บทที่ 69 ปรับแก้สูตรยา
ลู่อวี่ชำเลืองมองไปทางหลินเหยาประเดี๋ยวเดียว ไม่นานจึงได้เอ่ยปากพูดออกมาว่า “ยาอายุวัฒนะนี้มีชื่อว่า ‘ยาฟื้นกำลังศักดิ์สิทธิ์’ มีสรรพคุณเพียงซ่อมแซมจิติญญาเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้เพื่อเพิ่มการฝึกฝนทางจิติญญาของตนเองได้ ดังนั้นยาอายุวัฒนะนี้จะว่าล้ำค่าก็ล้ำค่า แต่หากว่าไม่ล้ำค่า ก็นับว่าเป็ยาอายุวัฒนะทั่วไป!”
เมื่อได้ฟังคำพูดที่ไม่เข้าอกเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นของเขา ทั่วทั้งห้องโถง รวมถึงคนของตระกูลลู่ต่างก็เงียบกริบพูดไม่ออก ในเวลาเดียวกัน ความไม่พอใจนับไม่ถ้วนก็ถาโถมเข้ามาทั่วทั้งห้องโถง
หลินเหยามองดูท่าทีภาคภูมิใจของลู่อวี่ ก็อดด่าเขาด้วยความโมโหไม่ได้ “ เย่อหยิ่งอวดดี!”
หากพูดกันตามตรง ลู่อวี่ไม่ได้ทำท่าทีภาคภูมิใจอะไรแม้แต่น้อย แต่เวลานี้ในสายตาของหลินเหยา เขาย่อมไม่ถูกใจนาง มีรูปลักษณ์ท่าทีที่ไม่ดีไปหมดก็เท่านั้น ดีก็กลายเป็ไม่ดี ไม่ดีก็คงไม่ดีต่อไป เพราะอย่างไรเสียคนปรุงโอสถผู้ยิ่งใหญ่อย่างลู่อวี่ก็นับว่าขัดหูขัดตาเป็ที่สุดในสายตาของหลินเหยาอยู่ดี
โชคดีที่หลิงหวาฮูหยินมีพลังจิตที่แข็งแกร่ง ไม่ว่อกแว่ก และมีสีหน้าที่เรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ แต่นางกลับรู้สึกยอมรับและเห็นด้วยกับคำพูดของลูกศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดของนางว่า นายน้อยตระกูลลู่คนนี้เย่อหยิ่งอวดดีเสียจริง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นางก็ยังเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา เพราะชื่อของยาอายุวัฒนะที่ลู่อวี่เดานั้นตรงกับชื่อของยาอายุวัฒนะในมือของนาง อย่างน้อยสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า แม้อีกฝ่ายจะไม่เคยปรุงยาอายุวัฒนะนี้มาก่อน แต่ก็น่าจะมีคุณสมบัติที่เพียงพอ ไม่เช่นนั้นเขาจะตกปากรับคำว่าตัวเองสามารถปรุงยาอายุวัฒนะนี้อย่างรวดเร็วฉับไวหรือ
“คุณชายลู่มีความรู้กว้างไกลจริงๆ จะว่าไปแล้ว สูตรยานี้ข้าก็จ่ายไปก้อนใหญ่ทีเดียวกว่าจะแลกมาได้ แต่คิดไม่ถึงว่าคุณชายลู่จะได้ยินชื่อเสียงของยาอายุวัฒนะนี้มาก่อน ไม่ทราบว่าคุณชายลู่ไปได้ยินชื่อของยานี้มาจากที่ใดหรือ?”
ลู่อวี่ไม่มีทางบอกนางอยู่แล้ว จะบอกนางได้อย่างไรว่าสูตรยานี้ข้าเป็คนคิดค้นขึ้นมาเอง นางถามเขาเช่นนี้ก็ตอบยาก จึงทำได้เพียงส่ายหน้าช้าๆ และบอกว่า “เื่นี้ต้องขออภัยผู้าุโฮูหยินด้วย ข้าไม่สามารถเปิดเผยได้จริงๆ!”
“ข้าเพียงรู้จักชื่อเท่านั้น? เขานี่ช่างยอดเยี่ยมเทียมฟ้าเสียจริง ขนาดอาจารย์เอ่ยปากถามด้วยตัวเอง เขาก็ยังไม่พูด ทำมาเป็วางมาดบ้าอะไรอยู่!” เสียงหัวเราะของหลินเหยาและน้ำเสียงแ่เบาที่พูดลดทอนคุณค่าในตัวลู่อวี่ดังอยู่ข้างๆ หูของเนี่ยชิงหลวน นางรู้สึกไม่พอใจ นายน้อยตระกูลลู่ผู้นี้มีอะไรสุดยอด เป็เพียงคนปรุงโอสถผู้หนึ่งเท่านั้น แต่ตัวนางขนาดหลอมอาวุธยังทำได้ เชอะ ดูเหมือนนางต้องพยายามให้มากขึ้นแล้ว มิเช่นนั้นคงถูกเ้าคนตัวเหม็นสารเลวผู้นี้แซงหน้าเอาได้ พูดแล้วช่างเป็เื่ที่น่าโมโหเสียจริง
ลู่อวี่ก็ทำเป็ไม่ได้ยินเช่นเดิม เขาเพียงฟังแต่ไม่ถามอะไร แต่กลับบอกสูตรยาออกมาในตอนนั้น อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องอีกด้วย ถึงกับทำให้หลิงหวาฮูหยินใ ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าลู่อวี่สามารถปรุงยาอายุวัฒนะออกมาให้ได้
เมื่อเอ่ยถึงสูตรยานั้นจบลู่อวี่ก็กล่าวต่อ “สูตรยานี้มีปัญหาบางอย่าง มิน่าเล่าว่าเหตุใดเสิ่นตานเจวี๋ยแห่งเขาหนิงชุยเฟิงถึงไม่กล้าลงมือ นอกจากตัวยาที่เกินออกมาพวกนี้แล้ว ก็ยังขาดตัวยาอีกหลายชนิด หากท่านาุโเชื่อมั่นในตัวข้า สูตรยานี้คงต้องปรับแก้สักเล็กน้อย!”
วัตถุดิบยาล้ำค่าหลายอย่างที่จำเป็ในสูตรยาก่อนหน้านี้ถึงแม้จะมีค่า แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้มันได้จริง ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้เปลี่ยนยาวิเศษทุกชนิดที่ตนสามารถใช้ได้ แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้คนของเกาะหลิงหวาเซียนเกิดความสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้เป็กังวล เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้ก็มีแต่เขาเพียงคนเดียวที่สามารถปรุงยาอายุวัฒนะนี้ได้ นี่คือข้อดีของการผูกขาด แม้ว่าเขาจะให้สูตรยาอายุวัฒนะที่ถูกต้องแก่คนปรุงโอสถผู้อื่น แต่เขาก็มั่นใจเต็มร้อยว่าผู้อื่นจะไม่สามารถปรุงยาออกมาได้!
แม้ว่าตอนนี้ความรู้สึกนึกคิดที่หลิงหวาฮูหยินมีต่อลู่อวี่จะเปลี่ยนไปอย่างมาก และต่อให้การเปลี่ยนแปลงนี้มันจะทำให้ตัวของนางรู้สึกฝืนใจไม่น้อย แต่ก็ไม่มีทางเลือก ถึงไม่ทำเพื่อประโยชน์ของลูกศิษย์ ทว่านางก็ไม่อยากทำให้คนปรุงโอสถผู้มีอนาคตไกลผู้หนึ่งขุ่นเคืองใจเช่นกัน หากดูจากอายุและพลังยุทธ์ของนายน้อยตระกูลลู่ผู้นี้ นับว่าไม่ใช่ความหวังเกินตัว ที่จะเลื่อนขั้นเป็คนปรุงโอสถขั้นสี่หรือสามได้ใน่บั้นปลายของชีวิต
คนปรุงโอสถขั้นสี่หรือขั้นสามหมายความว่าอะไร มันก็ชัดเจนมากสำหรับนักพรตชั้นสูงอย่างนาง หากมีคนปรุงโอสถเช่นนี้อยู่สักคน ในภายภาคหน้าสำนักย่อมมีความปลอดภัยอย่างมากไม่ว่าจะต่อสู้หรือเดินทาง ดังนั้น ไม่ว่าจะในหรือนอกเทียนตู สถานะของคนปรุงโอสถจึงนับว่าสูงที่สุดในบรรดาอาชีพทั้งหมด
“เื่นี้คุณชายลู่ไม่ต้องกังวล แม้ว่าเกาะหลิงหวาเซียนของเราจะเทียบกับตระกูลและสำนักที่มีมายาวนานไม่ได้ แต่หลายปีมานี้ก็พอมีเก็บบ้าง ตอนนี้เตรียมวัตถุดิบไว้สามส่วนแล้ว หากไม่พอ ข้าจะคิดหาทางรวบรวมมาให้! เมื่อครู่นี้ที่พูดจาล่วงเกินไป ขอคุณชายลู่อย่าเก็บไปใส่ใจ หากเสร็จเื่แล้วเกาะหลิงหวาของเราจะขอบพระคุณเป็อันมาก”
ทันทีที่หลิงหวาฮูหยินพูดคำเหล่านี้ออกมา บรรยากาศในห้องโถงก็กลับมาเบาลง ทุกคนต่างมีไมตรีจิตกันอีกครั้ง
ดังนั้นลู่อวี่จึงเรียกคนนำกระดาษและพู่กันมาให้ เขาทำการเขียนสูตรยาออกมาให้อีกชุด โดยลบตัวยาวิเศษสองสามชนิดที่เขาไม่้าออกบางส่วน และเพิ่มตัวยาวิเศษสองสามชนิดที่มีความจำเป็อย่างเร่งด่วนเข้าไป
ลู่หงชางพูดเสียงเบาด้วยความกังวล “ลู่อวี่น้อย เื่นี้จะประมาทไม่ได้ หากเ้าแก้ไขสูตรยา แล้วเ้ามั่นใจหรือว่าจะสามารถปรุงยาฟื้นกำลังศักดิ์สิทธิ์ได้?”
ลู่อวี่ที่อารมณ์ดีมากในเวลานี้พยักหน้าและพูดอย่างสบายใจ “ท่านผู้เฒ่าใหญ่ไม่ต้องกังวล หากใช้สูตรยาเดิม ข้ายังสามารถปรุงยาฟื้นกำลังศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่อาจรับประกันผลความสำเร็จได้ หากใช้สูตรยาที่แก้ไขแล้วของข้า ผลความสำเร็จจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามในสิบส่วน เื่นี้สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าคนจากเกาะหลิงหวาจะเลือกอย่างไร”
“จะว่าไปแล้ว ผู้าุโที่ได้สูตรยานี้ไปคงไม่เคยปรุงยาอายุวัฒนะชนิดนี้แน่ มิฉะนั้นเพียงตัวเองปรุงยาอายุวัฒนะนี้ผู้เดียว คงร่ำรวยมากพอแล้ว จะมอบสูตรยาอายุวัฒนะนี้ให้กับผู้าุโหลิงหวาได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าจอมเทพต้องทำอะไรไว้ในสูตรยาอายุวัฒนะนี้แน่นอน มันน่าจะเป็เช่นนี้ หากเป็ข้าก็จะทำเช่นเดียวกับเทพโอสถท่านนั้นเช่นเดียวกัน!”
หลิงหวาฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่รู้ตัว นางรู้สึกเห็นด้วยกับความเห็นของลู่อวี่ ผู้าุโที่ขายสูตรยาให้นางนั้น เป็เพราะเก็บไว้ในมือก็ไม่เกิดประโยชน์ใดถึงได้นำมาขาย และไม่ได้ขายเพียงฉบับเดียว ดูเหมือนว่าเทพโอสถท่านนั้นต้องทำอะไรไว้กับสูตรยาเป็แน่
แต่สิ่งที่ยิ่งทำให้นางตกตะลึงกลับเป็นายน้อยของตระกูลลู่ผู้นี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะหาข้อผิดพลาดในสูตรยาออกมาเองได้ อีกทั้งยังสามารถแก้ไขได้อีกด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้