หานซู่เดินกะเผลกไปหาหานจิ้น ใบหน้าที่ขมขื่นนั้นไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมา จนกระทั่งหานจิ้นหันศีรษะและกระซิบบางอย่างข้างหู หานซู่จึงพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
หยวนจุนเดินตามชายชราเข้าไป เขาเอ่ยด้วยท่าทีนิ่งๆ ว่า “ข้าคือสวีจิ้ง คนของตระกูลหลิว เ้าเรียกข้าว่าพ่อบ้านสวีก็ได้ คุณหนูใหญ่รอเ้าอยู่ที่ศาลาสวนดอกไม้อู่เจี้ยนนานแล้ว ข้าจะพาเ้าไปที่นั่น”
ขณะที่สวีจิ้งแนะนำตัว หยวนจุนจึงเข้าใจว่าเหตุใดหานจิ้นที่เป็ถึงหัวหน้าทหารรักษาเมืองจึงยอมเคารพคนธรรมดาเช่นนี้ เพราะเขาบ่มเพาะถึงระดับจันทราวงแหวนเล็กขั้นแปดนั่นเอง
ในฐานะที่เป็พ่อบ้าน เขาย่อมเป็คนสนิทอยู่แล้ว อย่างน้อยก็เป็คนที่ตระกูลหลิวไว้วางใจ หากเทียบกับหานจิ้นนั้น เขาคงเหนือชั้นมากกว่าหลายเท่า!
กลิ่นดอกไม้โชยเตะจมูก จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระบี่ยาวฟาดฟันในอากาศ แม้กิ่งไม้ดอกไม้มากมายจะบดบังการมองเห็น แต่หยวนจุนก็ััได้ถึงพลังปราณกระบี่ที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อเดินไปตามทางที่ปูด้วยหินกระเบื้องเคลือบ หยวนจุนเห็นท่าทางอ่อนช้อยงดงามของหลิวหรูเยียนสะท้อนเข้ามาในดวงตาของเขา
นางถือกระบี่ยาวสีเงินที่ส่องประกายแวววาว เมื่อเพลงกระบี่รวมกัน มือเรียวเขย่ากระบี่เล็กน้อย ก่อนที่ตัวกระบี่จะส่งเสียงกังวาน
เสียงสะท้อนนั้นมีพลังแผ่ออกมา แตกต่างจากอาวุธทั่วไป
เพียงพริบตาเดียว หยวนจุนก็มองออกว่ากระบี่ยาวที่อยู่ในมือของหลิวหรูเยียนเป็อาวุธระดับิญญาขั้นสอง! ซึ่งช่วยเสริมพลังให้แก่นักยุทธ์เป็อย่างมาก
แววตาของหลิวหรูเยียนเต็มไปด้วยความมั่นคงหนักแน่น การส่งรับกระบี่ในมือก็คล่องแคล่ว แม้แต่การมาถึงของหยวนจุนก็ไม่ได้ทำให้นางเสียสมาธิแม้แต่น้อย
“ย๊าก”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว”
ยามที่นางกวัดแกว่งกระบี่ ปราณกระบี่กลายรัศมีราวกับปีกจักจั่น ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ไร้เสียงทว่ากลีบดอกไม้กลับร่วงหล่น
แต่ถ้าพิจารณาให้ดีก็สามารถมองเห็นได้ไม่ยาก กลีบดอกไม้เ่าั้ล้วนถูกฟันตรงกลาง ถือเป็การควบคุมแรงอย่างฉลาดทีเดียว
ทุกครั้งที่นางฟันกลีบดอกไม้ สาวใช้หลายคนที่อยู่ไม่ไกลก็ปรบมือส่งเสียงด้วยความดีใจ
“หยวนจุน รับกระบี่!”
หลิวหรูเยียนหัวเราะ นางกวาดกระบี่ยาวจนเกิดเสียงสะท้อนขึ้น ปลายกระบี่ชี้หมุนตามเข็มนาฬิกา แล้วพุ่งเข้าหาหยวนจุนอย่างรวดเร็ว
“ฟ้าว”
คมกระบี่หยุดอยู่ตรงหน้าเขาไม่ถึงหนึ่งคืบ หยวนจุนจ้องใบหน้างามของหลิวหรูเยียนตาไม่กะพริบ
แม้แต่พ่อบ้านสวีจิ้งที่มากับหยวนจุนยังแสดงสีหน้าประหลาดใจ หยวนจุนไม่หลบกระบี่ยาวที่จู่โจมใส่อย่างรวดเร็ว ทั้งยังไม่มีการขยับตัวแม้แต่น้อย ความเด็ดเดี่ยวนี้ทำให้ผู้คนชื่นชม!
หากเป็เขา อาจทำไม่ได้เช่นนี้
“ทำไมเ้าไม่หลบ?” หลิวหรูเยียนถามด้วยความสงสัย
“กระบี่เ้าไม่ได้มีเจตนาฆ่า เหตุใดข้าต้องหลบด้วย?” หยวนจุนปัดคมกระบี่ที่อยู่ตรงหน้า แล้วตอบกลับไปนิ่งๆ
หลิวหรูเยียนพยักหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนหรี่ตาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนี้เอง แล้วถ้าข้ามีเจตนาฆ่า เ้าจะหลบอย่างไร?”
ครั้นพูดจบ นางพุ่งกระบี่ตรงไปที่ขาของหยวนจุน
หยวนจุนไม่คิดว่าจู่ๆ นางจะแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ แม้เขาจะเห็นกระบี่ยาวที่งดงามพุ่งมา แต่กายและใจของเขายังคงนิ่งราวกับูเา
เคราะห์ดีที่กระบี่ยาวเล่มนั้นถูกหลิวหรูเยียนยั้งมือไว้ทัน
“กระบี่นี้เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย เห็นได้ชัดว่าเ้าสามารถหลบเลี่ยงได้ แล้วเหตุใดถึงไม่หลบ?”
การที่หยวนจุนไม่ตอบโต้กระบี่ถึงสองครั้งทำให้หลิวหรูเยียนแปลกใจ นางอดไม่ได้ที่จะถาม
เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “แม้กระบี่นี้จะเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย แต่ข้าก็ไม่จำเป็ต้องหลบ การบ่มเพาะพลังยุทธ์ของแม่นางระดับสูงกว่าข้าถึงห้าขั้น แม้ข้าอยากจะหลบ คงหลบไม่พ้น”
เห็นได้ชัดว่าพลังยุทธ์ของหลิวหรูเยียนนั้นระดับสูงกว่าของหยวนจุนมาก เขาไม่มีความสามารถในการหลบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หยวนจุนคิดว่าหลิวหรูเยียนมิได้้าฆ่าเขาจริงๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวหรูเยียนจึงเก็บอาวุธระดับิญญาของนาง แล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ปกติแล้ว แค่ข้าชี้คมกระบี่ไปทางพวกบ่าวไพร่ พวกเขาจะกรีดร้องด้วยความใ แต่วันนี้เห็นเ้านิ่งเป็ท่อนไม้ ไม่สนุกเลยสักนิด”
ร่างอรชรของนางสวมชุดยาวสง่างามและพอดีตัว เนื่องจากเหงื่อออกเล็กน้อย ชุดแดงเพลิงจึงแนบชิดกับร่างของหลิวหรูเยียน เผยให้เห็นส่วนเว้าโค้งของนางชัดเจนยิ่งขึ้น
แม้หยวนจุนจะละสายตาจากนางไปแล้ว แต่หลิวหรูเยียนก็รู้ว่าเมื่อครู่นี้เขามองสิ่งใด นางจึงหน้าแดง แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “หยวนจุน เ้ารู้ไหมว่าเหตุใดเมื่อวานข้าถึงไปหาเ้าในป่าทึบนั่น?”
หยวนจุนพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าคงเดิม “พอจะคาดเดาได้บ้าง”
“ข้าได้ยินว่าเ้าสามารถเชื่อมประสานกับปราณธาตุดาวได้ เื่นี้จริงหรือเปล่า?” หลิวหรูเยียนนั่งอยู่บนม้านั่ง ถามพร้อมกับยกมือเรียวขึ้นเช็ดแก้ม
สวีจิ้งที่ยืนอยู่ด้านหลังหยวนจุนเปลี่ยนอารมณ์ในทันที
ในการเชื่อมประสานกับปราณธาตุดาว อย่างน้อยต้องเป็ระดับตะวัน แม้ระดับจันทราจะมีความสามารถในการเชื่อมประสานปราณธาตุดาว แต่การที่นักยุทธ์ระดับวงแหวนเล็กขั้นสามสามารถเชื่อมประสานปราณธาตุดาวได้ นั่นขัดกับหลักการ
เมื่อเห็นหยวนจุนไม่โต้แย้ง หลิวหรูเยียนกับสวีจิ้งถึงกับประหลาดใจ
เมื่อคืนก่อนนางเห็นด้วยตาตนเองว่าพลังยุทธ์ของหยวนจุนแสดงธาตุไฟออกมา อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกเหตุผลที่เป็ไปได้ สิ่งนั้นคือวิชายุทธ์พิเศษที่สามารถเพิ่มพลังได้ด้วยการแปรปราณดาราให้เป็ลม ไฟ อากาศ น้ำ และดิน ซึ่งเป็คุณสมบัติของธาตุทั้งห้า
แม้หลิวหรูเยียนจะไม่มั่นใจว่า เป็เพราะวิชายุทธ์ของหยวนจุนหรือการเชื่อมประสานปราณธาตุดาวบนท้องฟ้า แต่นางก็รู้สึกว่าเปลวไฟที่หยวนจุนแสดงออกมามีพลังเหนือกว่าเปลวไฟทั่วไปมาก
ตอนนี้นางมั่นใจแล้วว่าหยวนจุนสามารถเชื่อมประสานธาตุดาวบนท้องฟ้าได้จริงๆ
“เ้าแสดงพลังยุทธ์ที่ใช้เมื่อคืนให้ข้าดูอีกครั้งได้ไหม?” หลิวหรูเยียนเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าอารมณ์ดี
หยวนจุนนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัว “วิชายุทธ์ไม่ได้มีไว้เพื่อแสดง แต่มีไว้เพื่อฆ่าคน!”
คำกล่าวนี้ไม่มีเหตุผลก็จริง แต่หลิวหรูเยียนก็ไม่อาจหาเหตุผลมาโต้แย้งได้
นางส่งสายตาให้ทหารที่คอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ ทหารยามพวกนั้นรีบชักดาบออกมาฟันไปที่หยวนจุน
ทหารที่คุ้มกันศาลาสวนดอกไม้ของตระกูลหลิวนั้นแข็งแกร่งกว่าทหารยามทั่วไป ดังนั้นดาบของนักยุทธ์วงแหวนขั้นสามอย่างพวกเขาจึงร้ายกาจมากจนหยวนจุนต้องใช้ปางมือมรณา
เดิมทีเขาเพียง้าให้ทหารคุ้มกันถอยออกไป แต่หลิวหรูเยียนกลับผลักทหารคุ้มกันผู้หนึ่งให้เข้ามาปะทะกับฝ่ามือมรณาท่าที่หนึ่งโดยตรง
เปลวไฟความร้อนสูงเผาทหารคุ้มกันของตระกูลหลิวจนกลายเป็ไอทันที โดยที่เขายังไม่ทันได้รู้สึกถึงความเ็ป
เมื่อดึงพลังกลับ สีหน้าของหยวนจุนเปลี่ยนไปทันที สตรีนางนี้มีจิตใจเหี้ยมโหดจนเขาใ นางส่งทหารคุ้มกันของตระกูลหลิวเข้าสู่ความตายได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้