ไม่นาน คนบ้านหวางก็หารือกันเสร็จ ตัดสินใจให้สองพี่น้องบ้านหวางกับหวงซื่อออกเดินทางด้วยกัน หวางทงเป่าอยู่ที่หมู่บ้านต่อ
หวางทงเป่ารู้สึกว่าที่เจียงหงหย่วนให้เขาอยู่ต่อเพราะมีงานใหญ่ แต่เจียงหงหย่วนไม่พูด เขาจึงไม่ถาม
เขาพอจะมองออกว่าเหล่าต้าบ้านเจียงเป็คนมีอนาคตไกล เมื่อก่อนนี้แค่ถูกเหล่าเอ้อร์เป็ตัวถ่วงก็เท่านั้น ตอนนี้เมื่อเหล่าเอ้อร์หายดีแล้ว ไม่ต้องกินยาอีก ความเป็อยู่ของบ้านเจียงก็ดีขึ้นมาทันที
แต่แน่นอนว่าหลินหวั่นชิวก็มีวาสนาเช่นกัน แค่ย้ายเข้าบ้านเจียง เหล่าเอ้อร์ก็หายดี
อีกทั้งตัวนางก็เป็คนมีความสามารถ ไม่ว่าจะผ้าเช็ดหน้าหรือดอกไม้ลูกปัดก็มีช่องทางหาเงิน ช่วยให้สมาชิกสตรีในบ้านเขาได้มีเงินเก็บส่วนตัวเป็จำนวนมาก
คืนนั้น หลังจากที่หลินหวั่นชิวกับเจียงหงหย่วนกลับไป หวางกุ้ยเซียงเล่าเื่ที่หลินหวั่นชิวบอกก่อนหน้านี้ให้ท่านพ่อท่านแม่ตัวเองฟัง
“หวั่นชิวยึดหลักคุณธรรมมาก!” หวางทงเป่าชื่นชม
หวงซื่อได้ยินว่าทำดอกไม้ลูกปัดได้ดอกละยี่สิบอีแปะก็อยู่ไม่สุข พูดกับหวางโหย่วกุ้ยว่า “พ่อ เ้าไปกับน้องรองแค่สองคนได้หรือไม่ ข้าอยู่ช่วยท่านแม่กับน้องเขยทำดอกไม้ลูกปัด ได้ดอกละยี่สิบอีแปะเชียวนะ ขนาดช่างก่ออิฐยังได้ค่าแรงแค่วันละยี่สิบสามสิบอีแปะเอง”
หวางโหย่วกุ้ยมีท่าทีเช่นกันแต่ไม่ออกความเห็น มองท่านพ่อท่านแม่ตัวเองอย่างเคยชิน
หลิวซื่อตบหน้าอกเบาๆ พูดว่า “ดอกละยี่สิบอีแปะ พวกเราสามารถซื้อยายเฒ่ามาเป็บ่าวใช้ช่วยงานที่บ้าน เราสามคนจะได้จดจ่อกับการทำดอกไม้ลูกปัด”
ยายเฒ่าคนหนึ่งจะราคาเท่าไรกันเชียว พวกนางตั้งใจทำดอกไม้ลูกปัด สิบดอกได้สองร้อยอีแปะ หนึ่งร้อยดอกได้สองพันอีแปะ…เพียงแค่สองสามวันก็ทำได้เป็ร้อยดอกแล้ว
“กุ้ยเซียง หวั่นชิวจะไม่ขาดทุนใช่หรือไม่?” หลิวซื่อกังวลเล็กน้อย
หวางกุ้ยเซียงตอบว่า “พวกท่านรอประเดี๋ยว! ท่านแม่ ท่านช่วยจุดตะเกียงเพิ่มอีกสองดวง”
พูดจบก็กลับไปเอาของที่ห้อง หวางกุ้ยเซียงเปิดตู้ ใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อลูกปัดจำนวนหนึ่งออกมา นำคู่มือที่หลินหวั่นชิวให้ออกไปด้วย
เมื่อนางคลายผ้าเช็ดหน้าออก ผลึกแก้วประดิษฐ์พวกนั้นส่องประกายระยิบระยับใต้แสงตะเกียง เกือบทำพวกนางตาลาย
“มารดามันเถิด นังเด็กคนนี้นี่ กล้ารับของล้ำค่าขนาดนี้ได้อย่างไร…หากทำหายขึ้นมาเล่า?” หลิวซื่อแค่มองลูกปัดก็หายใจไม่ค่อยออก
หวางกุ้ยเซียงเปิดคู่มือให้พวกนางดู “เหตุใดจะไม่กล้ารับเล่า? บ้านเรามีคนอยู่ตลอด แค่อย่าบอกคนนอกเป็พอ ผู้ใดจะไปรู้ว่าบ้านเรามีสมบัติ? ท่านแม่ ดอกละยี่สิบอีแปะเชียวนะเ้าคะ ท่านตัดใจไม่เอาลงหรือ? ส่วนตัวข้าทำได้อย่างน้อยวันละยี่สิบดอก ท่านลองคำนวณดูเถิด ได้วันละสี่ห้าร้อยอีแปะ ท่านพ่อกับเกอเกอทำได้หรือ?”
สามพ่อลูกที่โดนดูถูก “…”
ได้ หาเงินได้ไม่เท่าบรรดาสตรีแล้ว
“ท่านแม่ ข้าวิงเวียนศีรษะ” หวงซื่อพูดอย่างใจไม่ดี
หวางกุ้ยเซียงเกี่ยวแขนนางยิ้มว่า “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้หวั่นชิวกำลังช่วยพวกเรา ทำงานกับนาง ไม่ช้าเร็วพวกเราต้องได้เป็เ้าของที่ดินรายใหญ่เช่นกัน! ท่านเองก็จะมีบ่าวใช้ วันหน้าอิงจื่อแต่งออกไป พวกเราจะได้ซื้อบ่าวใช้สักสองคนเป็สินเดิมติดตัวให้นาง!”
“ขนาดเ้ายังไม่แต่งงาน อิงจื่อคงอีกนาน!” หวงซื่อตอบ
หลิวซื่อทำตาเขม็งใส่หวางกุ้ยเซียง “ข้าว่าเ้านั่นแหละที่อยากได้สาวใช้ติดตัวตอนแต่งงาน!”
“ฮะฮะ ท่านแม่ ข้าหาเงินมาได้ เหตุใดจะไม่ซื้อสาวใช้มาปรนนิบัติให้ตัวเองสบายหน่อยเล่า? วางใจเถิด หาเงินได้แล้วข้าจะซื้อให้ท่านเช่นกัน”
บรรดาบุรุษสตรีที่เหลือ “…”
เหมือนจะไม่มีเื่ของพวกเราแล้วนะ
“หาเงินได้แล้วอย่าเพิ่งใช้จ่ายมั่วๆ พวกเราเก็บเงินเอาไว้ก่อน รอให้เหล่าต้ากับเหล่าเอ้อร์กลับมาค่อยประเมินบัญชีและเอาเงินมาสร้างบ้าน ข้าดูแล้วที่ดินรกร้างที่พวกหงหย่วนซื้อราคาค่อนข้างถูก อยากฝากพวกเขาซื้อสักสองสามไร่ เก็บที่ดินเอาไว้ รอให้มีเงินพอแล้วค่อยสร้างบ้าน สร้างให้หลังใหญ่หน่อย เหล่าเอ้อร์ถึงวัยต้องแต่งงานแล้ว มีบ้านหลังใหญ่จะได้สู่ของ่าย วันหน้าบ้านเรามีสมาชิกเพิ่มขึ้นจะได้อยู่พอเช่นกัน นอกจากสร้างบ้านแล้วยังต้องเก็บเงินซื้อที่ดิน พวกเราเป็ชาวบ้านธรรมดา ที่ดินคือรากฐาน”
“เ้าค่ะ ตามที่ท่านพ่อว่าเลย พวกเราหาเงินเพื่อสร้างบ้านและซื้อที่ดิน” หวางกุ้ยเซียงตอบตกลงเป็คนแรก
หวางโหย่วกุ้ยพูดอย่างซื่อสัตย์ “ต้องซื้อสินเดิมติดตัวให้กุ้ยเซียงด้วย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ ต้องซื้อสินเดิมติดตัวให้กุ้ยเซียง” หวางทงเป่าหัวเราะคำโต เขาภูมิใจที่ลูกๆ รักใคร่ปรองดองกันที่สุดแล้ว
แต่แน่นอนว่าที่ลูกๆ รักใคร่ปรองดองกันเกี่ยวข้องกับการที่พ่อแม่ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมเช่นกัน
วันหน้าพวกเขาสองสามีภรรยาไม่อยู่แล้ว พวกเขาพี่น้องต้องช่วยเหลือประคับประคองกันเอง ดังนั้น พวกเขาห้ามทำสิ่งใดเลอะเลือนเด็ดขาด มิเช่นนั้นคนที่เดือดร้อนคือลูกๆ
เหมือนอย่างบ้านหลิน
ตอนนี้หวั่นชิวยอมรับพวกเขาหรือ?
ช่างโง่เขลากันทั้งครอบครัว
“จริงสิ เหล่าต้า เช้าวันพรุ่งเ้าไปรับลูกสองคนกลับมาจากบ้านพ่อตา วันพรุ่งบ้านเจียงมีงานเลี้ยง แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือไปเพื่อรับไอมงคลจากบ้านเจียง!” หลิวซื่อพูด
หวางทงเป่าพูดว่า “ใกล้ปีใหม่แล้ว ควรรับหลานกลับมาแล้วนั่นแหละ โหย่วกุ้ย วันพรุ่งซื้อนำเนื้อนำสุราไปฝากบ้านพ่อตาเ้าด้วย ซื้อไปฝากเยอะหน่อย โก่วจื่อเลี้ยงยาก อิงจื่อก็ยังเล็ก ลำบากพวกเขา”
หวางโหย่วกุ้ยพยักหน้า “อื้ม เข้าใจแล้วขอรับ”
……
ต่างจากบรรยากาศรื่นเริงที่บ้านหวาง ตอนนี้บ้านหลินอึมครึมและระทมทุกข์
ในห้องโถงจุดตะเกียงแค่ดวงเดียว บนโต๊ะมีโจ๊กธัญพืชหยาบหนึ่งชามกับหมั่นโถวผักป่าหนึ่งตะกร้า
นานมากแล้วที่บนโต๊ะไม่มีอาหารละเอียด
เนื่องจากต้องส่งหลินจินเป่าเรียนที่สถานศึกษาจิ่วไท่ สวีเทาจึงหยุดส่งเงินให้บ้านหลิน หลินกุ้ยฮวาถูกหย่าไล่ตะเพิดกลับมา สามีนางยังมาเอาเงินจากบ้านหลิน บอกว่าลูกสาวบ้านนี้ทำชื่อเสียงเสียหาย ต้องจ่ายเงินชดใช้
ฝั่งนู้นพาคนมาเยอะมาก บ้านหลินไม่ค่อยเป็ที่นิยมในหมู่บ้าน บวกกับมีเื่ฉาวโฉ่เช่นนี้…ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดช่วยเหลือ ต้องยอมให้บ้านสามีเก่าเอาเงินไปสิบตำลึงและเสบียงอีกหลายกระสอบ แม้แต่เนื้อตากแห้งก็เอาไปหมด
สวี่ซื่อร้องไห้โวยวายสุดใจขาดดิ้นแต่ก็เปล่าประโยชน์
หลินกุ้ยฮวากับหลินฉินไม่สบาย ต้องกินยา แต่หลินซย่าจื้อไม่ยอม หลินกุ้ยฮวากับหลินฉินจึงขู่ว่าจะไปหาหลินจินเป่าที่สถานศึกษา เขาเป็คนที่จะสอบเคอจวี่ในอนาคต ดูสิว่าเขาจำเป็ต้องรักษาหน้าหรือไม่
จากนั้น เงินที่เหลือไม่มากก็ถูกใช้ไปกับการซื้อยาให้หลินกุ้ยฮวากับหลินฉิน
แต่แน่นอนว่าบ้านหลินเป็ที่พักพิงของพวกนาง พวกนางไม่กล้าทำเกินเลยเกินไป เมื่องานทั้งหมดในบ้านตกมาอยู่ที่พวกนางหมดจึงไม่กล้าโต้แย้งกระไร
สวี่ซื่อนั่งหน้าบึ้ง ไม่ตักอาหารแบ่ง หน้าที่ตักอาหารจึงเป็ของหลินซย่าจื้อแทน
หลินซย่าจื้อไม่ถึงกับใจร้ายกับพวกนางเกินไป แบ่งอาหารให้เพียงพอ แต่สีหน้าไม่น่าดูนัก
“วันพรุ่งบ้านเจียงมีงาน เ้าสองคนกระฉับกระเฉงเสียหน่อย เอากะละมังไปใส่อาหารกลับมาไว้ที่บ้านก่อนค่อยไปกิน” หลินซย่าจื้อสั่ง
ทั้งสองคนพยักหน้า หากเป็เื่ของกิน พวกนางสมัครใจอยู่แล้ว
วันรุ่งขึ้น คนบ้านหลินตื่นกันั้แ่เช้า หลินกุ้ยฮวากับหลินฉินโดนไล่ไปเก็บหญ้าจูเฉ่า ในบ้านไม่มีอาหาร
หลินกุ้ยฮวาอดบ่นไม่ได้ “จะให้วัวไถนาก็ต้องให้กินหญ้า กระไรกัน แม้แต่ข้าวก็ไม่ให้กินแล้วหรือ? เช่นนั้นต่อไปนี้ข้าจะไม่ทำงานแล้ว!”
“เอะอะโวยวายกระไรั้แ่เช้า” สวี่ซื่อออกมาตวาด หลินกุ้ยฮวาพูดว่า “ท่านแม่ ข้าก็เป็ลูกสาวท่านเช่นกัน ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะถูกลูกสาวท่านทำให้เดือดร้อน ข้าจะอยู่ในสภาพนี้หรือ? ท่านจะลำเอียงเช่นนี้ไม่ได้ ต่อให้เป็กระต่ายก็กัดคนเมื่อจนมุม!”
สวี่ซื่อพูดอย่างกล้ำกลืนต่อความโมโห “ไม่ใช่แค่เ้าที่ไม่ได้กิน แต่พวกเราทั้งบ้านไม่มีผู้ใดได้กินทั้งนั้น ประเดี๋ยวไปบ้านเจียงก็มีอาหาร ไม่ต้องเก็บท้องไว้กินหรืออย่างไร!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้