ไม่รู้ว่าเป็เพราะยาของหมอชราได้ผลจริงๆ หรือการนวดทุยหนาของฟู่ถิงเย่ที่ช่วยได้ หวาชิงเสวี่ยนอนหลับสนิทจนเต็มอิ่ม เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ในที่สุดนางก็ไม่เ็ปอีกแล้ว
เสียงเอี๊ยดของประตูดังขึ้น หวาชิงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมอง เห็นฟู่ถิงเย่ถือโจ๊กข้าวที่มีไอร้อนพวยพุ่งกับผักดองเดินเข้ามา
ในขณะนั้นนางรู้สึกผิดมาก ที่ปล่อยให้แม่ทัพใหญ่ผู้ห้าวหาญในสนามรบมาปรนนิบัติรับใช้ตนเองในเื่กินอยู่หลับนอน มันช่าง...
ช่าง...
หวาชิงเสวี่ยบรรยายความรู้สึกไม่ถูก ได้แต่ถอนหายใจด้วยความหนักใจ
นางคิดว่า เดิมทีฟู่ถิงเย่ก็รังเกียจที่นางเป็ตัวถ่วงอยู่แล้ว หากนางทำตัวดีๆ ก็แล้วไป แต่นางกลับมาล้มป่วย เดือดร้อนผู้ที่เป็ถึงแม่ทัพใหญ่อย่างเขาต้องมาทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ หากทำให้เขาไม่พอใจ เขาจะทิ้งนางไปหรือไม่?
“ลำบากท่านแม่ทัพแล้ว...” หวาชิงเสวี่ยรีบสวมเสื้อผ้าแล้วลุกขึ้น “เดี๋ยวข้าจะทำอาหารเองเ้าค่ะ”
ฟู่ถิงเย่ดูเหมือนจะมีเื่กังวลใจ จึงไม่ได้ตอบหวาชิงเสวี่ย เพียงแค่วางชามและตะเกียบไว้ในบ้านแล้วพูดว่า “กินโจ๊กก่อน แล้วค่อยกินยา หมอบอกว่าต้องกินอย่างน้อยสามวัน”
หวาชิงเสวี่ยรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ปล่อยให้แม่ทัพต้องมาต้มทั้งโจ๊กทั้งยาให้ั้แ่เช้าตรู่ นางรีบกล่าวขอบคุณอีกครั้ง “ขอบคุณท่านมากเ้าค่ะ”
เมื่อเงยหน้าขึ้น กลับพบว่าฟู่ถิงเย่กำลังมองนางด้วยสายตาแปลกๆ
หวาชิงเสวี่ย “???”
นางมองดูตนเอง ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จึงหันกลับไปมองที่ฟู่ถิงเย่ “...ท่านแม่ทัพ?”
ฟู่ถิงเย่กระแอมไอสองครั้ง แล้วเบนสายตาออกไปทางอื่น “เมื่อคืน...พวกเรา...”
“อ้อ!” หวาชิงเสวี่ยเข้าใจในทันที “เมื่อคืนนี้ขอบคุณท่านมากจริงๆ ตอนนั้นข้าปวดจนคิดอะไรไม่ออกเลย หากไม่มีท่าน ข้าคงไม่รู้จะทำอย่างไร!”
มุมปากของฟู่ถิงเย่กระตุก นี่ไม่ใช่ปฏิกิริยาที่เขาจินตนาการไว้...
ไม่ใช่ว่านางควรจะแสดงความเขินอายออกมาและบอกว่าต่อจากนี้นางจะเป็ของเขาแล้วหรือ?
เฮอะ?! สตรีนางนี้ไม่มีจิตสำนึกเื่บุรุษสตรีมิควรถูกเนื้อต้องตัวกันเลยหรืออย่างไร?! เขาแตะต้องนางแล้วนะ! ถึงแม้จะผ่านเสื้อผ้า แต่มันก็แตะต้องแล้ว! ยิ่งกว่านั้นเขา...เขายังนวดอยู่นานขนาดนั้น...
เหตุใดในใจถึงรู้สึกเจ็บแปลบๆ โดยไม่รู้สาเหตุ?
สีหน้าของฟู่ถิงเย่จริงจังขึ้น ตัดสินใจพูดกับหวาชิงเสวี่ยให้ชัดเจน “ข้าคิดว่า เ้าควรจะ...”
ยังไม่ทันได้พูดถึงเื่แต่งงาน หวาชิงเสวี่ยก็ถูกท่าทางเคร่งขรึมของฟู่ถิงเย่ทำให้รู้สึกประหม่าขึ้นมา จึงพยักหน้ารัวๆ แล้วพูดว่า “ท่านพูดถูก ข้าควรจะดูแลตัวเองให้ดี ต่อไปนี้จะไม่ป่วยง่ายๆ อีกแล้ว และจะไม่ทำให้แผนการออกจากเมืองของเราล่าช้า ท่านแม่ทัพวางใจได้”
ฟู่ถิงเย่คิดในใจ ‘ข้าจะวางใจได้อย่างไร! สิ่งที่ข้าจะพูดไม่ใช่เื่นี้เสียหน่อย!!!’
เขาอัดอั้นตันใจจนหน้าแดง พูดอะไรไม่ออกสักคำ!
เขาจะทำอย่างไรได้? นางผู้นี้แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้คิดแบบนั้น เขาจะต้องหน้าด้านขอแต่งงานกับนางหรืออย่างไร?!
ฟู่ถิงเย่อดทนอัดอั้นอยู่นาน สุดท้ายก็พูดว่า “ข้าจะไปเอายามาให้” แล้วหันหลังเดินออกไป
หวาชิงเสวี่ยมองฟู่ถิงเย่ที่เดินจากไปด้วยความงงงวย ใจของนางเต้นไม่เป็จังหวะ
เกิดอะไรขึ้น...
นางก็แสดงความตั้งใจจริงแล้ว เหตุใดบุรุษผู้นี้ดูเหมือน จะยังไม่พอใจอยู่อีก?
เฮ้อ...
คนอื่นเขาบอกว่าจิตใจสตรียากแท้หยั่งถึง แต่เหตุใดนางกลับรู้สึกว่าจิตใจของท่านแม่ทัพนั้นยากที่จะหยั่งถึงยิ่งกว่าเข็มในมหาสมุทรเสียอีก
เมื่อรู้สึกถึงกระแสน้ำอุ่นที่ไหลออกมา หวาชิงเสวี่ยก็ใ รีบปิดประตูบ้านเพื่อตรวจสอบผ้าซับระดูของนาง
ปรากฏว่ามีเืไหลออกมาตามคาด ไม่เพียงแต่กางเกงจะเปื้อนแล้ว ที่ต้นขาทั้งสองข้างก็มีรอยสีแดงสดเป็ทาง น่าอายจริงๆ!
ผ้าซับระดูแบบโบราณนี่ไม่สามารถดูดซับน้ำได้ดีเท่ากับผ้าอนามัยสมัยใหม่ เพราะมันรั่วไหลไปได้ทุกทิศทาง!
หวาชิงเสวี่ยทำความสะอาดรอยเปื้อนบนร่างกายอย่างร้อนรนและกระวนกระวาย เปลี่ยนผ้าซับระดูกับกางเกงตัวใหม่ แล้วก็พบว่าผ้าปูที่นอนบนเตียงเตาก็มีรอยแดงขนาดใหญ่ชัดเจน...เหตุใดตอนนางตื่นเมื่อครู่ถึงไม่เห็นนะ?!
หวาชิงเสวี่ยถอดผ้าปูที่นอนออกอย่างหัวเสีย รู้สึกว่าเป็แบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ หากทำผ้าอนามัยขึ้นมาได้ก็คงจะดี!
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว หวาชิงเสวี่ยก็พบว่าตนเองคิดแต่เื่เพ้อฝันเกินไป การทำสบู่ขึ้นมานั้นไม่ยาก แต่การทำผ้าอนามัย จะต้องทำพอลิเมอร์ที่มีสารอุ้มน้ำ! วัสดุพอลิเมอร์ชนิดนี้สามารถดูดซับน้ำได้หลายร้อยเท่าของน้ำหนักตัวมันเอง หรือแม้กระทั่งน้ำหลายพันเท่า อีกทั้งยังมีความสามารถในการกักเก็บน้ำที่ดีมาก
“...CH2=CH-COOH + NaOH →CH2=CH-COONa+H2O [1] ...” สมการเคมีชุดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของหวาชิงเสวี่ย นางกุมศีรษะด้วยความหดหู่ พึมพำออกมา “ข้าจะไปหาเซอริกแอมโมเนียมไนเตรตเพื่อมาเป็สารกระตุ้นปฏิกิริยาทางเคมีจากไหน แล้วก็ยังมีอะคริโลไนไตรล์...”
ถึงแม้นางจะทำขึ้นมาได้สำเร็จ ต้นทุนก็สูงลิ่วเกินกว่าจะจินตนาการได้ หรือว่านางจะต้องอยู่กับขี้เถ้าไปตลอดชีวิต?
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หวาชิงเสวี่ยพลันได้สติกลับมา! นางรีบซ่อนของที่มีเืเปื้อนทั้งหมดในบ้าน แล้วจึงเปิดประตู
ฟู่ถิงเย่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับยาชามหนึ่งที่ส่งควันร้อนออกมา “ยาเย็นแล้ว ข้าไปอุ่นมาให้ใหม่”
เขาเดินเข้ามา วางยาไว้บนโต๊ะ เห็นโจ๊กข้าวที่ยังไม่ได้แตะต้อง จึงอดถามไม่ได้ “เ้ายังไม่ได้กินข้าวเช้าหรือ?”
“อ้อ...ข้ากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่น่ะเ้าค่ะ” หวาชิงเสวี่ยนั่งลงด้วยความรู้สึกผิด หยิบตะเกียบขึ้นมา “กำลังจะกินข้าวเช้าพอดี”
ฟู่ถิงเย่ไม่ได้พูดอะไร นั่งลงตรงข้ามหวาชิงเสวี่ย มองนางค่อยๆ ซดโจ๊ก
โจ๊กที่ท่านแม่ทัพต้ม...จะว่าอย่างไรดี? ค่อนข้าง...ข้นไปหน่อย...
หวาชิงเสวี่ยรู้สึกว่า หากใส่น้ำน้อยกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว คงจะติดคอได้ง่ายๆ ...แต่ท่านแม่ทัพนั่งอยู่ตรงหน้านางด้วยท่าทางจริงจัง ต่อให้โจ๊กจะข้นแค่ไหน นางก็ทำได้เพียงกลืนลงไปเงียบๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฟู่ถิงเย่ก็กล่าวว่า “คนของเราเฝ้าดูอยู่หลายวัน พอจะจับทางรูปแบบการเปลี่ยนเวรยามที่ประตูเมืองได้แล้ว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะส่งเ้าออกจากเมือง”
หวาชิงเสวี่ยได้ยินเช่นนั้น ดวงตาก็เป็ประกายขึ้น ทำให้ใบหน้าซีดไร้สีเืของนางดูมีชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิม นางพูดเบาๆ ว่า “ขอบพระคุณท่านแม่ทัพเ้าค่ะ”
ฟู่ถิงเย่รู้สึกว่านับวันอาการป่วยของตนเองก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ...
ดูเหมือนว่าแม้แต่การมองหน้าสตรีผู้นี้ตรงๆ เขาก็ทำไม่ได้
ฟู่ถิงเย่หันหน้าหนีอย่างไม่สบายใจ ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “เป็หน้าที่ ไม่ต้องขอบคุณ”
จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “ข้าต้องออกไปข้างนอก เ้า...ร่างกายไม่แข็งแรง ก็พักอยู่บ้านให้ดีๆ เถอะ”
น้ำเสียงในประโยคสุดท้ายนั้น แฝงไปด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยาก
หวาชิงเสวี่ยกลับพยักหน้าด้วยความหวาดหวั่น “ท่านวางใจเถอะ ข้าจะไม่วิ่งเล่นไปไหนมั่วซั่ว สัญญาว่าจะไม่สร้างปัญหาให้ท่านอีก!”
“...” ฟู่ถิงเย่อยากจะเอาหัวโขกกำแพงเหลือเกิน เขาไม่ได้หมายความอย่างนั้นจริงๆ!!!
ท่านแม่ทัพใหญ่ผู้พูดไม่เก่ง เดินจากไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด
หวาชิงเสวี่ยเห็นเขาจากไปแล้ว ก็ไม่กล้ารอช้า รีบจัดการเื่ต่างๆ ในทันที
ต้องซักทั้งกางเกงกับผ้าปูที่นอนที่มีเืเปื้อน! น่าอายเหลือเกิน เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา นางก็อายที่จะหยิบพวกมันออกมา!
หวาชิงเสวี่ยรีบซักกางเกงและผ้าปูที่นอนอย่างรวดเร็ว ตั้งเสาไม้ไผ่ในลานเรือน จากนั้นนำเสื้อผ้าไปตาก
นางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า รู้สึกว่าตนเองโชคดีที่วันนี้อากาศแจ่มใส หวังว่าจะตากเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนให้แห้งได้ก่อนที่ฟู่ถิงเย่จะกลับมา
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อารมณ์ก็ผ่อนคลายลงมาก หวาชิงเสวี่ยนั่งหลับตาตากแดดในลานเรือน ร่างกายได้รับความอบอุ่นจากแสงแดด นางไม่อยากขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
แต่ไม่นานนัก สีหน้าของหวาชิงเสวี่ยก็เปลี่ยนไป
เพราะนางรู้สึกว่าร่างกายส่วนล่างเริ่มปั่นป่วนอีกแล้ว...
โอ้์! เมื่อไหร่เื่แบบนี้จะจบลงสักที!
หวาชิงเสวี่ยกรีดร้องในใจ ยันกายลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้านอย่างเชื่องช้า...
...
ตอนที่ฟู่ถิงเย่กลับมา ภาพที่เขาเห็นเมื่อเข้าไปในบ้านคือ หวาชิงเสวี่ยกำลังเย็บปักถักร้อยอยู่ใต้แสงเทียน
คางเรียวเล็กงดงาม แสงจากเทียนอบอุ่น ทำให้นางดูอ่อนโยนและสงบกว่าปกติ
หัวใจของฟู่ถิงเย่เต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หวาชิงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองเขา ยิ้มอย่างอ่อนโยน “สามี ท่านกลับมาแล้ว อาหารอยู่บนเตาแล้วเ้าค่ะ จะทานตอนนี้เลยหรือว่ารอสักครู่ก่อนเ้าคะ?”
ฟู่ถิงเย่ชะงักไปเล็กน้อย รู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าตนเองได้แต่งงานแล้วจริงๆ ราวกับว่า...นางควรจะเป็ภรรยาของเขา
หวาชิงเสวี่ยเห็นเขาเหม่อลอย รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าก็ค่อยๆ หายไป กลายเป็การมองสำรวจอย่างระมัดระวัง แล้วถามด้วยความไม่แน่ใจ “ท่านแม่ทัพเ้าคะ?”
ฟู่ถิงเย่ “...”
บ้าเอ๊ย!
เหตุใดสตรีนางนี้ถึงไม่คงท่าทางแบบเดิมไว้นานกว่านี้หน่อย!
“ข้าจะไปยกอาหารเข้ามา” เขาหันหลังแล้วเดินออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน ฟู่ถิงเย่ก็ยกอาหารเข้ามา วางไว้บนโต๊ะภายในบ้าน คนหนึ่งกินข้าวเย็น อีกคนเย็บปักถักร้อย ดูกลมกลืนกันดี
แต่ในใจของฟู่ถิงเย่กลับร้อนรุ่ม! อัดอั้นตันใจจนพูดไม่ออก ได้แต่พยายามยัดอาหารลงคอไป!
เขาก็ไม่รู้ว่าตนเองหงุดหงิดอะไร คิดหนักอยู่นานก็พบว่าหวาชิงเสวี่ยส่งผลกับอารมณ์ของเขามากเกินไป
จิตใจไม่มั่นคง ถือเป็ข้อห้ามในการทำศึก!
กลยุทธ์ทางทหารต่างๆ แล่นผ่านเข้ามาในหัวของท่านแม่ทัพใหญ่อย่างรวดเร็ว คิดว่าหาก้าพิชิตสตรีผู้นี้ ต้องวางแผนให้ดี
อันดับแรก! รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง!
“ใน่นี้ เ้าจำเื่ราวในอดีตได้บ้างหรือไม่?” ฟู่ถิงเย่เอ่ยถามขึ้น พยายามใช้น้ำเสียงที่เป็ธรรมชาติที่สุด “หากนึกเบาะแสอะไรได้ บอกข้าได้เลย ในวันข้างหน้าอาจจะมีโอกาสช่วยเ้าตามหาญาติพี่น้องได้”
การเคลื่อนไหวของหวาชิงเสวี่ยชะงักไป...
ถึงแม้ว่า่นี้นางจะนึกถึงเื่ราวต่างๆ ได้มากมาย แต่...นางกลับไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะสำหรับคนในยุคนี้ สิ่งที่อยู่ในหัวของนางนั้น เป็สิ่งที่ดูไม่น่าเชื่อเกินไป
“นึกถึงเื่ราวต่างๆ ได้บ้างเ้าค่ะ...เพียงแต่ ยังจำไม่ได้ว่าตนเองเป็ใคร” หวาชิงเสวี่ยเย็บปักถักร้อยไปพลางพูดเสียงค่อย “ท่านแม่ทัพไม่ต้องเป็ห่วงเื่ของข้า ไม่ต้องตามหาญาติพี่น้องให้ข้า...ในเมื่อข้าถูกทิ้งไว้บนูเานั่นแล้ว ญาติพี่น้องของข้าคงไม่อยากเจอข้าอีกแล้ว”
หวาชิงเสวี่ยแสร้งทำเป็เด็กกำพร้าที่ถูกทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านแม่ทัพใหญ่สืบสวนต่อไป นางมั่นใจแล้วว่าตนเองมาจากอีกโลกหนึ่ง หากมีการสืบสาวราวเื่ขึ้นมา จะไม่ยิ่งทำให้คนสงสัยมากขึ้นหรือ?!
เป็ไปดังคาด ท่านแม่ทัพใหญ่พยักหน้าอย่างจริงจัง “สำเนียงของเ้าฟังดูแปลกประหลาด ไม่เหมือนคนของแคว้นต้าฉีเรา แล้วก็ต่างกันอย่างยิ่งกับคนจากแคว้นเล็กๆ รอบข้าง...”
หวาชิงเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะแห้งๆ “บางทีอาจจะเป็หมู่บ้านห่างไกลก็ได้นะ หมู่บ้านหลายแห่งอยู่ในแคว้นเดียวกัน แต่สำเนียงท้องถิ่นกลับแตกต่างกันมาก”
ท่านแม่ทัพใหญ่ขมวดคิ้วครุ่นคิด “หากเป็หมู่บ้านห่างไกลจริงๆ แล้วเหตุใดถึงต้องพาเ้ามาทิ้งทีู่เาพานหลงที่อยู่ไกลขนาดนี้...”
หวาชิงเสวี่ยนึกอยากจะร้องไห้ “...” ท่านแม่ทัพ ท่านอย่าขุดคุ้ยไปมากกว่านี้ได้หรือไม่?!
การที่อยู่ๆ ก็โผล่มาในป่าลึก ข้าก็สิ้นหวังเหมือนกัน!
โครม!
ฟู่ถิงเย่ลุกขึ้นยืนกะทันหัน! จ้องมองหวาชิงเสวี่ยด้วยสายตาเป็ประกาย แล้วพูดประโยคหนึ่งที่ทำให้นางใอย่างมาก
“ข้ามีวิธีออกจากเมืองแล้ว!”
————————————————————————————————————
[1]CH2=CH-COOH + NaOH →CH2=CH-COONa+H2O คือสมการของปฏิกิริยากรดอะคริลิกและโซเดียมไฮดรอกไซด์ เป็สารเคมีที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตโซเดียมอะคริเลต นำไปใช้ได้หลากหลายในอุตสาหกรรม เช่น สิ่งทอ กาว และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล