“สำหรับวิธีทะลวงผ่านด่านแรกนั้นข้าจะอธิบายให้เ้าฟัง ก่อนอื่นเ้าสามารถตระเวนออกไปดูรอบๆ ทั้งสี่ทิศสักครั้งหนึ่งก่อน เ้าจะพบเจอกับต้นไม้ดึกดำบรรพ์ที่มีขนาดสูงใหญ่เป็อย่างมากเจ็ดต้นซึ่งแต่ละต้นจะไม่มีใบและมีผลอยู่ต้นละหนึ่งลูก แต่ละลูกจะเป็ตัวแทนของอารมณ์ทั้งเจ็ดคือ ความยินดี ความโกรธ ความเสียใจ ความกลัว ความรัก ความเกลียด และความอยาก สิ่งที่เ้าต้องทำคือฝ่าด่านภาพลวงตาของอารมณ์ทั้งเจ็ดไปให้ได้แล้วเด็ดผลไม้อารมณ์ที่อยู่้าลงมาเพียงเท่านี้เ้าก็จะสามารถทะลวงผ่านด่านแรกไปได้ จำเอาไว้ให้ดียิ่งเข้าใกล้ต้นไม้ดึกดำบรรพ์ทั้งเจ็ดมากเท่าไรอานุภาพของภาพลวงตายิ่งจะรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เ้าอย่าฝืนจนเกินไปค่อยๆ ปรับตัวรักษาความสงบของจิตใจไว้ตลอดเวลา หากเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะไม่ดีรีบถอยออกมาโดยเร็ว...”
เย่รั่วสุ่ยเริ่มบรรยายเคล็ดลับวิธีการทะลวงผ่านด่านที่หนึ่งให้เขาฟังอย่างละเอียด เมื่อก่อนเย่รั่วสุ่ยเคยเข้ามาภายในูเาสุสานทวยเทพอยู่หลายครั้ง ทุกๆ ครั้งล้วนทะลวงผ่านด่านแรกและด่านที่สองได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ในด่านที่สามล้วนล้มเหลวจนต้องถอยกลับมาทุกครั้ง ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดอธิบายถึงเคล็ดลับและเทคนิคในการทะลวงผ่านด่านให้เย่ชิงหานฟังได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“ปัญหาของเ้าในตอนนี้คือระดับพลังิญญาต่ำเกินไป หลังจากรวมร่างสัตว์อสูรคงพอจะต้านทานการโจมตีของภาพลวงตาระดับธรรมดาได้ แต่ถ้าเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ดึกดำบรรพ์เจ็ดอารมณ์คงจะจมดิ่งอยู่ในห้วงของภาพลวงตาจนถอนตัวออกมาไม่ได้และเป็บ้าเสียสติไปอย่างแน่นอน ดังนั้นภารกิจสำคัญที่เ้าจำเป็จะต้องทำด่วนที่สุดในตอนนี้คือฝึกฝนเพื่อเพิ่มพูนพลังฝีมือ อาศัยเก็บกินผลไม้วิเศษที่มีอยู่อย่างล้นหลามภายในูเาสุสานทวยเทพเพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้ ภายในระยะเวลาหนึ่งปีจำเป็จะต้องฝึกฝนให้บรรลุถึงระดับขอบเขตจ้าวนักรบให้ได้ จากนั้นเมื่อรวมร่างกับสัตว์อสูรระดับพลังิญญาของเ้าถึงจะสามารถบรรลุถึงระดับขอบเขตาาจักรพรรดิ มิฉะนั้นละก็อีกหนึ่งปีหลังจากนี้เ้าจะต้องตายอยู่ภายในนี้อย่างแน่นอน!”
เย่รั่วสุ่ยพูดอธิบายชี้ทางสว่างให้เย่ชิงหานอีกครั้ง เพียงแต่ภายในใจของเย่ชิงหานเกิดความสงสัยเป็อย่างมาก ความจริงแล้วที่เขาสามารถต้านทานการโจมตีของภาพลวงตาได้นั้นไม่ได้อาศัยการรวมร่างกับสัตว์อสูรแม้แต่น้อย แต่ว่าอาศัยแหวนทองเหลืองที่อยู่บนนิ้วมือซ้าย แน่นอนว่าความลับนี้เขาย่อมไม่พูดออกไปแน่เพราะมันเป็ไพ่ตายที่เขาทำการเก็บซ่อนอย่างมิดชิดมาโดยตลอด
เย่รั่วสุ่ยพูดอธิบายให้เขาฟังอีกชั่วครู่ก็หยุดการส่งกระแสเสียงลง ทำเพียงบอกกับเขาว่าทุกๆ ครึ่งเดือนจะส่งกระแสเสียงมาหาเขาทีหนึ่งเพื่อตอบคำถามข้อสงสัยของเขา เพราะไม่ว่าจะพูดอย่างไรการส่งกระแสเสียงที่ระยะทางห่างไกลกันถึงเพียงนี้ต่อให้เป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพพลังิญญาที่ใช้ก็คงสูญเสียไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน
เย่ชิงหานนั่งนิ่งอยู่กับที่ทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับฟังจากเย่รั่วสุ่ย หลังจากผ่านไปสักพักเขาจึงลุกขึ้นและเริ่มเดินออกไปยังทิศต่างๆ โดยรอบเพื่อทำการสำรวจดู
ในมือถือกริชัเขียวพร้อมกับทำการรวมร่างสัตว์อสูรขึ้นในทันที เขาเดินรุดหน้าทะลุผ่านม่านหมอกหนาสีขาวไปเรื่อยๆ แม้เย่รั่วสุ่ยจะบอกกับเขาว่าด่านแรกดินแดนแห่งภาพลวงตานอกจากอันตรายจากการโจมตีของภาพลวงตาแล้วสิ่งอื่นไม่มีอะไรน่าเป็ห่วง แต่เย่ชิงหานก็ยังคงเดินรุดหน้าไปอย่างไม่ประมาท ทำการมองสำรวจสังเกตการณ์สิ่งต่างๆ รอบด้านไปด้วยระมัดระวัง
“นั่นใช่ผลไม้วิเศษที่ว่าหรือเปล่า?”
เดินออกมาได้สิบกว่านาทีเย่ชิงหานจึงได้พบเจอเข้ากับต้นไม้เล็กๆ ต้นหนึ่งที่มีขนาดความสูงประมาณสองเมตรกว่าๆ ้าของมันมีผลไม้สีขาวที่เกือบจะโปร่งใสไม่รู้ชื่ออยู่สี่ห้าลูก
หลังจากที่เดินวนรอบต้นไม้เล็กๆ ต้นนั้นอยู่หลายรอบจนแน่ใจว่าไม่มีอันตรายใดๆ แอบแฝงอยู่เย่ชิงหานจึงเด็ดผลไม้ลงมาลูกหนึ่ง ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะกัดลงไปคำหนึ่ง เขารู้ว่าไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องกินมันอยู่ดี หากไม่กินก็จะต้องอดตาย แต่ถ้าหากผลไม้มีพิษเขากินลงไปก็ต้องตาย ในเมื่อทั้งสองทางล้วนต้องตายก็ขอลองดูสักครั้งจะเป็ไรไป?
ผลไม้สีขาวมีลักษณะรูปวงรีขนาดพอๆ กับลูกแอปเปิล เปลือกค่อนข้างใสจนสามารถมองเห็นเนื้อที่อยู่ภายในได้ เย่ชิงหานกัดลงไปคำหนึ่งลิ้นพลันััรับรู้ได้ถึงรสชาติหอมหวานที่แผ่กระจายไปทั่วทั้งปาก เนื้อของผลไม้เมื่อเข้าสู่ปากพลันละลายลงในทันทีรสชาติราวกับน้ำพุที่หอมหวานไหลรินลงสู่หลอดอาหารฉันนั้น ทันใดนั้นทำให้ทั่วทั้งร่างของเย่ชิงหานรู้สึกสดชื่นสุขกายสบายใจอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“อร่อย ของอร่อยที่สุดในใต้หล้า!” เย่ชิงหานกัดลงไปไม่กี่คำก็กินจนหมดลูก จากนั้นมือซ้ายรีบยื่นออกไปเด็ดมาอีกลูกอย่างรวดเร็วแล้วเริ่มกัดกินต่อในทันที รสชาติเอร็ดอร่อยเช่นนี้ต่อให้ถูกพิษจนตายเขาก็ยินยอม
เพียงชั่วครู่ผลไม้ทั้งห้าลูกที่อยู่บนต้นก็ลงมาอยู่ในท้องของเย่ชิงหานเรียบร้อยทั้งหมด เขาเลียริมฝีปากอย่างรู้สึกไม่เต็มอิ่มราวกับว่ายังอยากที่จะดื่มด่ำกับรสชาติที่ได้ลิ้มลองเมื่อสักครู่อีก เพียงแต่...ภายในท้องพลันมีกระแสพลังร้อนสายหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นทำให้เขาไม่มีเวลาไปเสาะหาผลไม้อื่นอีก กระแสพลังร้อนเช่นนี้เขาคุ้นเคยเป็อย่างมากเหมือนกันกับกระแสพลังที่พรั่งพรูออกมาภายในทรวงอกของเขาเมื่อตอนอยู่ที่เกาะแห่งความมืดมิด เพียงแต่กระแสพลังที่พลุ่งพล่านขึ้นมาภายในท้องในครั้งนี้อ่อนกว่ามากและระยะเวลาที่คงอยู่ก็ค่อนข้างที่จะสั้นกว่ามาก
เขาไม่กล้าประมาทรีบนั่งขัดสมาธิลงในทันที จากนั้นดูดซับเอาพลังที่อยู่ภายในท้องเข้าไปยังจุดชีพจรเพื่อให้ไหลผ่านเข้าไปเก็บสะสมไว้ภายในตันเถียนต่อไป
.................................
ระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ต้องทำการบีบอัดพลังปราณรบให้กลายสภาพเป็ของเหลว ต่อมาระดับขอบเขตนักรบต้องประสานพลังปราณรบจากสภาพของเหลวให้พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นจนกลายเป็สภาพของแข็งพร้อมทั้งสร้างแก่นแท้พลังตันเถียนขึ้นมาให้ได้จึงจะสามารถบรรลุถึงระดับขอบเขตจ้าวนักรบ การเปลี่ยนสภาพพลังปราณรบให้เป็ของเหลวจำเป็จะต้องเก็บสะสมพลังปราณรบจำนวนมหาศาล ส่วนการเปลี่ยนพลังปราณรบจากสภาพของเหลวให้กลายสภาพเป็ของแข็งนั้นจำเป็จะต้องใช้พลังปราณรบสภาพของเหลวมากขึ้นถึงร้อยเท่าตัวถึงจะสามารถประสานได้สำเร็จ
ตอนนี้ภายในูเาสุสานทวยเทพมีผลไม้วิเศษมากมายที่มีพลังงานบริสุทธิ์เบาบางอยู่ภายใน โดยพลังงานบริสุทธิ์เหล่านี้สามารถเปลี่ยนให้เป็พลังปราณรบจำนวนมากได้ เมื่อสักครู่เย่ชิงหานกินผลไม้วิเศษลงไปเพียงไม่กี่ลูกพลังงานที่เกิดขึ้นในท้องเมื่อนำมาเปลี่ยนเป็พลังปราณรบแล้วยังมากกว่าการนั่งฝึกฝนพลังปราณรบตลอดทั้งวันเสียด้วยซ้ำ
เื่ดีงามเช่นนี้แน่นอนว่าเย่ชิงหานไม่ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ เขาเริ่มออกเดินสำรวจไปทั่วทั้งสี่ทิศเพื่อเสาะหาผลไม้วิเศษ เดินเตร็ดเตร่ไปมาอยู่ครึ่งวันผลไม้ที่พบก็มากพอดูแต่เขากลับกินอีกไม่ได้และไม่คิดอยากที่จะกิน เขาพบว่าถ้าหากกินมากกว่าสิบลูกขึ้นไปผลไม้ที่กินลงไปอยู่ในท้องจะไม่เกิดกระแสพลังร้อนขึ้นมาอีก แต่กลับจะรู้สึกอิ่มและไม่อยากอาหารขึ้นมาแทน
กินไม่ได้อีกเช่นนั้นก็ไม่ต้องกิน หลังจากเดินเตร็ดเตร่สำรวจไปมาอีกสักพักเย่ชิงหานแน่ใจได้ว่าบริเวณโดยรอบไม่มีอันตรายแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน รู้สึกว่าจะปลอดภัยมากเสียด้วยซ้ำ เขาจึงเริ่มที่จะเชื่อคำพูดของเย่รั่วสุ่ยขึ้นมาบ้างแล้ว อันตรายที่มีอยู่ในด่านแรกดินแดนแห่งภาพลวงตานี้หนึ่งวันจะมีอยู่เพียงสามครั้งที่ภาพลวงตาจะทำการโจมตีออกมา เวลานอกเหนือจากนั้นล้วนปลอดภัยอย่างไม่ต้องเป็กังวลใดๆ แม้แต่น้อย
ในเมื่อปลอดภัยก็สามารถทำการเดินสำรวจไปได้ทุกที่อย่างวางใจ ก่อนอื่นต้องทำการสำรวจดูลักษณะภูมิประเทศของดินแดนแห่งภาพลวงตานี้ให้เข้าใจอย่างชัดเจนที่สุด อีกทั้งยังต้องเสาะหาตำแหน่งที่ตั้งของต้นไม้ดึกดำบรรพ์ทั้งเจ็ดต้นให้รู้แน่ชัดอีก ครั้นแล้วเขาจึงเริ่มค่อยๆ ทำการเดินสำรวจออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
ภายใต้หมอกสีขาวที่หนาทึบ เย่ชิงหานค่อยๆ เดินรุดหน้าไปอย่างช้าๆ ทางข้างหน้าที่สามารถมองเห็นได้ไกลที่สุดเพียงแค่ไม่เกินสิบกว่าเมตรเท่านั้น ลักษณะภูมิประเทศภายในดินแดนแห่งภาพลวงตานี้ค่อนข้างที่จะแปลกเป็พิเศษ ราวกับว่าเป็ที่ราบที่เดินเท่าไรก็หาจุดสิ้นสุดไม่ได้สักที นอกจากดินและต้นไม้เล็กๆ ที่มีผลไม้วิเศษแล้ว อย่างอื่นเช่น ดอกไม้ หญ้า น้ำ และก้อนหินล้วนไม่มีอยู่เลย มีเพียงพื้นที่ที่เป็ทุ่งราบที่เหมือนกับทุ่งหญ้าสีเืเพียงเท่านั้น
หนึ่งชั่วโมงให้หลังในที่สุดเขาก็เสาะหาต้นไม้ดึกดำบรรพ์ต้นแรกเจอ ความจริงแล้วจะบอกว่าเขาหาเจอก็ไม่ถูกนัก เพราะว่าต้นไม้ต้นนี้ใหญ่โตเป็อย่างมาก เดิมทีในม่านหมอกสีขาวที่หนาทึบเช่นนี้วิสัยทัศน์ของเขาที่สามารถมองเห็นได้ไกลสุดแค่เพียงสิบกว่าเมตรเท่านั้น แต่ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้เขากลับสามารถมองเห็นได้อย่างรางๆ ในขณะที่อยู่ห่างออกไปถึงร้อยเมตร ซึ่งตอนที่มองเห็นนั้นมันเป็เงาดำที่มีลักษณะใหญ่โตคล้ายกับเสาประตูเมืองอย่างไรอย่างนั้น
“ต้นไม้ต้นนี้อย่างน้อยมีความสูงไม่ต่ำกว่าหลายสิบเมตรและมีขนาดกว้างของลำต้นไม่น้อยกว่าหลายเมตรเห็นจะได้!”
มองดูเงาใหญ่โตสีดำจากไกลๆ เย่ชิงหานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงตัดสินใจค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ทีละนิดอย่างช้าๆ แม้เขาจะรู้ดีว่าตนเองในตอนนี้ไม่น่าจะสามารถเข้าไปใกล้ได้แต่ก็อยากทดลองดูสักครั้ง เพราะไม่ว่าอย่างไรต่อไปตนเองก็ต้องเข้าไปใกล้ต้นไม้ดึกดำบรรพ์เพื่อเด็ดเอาผลทั้งเจ็ดอารมณ์อยู่ดี
ก่อนที่จะเข้าไปเขาทำการสลายร่างอสูรเพื่อให้เสี่ยวเฮยกลับเข้าไปภายในมิติสัตว์อสูร หากยังไม่แน่ใจว่าภาพลวงตามีผลต่อเสี่ยวเฮยมากน้อยแค่ไหนเขาไม่กล้าที่จะเสี่ยง แหวนทองเหลืองสามารถช่วยเหลือตนเองได้แต่ไม่รู้ว่าเมื่ออยู่ในสภาพร่างอสูรแหวนจะช่วยเสี่ยวเฮยด้วยหรือไม่? หากไม่ช่วยไม่เพียงเสี่ยวเฮยที่ได้รับผลกระทบแต่ตัวเขาเองก็จะพลอยโดนไปด้วย ถึงเวลานั้นคงได้จบเห่กันอย่างแท้จริง
ค่อยๆ ขยับร่างกายเคลื่อนตัวเข้าไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ เดินหน้าเข้าไปสองก้าวแล้วก็หยุดลงทำการสำรวจดูก่อนจนแน่ใจว่าไม่มีปรากฏการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น จากนั้นทำเช่นเดิมค่อยๆ เคลื่อนตัวต่อไปอีกสองก้าว...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้