ยบจิกเปลือกไข่เพื่อออกจากไข่ดังขึ้น!
ฉินว่านซาน ตี๋จั๋วรื่อ และิ่ชางไห่ ผู้าุโสูงสุดทั้งสามก็หันหน้าหนีในแทบจะทันที!
การเคลื่อนไหวของเซียวหลิงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ช้าไปกว่ากัน ในขณะที่หม่าหัวอวิ๋นยื่นมือไปข้างหน้า จับหัวของหม่าิหย่วนที่ยังตะลึงตาค้างอยู่ให้หันหน้าหนีทันที
...
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม เซียวหลิงอวิ๋นภายใต้การอาสาของหม่าิหย่วนที่หายดีแล้ว อาศัยแสงจันทร์เดินเท้าไปยังหอยาวิเศษ ณ สำนักชั้นนอกที่จ้าวเหวินจัวอยู่!
ส่วนฉินหรูเยียนจำเป็ต้องเก็บตัวอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้พลังกายและพลังยุทธ์ที่ได้จากการหลอมกายด้วยเพลิงหงส์ในครั้งนี้แข็งแกร่งและมั่นคงขึ้น!
เมื่อฉินหรูเยียนออกจากการเก็บตัวอีกครั้ง ลูกหงส์เพลิงตัวน้อยที่เพิ่งออกจากเปลือกตัวนี้ก็จะก้าวขึ้นสู่เส้นทางอันยาวไกล โผบินขึ้นสู่ฟ้าอย่างแท้จริง!
“ท่านอาเซียว ท่านอาหรูเยียนเพิ่งเปิดเส้นลมปราณเมื่อยี่สิบวันก่อนจริงหรือ”
“เ้าหนุ่ม นี่เ้าจะถามเื่นี้อีกสักกี่ครั้งกัน” เซียวหลิงอวิ๋นเริ่มรู้สึกรำคาญใจ
“แหะๆ แต่มันก็น่าใจริงๆ นะ! ท่านอาลองคิดดูสิ เมื่อยี่สิบวันก่อนเพิ่งจะเปิดเส้นลมปราณ วันนี้ก็หลอมกายด้วยเพลิงหงส์จนได้ขดพลังิญญาสี่ขดเลย มะ... มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!” หม่าิหย่วนพูดด้วยความตื่นเต้นและนับถือ ราวกับรู้จักอีกฝ่ายมาเป็ปีแล้ว!
“เื่นี้เป็ความลับ ท่านปู่ของเ้าก็กำชับแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเื่นี้ต้องปิดเป็ความลับของสำนักที่เปิดเผยให้ใครรู้ไม่ได้ ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าหนุ่มปากมากอย่างเ้าจะสามารถรักษาความลับนี้เอาไว้ได้หรือไม่ รู้แบบนี้ ข้าน่าจะบอกให้ศิษย์อาหญิงหรูเยียนลงโทษเ้าดีกว่า” เซียวหลิงอวิ๋นเริ่มปวดกบาลเล็กน้อย เ้าหมอนี่เป็คนพูดมากจริงๆ!
“แหะๆ มีแค่ข้ากับท่านอาเซียวสองคนที่รู้เื่นี้นี่นา ข้าไม่เอาไปบอกคนอื่นแน่นอน! เื่นี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว โลกนี้ยังมีวิชาิญญาที่สุดยอดแบบนี้อยู่ด้วยหรือ?”
“เ้าหนุ่ม ตัวเ้ายังเป็แค่กบในกะลา ศิษย์อาหรูเยียนของเ้าไม่ได้ข้ามไปมีขดพลังิญญาสี่ขดในครั้งเดียวเสียหน่อย หลังจากนางเปิดเส้นลมปราณได้ นางก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดบนท้องฟ้าสามครั้ง หรือที่เรียกว่าหงส์เพลิงกู่ร้องสามครั้งนั่นแหละ ซึ่งการร้องหนึ่งครั้ง คือการรวบรวมขดพลังิญญาได้หนึ่งขด ตอนที่นางสู้กับเ้า นางก็เป็สัตว์ประหลาดที่เปิดขดพลังิญญาได้สามขดแล้ว และคราวนี้นางก็เปิดขดพลังิญญาเพิ่มได้อีกหนึ่ง ทีนี้เ้าเข้าใจแล้วหรือยัง!” เพื่อความสงบสุขของตัวเอง เซียวหลิงอวิ๋นจำต้องเปิดเผยความจริงบางส่วนออกมา!
หงส์เพลิงกู่ร้องสามครั้ง ร้องครั้งหนึ่งก็รวบรวมขดพลังิญญาได้หนึ่งขด! หม่าิหย่วนอ้าปากค้าง ใจนพูดไม่ออกเป็เวลานาน!
ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรของหรูเยียนนั้นรวดเร็วอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน น่ากลัวจริงๆ!
สุดยอด! ตัวเขาต้องใช้เวลาถึงสี่ปีในการเปิดขดพลังิญญาห้าขดเลยนะ ความเร็วเท่านี้ก็เรียกได้ว่าอยู่ในสิบอันดับต้นๆ ของเหล่าศิษย์นับหมื่นของสำนักชั้นนอกแล้ว เป็ศิษย์อัจฉริยะหนึ่งในร้อย
แต่เมื่อเทียบกับความเร็วในการบำเพ็ญเพียรของหรูเยียนแล้ว ความเป็อัจฉริยะของเขาเทียบไม่ได้กับปลายเท้าของนางเลย!
ช่างเป็ความสามารถที่สมควรถูกเรียกว่าสัตว์ประหลาดไร้เทียมทานอย่างแท้จริง!
แต่สัตว์ประหลาดไร้เทียมทานอย่างหรูเยียน ผู้าุโสูงสุดทั้งหลายก็ยังไม่ได้ให้คำจำกัดความว่าเป็อัจฉริยะที่จะปรากฏตัวสักครั้งในรอบหมื่นปี แต่กลับมอบฉายานี้ให้กับเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าตัวเขาถึงหกปี!
หรือท่านอาเซียวผู้นี้ จะเป็สัตว์ประหลาดที่เหนือกว่าหรูเยียน!
เอื๊อก!
เมื่อนึกได้เช่นนี้ หม่าิหย่วนก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอีกรอบ!
เมื่อมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋น รอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเขาก็ยิ่งฉีกกว้างขึ้นไปอีกถึงสามส่วน!
…
ณ หอยาวิเศษ
ใบหน้าอ้วนกลมของจ้าวเหวินจัวกำลังเคร่งเครียด จ้องมองชายวัยกลางคนริมฝีปากบาง ที่พูดจาโผงผางตรงหน้าเขาอย่างเย็นะเื!
“จ้าวเหวินจัว ข้าไม่รู้หรอกว่าคราวนี้เ้าอาศัยเส้นสายของใคร ถึงได้กลับมาที่หอยาวิเศษนี้อีกครั้งได้ แต่เ้าจงจำไว้ ว่าหัวหน้าพ่อบ้านของหอยาวิเศษสำนักชั้นนอกไม่ใช่เ้า จ้าวเหวินจัวอีกต่อไปแล้ว แต่เป็อู๋จื่อจิ้งคนนี้ ดังนั้นงานที่ข้ามอบหมายให้เ้าทำ เ้าก็ต้องทำให้เรียบร้อย หรือไม่ก็ออกไปจากที่นี่เสีย หอยาวิเศษของเราไม่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์อย่างเ้า!”
“โอ้ หอยาวิเศษแห่งนี้มีหมาบ้าที่ไหนไม่รู้หลุดออกมาอย่างนั้นหรือ กลางค่ำกลางคืนแบบนี้ ไม่รู้จักไปเฝ้าบ้านตัวเอง แต่กลับมาเห่าใส่คนอื่นเช่นนี้”
