กลุ่มก้อนเมฆครื้มปกคลุมมืดบนท้องฟ้า สาดเทสายฝนเม็ดใหญ่ราวกับฟากฟ้าแตกสลายซัดกระหน่ำลงมาบน
ลานจอดรถใต้ดินของตึกศรีเพชรทัศน์ เสียงน้ำกระทบพื้นคอนกรีตดังก้องเหมือนกลองยาวรัวเร็ว แสงไฟสี
เหลืองจากโคมไฮเพรสชั่นที่แกว่งไหวตามแรงลมพายุทอดเงาร่างสาวสองคนที่กำลังยืนเผชิญหน้ากัน
ไว้บนผนังเปียกโชก
พิมพ์ใจกุมกระเป๋าเอกสารแนบอกจนกระดาษในแฟ้มเริ่มเปื่อยชุ่ม ในขณะที่รัญชน์ยืนพิงฝากระจกบานใหญ่
ของร้านค้าที่ปิดแล้ว สายน้ำฝนไหลอาบลงตามร่างของเธอในชุดเดรสไหมสีเทาเงินที่ตอนนี้แปะแนบเนื้อจน
เผยให้เห็นลายชั้นในลูกไม้สีดำ
"แผนกพยากรณ์อากาศคุณลืมบอกว่าวันนี้จะมีพายุฝนด้วยเหรอ?"
รัญะโก้องเหนือเสียงฝน ก่อนใช้มือซัดผมเปียกที่ติดหน้าให้ปลิวไปด้านหลัง
พิมพ์พยายามกั้นใบหน้าด้วยแฟ้มหนังสีน้ำตาล แต่สายฝนยังคงซึมผ่านเนื้อผ้าชั้นในจนรู้สึกได้ถึงความหนาว
เย็นของเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายที่แปะติดผิว
"ถ้าคุณไม่ยืนขวางทาง...ฉันคงไม่ต้องมาโดนละอองฝนพิษบ้านี่!"
เธอพยายามก้าวอ้อม แต่ส้นบูทสูงของรัญที่ยืนขวางอยู่ตรงทางเดินแคบๆ ทำให้ต้องหยุดชะงัก
รัญยกนิ้วชี้แตะคางพิมพ์เบาๆ ในจังหวะที่ฟ้าแลบสีม่วงตัดผ่านท้องฟ้า
"ละอองฝนพิษ ฝุ่น PM 2.5 หรอ?"
เธอหัวเราะแห้ง "หรือว่านี่คือสารพิษที่คุณเสพติดเข้าไปแล้ว?"
ซ่า...ซ่า... เสียงฝนและเสียงรถยนต์คันหนึ่งเหยียบน้ำโคลนกระเด็นเป็วงกว้าง
พิมพ์สะดุดล้มลง ในวินาทีที่ร่างกายกำลังจะกระแทกพื้น เธอรู้สึกว่ามีสองมือที่โอบกอดเอวไว้แน่นจน
กระดูกซี่โครงเจ็บแปลบ
"ระวังหน่อยสิ...ยัย CEO ขี้เหร่"
รัญกระซิบเบาๆ ในขณะที่ร่างทั้งสองโอนเอนไปมาอยู่กลางสายฝน
พิมพ์รู้สึกได้ถึงความร้อนจากฝ่ามือของรัญที่ทาบอยู่บนชายเสื้อซึ่งเปิดเผยิัส่วนท้องบางๆ
"ปล่อยฉัน!"
เธอพยายามดันตัวออก แต่ความลื่นของพื้นทำให้เท้าทั้งสองพันกัน
รัญใช้กำลังฉุดลากพิมพ์เข้าไปใต้ชายคาร้านขายยาเก่า ที่นั่นมีแสงสีเขียวจากตู้ยาเรืองแสงสาดส่องใบหน้า
ทั้งคู่ให้ดูเหมือนอยู่ในฉากภาพยนตร์ไซไฟ กลิ่นพิมเสนและสมุนไพรแห้งคลุ้งอยู่ในอากาศ
"ดูสิ..."
รัญชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตสีขาวของพิมพ์ที่ตอนนี้โปร่งแสงจนเห็นรอยชั้นในสีเบจ
"คุณนี่แม้แต่เวลาตกที่นั่งลำบาก...ยังต้องแต่งตัวให้เซ็กซี่แบบมีคลาส"
"มันเหตุสุดวิสัยไหม? ...แต่ก็ไม่เหมือนคุณ...ที่แต่งตัวราวกับอยากให้โลกเห็นทุกตารางนิ้ว!"
รัญยักคิ้วแล้วก้าวเดินเข้ามาใกล้จนปลายบูทัักับรองเท้าของพิมพ์
"ถ้าอยากให้ฉันถอดเสื้อให้คุณเช็ดตัวก็บอกนะ?"
มือของเธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อเดรสทีละเม็ด
"แต่คุณต้องแลกด้วยการบอกความลับ...ว่าทำไมถึงยอมขายหุ้นลับเพื่อซื้อที่ดินผืนนั้น?"
สายฝนที่ซัดผ่านช่องลมเหนือศีรษะทำให้พิมพ์ตัวสั่นเพิ่มมากขึ้น เธอเหลือบมองข้อมืออย่างเคยชิน
แต่ลืมใส่นาฬิกามาด้วย
"ความลับของฉัน..."
เธอสะบัดผมเปียกจนหยดน้ำกระเด็นใส่หน้ารัญ "คุณไม่มีวันที่จะได้ล่วงรู้"
รัญจับข้อมือพิมพ์กดลง จนพิมพ์ทำหน้าเหยแกด้วยความเจ็บ
"คำท้าแบบนั้น..."
ริมฝีปากสีไวน์แดงของเธอโค้งขึ้น "ทำให้ฉันอยากพิสูจน์ว่าคุณคิดผิด!"
ในขณะนั้นแสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งที่ขับผ่านสาดส่องเข้ามาตรงจุดที่ทั้งสองยืนอยู่ พิมพ์เห็นใบหน้าสวย
ของรัญชัดขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมีประกายคล้ายปรอทที่พร้อมปะทุทุกเมื่อ รอยแผลเป็เล็กๆ บนคอด้าน
ซ้ายที่ปกติถูกปกปิดด้วยทรงผมที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น...สายตาที่ไม่ใช่แค่ความเ็า
แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่เปราะบางซ่อนอยู่
"คุณ..."
พิมพ์เริ่มพูด แต่ถูกตัดบทโดยการโอบกอดของรัญ
"อย่าขยับ..."
เสียงของรัญสั่นเบาๆ
"มีคนตามฉันมา"
เงาร่างชายสองคนสวมเสื้อกันฝนสีดำเดินผ่านไปนอกหน้าต่างร้านขายยา พิมพ์รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้น
ของหัวใจรัญที่เร่งเร็วกว่าปกติ เธอแปลกใจที่พบว่าตัวเองกำลังใช้มือลูบหลังรัญเพื่อปลอบโยนโดยไม่รู้ตัว
"ทำไม..."
รัญกระซิบถามขณะที่มือของเธอค่อยๆ เลื่อนลงมาจับที่สะโพกของพิมพ์
"ทำไมคุณถึงทำแบบนี้?"
พิมพ์หลับตาลงชั่วขณะ ภาพเหตุการณ์วันที่แม่ทิ้งเธอไปอยู่กับป้าในชนบทเมื่ออายุ 7 ขวบผุดขึ้นมาในความมืด
"เพราะฉันรู้ดี...ว่าความอ่อนแอไม่ใช่สิ่งที่ควรถูก..."
ฟ้าร้องดังก้องทำให้ทั้งคู่สะดุ้ง รัญผละออกจากอ้อมกอดอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟช็อต
"คุณไม่ต่างจากฉันเลย..."
เธอหัวเราะขม "แค่ซ่อนความเ็ปไว้ภายใต้หน้ากากที่หนากว่า!"
พนักงานร้านขายยากลับมาจากไปธุระ ก็พบว่าเข้าลืมปิดประตูร้านไว้ ทันทีที่เขาเข้าไปเปิดไฟ
พิมพ์ก็คว้าชุดกันฝนสีฟ้าจากร้านขายยามาสวมทับร่าง
"นี่..."
เธอยื่นชุดกันฝนให้รัญ "ใส่ซะก่อนจะเป็หวัด"
รัญมองชุดกันฝนลายเสือดาวด้วยสายตาเหยียดหยาม "ลายเสือดาวเนี่ยนะ..."
"ใช่..."
พิมพ์ตอบกลับแล้วรีบวางเงินไว้ที่เคาร์เตอร์ร้านขายยา ก่อนเดินออกไปสู่สายฝน
"คุณแค่เป็คนโง่ที่คิดว่าความแข็งแกร่งคือการไม่ยอมรับความช่วยเหลือ!"
รถแท็กซี่คันหนึ่งจอดเทียบริมฟุตบาท พิมพ์ปีนขึ้นไปโดยไม่เหลียวมองหลัง แต่ในกระจกมองหลัง
เธอเห็นรัญยืนกลางสายฝนร่างสั่นเทาในชุดเดรสที่ยังคงเปียกโชก มือทั้งสองกอดอกตัวเองแน่น...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้