หลังจากเอาโทรศัพท์กลับเหวยเสียวเหล่ยเกือบจะอยากโดดลงูเาทั้งที่เขาเป็คนลักพาตัวสวี่รั่วโหรวและขู่ฆ่าฉินเฟิงแท้ๆแต่พวกมันยังมีอารมณ์พูดเื่ดนตรีได้อย่างไร?
แค่สะบัดมือเขาก็ปาโทรศัพท์ทิ้งจากยอดเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึงเขาบอกกับตัวเองว่าเขาจะให้ฉินเฟิงมันอารมณ์ดีไปก่อนและเมื่อการแข่งขันเริ่มแล้วเขาจะให้วิลเลียมส์ฆ่ามันระหว่างทางดังนั้นให้มันได้อวดดีไปเถอะ แล้ว...เขาจะช่วยเปิดซิงสาวสวยบริสุทธิ์คนนี้ให้เอง
หลังจากคิดเื่นี้ริมฝีปากของเหวยเสียวเหล่ยก็แสยะยิ้มและอารมณ์ดีมากขึ้น
ในเวลานี้ด้านล่างของเขาโค้งงูเหล่านายน้อยแย่งกันสมัครเป็คนแรกสำหรับลูกคุณหนูพวกนี้แล้วเงิน 200,000 นั้นไม่มากไปเลยรางวัลชนะเลิศของเหวยเสียวเหล่ยล่อตาล่อใจนายน้อยล่ำซำทุกคนด้วยความหวังในใจทุกคนจึงคิดว่าสามารถเอาชนะเลิศได้
ฉินเฟิงไม่ได้เป็ส่วนหนึ่งของฉากวุ่นวายนี้เขาจอดจักรยาน 28 นิ้ว ในมุมเงียบๆ และนั่งมันเขาเงยหน้าขึ้นและชื่นชมดวงจันทร์ การแข่งขันนี้ไม่ได้ซีเรียสสำหรับเขาเขาสามารถชนะรถสปอร์ตหรูพวกนี้ได้ด้วยจักรยาน 28 นิ้วอยู่แล้ว
พวกเขาสมัครเสร็จอย่างรวดเร็วและพร้อมที่จะขึ้นรถตัวเองอุ่นเครื่องยนต์ทันใดนั้นเสียงยางรถเบรกถนนแสบแก้วหูตามด้วยการปรากฏตัวของปอร์เช่ 911 สีดำที่ดริฟต์อย่างสวยงามและจอดอยู่ท่ามกลางผู้คน
เมื่อตัวรถจอดสนิทและประตูถูกเปิดขึ้นส้นสูงสีม่วงคู่หนึ่งก็ก้าวออกมา แม้พวกเขาจะยังไม่เห็นใบหน้าของผู้หญิงแต่ขาเรียวยาวเหมือนหยกที่สวยงามก็ทำให้สายตาของพวกเขาสดใสเธอใส่ชุดสีม่วงอ่อนกับการออกแบบลายครามสีฟ้าขาวที่ปักลงบนเสื้อผ้าเธอออกจากรถและเดินมาในพื้นที่สมัครอย่างสบายๆ
ผู้หญิงคนนี้มีผมสลวยที่ถูกถักอยู่บนหัวและเผยกระดูกไหปลาร้าขาวเนียนคิ้วของเธอทั้งยาวและบาง ั์ตาของเธอเด่นชัด จมูกเหมือนหยก ดวงตาเป็รูปอัลมอนด์และริมฝีปากก็แดงธรรมชาติ
เธอไม่ใช่แค่สวยแต่ยังดูโดดเด่นแบบมีระดับอีกด้วยก้าวเล็กๆ ของเธอเหมือนกับดอกบัว ทั้งสง่างามและบริสุทธิ์ มีมารยาทสุภาพเรียบร้อยเพียงแค่แวบเดียวก็บอกได้ว่าเธอคือคุณหนูจากตระกูลใหญ่ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี
แม้แต่ฉินเฟิงก็ยังอดมองไม่ได้ั้แ่ที่เขาเห็นหลินเป้ยเป้ยใส่ชุดกี่เพ้า มาตรฐานของเขาก็สูงขึ้นมากอย่างไรก็ตามหลังจากที่เห็นซูชิวเยว่ในชุดกี่เพ้าสีม่วงในรูปแบบคลาสสิกดวงตาของเขาก็สดใสขึ้น
ตอนที่หลินเป้ยเป้ยใส่กี่เพ้ามันเหมือนกับความสวยที่อยู่ในห้วงความฝันตรงกันข้ามกับกี่เพ้าของซูชิวเยว่ที่ดูสง่ากว่ามากทุกการเคลื่อนไหวของเธอปล่อยบรรยากาศความมั่งคั่งขึ้นมา
“ว้าว นั่นคือเ้าหญิงของตระกูลซูแห่งเมืองเทียนเฉิง ซูชิวเยว่ไม่ใช่เรอะ?”
“ใช่แล้ว เธอล่ะ เธอรู้จักในฐานะ ‘สาวสวยอันดับหนึ่งแห่งนครเทียนเฉิง’ ”
“ซูชิวเยว่สินะ พอเห็นเธอวันนี้ข่าวลือไม่ได้กล่าวเกินจริงไปเลยเธอสวยมาั้แ่เกิดและมีความสง่างามจนทำให้คนอยากชนะใจเธอ”
การมาถึงของซูชิวเยว่ทำให้สถานการณ์ตื่นเต้นอีกครั้งเมื่อพวกเขาคิดเื่ที่สาวสุภาพเรียบร้อยและสง่างามคนนี้เพิ่งดริฟต์และจอดอย่างสวยงามทำให้หัวใจของพวกเขาเคลิบเคลิ้ม
ซูชิวเยว่ไม่ได้สนใจสายตาหรือการพูดคุยพวกนั้นั้แ่แรกที่เธอลงจากรถ ใบหน้าของเธอก็ยังคงรอยยิ้มไว้เล็กน้อยนี่เป็นิสัยที่เธอโตขึ้นในฐานะลูกหลานของตระกูลใหญ่ รอยยิ้มที่สงบและมีเสน่ห์ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนโดนชำระล้างโดยสายลมฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อซูชิวเยว่มาถึงที่สมัครเธอยื่นมือที่เนียนเหมือนหยกและหยิบบัตร ATM ออกมา...เธอก็เข้าร่วมการแข่งรถใต้ดินนี้ด้วยด้วยเหตุนี้การแข่งคืนนี้จึงเริ่มน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ทุกคนสมัครเสร็จแล้วไฟหน้าของลัมโบร์กีนีเรเบนตันก็ส่องสว่างจากยอดเขาโค้งงูอีกครั้งเหวยเสียวเหล่ยพูดออกลำโพง
“ความกระตือรือร้นของทุกคนเกินความคาดหมายของฉันเลยหลังจากรวบรวมรายชื่อแล้ว มีผู้เข้าร่วมในการแข่งใต้ดินของฉันรวมแล้ว 105 คนด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดเช่นนี้ฉันเชื่อว่าการแข่งคืนนี้จะต้องน่าตื่นเต้นอย่างมากแน่ๆทุกคนที่นี่คือนายน้อยผู้ร่ำรวย ดังนั้นสิ่งที่เรา้าก็คือความเร้าใจเรา้าความรุ่มร้อน พวกนายทุกคนพูดว่าไง? ตื่นเต้นเร้าใจกันหรือเปล่า?”
“ตื่นเต้น! เร้าใจ!” พื้นที่ด้านล่างดังขึ้นมาอย่างสมานฉันท์ทันที
ด้วยการที่มีเรเบนตันและสวี่รั่วโหรวเป็รางวัลและสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเทียนเฉิง ซูชิวเยว่ ก็เข้าร่วมการแข่งนี้พวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?
“ดีมาก งั้นฉันจะไม่เสียเวลาทุกคนอีกต่อไปให้ความตื่นเต้นในค่ำคืนนี้มันทะยานขึ้นจุดสูงสุดกันเถอะฉันขอประกาศว่าการแข่งขันใต้ดิน ณ เขาโค้งงูในค่ำคืนนี้ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็ทางการผู้เข้าท้าชิงทั้งหลาย โปรดจัดแถวยานพาหนะของท่านและรอคำสั่งของฉันต่อไป”
คำพูดของเหวยเสียวเหล่ยทำให้บรรยากาศถึงจุดสูงสุดผู้ชมทั้งหลายเริ่มขึ้นรถของตัวเองทีละคนซูชิวเยว่ก็เดินไปยังรถของเธอด้วยการก้าวที่เหมือนดอกบัวเมื่อสายตาของเธอกวาดไปมองฉินเฟิงโดยไม่ได้ตั้งใจรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าก็เปลี่ยนทันที เธอมองฉินเฟิงด้วยความตะลึง
เธอเห็นเขานั่งบนจักรยาน28นิ้ว โบราณพร้อมกับใบหน้าที่เงยขึ้นเพื่อชื่นชมพระจันทร์แสงจันทร์สาดส่องลงบนใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขา ทำให้ดูเงียบสงบ
ฉากนี้เหมือนกับบทกวีหรือภาพวาดเมื่อเทียบฉากนี้กับฉากเริ่มการแข่งขันที่เร่าร้อนของอีกฝั่งซูชิวเยว่ยิ้มเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้เธอถอนสายตาพร้อมกับเริ่มสตาร์ทเครื่องและเริ่มอุ่นเครื่องยนต์“คนคนนี้น่าสนใจใช้ได้”
เครื่องยนต์ของรถกว่าร้อยคันดังกระหึ่มเสียงที่เหมือนฟ้าร้องดังจากด้านล่างของเขาโค้งงู เมื่อฉินเฟิงเห็นทุกคนกำลังอุ่นเครื่องยนต์เขาก็ขี่จักรยาน 28 นิ้ว อย่างช้าๆผ่านรถทีละคันและไปที่รถสปอร์ตคันหลังสุด
การเคลื่อนไหวนี้เป็ที่ต้องตาของผู้คนทันทีพวกเขาอ้าปากค้างในรถด้วยความประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้มีบางคนเห็นฉินเฟิงและเยาะเย้ยเขาตอนที่เห็นเขาขี่จักรยานเก่าๆมาที่นี่เพื่อเรียกร้องความสนใจ
ตอนนี้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนเห็นฉินเฟิงกำลังขี่จักรยาน28นิ้ว อย่างสบายๆผ่านรถของพวกเขาเหมือนโดนหยุดเวลา...พวกเขาสงสัยว่าเห็นภาพหลอนหรือเปล่า
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็สั่นะเืไปทั้งโลก
“เวรเอ๊ย ไอ้หมอนี่มันขี่จักรยานมาแข่งจริงๆ หรือวะ? น้ำมันไหลเข้าสมองไปกี่ลิตรวะเนี่ย?”
“ฮ่าๆๆ ปกติฉันก็ชอบทำตัวเด่นนะแต่วันนี้ฉันได้เห็นการทำตัวเด่นขั้นสูงสุดเลยว่ะ มันใช้ทั้งชีวิตเพื่อทำเป็เด่นถ้าการแข่งเริ่มเมื่อไร ไอเสียจากรถฉันคงฆ่าไอ้บ้านี่แน่”
“ไอ้หมอนี่มันงี่เง่าจริงๆ แต่ทำไมหน้าตามันดูคุ้นๆ จังวะ?”
ดวงจันทร์ส่องแสงสลัวและคนส่วนใหญ่ก็เห็นหน้าของฉินเฟิงเพียงครึ่งเดียวไม่มีใครรู้ว่าตัวจริงของเขาคือนายน้อยเ้าสำราญอันดับหนึ่งแห่งเมืองเว่ยเฉิงไม่อย่างนั้นเหตุการณ์ตอนนี้คงจะพลิกกลับเป็แน่
หลังจากผ่านรถของซูชิวเยว่ฉินเฟิงก็ช้าลง หน้าต่างของเธอเปิดลงจนใบหน้าที่งดงามของเธอฉายให้เห็นซูชิวเยว่มองฉินเฟิงอย่างเอาจริงเอาจังสายตาทั้งคู่ต้องกันและยานพาหนะก็ผ่านกันและกัน
“สาวสวยคุณภาพอีกคนแล้ว!” หลังจากออกห่างจากรถของซูชิวเยว่ฉินเฟิงก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ติ๊ง...ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ :ยึดครองบริษัทของตระกูลซูแห่งเมืองเทียนเฉิง!”
“ระยะเวลาภารกิจ : 3 เดือน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงจะได้รับแต้มสำราญ 10,000 แต้มเป็รางวัลหากล้มเหลว โฮสต์จะเสียอายุขัย 5 ถึง 10 ปี”
...
จู่ๆเสียงไร้อารมณ์ก็ดังขึ้นมาในหัว
“บัดซบ ไม่มีเหตุผลเอาซะเลยแกอยากให้ฉันยึดครองบริษัทของตระกูลซูแห่งเมืองเทียนเฉิงเนี่ยนะ? บริษัทที่พวกเขาอุตส่าห์สร้างมาด้วยเื หยาดเหงื่อ และน้ำตา? ไม่ใช่ว่านี่บังคับให้ฉันเป็คนเลวเหรอ?” หัวใจที่มีความชอบธรรมของฉินเฟิงะเิออกมาทันทีเขาคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว
“นายท่าน ในระบบซูชิวเยว่ก็นับเป็ส่วนหนึ่งของบริษัทตระกูลซูแห่งเมืองเทียนเฉิงด้วยนะ”เ้าหมูน้อยกล่าวอย่างดูถูก
“งั้นยึดสินทรัพย์ของตระกูลซูแห่งเมืองเทียนเฉิงนี่ก็รวมถึงซูชิวเยว่ด้วยสินะ”ใบหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนทันทีและหัวเราะด้วยความพอใจ “ดีมากภารกิจนี้มีมนุษยธรรมดีจริงๆ!”
...
รถหรูทุกคันพร้อมแล้วพวกเขาแค่รอเหวยเสียวเหล่ยที่อยู่บนยอดเขาะโว่า ‘เริ่ม’ เท่านั้น
เหวยเสียวเหล่ยยกธงสีขึ้นขณะที่ยืนอยู่บนยอดเขาโค้งงูและกำลังมองลงมาตรงรถหรูต่างๆภายใต้เขา หัวใจของเขาพองโตไปด้วยความภูมิใจที่พูดไม่ออกตอนนี้ทุกคนที่นี่กำลังรอคำสั่งของเขาถ้าเขาไม่พูดอะไรไอ้บ้าพวกนั้นก็ทำได้แค่รอการแข่งขันเริ่มอย่างกระวนกระวายเท่านั้น
“พร้อม ระวัง ไป!” หลังจากยื้อเวลามานานจนพอใจกับความไร้สาระของเขาแล้วเหวยเสียวเหล่ยก็ะโออกลำโพง
ทันใดนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มไปทั้งหุบเขาบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่และรุนแรงเหมือนกับนักรบที่ออกไปพิชิตจักรวาล
จักรยาน28นิ้ว ของฉินเฟิงอยู่ท้ายสุด รถทั้งหลายพุ่งไปข้างหน้าต่อหน้าเขาทีละคันไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็หายไปหลังโค้งแรก ตอนนี้เขาขี่จักรยาน 28 นิ้ว ของเขาไปยังเส้นทางการแข่ง
“เวรเอ้ย ไอ้เวรนี่มันมาที่นี่เพื่อจ่ายตลาดหรือไง?” ั้แ่แรกเหวยเสียวเหล่ยจับตามองฉินเฟิงและการเคลื่อนไหวของเขา เมื่อเขาเห็นว่าฉินเฟิงเคลื่อนที่ช้าเหมือนเต่าเขาก็อดที่จะะโออกมาไม่ได้
ตามแผนดั้งเดิมเหวยเสียวเหล่ยวางแผนจะให้วิลเลียมส์ก่ออุบัติเหตุระหว่างการแข่งขัน อย่างไรก็ตามถ้าฉินเฟิงแข่งอย่างเชื่องช้าแบบนี้ วิลเลียมส์คงจะไม่เห็นเขาแล้วเขาจะสร้างอุบัติเหตุได้อย่างไร?
เหวยเสียวเหล่ยหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาวิลเลียมส์“วิลเลียมส์ ฉันคิดว่านายต้องช้าหน่อยไอ้เวรนี่มันเพิ่งเริ่มและมันช้าเหมือนเต่าฉิบหาย มันยังไม่ผ่านแม้แต่โค้งแร...”
ในท่ามกลางประโยคเหวยเสียวเหล่ยก็แข็งทื่อทันทีเขาถือกล้องส่องทางไกลและมองจุดที่ฉินเฟิงอยู่ก่อนหน้านี้แต่ก็ไม่เห็นเขาแม้แต่รอย
“พี่เหวยเสียวจัง งั้นผมหยุดรถไว้ข้างทางรอมันมานะ”
“พี่เหวยเสียวจัง พูดอะไรหรือเปล่า?”
“พี่เหวยเสียวจัง ยังอยู่ไหมเนี่ย?”
เหวยเสียวเหล่ยตะลึงงันเขาตกตะลึงโดยสิ้นเชิงเหมือนกับเห็นผี และเขาก็สงสัยว่าเขาเห็นผีหรือเปล่าไม่อย่างนั้นฉินเฟิงจะหายจากจุดสตาร์ทไปยังกลางูเาได้อย่างไร? ความเร็วของเขาตอนนี้เหมือนกับจรวดแตกต่างแค่ว่าเขาเป็จรวดที่วิ่งบนถนน
ทุกครั้งที่เขาหายไปเหวยเสียวเหล่ยก็ต้องขยับกล้องส่องทางไกล ฉินเฟิงขี่จักรยาน 28 นิ้ว เหมือนกับผีสางในความมืด ล่องลอยด้วยความเร็วเสมอต้นเสมอปลายไม่ถึงนาทีเขาก็วิ่งจากที่สุดท้ายผ่านรถแข่งคันที่5 แล้ว
“พี่เหวยเสียวจัง พี่เหวยเสียวจัง รีบพูดอะไรหน่อยสิ”
เสียงของวิลเลียมส์บ่นผ่านโทรศัพท์เขาพูดภาษาอังกฤษั้แ่แรกจนสุดท้าย เมื่อเหวยเสียวเหล่ยรู้สึกตัวจากอาการใสีหน้าของเขาก็หมองหม่นทันที “วิลเลียมส์ บอกหลายครั้งแล้วไงว่าอย่าเรียกฉันว่าพี่เหวยเสียวจัง ให้เรียกฉันชื่อเต็มเหวยเสียวเหล่ย!”