บ้านคุณหญิงเฟื้องฟ้า
ห้องนอนอลิซ
05:30น.
อลิซ อลิศา......
ติ๊ดดดดดด
“ฮาโหลลลลลลล”ฉันควานหาโทรศัพท์อยู่นานเมื่อเจอก็กดรับสายทั้งๆที่ยังไม่ได้ลืมตามองว่าใครโทรมา เมื่อคืนนี้ฉันไปปาตี้กับมาเกือบเช้าแล้วไง และฉันเพิ่งจะนอนได้ไม่นานเองด้วย
(น้องอลิซ ใช่น้องอลิซรึป่าวครับ?)เสียงหล่อนุ่มละมุนคุ้นหูแต่ฟังแลดูกวนประสาทซะมากกว่านั้นทำให้ฉันรีบเบิกตาโตขึ้นตาสว่างทันที
“นายไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหนย่ะ!”ฉันผุดลุกขึ้นนั่งและยกโทรศัพท์ออกมาดูก็โชว์เบอร์แปลกจริงๆด้วยฉันไม่ได้ให้เบอร์เขาไปน่ะ หลังจากวันนั้นที่เราทำข้อตกลงกันว่าฉันจะให้เขาช่วย เขาก็ขอเบอร์มือถือฉันและไลน์ฉันแต่ฉันก็ไม่ได้ให้เขาไป เขาไปเอามาจากไหนกันน่ะ
(อารมณ์เหวี่ยงในนำ้เสียงแบบนี้ ต้องเป็น้องอลิซคนสวยแน่นอนเลย^_^)เขาพูดออกมาด้วยนำ้เสียงแจ่มใสร่่เริงเมื่อรู้ว่าเป็ฉัน ฉันจึงเหลือบตามองไปที่นาฬิกาดิจิดอลที่หัวเตียงก็พบว่านี้มันตี5ครึ่ง อีตาบ้านี่มันโทรมาทำอะไรวะ
“นายบ้าป่ะเนี่ย โทรมาทำไมเวลาแบบนี้ รู้ไหมว่าฉันเพิ่งจะนอนได้ไม่ถึง10นาทีบราาาา”ฉันร่ายใส่ปลายสายไปเป็ชุดปลายสายก็มีเสียงหัวเราะคิกคักออกมาเป็ระยะๆที่ฉันบ่นเขา
“นี่ฉันกำลังบ่นนายอยู่น่ะ ไม่ได้เล่าเื่ตลกให้ฟัง ไม่ทราบว่าหัวเราะอะไรหนักหนา หรือว่าโรคบ้ากำเริบอีกแล้วเหรอค่ะ!”ฉันพูดเสียงกระเเทกใส่ปลายสายไป ปลายสายก็เงียบไปสักพัก
(พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่ก็แค่รู้สึกคิดถึงหนูน่ะ พอรู้ตัวอีกทีก็กดเบอร์โทรหาหนูซะเเล้ว)ฉันรอราวๆ10วินาทีปลายสายก็ตอบกลับมา
ตึกตัก ตึกตัก
คำพูดของเขาทำให้ใจของฉันเต้นแรงขึ้นมาซะงั้น
(น้องอลิซครับ น้องอลิซฟังพี่อยู่รึป่าวครับ)ปลายสายร้อนรนถามฉันเหมือนกลัวว่าฉันจะวางสายเขาอย่างนั้นแหละ นั้นน่ะสิทำไมฉันถึงไม่วางสายเขาล่ะ
“ฉันง่วง แค่นี้น่ะ”ฉันตัดบทสนทนาทันทีโดยไม่ได้ตอบคำถามเขา
(ครับพี่ไม่กวนหนูแล้วก็ได้ งั้นฝันดีนะครับน้องอลิซ)เสียงนุ่มฟังดูไพเราะของเขาทำให้ฉันใจเต้นเเรงขึ้นมาอีกแล้ว ฉันต้องเอามือขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง
(บ๊ายบายครับ ไว้เจอกันครับ^_^)
ติ๊ด
“เป็บ้าอะไรของแกว่ะอลิซ”ฉันเป็คนที่กดวางสายเขาและเอ่ยพูดกับตัวเองเมื่อหน้าอกข้างซ้ายของฉันที่มันไม่เคยเป็แบบนี้มาก่อนทำไมอยู่ดีๆมันก็เต้นแรงขึ้นมาซะงั้นล่ะ ฉันกำลังจะเป็โรคหัวใจรึป่าว
ร้านนมสดหน้ามหาลัยYYA
14:30น.
“อลิซ อลิซ อีลิซโว้ยยยยย!”เสียงของแซนนี้ะโใส่หูฉันซะเสียงดังจนขี้หูในหูฉันสั่นะเืจนฉันแสบหูไปหมดทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
“อะไรของแกะโใส่หูฉันทำไม!”ฉันหันไปโวยใส่แซนนี้พลางเอามือแกะหูตัวเองตัวความแสบแก้วหู ฉันจะหูหนวกเพราะมันนี้แหละ
“กูเรียกมึงตั้งนานแหละย่ะ ห่วงเหม่อคิดอะไรอยู่ ซู๊ดดดด”แซนนี้มันบอกฉันพลางดื่มนำ้ปั่นที่มันถืออยู่ ฉันก็มองหน้ามันและหยิบนำ้นมสดปั่นขึ้นมาดื่มบ้าง ฉันนอนไม่หลับั้แ่เมื่อเช้าเพราะอีตาบ้านั้นคนเดียวทำให้ฉันเห็นเขาทุกครั้งที่หลับตา ตามหลอกหลอนฉันไม่เลิกอีตาผีบ้า!
“ป่าว กำลังคิดถึงพี่หมอกรูฟอยู่น่ะ”ฉันบอกแซนนี้ไปด้วยคำโกหกที่ฉันเพิ่งคิดได้เมื่อตะกี้นี้เอง ฉันไม่ได้คิดถึงพี่หมอเลยด้วยซำ้่นี้ฉันก็ไม่ได้ไปหาเฮียเคที่โรงพยาบาลของเขาแล้วด้วย ฉันไม่รู้จะมองหน้าพี่หมอยังไงกับเื่วันนั้นฉันรู้สึกผิดกับเขาจังถ้าเกิดว่าเราสองคนคบกันเป็แฟนขึ้นมาจริงๆและสิ่งที่ฉันอยากจะเก็บไว้ให้ผู้ชายที่ฉันรักได้ก็ไม่เหลืออยู่แล้ว ฉันมองไม่มีค่าพอที่จะให้พี่กรูฟมาหยุดอยู่ที่ฉันด้วยซ้ำ
“เหรอจ๊ะ คิดถึงแล้วทำไมไม่ไปหาเขาล่ะ ตามฉันมาดูหนุ่มๆเอ๊าๆลำ่ๆแถวนี้ทำไม”แซนนี้เอ่ยบอกฉันพลางสอดสายตามองไปรอบๆร้านที่มีบรรดาหนุ่มนักศึกษากำลังนั่งดื่มนำ้กันอยู่เป็กลุ่มๆและมีนักศึกษาผู้หญิงบางแต่น้อยกว่านักศึกษาผู้ชาย
“กลัวมึงเหงา”ฉันบอกมันไปพลางเอนตัวพิงเบาะนั่งขนาดใหญ่ฉันเลือกนั่งโต๊ะริมสุดติดกับกระจกใสและมองออกไปนอกร้านที่มีกระจกใสติดอยู่รอบตัวร้านทำให้มองเห็นบรรยากาศรอบนอกได้ ร้านที่นี้เขาจัดแบบร้านต้นไม้สบายตาดอกไม้สวยๆถูกตกแต่งไว้รอบๆตัวร้านทำให้มีนักศึกษาเข้ามาถ่ายรูปหรือนั่งเล่นกันเยอะ ฉันมองวิวไปรอบๆพลางสายตาของฉันไปสะดุดเข้ากับรถสปอร์ตคันสีเหลืองเปิดประทุนคันหรูคันหนึ่งที่ตอนนี้ไม่ได้เปิดประทุนเพิ่งจะมาจอดที่โรงจอดรถหน้าร้านและตามด้วยร่างสูงโปร่งของผู้ชายหน้าตาดีหล่อขาวเช็ทผมแสกข้างสวมเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนมาถึงข้อศอกเขาปลดกระดุมสี่เม็ดบนโชว์แผงอกขาวเนียนที่มีรอยสักเป็รูปภาษาอังกฤษอยู่ซีกฝั่งซ้ายและซีกขวาและโชว์รอยสักที่ข้างต้นคอเป็รูปภาษาอังกฤษเหมือนกันตามด้วยกางเกงผ้าเนื้อดีสียีนส์พร้อมกับรองเท้าผ้าใบยี่ห่อดังสีขาวมองดูมันไม่ค่อยเข้ากันแต่พออยู่บนตัวผู้ชายคนนี้กับดูดีขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์เขาสวมเเว่นกันแดดสีดำช่วยขับใบหน้าที่ขาวใสของเขาให้ดูดีขึ้นไปอีกสาวๆที่นั่งกันอยู่ในร้านและนอกร้านต่างพากันจ้องมองร่างของเขาด้วยความหลงใหลร่วมถึงตัวฉันเองก็ด้วย
“โอ้ววววว หล่อเวอร์ หล่อแบด หล่อลากมากกกกกกกกรี๊ดดดดด”เสียงของชะนีที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับฉันร้องกรี๊ดขึ้นมาฉันจึงหันไปมองมัน ก็เห็นว่ามีนมองผู้ชายคนเดียวกับฉัน
“เก็บอาการบ้างคะเพื่อนรัก นำ้ลายหกแล้วย่ะ”
“ว๊าย!จริงด้วย”มันร้องใที่เมื่อมันเอามือขึ้นไปลูบๆข้างริมฝีปากมันก็เห็นว่ามีนำ้ใสๆไหลออกมาจริงๆฉันมองมันและส่ายหัวไปมากับอาการของเพื่อนฉัน สามีมันก็หล่อ มึงจะเอาหล่อขนาดไหนว่ะเนี่ย
“แหม่ มากับดาวมหาลัยซะด้วย”เมื่อแซนนี้หยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดนำ้ลายตัวเองเสร็จสายตามันก็ยังไม่เลิกมองไปที่ผู้ชายคนนั้น และมันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหมั่นใส้ฉันจึงหันไปมองบ้างก็เห็นว่าเขาเดินอ้อมรถสปอร์ตฝั่งคนขับไปเปิดประตูฝั่งคนนั่งและก็ปรากฏร่างบางสวยสง่าสวมชุดนักศึกษาที่รัดติ้วกระโปรงสั้นจู๋เสื้อนักศึกษาของเธอกระดุมก็แทบจะปริ โอ้ยแม่คุณจ๋าอะไรจะขนาดนั้นล่ะคะเห็นใจคนที่มีของแท้บ้างเถอะค่ะ ฉันมองหน้าอกของเธอและก็ก้มมามองหน้าอกของตัวเอง ช่างผิดกันไกลเธอช่างมีส่วนสูงที่สูงสง่าผิดกับฉันอีกแหละที่สูงแค่160เนี่ย
“แกรู้ได้ยังไงว่าเป็ดาวมหาลัย?”ฉันถาทแซนนี้ไปด้วยความสงสัยมันรู้ได้ยังไงวะ
“รู้สิย่ะ ฉันเป็ใครและมีใครบ้างที่ฉันไม่รู้จัก”แซนนี้ยื่นอกขึ้นพลางยกมือตบหน้าอกตัวเองเบาๆเหมือนภูมิใจในตัวมันมากอ่ะ ฉันเบะปากให้มันไปหนึ่งทีหมั่นใส้มันอ่ะ
“หล่อนชื่อน้องมินนี่ลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดังหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทคุณเฮลเขาน่ะ”แซนนี้พูดขึ้นพลางจับหลอดสีใสหมุนนำ้ในแก้วของเธอไปพลางดูดนำ้ปั่นไปด้วย มันรู้จริงๆเว้ย มันรู้ด้วยว่าผู้ชายที่ฉันกับทันกำลังมองอยู่ชื่อเฮลใช่แล้วล่ะคะเขาคือผู้ชายที่เพิ่งจะโทรมาบอกว่าคิดถึงฉันเมื่อเช้ามืดนี้และเป็ต้นเหตุทำให้ฉันนอนไม่หลับ แต่ดูเขาสิ เขาสบายมากดูมีความสุขด้วยซำ้ไม่เหมือนคนที่อดนอนแบบฉันสักนิด เขากอดเอวผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในร้านแห่งนี้เขาเปิดประตูให้เธอลากเก้าอี้ให้เธอนั่ง สองคนมองคุยกันสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัว ป้อนไอศกรีมให้กันด้วย แล้วฉันจะไปสนใจพวกเขาทำไมล่ะเนี่ย
“อื้อออ ยิ่งมองใกล้ๆแบบนี้ก็ยิ่งหล่อ ผู้ชายอะไรหล่อแบดเวอร์ เข้ากับบุคลิกแบดบอยของเขามากอ่ะ”แซนนี้นั่งเอามือเท้าครางมองไปที่พี่เฮลอะไรนั้นกับน้องมินนี่ด้วยสายตาเคลิ้มฝัน เขานั่งอยู่คนละฝั่งกับฉันถัดไปสามโต๊ะฉันนั่งอยู่ด้านใน เขาคงมองไม่เห็นฉันหรอกเพราะฉันนั่งหันหลังให้เขา
“เ้าชู้จะตายผู้ชายอะไร บอกคิดถึงผู้หญิงที่ไม่รู้จักง่ายๆ”ฉันพูดขึ้นพลางถอนหายใจออกมาและดูดนมสดในแก้วฉันจนหมด แซนนี้รีบละสายตาของมันกลับมามองฉันทันที
“บ่นอะไรของมึง ใครบอกคิดถึงมึง?”แซนนี้เอ่ยถามฉันพลางมองฉันด้วยสีหน้าจับผิด ฉันก็เลิกลักๆหลบสายตามันด้วยการชี้นกที่เกาะอยู่ที่รั้วข้างนอกร้าน
“นกตัวนั้นสวยมากเลยนะมึง”ฉันรีบบอกแซนนี้ แซนนี้ก็มองตามนิ้วที่ฉันชี้ไปแล้วมันก็กลับหันมามองฉันพร้อมกับสะเเยะยิ้มอย่างน่ากลัว ซวยแล้วไงอีลิซเอ้ย!
“มึงเล่าเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับมึงั้แ่วันที่มึงหายหัวไปที่งานปาตี้นั่นมาให้กูฟังให้หมด”แซนนี้ใส่จิติญญาของคุณครูผสมกับตำรวจสืบสวนฉัน ฉันจึงต้องยอมเล่าเื่ทุกๆอย่างของฉันให้แซนนี้ฟังร่วมถึงเื่ของฉันกับผู้ชายที่ชื่อเฮลและพี่หมอกรูฟด้วย เมื่อฉันเล่าให้แซนนี้ฟังทุกอย่างฉันก็โล่งอกขึ้นมาเหมือนได้ปลดปล่อยให้คนอื่นฟังไม่ต้องเครียดอยู่คนเดียวแบบนี้
“มึงก็แค่ไม่ซิง พี่หมอเขาไม่คิดอะไรมากหรอกอีลิซ”แซนนี้เอ่ยบอกฉันด้วยสีหน้าจริงจัง ผิดกับฉันที่เหมือนอมโลกทั้งใบไว้
“มึงเป็เด็กนอกไปอยู่เมืองนอกเป็สิบๆปีกูว่าเขาเป็ถึงเสือเขาต้องรู้ กูว่ามึงซิงอ่ะแปลก อายุตั้ง25แล้วมึงยังซิงอยู่อีกเหรอเนี่ย”แซนนี้เเ่ยบอกฉันอีกด้วยนำ้เสียงทีเล่นทีจริง
“ก็กูไม่เคยมีแฟน มึงจะให้กูไม่ซิงได้ยังไงว่ะ”ฉันเอ่ยบอกมันไปพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น ฉันไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ไม่ชอบฝรั่งอ่ะตัวใหญ่เกินไปไม่ใช่สเปค
“เออนั้นสิเนอะ กูก็ลืมว่ามึงเื่มาก”เเซนนี้เอ่ยบอกฉันคำพูดของมันทำให้ฉันรีบมองหน้ามันตาขวางทันทีฉันเบิกตาโตๆของฉันใส่
“เอ้ยๆกูพูดผิด กูจะบอกว่ามึงเลือกมาก”แซนนี้รีบแก้ตัว ฉันจึงส่ายหน้าให้มันไปอย่างเซ็งๆไม่ใช่เลือกมากเว้ยแต่ก็แค่อยากเจอคนที่ใช่อ่ะเมื่อก่อนนี้มันยังไม่เจอแต่ตอนนี้เจอแล้วไงและอีซิงมันก็ไม่อยู่แล้วเนี่ย ดั้นไปเสียให้กับคนที่ไม่ใช่หึ๊ย!
“อ้าว สุดหล่อกูหายไปไหนแล้วว่ะ”แซนนี้โวยขึ้นมาเมื่อมันมองไปที่โต๊ะข้างหน้ามันแต่อยู่ข้างหลังฉันกลับไม่พบร่างของผู้ชายที่ชื่อเฮลแล้วฉันจึงมองตามมันไปก็ไม่เจอเขาจริงๆเหลือแต่แม่นางนมโตที่มากับเขานั่งอยู่คนเดียวอะไรกันปล่อยแฟนไว้แบบนี้ได้ยังไง
“เดี๋ยวกูมานะ ปวดฉี่ว่ะ”ฉันบอกแซนนี้ไปพลางลุกขึ้นยืน
“เออๆ”แซนนี้รับรู้แต่มันไม่ได้มองฉัน สายตามันยังคงมองหาสุดหล่อของมันอยู่ ฉันจึงส่ายหน้าให้มันและเดินออกมาจากโต๊ะออกไปทางประตูข้างที่เชื่อมกับสวนหย่อมถัดจากสวนหย่อมไปจะมีทางเดินเล็กๆยาวไปถึงห้องนำ้ของผู้ชายและผู้หญิงแบ่งกันเป็ละฝั่ง ห้องนำ้ที่นี้สวยสะอาดและใหญ่โตมาก
“ไม่ไหวแล้ว”ฉันบ่นขึ้นเมื่อสายตาของฉันห่วงแต่มองวิวรอบๆที่นี้ จนฉี่จะราดอยู่แล้วฉันจึงรีบวิ่งไปยังห้องนำ้หญิงทันที ดีนะที่ไม่มีคนน่ะ
“เฮ้ออออออ”ฉันผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแ่เบาเมื่อได้ปลดปล่อยแล้ว กินนำ้มากไปเลยเป็แบบนี้
“อ่าาาาห์ ซี๊ดดดดดดด”และในจังหวะที่ฉันกำลังจะกดชักโคกให้นำ้ออกมาก็ต้องหยุดชะงักมือกับเสียงร้องที่สยิ้วของผู้ชาย
“อ๊ะๆๆๆๆๆเสียวค่ะ”ตามด้วยเสียงร้องกระเส่าของผู้หญิง
พั่บๆๆๆๆตั่บๆๆๆๆๆๆ
“อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆเเรงไปแล้วคะ”
“ไม่ไหวแล้วค่ะ”เสียงของผู้หญิงกับผู้ชายที่กำลังพรอดรักกันดังมาจากห้องนำ้ห้องข้างๆห้องของฉันนี้แหละ บัดสีบัดเถลิงที่สุดใครบ้ามาทำเื่แบบนี้ที่ห้องน้ำสาธารณะแบบนี้ว่ะเนี่ย
“ขออีกแปปนะครับ พี่กำลังเสียวหัวเลย”เสียงคุ้นๆที่เหมือนฉันเคยได้ยินที่ไหนเอ่ยพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงหอบเล็กน้อยจากกิจกรรมที่เขากำลังทำอยู่
“อื้อออ มันใหญ่เกินไปจน หนูเสร็จไปหลายรอบแล้วนะคะ อ๊ะๆๆๆๆๆ”เสียงร้องครวญครางของชายหญิงคู่นี้ยังคงดังออกมาจากห้องนำ้ห้องข้างๆฉันอย่างไม่หยุดหย่อนราวๆ10นาทีน่าจะได้ ผสมกับเสียงตุ้บๆเหมือนเสียงอะไรสักอย่างดังกระทบกัน
“ไม่ไหวแล้วเว้ย!!!!”ฉันที่ทนนั่งฟังเสียงผสมพันธ์กันนานนับ10นาทีต้องพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดกดชักโคกจนเกิดเสียงนำ้ดังขึ้น เสียงของฉันทำให้กิจกรรมของชายหญิงห้องข้างๆเงียบไป ตอนแรกฉันว่าจะรอให้พวกเขาเสร็จกิจกรรมกันก่อนแล้วออกมาเพื่อฉันจะได้ดูหน้าของคนทั้งสองคนนั้นแต่นี้มัน10นาทีแล้วดูเหมือนกิจกรรมของทั้งคู่จะไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ
“ถ้าจะผสมพันธ์กันเนี่ยเชิญไปที่อื่นได้ไหมคะ นี้มันห้องน้ำสาธารณะค่ะ โปรดให้เกียรติสถานที่ด้วยค่ะ!!”ฉันออกมายืนะโหน้าห้องนำ้ของหญิงชายคู่นั้น
“หน้าไม่อาย นี้มันยังไม่ถึงหน้าผสมพันธ์เลยนะคะเพิ่งเดือนมีนาเองค่ะ!!!”
“ทุเรศ!!!”ฉันด่าคนในห้องนำ้เสร็จก็ล้างมือและเดินออกมาจากห้องนำ้นั้นทันทีมุ่งหน้าไปยังโต๊ะของแซนนี้
“กลับกันเถอะมึง!”เมื่อฉันเดินไปถึงโต๊ะของแซนนี้ก็คว้าแขนมันพร้อมหยิบเงินแบงค์พันหนึ่งใบวางไว้บนโต๊ะ
“อะไรของมึงเนี่ย ไปขี้ก็นานแล้วยังอารมณ์เสียอะไรอีกวะ!”แซนนี้มันเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงงงๆปนสงสัย ฉันไม่ได้สนใจอะไรมันคว้ากระเป๋าของฉันและมันออกมาจากร้านนั้นและในจังหวะนั้นฉันก็เดินผ่านโต๊ะของผู้ชายที่ชื่อเฮลก็พบแต่มินนี่นั้งมองนาฬิกาข้อมือของเธอพลางชะเง้อคอมองหาอะไรสักอย่างทางถัดไปข้างหลังฉันและที่โต๊ะ ฉันก็ไม่พบผู้ชายที่ชื่อเฮลอะไรนั้น
“เหอะ!สำส่อนไม่เลือกสถานที่!”ฉันพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงขยะแขยงฉันมั่นใจแล้วล่ะว่าผู้ชายที่อยู่ในห้
องนำ้นั้นเป็ใคร จะเป็ใครไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่เสือนักล่าที่ชื่อเฮล