กลิ่นหอมของสุราลอยโชยเข้ามาในจมูก “ดีมาก ข้ารับคำขอโทษจากท่าน”
หนิงมู่ฉือให้นักพรตน้อยช่วยยกสุราสองไหกลับไปที่จวนให้ด้วย ส่วนตัวเองเดินทางกลับพร้อมกับหน่อไม้เต็มห่อผ้า
ไม่นานก็เดินทางมาถึงจวนของท่านตา นางลงจากม้าอย่างดีอกดีใจ ครั้นหลิงชีเห็นนางมาปรากฏตัวตรงหน้า สีหน้าพลันตกตะลึง ก่อนจะยิ้มอย่างดีใจและวิ่งเข้ามาสวมกอดนาง
“คุณหนู ในที่สุดท่านก็กลับมาสักที ทะเลทรายมีแต่อันตราย ข้านึกว่าท่านจะไม่กลับมาเสียแล้ว!”
เห็นหลิงชีร้องห่มร้องไห้ นางนึกสงสารอีกฝ่ายจึงยื่นมือไปลูบหลังให้อย่างปลอบโยน “ข้าก็กลับมาแล้วนี่ เ้าไม่ต้องเป็ห่วงนะ”
หลิงชีพยักหน้า ทว่าเมื่อสายตาเลื่อนไปเห็นจ้าวซีเหอที่จ้องเขม็งมายังตัวเองก็รู้สึกเสียววูบไปทั้งตัว เอ่ยถามอย่างใ “เหตุใดท่านถึงตามมาด้วย!”
จ้าวซีเหอมีสีหน้าทะมึนขณะดึงหนิงมู่ฉือเข้ามากอด ราวกับโมโหที่เมื่อครู่ถูกหลิงชีกอด “เขาเป็ผู้ชาย เ้าไปกอดกับเขาได้อย่างไร”
หนิงมู่ฉือกลอกตามองบนอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ขณะเอาตัวออกจากอ้อมกอดของจ้าวซีเหอ “เขาอายุแค่สิบสองเท่านั้น ข้าเห็นเขาเป็เพียงน้องชาย”
“แบบนั้นก็ไม่ได้!” จ้าวซีเหอเอ่อด้วยสีหน้าจริงจัง
ซั่งกวนหลี่ได้ยินเสียงหนิงมู่ฉือ มองออกไปด้านนอกจวนอย่างไม่เชื่อสายตา ครั้นเห็นว่าเป็หนิงมู่ฉือจริงๆ ยิ้มอย่างดีใจพร้อมกับประคองท่านตาเดินออกมาด้านนอก
“นางหนู จู่ๆ ก็ไปโดยไม่บอกไม่กล่าว รู้หรือไม่ว่าตาเป็ห่วงเพียงใด” ท่านตาที่เป็ห่วงหนิงมู่ฉือมาตลอด เมื่อเห็นว่าหนิงมู่ฉือกลับมาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
จากนั้นหันไปมองจ้าวซีเหอด้วยแววตาชื่นชม ก่อนจะนึกถึงเฉินเกอขึ้นมา แค่นเสียงฮึขึ้นจมูกอย่างเ็า “ฉือเอ๋อร์ เ้าตกหลุมพรางของคนแซ่เฉินนั้นใช่หรือไม่ ถูกเขาหลอกไปที่ทะเลทรายใช่หรือไม่”
หนิงมู่ฉือส่ายหน้า อ้าปากค้างตาโต นางอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน “ไม่ใช่เ้าค่ะท่านตา ข้าแค่กลัวว่าระหว่างทางเขาจะได้รับอันตรายจึงตามไปด้วยเ้าค่ะ”
ซั่งกวนหลี่พาหนิงมู่ฉือและจ้าวซีเหอเข้ามาในห้อง “เอาละ คุณหนูกลับมาก็ดีแล้ว รีบเข้ามาในห้องก่อนเถิด ยืนอยู่ข้างนอกนานๆ ไม่ดี”
หลังจากเข้ามาในห้อง ซั่งกวนหลี่รินชาให้จ้าวซีเหอพร้อมกับมองชายหนุ่มอย่างขอบคุณ “ขอบคุณคุณชายมากที่พาคุณหนูกลับมาอย่างปลอดภัย ข้ากับนายท่านซาบซึ้งใจเป็อย่างมาก”
หนิงมู่ฉือหันไปมองจ้าวซีเหออย่างประหลาดใจ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงกระซิบ “ท่านมาที่จวนท่านตาข้าได้อย่างไร”
หลิงชีเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้ “ไม่เห็นจะน่าแปลกตรงไหนเลย หากเป็ข้า ข้าก็สามารถพาคุณหนูกลับมาได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน”
“หลิงชี!” ซั่งกวนหลี่หันไปดุ
หลิงชีรีบหุบปากฉับก่อนจะเดินไปนวดไหล่หนิงมู่ฉืออย่างเอาอกเอาใจ ทว่าหนิงมู่ฉือไม่ชินกับการนวดจึงร้องออกมาด้วยความเ็ป “หลิงชี เ้านวดแรงเกินไปแล้ว ข้าเจ็บ!”
หลิงชีชักมือกลับอย่างกระอักกระอ่วน ยิ้มแห้ง พร้อมกับถูมือไปมาอย่างรู้สึกผิด “คุณหนู ข้าแค่ดีใจที่เห็นท่านกลับมาก็เท่านั้น”
หนิงมู่ฉือเห็นอีกฝ่ายเอาอกเอาใจตัวเองเป็พิเศษก็รู้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างแน่ “พูดมาว่าอยากกินอะไร เดี๋ยวข้าทำให้”
“คุณหนูรู้ใจข้าที่สุดเลย เดาออกด้วย ข้านับถือ!” หลิงชียิ้มพร้อมกับยกนิ้วโป้งชมเชย
หนิงมู่ฉือยกมือขึ้นกอดอก “เ้าคิดเื่ใดอยู่เหตุใดข้าจะไม่รู้ บอกมาว่าอยากกินอะไร”
เมื่อกล่าวถึงเื่ของกิน ทุกคนต่างหันไปมองหนิงมู่ฉือ ซั่งกวนหลี่นึกถึงอาหารเลิศรสที่หนิงมู่ฉือทำก็เริ่มน้ำลายสอ ท้องเริ่มส่งเสียงร้อง “คุณหนู ั้แ่คุณหนูไม่อยู่ นายท่านก็ทานอะไรไม่ได้เลย คุณหนูดูนายท่านสิขอรับ ผ่ายผอมลงไปมาก”
หนิงมู่ฉือหันไปมองท่านตา ยื่นมือไปกุมมือท่านตาเอาไว้ “ท่านตา เป็ฉือเอ๋อร์ที่อกตัญญู ทำให้ท่านต้องลำบาก”
ท่านตามองหนิงมู่ฉืออย่างรักใคร่ ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า “ไม่เป็ไรหรอก”
“่นี้ท่านตามีอาการเลอะเลือนอีกหรือไม่”
“ไม่มีขอรับ จะว่าไปก็น่าแปลก ั้แ่นายท่านทานอาหารที่คุณหนูทำ ก็ไม่มีอาการเลอะเลือนอีกเลย”
หนิงมู่ฉือถอนหายใจอย่างโล่งอก ลุกขึ้นยืน ถูไม้ถูกมือพร้อมกับจะเดินเข้าไปในห้องครัว ทว่ากลับถูกท่านตารั้งแขนเอาไว้เสียก่อน “นางหนู ตาอยากถามเ้า เ้ากับชายหนุ่มที่กลับมาด้วยกันวันนี้ อีกเดี๋ยวจะกลับไปเมืองหลวงด้วยกันใช่หรือไม่”
หนิงมู่ฉือมองแววอาลัยอาวรณ์ในดวงตาของท่านตา นางนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา “ท่านตา ข้าจำเป็ต้องกลับไปจริงๆ เ้าค่ะ ข้ายังไม่ได้ทวงความยุติธรรมให้ท่านพ่อ ในใจข้ารู้สึกไม่สงบสุขเอาเสียเลย”
ท่านตาถอนหายใจออกมา “จำเป็ด้วยหรือ เ้าเป็สตรี จะรับภาระหนักเช่นนั้นได้เยี่ยงไร”
เวลานี้เองที่จ้าวซีเหอเอ่ยออกมา “ท่านตาไม่ต้องเป็ห่วงนะขอรับ มีข้าอยู่”
ท่านตามองจ้าวซีเหอด้วยแววตาไม่เป็มิตร “เ้าเนี่ยหรือ”
“ใช่ขอรับ ข้าจะอยู่เคียงข้างนางเอง”
ท่านตามองจ้าวซีเหอด้วยแววตาลุ่มลึก ก่อนจะหันไปมองหนิงมู่ฉือ ในใจพอจะคาดเดาบางอย่างได้บ้าง “ข้าคงจะแก่แล้ว จึงไม่เข้าใจความคิดของคนหนุ่มสาวเช่นพวกเ้า”
“ท่านตาอย่าโมโหไปเลยเ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะไปทำของที่ทั้งอร่อยและช่วยบำรุงร่างกายให้ท่านทานนะเ้าคะ” หนิงมู่ฉือยิ้มเอาใจ ก่อนจะบอกให้ท่านตารอสักครู่
นางเดินเข้าไปในห้องครัว โดยมีหลิงชีเดินตามเข้ามา ครั้นเห็นนางยุ่งกับการเตรียมวัตถุดิบก็เอ่ยถามออกมาว่า “คุณหนู มีงานใดให้ข้าช่วยหรือไม่ขอรับ”
นางเหลือบมองหลิงชี “เนื้อแห้งที่ข้าสอนเ้าเมื่อคราวที่แล้วเ้าทำเป็แล้วหรือยัง”
“เอ่อ…คือ…” หลิงชีลูบศีรษะพร้อมกับยิ้มแห้ง
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเ้ายังต้องทำไม่เป็ ช่างเถิด ไม่ต้องมาช่วยข้าหรอก เดี๋ยวจะทำให้วัตถุดิบเสียหาย ซีเหอ ท่านมาช่วยข้าหน่อย” นางพูดกับจ้าวซีเหอที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างขณะซอยมันฝรั่ง
ด้านหลิงชี เมื่อนึกถึงว่าอีกไม่กี่วันหนิงมู่ฉือจะต้องกลับไปเมืองหลวงก็น้ำหูน้ำตาไหล
นางมองอย่างสงสัย “เป็อะไรไป ผู้ใดรังแกเ้า เหตุใดถึงได้ร้องไห้”
หลิงชีใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาและน้ำมูกที่ไหลออกมา “คุณหนู เมื่อครู่ข้าได้ยินท่านบอกว่า ท่านจะต้องกลับไปเมืองหลวง ข้าไม่อยากให้ท่านกลับไปเลย”
นางถอนหายใจออกมา นางก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าทุกคนต้องรู้สึกเศร้าที่รู้ว่านางจะต้องกลับไปเมืองหลวง