กัวไฮว่ไร้ซึ่งสติ แต่ก็ััได้ว่าฉินอวี้หลงอยู่ที่นั่นเขาวาดมือไปในอากาศครั้งหนึ่งแล้วพาหลินซวงเขาไปในน้ำเต้าของตน
“ซวงเอ๋อร์ ตอนแรกตั้งใจจะให้คุณได้เริ่มต้นอย่างงดงามแต่กลัวว่าครั้งนี้จะไม่ได้แล้ว ผมรักคุณนะ” กัวไฮว่พูดพลางกอดหลินซวงได้แน่นทว่าหลินซวงกลับรุกล้ำหนักกว่าเดิม เธอผลักกัวไฮว่ไปบนพื้น จากนั้นทั้งสองก็เริ่มทำตามสัญชาตญาณดิบ
“พี่อวี้เอ๋อร์ เป็อะไรไป ทำไมรู้สึกว่าพี่กระวนกระวายล่ะ” หนานกงหลิงโม่อ่านบันทึกบำเพ็ญเพียรเสร็จบทหนึ่งมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจเลยจะมาถามอวี้เอ๋อร์แต่พบว่าอวี้เอ๋อร์ขมวดคิ้วย่นจึงถามขึ้นเบาๆ
“เกิดเื่ขึ้นกับตาบ้าแล้ว แต่ฉันคำนวณดูไม่ได้ว่าเกิดเื่อะไรเมื่อกี้ฉันััได้ว่าพลังเซียนของเขาสะพัด สะพัดแรงขนาดนั้น ต้องเกิดเื่แน่” อวี้เอ๋อร์พูดเบาๆ
“งั้นทำไงดีล่ะ เราหาวิธีช่วยเขากันเถอะ” หนานกงหลิงโม่พูดขึ้นด้วยความตระหนก
“น้องหลิงโม่ จากศักยภาพของตาบ้าแล้วเนี่ยถ้าคนที่ทำให้กัวไฮว่ตกอยู่ในความยากลำบากจะทำอะไรพวกเราก็ง่ายนิดเดียวรอรับชะตากรรมเถอะ” เมื่ออวี้เอ๋อร์พูดเสร็จเธอก็หลับตาทั้งสองอีกครั้ง “เ้าบ้า เ้าอย่ามาเกิดเื่ตอนที่ข้าเพิ่งจะมายังแดนมนุษย์สิ”
ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง กัวไฮว่ก็ฟื้นคืนสติหลินซวงเองก็ฟื้นสติแล้ว เพราะเธอผ่านสมรภูมิรบมาสองชั่วโมงเลยหมดสติไป
“แม่มันเถอะ พลังเซียนไม่โจมตียาโป๊วแฮะ ถ้าอยู่ที่์แล้วข้าเอาของสิ่งนี้ติดตัวไปด้วยต่อไปจะไปกลัวใครได้อีก” กัวไฮว่มองหลินซวงที่มีสภาพเปลือยเปล่าจากนั้นก็มามองตนเองแล้วพูดขึ้นด้วยความจนใจ “ทว่าการบำเพ็ญเพียรคู่แบบนี้เหมาะกับเต๋าดีนะมีพลังเซียนเข้าไปในร่างไปเยอะเลย"
“ครูหลินซวง ต่อไปจะไม่มีครูหลินซวงอะไรอีกแล้วล่ะ จากนี้คุณจะเป็เมียผม” ขณะที่กัวไฮว่พูดก็มีพลังเซียนเข้าไปในร่างกายของหลินซวงระลอกหนึ่งจากนั้นหลินซวงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
“ไม่ต้องปิดหรอก อะไรที่ควรเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นผมดูมาหมดแล้ว” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เธอหันหลังไป ฉันจะใส่เสื้อผ้า” หลินซวงพูดขึ้นด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ “ตาบ้า เสื้อถูกนายฉีกจนขาดแบบนี้ฉันจะใส่ยังไงล่ะ ที่นี่ที่ไหนเนี่ยมีเสื้อผ้าหรือเปล่า” นอกจากชุดชั้นในที่ไม่ขาดเสื้อผ้าอื่นทุกชิ้นต่างก็ถูกฉีกขาดไม่เหลือชิ้นดี
“คุณใส่ชุดนี่ก่อนเถอะ” กัวไฮว่พูดพลางโยนชุดฉางเผาไปให้หลินซวง “เดี่ยวผมจะให้คุณดูอะไร” กัวไฮว่พูดพลางวาดมือจากนั้นก็มีภาพที่เด็กไม่ควรดูปรากฏขึ้นกลางอากาศซึ่งก็คือภาพอันน่าตื่นเต้นของทั้งคู่เมื่อสักครู่นี้นี่เองท่าทางรุกล้ำของหลินซวงทำเอาหลินซวงหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง
“ที่ให้เธอดูไม่ใช่เพราะผมจะหลบหนี เื่นี้เกิดขึ้นเพราะผมผมจะรับผิดชอบคุณเอง” กัวไฮว่พูดขึ้นเบาๆ “มาเป็ผู้หญิงของผมเถอะ ผมจะทำให้คุณมีความสุข”
“เด็กบ้า เธอจะทำให้ฉันมีความสุขได้ยังไงถ้าฉันเป็ผู้หญิงของเธอแล้วเวยเวยล่ะ ถังซีกับซูเยี่ยล่ะ โยวโยวล่ะแถมยังมีอวี้เอ๋อร์กับซุนหลิงหลิงอีก เป็ผู้หญิงของเธอกันหมดหรือเปล่า” หลินซวงพูดเบาๆ
“ใช่ พวกเธอเป็ผู้หญิงของผมหมด” กัวไฮว่พูดอย่างเป็จริงเป็จัง “หลินซวง คุณคิดให้ดีนะ ผมไม่บังคับใคร แต่ว่าผมชอบคุณตกหลุมรักคุณมาั้แ่แรกเห็น คุณยังไม่เข้าใจผม ผมว่าถ้ารอจนคุณเข้าใจผมบางทีตอนนั้นคุณอาจจะเพิ่งรู้จักผมจริงๆ ก็ได้”
“ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายแบบที่เธอคิดหรอก” หลินซวงพูดเบาๆ “ฉันชื่อหลินซวง เป็ครูประจำชั้นมอสี่ห้องหนึ่ง เป็ครูของเธอ กัวไฮว่และฉันยังเป็ลูกสาวคนโตของตระกูลหลิน เป็คู่หมั้นของกู่เลี่ยตระกูลกู่แห่งเมืองหลวงอีกด้วย ถ้าเธออยากให้ฉันเป็ผู้หญิงของเธองั้นแสดงว่าเธอก็ตบหน้าตระกูลกู่เข้าให้แล้ว ใครก็ช่วยเธอไม่ได้ออกไปจากที่นี่ยังไง ให้ฉันออกไปเถอะ”
“ตระกูลกู่?” กัวไฮว่พูดพึมพำกับตนเองแล้วค้นข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลกู่ในสมองของกัวไฮว่ที่มีก่อนหน้านี้
ตระกูลกู่เป็ตระกูลบำเพ็ญเพียรแห่งหัวซย่ากู่เจิ้นเหลยผู้เป็หัวหน้าตระกูลกู่ เป็หัวหน้ากลุ่มผู้พลังวิเศษหัวซย่าเป็บุคคลชั้นแนวหน้าในแถบฉางผิง
“คุณเป็ผู้หญิงของผมก็คือเป็ผู้หญิงของผมไม่ว่าตระกูลกู่หรือว่าจะตระกูลอื่น พวกเขาไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายในเมื่อคุณกับเ้ากู่เลี่ยนั่นยังไม่ได้แต่งงานกัน งั้นก็ถอนหมั้นเสียสิรอไว้ออกไปแล้วผมจะไปจัดการเื่นี้ที่ตระกูลกู่เอง” กัวไฮว่พูดพลางวาดมือไปบนอากาศจากนั้นทั้งสองก็ปรากฏตัวอยู่ที่ห้องพักครูหลินซวงอีกครั้ง
“ครูป้าบป้าบนักเรียน ผอ.ครับเหมือนว่ากัวไฮว่นี่ผอ.จะเป็คนพาเข้ามาที่โรงเรียนมัธยมแห่งมหาวิทยาลัยอู่เฉิงเองนะครับเกิดเื่ต่ำช้าแบบนี้ขึ้น ผอ.จะไม่สนได้เหรอ” ฉินอวี้หลงพูดขึ้นเสียงดังอยู่หน้าประตูห้องพักครูกัวไฮว่เองก็ััได้ว่านอกประตูมีคนยืนอออยู่เต็ม
“พวกเขาเข้ามาไม่ได้เหรอ” หลินซวงพูดขึ้นเบาๆ
“คุณไม่ต้องมายุ่งหรอก ที่เหลือไว้ผมจัดการเอง” กัวไฮว่พูดพลางวาดมือไปในอากาศประตูห้องพักครูก็ถูกเปิดออก
“พวกเธอรออยู่ข้างนอก เดี๋ยวฉันเข้าไปเอง” หลี่สวินอวี้พูดเสียงดังจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องพักครูของหลินซวง
“ผอ.ครับ ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ จะได้ไม่มีข่าวลือเหลวไหลอีก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เด็กบ้า เธอทำอะไรอยู่ในห้องครูหลินซวง ทำไมต้องล็อกประตู เกิดอะไรขึ้น” หลี่สวินอวี้ถามขึ้น
“ในเมื่อมีปัญหาด้านการเรียนก็ต้องมาหาครูสินี่น่าจะเป็กฎของโรงเรียนนะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ไม่ทราบว่าผอ.กับทุกคนมาที่นี่มีอะไรเหรอครับ”
“ทำไมต้องล็อกประตู พวกเราเคาะประตูอยู่ด้านนอกเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วทำไมไม่เปิด” หัวหน้าเซวียนถามขึ้นด้วยความสงสัยถ้ากัวไฮว่มีปัญหา เธอก็จะรับผิดชอบเอง
“ล็อกประตูเสียครับ พวกเราเลยเปิดประตูให้ทุกคนไม่ได้” กัวไฮว่พูดขึ้นเบาๆ
“ครูหลิน ผมจำได้ว่าตอนบ่ายครูใส่ชุดทำงานนี่นาครูไปเปลี่ยนเป็ชุดฉางเผาั้แ่เมื่อไหร่เหรอดูท่าชุดฉางเผานี่ไม่ใช่ของครูหรอกมั้ง” ฉินอวี้หลงเค้นคำถามจากสมองแล้วถามขึ้นเสียงดัง “ครูกับกัวไฮว่ทำอะไรอยู่ในห้องพักครู พวกคุณย่อมรู้ดี หน้าไม่อาย”
“เพี๊ยะ!” ไม่มีใครทันได้มอง จู่ๆก็มีรอยนิ้วมือทั้งห้าปรากฏขึ้นอยู่บนหน้าของฉินอวี้หลง ฟันร่วงออกมาสี่ซี่
“พวกเราทำอะไร พวกเราย่อมรู้ดี แกทำอะไร แกเองก็ย่อมรู้ดี” กัวไฮว่หรี่ตาพลางพูดขึ้น “ดูทรงแล้วคนดีจะถูกรังแกได้ง่ายขนาดตอนที่ฉันถูกเรียกว่าสี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิงยังไม่เห็นจะมีใครกล้าสาดขี้ใส่ฉันเลย ดูอะไร ดูว่าฉันป้าบๆ ครูหรือเปล่า ถูกไหมดูสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าไม่ออกหรือไง ไสหัวไป ถ้าไม่อยากตายก็ไสหัวไป"
กัวไฮว่ตะคอกเสียงดังจากนั้นฝูงชนที่อยู่ด้านหลังหลี่สวินอวี้ก็วิ่งสลายตัวไปในพริบตาเดียว
“ยายหนูหลิน ที่นี่ไม่มีคนอื่น เกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกมา” หลี่สวินอวี้มองหลินซวงแล้วถามขึ้นเบาๆ โดยไม่แยแสฉินอวี้หลง
“ไม่มีอะไร ฉันป่วยน่ะค่ะกัวไฮว่เขามียาฉันเลยเรียกเขามาให้ช่วยรักษาอาการป่วย ก็เท่านั้นเอง” หลินซวงพูด “ผอ.คิดว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรแล้วก็ดี ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว งั้นพวกเราไปกันเถอะ” หลี่สวินอวี้พูดยิ้มเจื่อน ถึงแม้หลินซวงจะใส่ชุดฉางเผา ทว่าผมเผ้ากลับกะเซอะกะเซิงนักเรียนชายกับครูสาวอยู่ในห้องกันเกือบสองชั่วโมง แบบนี้จะไม่แปลกได้อย่างไรกัน
“ตาแก่หลี่ เป็นักเรียนนี่มันน่าเบื่อจริงๆ เลยฉันจะไม่สร้างปัญหาให้แกแล้ว พรุ่งนี้ฉัน กัวไฮว่จะไม่ใช่นักเรียนที่โรงเรียนฟู่จงเมืองอู่เฉิงอีกแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดเสียงดัง “ลาก่อน โรงเรียนฟู่จง”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้