“ขอรับ” แม้ว่าหลี่จงิจะไม่รู้ว่าหลี่ลั่ว้าทำอันใด แต่ก็ผลักให้หยวนข่ายล้มลงไปนอนกับพื้น เวลานี้ก้นของเขาัักับพื้น เจ็บจนหยวนข่ายร้องเสียงแหลม ทว่ากลับไม่มีผู้ใดสนใจเขา ยามนี้หยวนข่ายแทบจะขอให้ตัวเองหมดสติไปเลย
หลี่ลั่วยื่นมือออกมา “หยิบถ้วยน้ำชามาให้ข้าหลายใบสักหน่อย”
“เ้าค่ะ” ถัดมาสาวใช้ยกถาดใบหนึ่งเข้ามา บนถาดมีถ้วยน้ำชาอยู่สี่ใบ
หลี่ลั่วหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาแล้วเขวี้ยงออกไปที่เท้าของหยวนข่าย ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึง เหล่าสาวใช้นั้นรีบเคลื่อนย้ายสายตาไปทางอื่นเพราะไม่กล้าดู แต่พวกผู้ชายดูแล้วสะดุ้งในใจ นี่คือวิธีการของเด็กชายตัวน้อยอายุห้าขวบแน่หรือ? หยวนข่ายนั้นเ็ปเสียจนร้องไม่ออกแล้ว ส่วนหลี่ลั่วยังคงเขวี้ยงถ้วยน้ำชาถ้วยที่สองต่อ...ถ้วยที่สาม...ถ้วยที่สี่...จนกระทั่งเขาเขวี้ยงถ้วยน้ำชาทั้งสี่ถ้วยออกไปจนหมดแล้วหลี่ลั่วจึงยอมรามือ “พ่อบ้านจี้ จับคนสองคนนี้โยนออกไป หากเข้ามาอีกก็ให้ไปร้องเรียนที่จวนว่าการว่าพวกเขาบุกรุกจวนโหวเสีย”
พ่อบ้านจี้ตะลึง “แต่...แต่ว่าเหล่าไท่ไท่...”
“เหล่าไท่ไท่มาพักฟื้นรักษาตัวที่จวนโหว เมื่อหายป่วยแล้วก็จะไปจากที่นี่” หลี่ลั่วกล่าว “คนผู้นี้ไม่ใช่เ้านายในจวนโหวของพวกเรา และไม่ใช่บ่าวรับใช้ในจวนโหวของพวกเรา อีกทั้งในฐานะที่ข้าเป็เ้าของจวนโหวแล้ว เขาเองก็มิใช่แขกที่ข้าเป็ผู้เชิญมาด้วย เช่นนั้นแล้วเขาจะนับเป็สิ่งของอันใดได้เล่า?”
“เื่นี้...” พ่อบ้านจี้ไม่กล้าพูด อำนาจบารมีของเสี่ยวโหวเหฺยยิ่งใหญ่นัก
“ท่านอาหลี่ โยนออกไปเสีย” สีหน้าของหลี่ลั่วดำทะมึนลง “พ่อบ้านจี้ไปเรือนโฉวงจี๋กับข้า บอกข้าว่านี่มันเกิดเื่อันใดขึ้นกันแน่?”
“ขอรับ”
เมื่อกลับไปถึงเรือนโฉวงจี๋ เื่แรกที่หลี่ลั่วทำก็คืออาบน้ำ
“ข้าจะอาบน้ำ ให้ห้องครัวเตรียมอาหารเถิด พ่อบ้านจี้ ท่านเข้ามาเล่าเื่ทุกอย่างให้ชัดเจนเสีย” หลี่ลั่วเดินเข้าไปในเรือนโฉวงจี๋ ผิงอันนั้นในขณะที่หลี่ลั่วไปยังจวนฉีอ๋องก็กลับจวนโหวมาก่อนแล้ว ดังนั้นน้ำอุ่นจึงได้ตระเตรียมเอาไว้แล้ว เมื่อได้ยินเสียงสั่งการของหลี่ลั่วนางก็รีบให้ข้ารับใช้นำน้ำร้อนเข้ามายังห้องข้างทันที
หลี่ลั่วรูปร่างเล็ก ที่เตรียมไว้จึงเป็ถังอาบน้ำขนาดเล็ก เมื่อน้ำอุ่นเตรียมเสร็จแล้ว ซินเป่าก็ช่วยเขาถอดเสื้อผ้า อุ้มเขาวางลงในถังไม้ ส่วนพ่อบ้านจี้ยืนรออยู่ด้านข้าง
“พูดเถิด” หลี่ลั่วหลับตาแช่น้ำ
“เื่นี้ต้องเริ่มพูดจากวันที่จัดงานเลี้ยงในจวนของพวกเราขอรับ” พ่อบ้านจี้กล่าว “วันนั้นหลังจากที่พวกเราออกไป ซื่อจื่อฮูหยินจวนชิ่งป๋อได้พาซือไท่มาคนหนึ่ง ชื่อว่า ฉือหย่งซือไท่ เหล่าไท่ไท่เอ่ยว่าสุขภาพของตนนั้นมักจะไม่ดีเสมอ จึงให้ฉือหย่งซือไท่ดูให้นาง ฉือหย่งซือไท่กล่าวว่าที่สุขภาพของเหล่าไท่ไท่ไม่ดีเพราะว่าฮวงจุ้ยของที่นี่ถูกคนขวางเอาไว้ หากเหล่าไท่ไท่อยากจะกลับมาแข็งแรงโดยเร็ว ต้องให้คนผู้นั้นไปทำพิธีกรรม ถือศีลไหว้พระเป็เวลาเจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้าวันจึงจะดีขอรับ”
“จากนั้นเล่า?”
“จากนั้นฉือหย่งซือไท่จึงคำนวณวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟาก ปรากฏว่าเป็เหล่าฮูหยิน ซ้ำยังพูดต่อหน้าบรรดาญาติทั้งหลายที่อยู่กันพร้อมหน้า ดังนั้นเหล่าฮูหยินจึงถูกส่งไปที่สำนักแม่ชีขอรับ” พ่อบ้านจี้กล่าว “วันนี้คุณชายรองไปเยี่ยมเหล่าฮูหยินขอรับ”
หลี่ลั่วเลิกคิ้ว คนในสมัยโบราณนี่ช่างมีวิธีร้อยแปดพันเก้าในการคิดบัญชีกับผู้อื่นเสียจริง “เป็สำนักแม่ชีที่ไหน? ฉือหย่งซือไท่คนนั้นเป็ผู้ใดกัน?”
“เป็สำนักผู่ลั่วขอรับ ฉือหย่งซือไท่เองก็เป็ชีที่ออกมากจากที่นั่น” พ่อบ้านจี้ตอบ
“ฉือหย่งซือไท่เป็คนเช่นไร?” ที่หลี่ลั่ว้าถามคือข้อนี้
พ่อบ้านจี้ส่ายหน้า “เื่นี้ไม่แน่ใจขอรับ แต่ฉือหย่งซือไท่มีชื่อเสียงยิ่ง นางเป็ลูกศิษย์ของหนิงลั่วซือไท่ บรรดาชนชั้นสูงและผู้มั่งคั่งในเมืองหลวงต่างก็รู้จักหนิงลั่วซือไท่ และยังถูกเชิญไปสวดภาวนาให้กับฝ่าาและพระชายาอยู่บ่อยๆ ด้วยขอรับ”
“ไปตรวจสอบเื่ของฉือหย่งซือไท่กับหนิงลั่วซือไท่มาหน่อยซิ” หลี่ลั่วกล่าว “ให้เร็วที่สุด ยังมีอีก นอกจากสำนักผู่ลั่วแล้ว ในเมืองหลวงของเรายังมีวัดอื่นที่มีชื่อเสียงอีกหรือไม่?”
“มีวัดก่วงเปยขอรับ” พ่อบ้านจี้ตอบ “ก่วงฉือไต้ซือ[1]จากวัดก่วงเปยมีชื่อเสียงยิ่งนัก”
“นำวันเดือนปีเกิดของมารดาไปให้ก่วงฉือไต้ซือชี้แนะดูเสีย” หลี่ลั่วพูดอีก
“ขอรับ”
“หากพี่ใหญ่กลับมาแล้วให้เชิญเขามาที่นี่ทันที”
“ขอรับ”
“ออกไปเถิด” ทว่ายังไม่ทันได้รอให้พ่อบ้านจี้ออกไป ก็มีเสียงดังลอยเข้ามาในเรือนเสียก่อน
พ่อบ้านจี้จึงรีบรุดออกไปดู เห็นเพียงหยวนเฉิงที่พาบ่าวรับใช้มาด้วยสองคน แต่พวกเขาถูกหลี่จงิขวางไว้หน้าประตู หลี่จงิเป็ถึงราชองครักษ์ขั้นห้า แน่นอนว่าพวกหยวนเฉิงย่อมบุกเข้ามาไม่ได้
[1] ไต้ซือ (大师) เป็คำเรียกนักพรตชาย หรือผู้ออกบวช