กู้เจิงเดินมาถึงเรือนเล็กสูงสองชั้นหลังหนึ่ง ดูแล้วน่าจะเป็ห้องบรรทมของตวนอ๋องกับพระชายา ตามมุมรอบเรือนมีเหล่าสาวใช้และแม่เฒ่ายืนอยู่ตามจุดต่างๆ
“พวกฮูหยินเหล่านี้คือ?” กู้เจิงถามสาวใช้ที่พานางมา หากนางเดาไม่ผิด คนเหล่านี้น่าจะเป็เชื้อพระวงศ์
เป็ดังคาด สาวใช้ตอบคำถามนางว่า “ท่านที่สวมผ้าโปร่งสีม่วงคือท่านป้าของท่านอ๋องเ้าค่ะ อีกท่านที่ใส่เสื้อท่อนบนสีฟ้าหมอกเป็ท่านป้าสะใภ้ ส่วนฮูหยินผู้เยาว์เ่าั้เป็ญาติของท่านอ๋องเ้าค่ะ”
ยามที่กู้เจิงเดินเข้ามาในระยะสายตา ฮูหยินผู้สูงศักดิ์เ่าั้ก็ล้วนจ้องมองมาที่นาง
ญาติของตวนอ๋องทุกคนนั้นล้วนมีอายุมากกว่านาง กู้เจิงจึงรีบเข้าไปคารวะ ชุนหงก็ทำความเคารพด้วยเช่นกัน
“คารวะฮูหยินทุกท่านเ้าค่ะ” สาวใช้ที่นำทางกู้เจิงคารวะทุกคน นางแนะนำกู้เจิงให้ทุกคนรู้จัก “ฮูหยินน้อยท่านนี้คือพี่สาวของพระชายาตวนอ๋องเ้าค่ะ”
“ที่แท้ก็เป็พี่สาวของพระชายานี่เอง มิน่าเล่าถึงได้หน้าตาคล้ายคลึงกับพระชายาเช่นนี้” ฮูหยินคนหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เ้าชื่อว่ากู้เจิงใช่ไหม? ข้าได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว” ฮูหยินอีกคนถามขึ้น นางไม่ได้พูดต่อว่าได้ยินชื่อเสียงมาว่าอย่างไร นางเพียงแต่มองกู้เจิงด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“ข้าจะไปอยู่เป็เพื่อนน้องสาว เชิญฮูหยินทุกท่านตามสบายเ้าค่ะ” กู้เจิงยิ้มอย่างเป็มิตร นางเดินหลบเข้าไปในเรือน
เมื่อเข้ามาถึงในห้อง ก็พบกู้เหยากำลังกินขนมอยู่อย่างเบิกบานใจ แม่เฒ่าซุนกับสาวรับใช้ที่พามาจากจวนกู้กำลังช่วยกันจัดเก็บข้าวของ ส่วนกู้อิ๋งก็กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ ผ้าคลุมหน้าของนางถูกพับขึ้นเหนือศีรษะ เผยให้เห็นใบหน้าที่แต่งแต้มอย่างงดงาม
“พี่ใหญ่มาแล้ว” กู้เหยาะโด้วยความดีใจ
แม่เฒ่าซุนเห็นกู้เจิงมาก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่มาพอดี จะได้มาอยู่คุยเป็เพื่อนคุณหนูสามเ้าค่ะ”
“น้องสามยังต้องนั่งแบบนี้จนถึงเย็น แต่พอตกเย็นเมื่อญาติสนิทมิตรสหายมาถึงก็คงจะคึกคักกว่านี้หน่อย” กู้เจิงนึกถึงวันที่ตนเองแต่งงาน มีญาติมาเยี่ยมนางไม่น้อย ญาติของตวนอ๋องก็น่าจะเยอะมากเช่นกัน
กู้อิ๋งคิดไม่ถึงว่าการแต่งงานจะเหนื่อยขนาดนี้ นางสวมกวานเ้าสาวนั่งหลังตรงจนปวดเอวไปหมด แต่แม้จะเหนื่อยมากแต่นางก็สุขใจ
กู้เหยาที่เมื่อกินขนมเสร็จก็เริ่มเบื่อ “พี่ใหญ่ พี่สาม ข้าจะออกไปเล่นข้างนอกนะเ้าคะ”
“คุณหนูสาม ให้บ่าวไปกับท่านเถอะเ้าค่ะ” แม่เฒ่าซุนรีบวางงานในมือลงตามกู้เหยาไปด้วย นายหญิงเคยกำชับให้ดูแลคุณหนูสามให้ดี จะได้ไม่เกิดเื่อะไรขึ้น
“พี่ใหญ่ ท่านมานั่งสิเ้าคะ” กู้อิ๋งเรียกกู้เจิงเสียงเบา
กู้เจิงย่อตัวลงนั่งที่เก้าอี้ นางมองกู้อิ๋งด้วยสีหน้ามีเลศนัยก่อนจะถามยิ้มๆ ว่า “มีอะไร?”
“ข้าได้ยินมาว่าครั้งแรกจะเจ็บมากใช่ไหมเ้าคะ?” กู้อิ๋งกลั้นใจถามด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
กู้เจิงอึ้งไป จนมาถึงตอนนี้นางก็ยังไม่เคยได้ร่วมหลับนอนกับเสิ่นเยี่ยนเลย ต่อให้เป็ชาติที่แล้วก็ยังเป็นกผัก* ตัวหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่านางจะยังไม่มีประสบการณ์ แต่ความรู้ทางทฤษฎีก็ยังพอมีอยู่บ้าง “มันจะเจ็บนิดหน่อย แต่ไม่นานก็หายเอง”
(*เป็คำแสลงในภาษาจีน หมายถึง มือใหม่)
“แค่นิดเดียวหรือเ้าคะ?”
กู้เจิงกะพริบตาปริบๆ “ถ้าเจ็บจริงๆ เ้าก็ให้ท่านอ๋องเบาหน่อย”
กู้อิ๋งรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงจนแทบจะะเิได้ “ท่านอ๋องปฏิบัติต่อข้าอย่างอ่อนโยนเสมอมาเ้าค่ะ” นางหยุดชะงักไปก่อนจะพูดต่อ “แม่เฒ่าซุนแอบบอกข้าว่า ผู้ชายจะอดใจไม่ไหวต้องขออีกสักสองสามครั้ง ต่อให้ทนไม่ไหวก็ต้องทน ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับความรักจากอีกฝ่ายเ้าค่ะ พี่ใหญ่ ท่านก็เป็แบบนี้หรือเปล่าเ้าคะ?”
กู้เจิงโต้กลับโดยไม่รู้ตัว “ถ้าเจ็บก็ย่อมต้องปฏิเสธอยู่แล้ว เื่อะไรจะปล่อยให้ผู้ชายรู้สึกดีอยู่ฝ่ายเดียวล่ะ ผู้ชายจะทำให้ผู้หญิงรู้สึกดีด้วยไม่ได้หรือไง?”
กู้อิ๋งเบิกตากว้างอย่างใ
กู้เจิงกะพริบตาปริบๆ นางรีบส่งยิ้มกลบเกลื่อน สองพี่น้องมองหน้ากันแล้วหัวเราะคิกคัก
“พี่ใหญ่ เื่น่าอายเช่นนั้น ข้าจะรู้สึกดีไหมเ้าคะ?” กู้อิ๋งถามเสียงเบาอีกครั้ง
กู้เจิงลดเสียงลง “ถ้าผู้ชายมีทักษะในเื่นี้ เ้าก็จะรู้สึกดีมาก ข้าได้ยินมาว่าหลังจากเหล่าองค์ชายโตเป็ผู้ใหญ่ จะมีการส่งนางข้าหลวงที่มีหน้าที่รับใช้ในเื่บนเตียงโดยเฉพาะมาปรนนิบัติ ข้าคิดว่าฝีมือของท่านอ๋องน่าจะดีอยู่บ้าง”
กู้อิ๋งเขินอายจนแดงไปทั้งตัว “งั้นฝีมือของพี่เขยใหญ่น่าจะดีมากกระมังเ้าคะ”
กู้เจิงนึกถึงจุมพิตของเสิ่นเยี่ยน นางนิ่งคิดอยู่นาน
กู้อิ๋งแอบมองกู้เจิง นางเห็นใบหน้าฝาดเฝื่อนของพี่สาว ก็อดหัวเราะไม่ได้
ชุนหงที่ยืนอยู่ข้างคุณหนูใหญ่มาตลอด นางฟังแล้วยิ่งงุนงงไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าคุณหนูใหญ่กับคุณหนูสามกำลังคุยกันเื่อะไร
เวลานี้เอง แม่เฒ่าซุนก็ลากกู้เหยากลับเข้ามาในห้อง นางมารายงานว่า “คุณหนูสาม พระชายาขององค์ชายรองกับองค์หญิงสิบเอ็ดมาหาท่านแล้วเ้าค่ะ”
กู้เหยาสะบัดมือแม่เฒ่าซุนออกอย่างไม่พอใจที่อีกฝ่ายดึงนางกลับเข้ามาในห้อง “พระชายากับองค์หญิงจะมา เ้าก็เข้ามาบอกพี่สามก็พอ จะลากข้าเข้ามาด้วยทำไม?"
เมื่อเห็นกู้อิ๋งลุกขึ้นยืน กู้เจิงก็รีบลุกขึ้นบ้าง
เสียงฝีเท้าดังขึ้น หญิงสาวสองคนแต่งกายโอ่อ่างดงามเดินเข้ามา สตรีที่เดินนำหน้าสวมชุดผ้าไหมสีดำสูงสง่า ดวงหน้าสะสวยดุจดอกท้อดูมีเสน่ห์เป็พิเศษ บนมวยผมประดับปิ่นหงส์ทองประดับมุก เดาว่านางน่าจะเป็พระชายาขององค์ชายรอง
ดรุณีน้อยที่อยู่ข้างกายพระชายานั้นอายุไม่น่าจะเกินสิบห้า เดาว่านางน่าจะเป็องค์หญิงสิบเอ็ด นางสวมเสื้อกันหนาวขนจิ้งจอก ในมือถือเตาอังมือ* เล็กๆ ใบหน้างามประดับด้วยั์ตาหงส์ซ่อนยิ้มคู่หนึ่ง บนมวยผมของนางปักปิ่นระย้าหยกเลี่ยมทอง องค์หญิงผู้นี้รูปร่างเล็กกะทัดรัด ทุกท่วงท่าของนางเปี่ยมไปด้วยความสูงศักดิ์
(*เป็เตาอุ่นมือขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ทำด้วยสำริด มีหูหิ้วและฝาปิด ชั้นนอกมีช่องให้ถ่ายเทอากาศ สามารถพกติดตัวหรือซุกใส่แขนเสื้อได้)
“พี่สะใภ้รอง องค์หญิง” กู้อิ๋งรีบเดินเข้าไปคารวะ
ทุกคนในห้องก็คารวะตามด้วยเช่นเดียวกัน
“เ้าสาวไม่ต้องมากพิธี ต่อไปหวังว่าพวกเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ รอให้เ้าสาวเก่า* เมื่อไหร่ น้องห้าก็คงไม่เกรงใจปานนี้” พระชายาองค์ชายรองพูดหยอกล้อกู้อิ๋ง
(*เนื่องจากคำว่าเ้าสาวในภาษาจีนกลางเรียกว่า ซินเหนียง ซึ่ง ‘ซิน’ แปลว่าใหม่ ในขณะที่ ‘จิ่ว’ แปลว่าเก่า ในที่นี้จึงเป็การเล่นคำ)
“ตอนนี้พี่อิ๋งเป็พี่สะใภ้ห้าที่แท้จริงของข้าแล้ว” องค์หญิงสิบเอ็ดป้องปากหัวเราะ
“เมื่อก่อนพี่สะใภ้รองมักจะหยอกล้อข้าเล่นอยู่บ่อยๆ วันนี้เป็วันมงคลของข้า ห้ามหยอกล้อข้าอีกนะเพคะ” กู้อิ๋งแสร้งโกรธเคือง ทั้งยังหยิกแก้มองค์หญิงสิบเอ็ดอย่างเอ็นดู “ที่แท้แต่ก่อนเ้าล้วนเห็นว่าข้าเป็พี่สะใภ้ปลอมสินะ”
เมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมของกู้อิ๋งกับพวกนาง กู้เจิงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่คิดไปคิดมาก็มีเหตุผล อย่างไรเสียกู้อิ๋งกับตวนอ๋องก็หมั้นหมายกันมาเกือบสิบปีแล้ว นางคงต้องรู้จักและสนิทสนมกับญาติของตวนอ๋องอยู่บ้าง
“เหยาเอ๋อร์ไปยืนอยู่ตรงนั้นทำไม มานั่งข้างๆ ข้าสิ” พระชายารองกวักมือเรียกกู้เหยาก่อนจะชี้ไปยังเก้าอี้ว่างข้างกายนาง
กู้เหยารีบเดินเข้าไปหา แต่นางกลับเลือกแทรกนั่งลงตรงกลางระหว่างพระชายารองกับกู้อิ๋งแทน
“เ้าเด็กคนนี้นี่” พระชายารองยิ้มขันพลางจิ้มหน้าผากของกู้เหยา “ยังจะมาทำท่าประชดประชันกับหยวนหนิงอีกนะ"
กู้อิ๋งเองก็มองน้องสาวอย่างขันๆ นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว กู้เหยายังมีทีท่ามึนตึงใส่องค์หญิงอยู่อีก
องค์หญิงสิบเอ็ด หรือก็คือจ้าวหยวนหนิงทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางมองผ่านกู้เหยาไปมองกู้เจิงที่ยืนอยู่ด้านหลัง “พระชายาห้า นางคือ?”
“นางคือพี่ใหญ่ของข้านามว่ากู้เจิง นางแต่งงานกับเสิ่นเยี่ยนผู้เป็จวี่เหรินในปีนี้ พี่ใหญ่ รีบมาทักทายพระชายารองและองค์หญิงสิบเอ็ดสิเ้าคะ” กู้อิ๋งกล่าวแนะนำกู้เจิง
กู้เจิงก้าวเข้าไปคารวะอีกครั้ง
“พี่ใหญ่ของเ้าหน้าตางดงามจริงๆ” พระชายารองเอ่ยชมกู้เจิง แม้ใบหน้านี้จะไม่ได้งามถึงขนาดล่มเมือง แต่ความงดงามเช่นนี้ก็หาได้ยากยิ่งในเมืองเยว่เฉิง
“กู้เจิงหรือ?” จ้าวหยวนหนิงมองกู้เจิงก่อนหัวเราะเบาๆ “เ้าคือกู้เจิงคนนั้นที่ดึงกระโปรงของพี่ผิงเซียง และทำให้นางต้องหมั้นหมายกับบุตรชายอนุตระกูลหนิงใช่หรือไม่?”
หลังจบคำขององค์หญิงสิบเอ็ด รอยยิ้มของพระชายารองและกู้อิ๋งก็เลือนหายไป
กู้เหยาถลึงตาใส่จ้าวหยวนหนิง
“องค์หญิงดื่มชาสักถ้วยเถอะเพคะ” กู้อิ๋งส่งสัญญาณให้แม่เฒ่าซุนรินชา
“ข้าถามเ้าอยู่นะ? ทำไมไม่ตอบเล่า?” จ้าวหยวนหนิงไม่ไว้หน้ากู้อิ๋ง นางจับจ้องไปที่กู้เจิงอย่างจะเอาคำตอบ
นี่มันเป็การแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ องค์หญิงสิบเอ็ดเรียกฟู่ผิงเซียงว่าพี่ เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของพวกนางไม่เลวเลย คงจะดีกว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับกู้อิ๋งเสียอีก มิเช่นนั้นนางคงจะไว้หน้ากู้อิ๋งอยู่บ้าง