เถ้าแก่เฉิงบังเอิญไม่อยู่พอดิบพอดี? และบังเอิญไม่ชอบกลิ่นของซานชี?
บนโลกใบนี้จะไปมีเื่บังเอิญมากมายมาจากที่ใดกัน? มีความเป็ไปได้หรือไม่ว่าเื่เหล่านี้อาจเป็เื่ไม่ดีที่ไม่สามารถเปิดเผยได้!
แสงสว่างแวบเข้ามาในดวงตาของกูเฟยเยี่ยน นางแสร้งทำเป็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เหตุใดเถ้าแก่เฉิงถึง…ซานชีไม่เหม็นเลยนะ! ”
หัวหน้าผู้ดูแลตอบกลับด้วยความจำใจ “แม้กระทั่งฟูเหรินยังคาดเดาความชื่นชอบของเถ้าแก่เฉิงไม่ได้ เหล่าฟูจะไปทราบได้อย่างไร”
กูเฟยเยี่ยนเริ่มลำบากใจ “หัวหน้าผู้ดูแล ถ้าไม่มีซานชี เกรงว่ารสชาติของสุราก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว! ”
หัวหน้าผู้ดูแลไอเบาๆ พลางเจตนาเคลื่อนตัวไปหาที่นั่งด้านข้างของกูเฟยเยี่ยน
“เถ้าแก่กู้ ที่นี่ไม่มีคนนอก เหล่าฟูจึงจะไม่ปิดบังท่านแล้ว เถ้าเเก่เฉิงค่อนข้างสนใจสุราสมุนไพร เมื่อปีที่แล้วก็เริ่มตามหาสูตรปรุงสุราแล้ว บัดนี้สูตรที่อยู่ในมือของเขาไม่ต่ำกว่าสิบสูตร เขาก็ไม่จำเป็ต้องใช้สูตรของท่านแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากเหล่าฟูชื่นชอบสูตรของท่าน เหล่าฟูจึงใช้ความพยายามอย่างหนักถึงจะสามารถโน้มน้าวให้เถ้าแก่เฉิงใช้สูตรของท่านได้ อย่างอื่นล้วนพูดง่าย แต่ซานชี เก็บไว้ไม่ได้เด็ดขาด ท่าน…สามารถใช้สมุนไพรที่คล้ายคลึงกันมาทดแทนได้หรือไม่? ”
หัวหน้าผู้ดูแลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเพิ่มเติมว่า “แต่รสชาติกับความมึนเมาอย่าแตกต่างกันเยอะนะ! ”
นี่คือเื่จริงหรือหัวหน้าผู้ดูแลแต่งข้ออ้างขึ้นมา?
กูเฟยเยี่ยนเชื่อแบบหลังมากกว่า นางยังคงแสดงต่อไป “หัวหน้าผู้ดูแล ข้าไม่อาจตัดสินใจในเื่สูตรปรุงสุราได้ เช่นนี้ดีหรือไม่ ท่านรอสักสองถึงสามวัน รอให้ข้ารายงานเ้าของหมู่บ้านก่อน รอดูว่าเ้าของหมู่บ้านจะว่าอย่างไร? แล้วพวกเราค่อยหารือกันอีกที? ”
หัวหน้าผู้ดูแลมีความลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเพิ่มเติมว่า “เถ้าแก่กู้ โปรดกล่าวกับท่านหัวหน้าหมู่บ้านแทนเหล่าฟูว่าเหล่าฟูจดจำความจริงใจของเขาไว้ในใจแล้ว”
ในยามนี้จวินจิ่วเฉินที่รออยู่ด้านข้างได้เงยหน้าขึ้นมามองหัวหน้าผู้ดูแลแวบหนึ่ง เพียงแต่เขายังคงทำตัวนิ่งเฉย
ครั้นส่งหัวหน้าผู้ดูแลออกไปแล้ว กูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉินจึงมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ทั้งสองคนมีความสงสัยที่คล้ายคลึงกัน ทว่าความรอบคอบต้องมาก่อน จวินจิ่วเฉินรีบติดต่อหอเสวียนซางทันทีเพื่อสอบถามถึงตารางงานของเถ้าแก่เฉิง
วันต่อมา จวินจิ่วเฉินก็ได้รับรายงานจากหอเสวียนซางว่าเถ้าแก่เฉิงยังคงอยู่ในเมืองลั่วเสียและไม่มีเื่ใดเกิดขึ้นกับหอเสวียนซาง
ในคราวนี้พวกเขามั่นใจเป็อย่างยิ่งว่าหัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวนคือพวกเดียวกันกับเวินจื่อเจี๋ย
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกโมโหเป็อย่างยิ่ง “สามแสนเหรียญทอง เราจะต้องให้เขาคืนกลับมาอีกเท่าหนึ่งให้ได้!”
เหมยกงกงไม่ได้รู้สึกแย่ไปกับสามแสนเหรียญทองแล้ว บัดนี้เขารู้สึกยินดี “ศาสตราจารย์แพทย์กู โชคดีที่ท่านออกความเห็นไม่ให้พวกเราเปิดเผยตัวตนออกมา! ถ้าไม่เช่นนั้นเื่นี้คงได้เละแน่! ”
เรียวคิ้วงดงามของจวินจิ่วเฉินขมวดกันเล็กน้อย “ซ่างกวนเทากับเวินอวี่โหรวมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนกับเหมยกงกงจึงตระหนักได้ว่าพวกเขามองข้ามหัวใจสำคัญของเื่นี้ไป เวินจื่อเจี๋ยให้ผลประโยชน์แก่ห้องยาสำนักหมอหลวงเพื่อช่วยเวินอวี่โหรวเลื่อนตำแหน่ง แล้วซ่างกวนเทาเล่า?
ซ่างกวนเทาเป็ถึงหัวหน้าผู้ดูแล เขามีตำแหน่งที่สูงกว่าเวินจื่อเจี๋ยอยู่หนึ่งขั้น ถ้าเขาไม่ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง เขาจะยอมส่งเสริมและช่วยเวินจื่อเจี๋ยปกปิดหรือ? เวินจื่อเจี๋ยเอื้อผลประโยชน์ทั้งหมดให้ห้องยาสำนักหมอหลวง ซ่างกวนเทาจะไปคว้าผลประโยชน์มาจากที่ใด?
ก่อนที่กูเฟยเยี่ยนจะออกมาจากเมืองจิ้นหยาง นางได้ไปตรวจสอบบัญชีเก่าแล้ว สามปีมานี้ห้องยาสำนักหมอหลวงจัดซื้อสมุนไพรกับหอการค้าเสวียนคงไม่น้อยเลย และราคาบนบัญชีก็เป็ราคาปกติ ซึ่งมันหมายความว่าผลประโยชน์ที่เวินจื่อเจี๋ยมอบให้ ที่จริงแล้วไม่ได้เข้ากระเป๋าห้องยาสำนักหมอหลวง แต่เข้ากระเป๋าซ่างกวนยิงหงกับคนอื่นๆ
เมื่อคิดได้เช่นนี้กูเฟยเยี่ยนจึงอุทานออกมา “หัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวนกับซ่างกวนยิงหงมีสกุลเดียวกัน! สองคนนี้ถึงจะเป็พวกเดียวกัน! ”
จวินจิ่วเฉินคิดแบบนี้เช่นกัน เขาจึงเอ่ยอย่างเ็า “เกรงว่าพี่น้องตระกูลเวินจะเป็เพียงแค่หมากตัวหนึ่ง”
กูเฟยเยี่ยนนับถือซ่างกวนเทาที่เป็หัวหน้าผู้ดูแลจริงๆ เขายืมมือของเวินจื่อเจี๋ยกับห้องยาสำนักหมอหลวงเทียนเหยียน ผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตนเอง ความเสี่ยงล้วนตกอยู่พี่น้องตระกูลเวินกับห้องยาสำนักหมอหลวง
เพื่อที่จะช่วยให้น้องสาวได้เลื่อนตำแหน่ง เวินจื่อเจี๋ยจึงติดสินบนผู้ดูแลห้องยาสำนักหมอหลวง เหตุผลข้อนี้ฟังขึ้นมาก! และหากว่าวันข้างหน้าความลับถูกเปิดออก ต่อให้เวินจื่อเจี๋ยให้การไปที่หัวหน้าผู้ดูแลก็ไร้ซึ่งหลักฐานใดๆ ! เนื่องจากเขาไม่ได้เข้าร่วมโดยตรง อีกทั้งผลประโยชน์ต่างๆ ก็ไม่ได้ผ่านมือเขาโดยตรง มันจะเป็เช่นเดียวกับกลอุบายสามแสนเหรียญทอง!
ครั้นกูเฟยเยี่ยนนึกถึงสีหน้าเย่อหยิ่งของเวินอวี่โหรว หญิงสาวจึงอดไม่ได้ที่จะสงสารนาง เวินอวี่โหรวโอ้อวดว่าตนเองมีลูกพี่ลูกน้องเป็ถึงกรรมการบริหารหอการค้า แต่ไม่รู้ว่าตนเองถูกลูกพี่ลูกน้องใช้ั้แ่แรกแล้ว!
กูเฟยเยี่ยนกับจวินจิ่วเฉินครุ่นคิดด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะจริงจัง เพราะเป้าหมายของพวกเขาในยามนี้จะไม่ใช่เวินจื่อเจี๋ยอีกต่อไป แต่เป็หัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวน!
ทว่าเหมยกงกงกลับเอ่ยขึ้นมาอย่างวิตกกังวล “เตี้ยนเซี่ย ศาสตราจารย์แพทย์กู หัวหน้าผู้ดูแลจะต้องปกปิดเื่ราวการค้าขายสุราสมุนไพรของพวกเราต่อเถ้าแก่เฉิงอย่างแน่นอน เขาไม่มีทางให้พวกเราเข้าพบเถ้าแก่เฉิง! คราวนี้ทำอย่างไรดี? ”
“วางแผนระยะยาว อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”
จวินจิ่วเฉินเรียกตัวหมางจ้งเข้ามาพลางออกคำสั่ง “ตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงของซ่างกวนยิงหง ทางที่ดีคือหาหลักฐานการติดต่อระหว่างนางกับซ่างกวนเทาด้วย”
ด้วยเหตุนี้กูเฟยเยี่ยนจึงยืดเวลาของหัวหน้าผู้ดูแลออกไปพลางรอคอยข่าวจากหมางจ้ง ทว่าสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาคือนอกจากหมางจ้งจะสืบหาความสัมพันธ์ระหว่างซ่างกวนเทากับซ่างกวนยิงหงไม่พบแล้ว เขากลับนำข่าวร้ายกลับมาแทน ครอบครัวของซ่างกวนยิงหงทั้งหมดหายตัวไป
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซ่างกวนยิงหงกลัวกูเฟยเยี่ยนตรวจสอบ นางจึงหลบหนีไปด้วยความหวาดผวา
คราวนี้เื่ราวชักจะยากขึ้นแล้ว!
ประการแรกคือไม่มีหลักฐานในการกล่าวโทษหัวหน้าผู้ดูแล ถ้าทำเพียงแค่บอกความจริงแก่เวินจื่อเจี๋ยมันจะมีค่าไม่ต่างกันนัก ประการที่สองคือมีการใช้ซานชีเ่าั้แล้ว กูเฟยเยี่ยนก็ไม่อาจใช้ฐานะของศาสตราจารย์แพทย์ห้องยาสำนักหมอหลวงไปร้องเรียนต่อเถ้าแก่เฉิงได้ ประการที่สามคือภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน พวกเขาก็ยากที่จะได้พบเถ้าแก่เฉิง!
กูเฟยเยี่ยนคิดไปคิดมา สุดท้ายจึงคิดแผนการอันดุร้ายออกมา
นางคิดว่าในเมื่อพวกเขาไม่อาจเข้าพบเถ้าแก่เฉิงได้ ดังนั้นก็ให้เถ้าแก่เฉิงมาพบพวกเขาสิ!
ในวันเดียวกัน กูเฟยเยี่ยนก็พาจวินจิ่วเฉินกับเหมยกงกงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนั้นก็คือหอโคมเขียว! นางทำการติดสินบนแม่เล้า ปลอมตัวเป็ยอดพธู [1] ที่มาใหม่ แล้วเขียนป้ายไว้หน้าประตูว่า “ผู้ที่สามารถเอาชนะความสามารถในการดื่มสุราของเถ้าแก่เฉิงได้จะสามารถเข้าไปยลโฉมใบหน้าที่แท้จริงของยอดพธูได้! ”
ไม่ต้องกลัดกลุ้มว่าเื่ในหอโคมเขียวจะไม่แพร่กระจายออกไป สองถึงสามวันต่อมา เื่นี้ก็กลายเป็ประเด็นร้อนที่ผู้คนทั่วทั้งเมืองลั่วเสียต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กัน ทุกคนต่างก็สงสัยว่าเหตุใดยอดพธูถึงได้ตั้งกฎเกณฑ์เช่นนี้ เหตุใดนางถึงใช้ความสามารถในการดื่มสุราของเถ้าแก่เฉิงมาเป็มาตรฐาน
กูเฟยเยี่ยนให้แม่เล้าปล่อยข่าวอีกว่าความสามารถในการดื่มสุราของนางอยู่ในขั้นเดียวกันกับเถ้าแก่เฉิง ฉะนั้นจึงตั้งกฎเกณฑ์เช่นนี้
ครั้นข่าวนี้กระจายออกไป ผู้คนในเมืองลั่วเสียต่างก็แตกตื่นกันหมด
ต้องทราบเอาไว้ว่าเถ้าแก่เฉิงคือผู้ที่คอแข็งที่สุดในดินแดนเสวียนคง ดังนั้นยอดพธูอย่างนางที่เป็สตรีจะอยู่ในขั้นเดียวกันกับเถ้าแก่เฉิงได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่การยกระดับตนเอง แต่เป็การลดระดับเถ้าแก่เฉิง!
ไม่ช้าก็มีคนมาหาถึงที่ คนผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็ฟูเหรินของเถ้าแก่เฉิง ซ่างกวนเฉิงเอ๋อร์
เหมยกงกงเริ่มร้อนใจ “ศาสตราจารย์แพทย์กู ท่านดูสิ ข้าพเ้าบอกไว้แล้วว่าเถ้าแก่เฉิงจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับท่าน ผู้ที่มาจะต้องเป็ฟูเหรินของเขาอย่างแน่นอน! ข้าพเ้าได้ยินมาว่าฟูเหรินท่านนี้ไม่ใช่ผู้ที่มีเมตตา จิตใจของนางอำมหิตยิ่งกว่าบุรุษเสียอีก! ”
กูเฟยเยี่ยนทราบว่าไม่มีทางที่เถ้าแก่เฉิงจะมา นางเล่นละครฉากนี้เพื่อรอเถ้าแก่เนี้ย ถ้าไม่พบเถ้าแก่เนี้ยก่อน จะไปมีโอกาสพบเถ้าแก่เฉิงได้อย่างไร?
นางี้เีสนใจเหมยกงกง แต่หันไปมองจวินจิ่วเฉินแทน “เตี้ยนเซี่ย พวกท่านหลบก่อนเถอะ หม่อมฉันรับรองว่าวันพรุ่งนี้เถ้าแก่เนี้ยจะพาพวกเราไปพบเถ้าแก่เฉิงอย่างแน่นอน!”
————
เชิงอรรถ
[1] ยอดพธู หมายถึง คำในสมัยก่อนที่ใช้อุปมานางโลมที่สวยงามและมีชื่อเสียงโด่งดัง