แม้จะมีไฟลุกโชนขึ้นในใจฉินหลาง ทว่าเขาไม่รับการโจมตีนั้นตรงๆ มันเสี่ยงที่เขาจะต้องเป็ขันทีมากเกินไป เขาไม่มีทางเลือก จึงจำต้องใช้แรงขาดีดตัวเองให้ะโถอยหลัง
อันเต๋อเซิ่งหัวเราะเสียงเย็นเยือก วิชาการต่อสู้ของจีน ให้ความสำคัญกับฐานมาก ถ้าไม่จำเป็จริงๆ ผู้ฝึกยุทธ์จะไม่ออกจากพื้นดินง่ายๆ เพราะในอากาศไม่สามารถยืมแรงจากภายนอกได้ อาจตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบ แล้วโดนคู่ต่อสู้รุกหน้าทารุณจนตายได้ง่ายๆ
เมื่ออันเต๋อเซิ่งใช้ท่าที่ร้ายกาจดั่งอสรพิษบีบให้ฉินหลางะโถอยหลังได้ จึงทำให้เขาดีใจ พลางพูดในใจว่า ยังไงซะฉินหลางก็เป็แค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ ฐานของเขาเริ่มยุ่งแล้ว วันนี้เขาต้องตายแน่! ดังนั้นอันเต๋อเซิ่งรีบรุกหน้าตามฉินหลางไปเร็วพอๆ กับดาวตก! ทำมือทั้งสองข้างให้เป็หัวงู ทิ่มไปที่หน้าอกของฉินหลางด้วยความเร็วราวกับแสงฟ้าแลบ
ในสายตาฉินหลางนั้น ตอนนี้แขนทั้งสองข้างของอันเต๋อเซิ่ง ก็ไม่ต่างอะไรกับงูพิษที่ดุร้ายสองตัว
ถ้าเปลี่ยนเป็คนที่สภาพจิตใจไม่มั่นคงพอ คงจะหวาดกลัววิธีการที่ดุร้าย ทารุณของอันเต๋อเซิ่ง จนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้ว
ทว่าการกระทำที่ดูเหมือนจะบ้าบิ่นของเขา ความจริงแล้วกลับเป็การกระทำที่เกิดจากการไตร่ตรองดีแล้ว เพราะห่างออกไปประมาณสองก้าวมีต้นสนต้นใหญ่อยู่พอดี เขาถอยไปอยู่ใต้ต้นสนพอดี ขาข้างหนึ่งของเขาเหยียบอยู่บนกิ่ง อีกข้างเหยียบอยู่บนพื้น แผ่นหลังยืดตรง เป็ท่าฝูหลงจู้ โน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย ผ่านไปราวๆ สิบกระบวนท่า ฉินหลางกันฝ่ามืองูของอันเต๋อเซิ่งได้หมด!
การโจมตีอย่างต่อเนื่องของอันเต๋อเซิ่งไม่สามารถทำอะไรฉินหลางได้ เขาจำต้องถอยกลับมาตั้งหลักก่อน
ฉินหลางจะสามารถตั้งฐานในขณะที่ตัวเอียงได้ด้วย ซึ่งมัน มากกว่าที่อันเต๋อเซิ่งคาดการณ์ไว้มาก เขาสบถเสียงเย็นเยือก “ฐานแกมั่นคงดีนิ! แต่เสียดายฝีมือแย่ไปหน่อย!”
ความจริงแล้ว อันเต๋อเซิ่งอิจฉาฐานของฉินหลางมาก เพราะจอมยุทธ์ที่แท้จริงจะรู้ว่า พละกำลังมาจากพื้นดิน ‘พละกำลังมาจากฐาน’ ถ้าฐานถูกทำลาย พลังยุทธ์ของคนผู้นั้นจะลดน้อยลงเป็เท่าทวีคูณ และเป็สาเหตุที่อันเต๋อเซิ่งแอบดีใจตอนคิดว่า ฐานของเขาไม่มั่นคงแล้ว ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าฝูหลงจู้ของฉินหลางมีความลึกลับและซับซ้อนมากแค่ไหน ไม่เพียงแต่สามารถหยั่งรากลึกลงไปใต้พื้นดินเท่านั้น ยังสามารถยืมแรงจากที่ต่างๆ มาใช้ได้ ขอเพียงเขายืมได้ก็สามารถหยั่งรากลงไปได้ทันที แต่เดิมตอนที่ฉินหลางฝึกซ้อมฝูหลงจู้ เขาก็ไม่ได้ฝึกซ้อมบนพื้นดินเพียงอย่างเดียว
“วรยุทธ์แย่ไม่แย่ เดี๋ยวแกก็จะได้รู้!” ฉินหลางพูดอย่างโอหัง “หมัดตั๊กแตนของฉัน เป็ตัวกำราบฝ่ามืองูของแกโดยเฉพาะ!”
“พูดพล่อยๆ!” อันเต๋อเซิ่งพูดขึ้นเย็นเยือก “รอแกไปฝึกให้ถึงขั้นดวงจิตของกระบวนท่าแล้วค่อยมาโม้ใหม่ เสียดายที่แกไม่มีโอกาสแล้ว”
อันเต๋อเซิ่งจู่โจมด้วยความรวดเร็ว และรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้กระบวนท่ามีความซับซ้อน และโเี้มากขึ้น ทำให้คนป้องกันอย่างไม่หวาดไม่ไหว อันเต๋อเซิ่งตอนนี้ใช้กระบวนท่าแล้ว กระบวนท่าเล่าต่อเนื่องกันโดยไม่เว้นช่องว่างให้ฉินหลางได้หายใจ เหมือนเขากลายเป็งูพิษตัวหนึ่ง ทุกท่าล้วนยากที่จะต้านทานได้
ทว่าตอนนี้ในสมองฉินหลางกลับเป็ฉากที่ ‘ตั๊กแตนสู้กับงูใหญ่’ ฉินหลางมองว่า ตอนนี้อันเต๋อเซิ่งเป็เหมือนงูที่โอหังตัวนั้น ในขณะที่เขาเป็ตั๊กแตนที่ตอกขาข้างหนึ่งอยู่บนต้นไม้ ขวางทางไปของงูเอาไว้ แม้ว่าตั๊กแตนตัวเล็กนิดเดียว ทว่ากลับดูมีพลังเต็มเปี่ยม
ชั่วพริบตานั้น เหมือนว่าฉินหลางจะเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า ‘ดวงจิตของกระบวนยุทธ์’ มันมีความลึกลับตรงไหน ดวงจิตกับกระบวนท่าต้องอยู่คู่กันเท่านั้น แต่เดิมการกระทำนั้นต้องมาจากการสั่งการ หรือความ้าของจิต รวมกับหมัดตั๊กแตนของฉินหลาง เขาเลียนแบบมาจากตั๊กแตนเองอยู่แล้ว ไม่ได้มีใครสอน แต่เป็การตระหนักได้ด้วยตัวเอง ดูเหมือนฉินหลางจะเข้าใจดวงจิตของกระบวนท่าฝ่ามือตั๊กแตนที่แท้จริงแล้ว—
รวดเร็ว! แม่นยำ! รุนแรง!
นี่คือดวงจิตของกระบวนท่า มีดตั๊กแตน ที่แท้จริง!
ปังๆๆ! ปังๆ!
ฉินหลางรู้สึกว่าตัวเอง สามารถรับมือกับการโจมตีของอันเต๋อเซิ่งได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว ฉินหลางจู่โจมอย่างรวดเร็วและรุนแรง จู่โจมอย่างเดียวโดยไม่คิดป้องกัน พัฒนามีดตั๊กแตน แล้วยังล้ำลึกขนาดนี้
ปึงๆๆ!
หลังจากการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง บริเวณน่องของฉินหลางโดนทิ่มไปสามจุด เืสีแดงสดย้อมกางเกงของเขาจนเป็สีแดง!
ฝ่ามืองูของอันเต๋อเซิ่งไม่ได้มีไว้ดูอย่างเดียว โดนฝ่ามืองูของเขาทิ่มโดน ราวกับโดนงูจริงกัดอย่างไรอย่างนั้น! เพราะอันเต๋อเซิ่งก็เคยฝึกฐานเหมือนฉินหลางมาก่อน ลมปราณทั่วทั้งร่างกายสามารถมารวมตัวกันที่จุดใดจุดหนึ่งได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็กำปั้น ฝ่ามือ หรือนิ้วจิ้ม พละกำลังในการจู่โจมก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก!
แต่หลายปีมานี้อันเต๋อเซิ่งลุ่มหลงอยู่กับนารี จึงทำให้พลังยุทธ์ถดถอยไปมาก บวกกับเคล็ดวิชาที่เขาใช้ในการสร้างฐานไม่ได้ดีเท่าฝูหลงจู้ของฉินหลาง เขาจึงไม่สามารถถอยกลับอย่างปลอดภัยได้ ฉินหลางสู้ทั้งที่ตัวเองได้รับาเ็ ใช้ฝ่ามือสับไปที่แขนซ้ายของอันเต๋อเซิ่งได้สำเร็จ ถ้าไม่ใช่เพราะฝ่ามืองูของอันเต๋อเซิ่งรวบรวมทั้งความอ่อนและความแข็งเอาไว้ละก็ การสับครั้งนี้ของฉินหลางก็คงทำให้อันเต๋อเซิ่งเสียแขนไปถาวรแน่ ทว่าถึงจะเป็อย่างนั้นก็ตาม เนื้อบริเวณแขนของอันเต๋อเซิ่งก็ยังฉีกขาด ถึงเขาจะได้รับาเ็เพียงที่เดียว แต่เขากลับาเ็หนักมากกว่าฉินหลาง
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้อันเต๋อเซิ่งไม่ได้เครียดมากนัก จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “เ้าหนู แกโหดพอตัวเลยนะ! ถึงตัวเองาเ็ ก็ยังเกือบจะตัดแขนฉันทิ้งได้ แต่เสียดาย—แกไม่รู้ว่าฝ่ามืองูของฉันคืออะไรกันแน่ มันอันตรายจริงๆ นะ!”
“แกหมายความว่าอะไร?” ฉินหลางหัวเราะเย็นเยือก “อย่าบอกนะว่าฝ่ามืองูของแกมีพิษเหมือนงูจริงๆ โดนเข้าไปทีเดียวก็ถึงตาย—”
“ใช่แล้ว!” อันเต๋อเซิ่งหัวเราะ “ในเมื่อเป็ฝ่ามืองู ก็จะต้องโเี้เหมือนงูสิ! งูใช้อะไรเอาชนะคู่ต่อสู้ ก็ต้องเป็พิษของมันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แกเห็นเล็บฉันไหม แกรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องไว้เล็บยาวขนาดนี้? แล้วรู้ไหมว่าทำไมเล็บฉันถึงเป็สีดำ? ฮึๆๆ เ้าหนู แกรู้สึกว่าแผลของแกเริ่มคันแล้วใช่ไหม เหมือนไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย? นั่นเป็เพราะว่าแกถูกพิษแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
ฉินหลางรู้สึกบริเวณแผลรู้สึกเริ่มคันจริงๆ ด้วย จู่ๆ ก็รู้สึกร่างกายอ่อนแรง เขาพูดด้วยความโมโหว่า “ไอ้แก่ชั่วช้าสารเลว! ถ้าฉันตาย งูพวกนี้ไม่มีวันปล่อยแกไปแน่!”
“เ้าหนู! แกตายแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้!”
อันเต๋อเซิ่งพูดขึ้นเย็นเยือก “ยิ่งแก่ก็ยิ่งเก๋า คำนี้ผ่านมาเป็พันเป็หมื่นปีก็ยังคงใช้ได้อยู่ ใครใช้ให้แกไม่เข้าใจเอง! เล็บทั้งสิบนิ้วของฉันทาพิษงูไปหลายชนิด เตรียมการเพื่อแกโดยเฉพาะ! เพียงแต่มียาชนิดหนึ่งที่ฉันเตรียมมาให้อาจารย์สาวของแก พวกแกตรวจสอบบิวตี้คลับแล้วไม่ใช่เหรอ น่าจะรู้ว่าฉันทำให้นักเรียนหญิงพวกนั้นตกต่ำได้ยังไงไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นเพราะพวกเขาถูกวางยาชนิดหนึ่งที่ชื่อ ‘ชุนเมี๋ยวสียู๋’ ไม่ว่าใครก็ตามที่กินเ้ายาตัวนี้เข้าไป จะมีความ้ามากจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ขอแค่เป็ผู้ชาย ขอแค่ป้ายกลิ่น ‘*เซ่อเซียง’ บนตัวนิดหน่อย พวกเธอก็จะคลั่งไคล้จนแทบคลั่ง เหมือนนาที่แห้งแล้งกำลังรอคอยน้ำฝนมาหล่อเลี้ยงยังไงยังงั้น! ฮึๆๆ ที่สนุกกว่านั้นก็คือ พวกเธอจะมีสติและจำเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ไม่อาจจะควบคุมความ้าของตัวเองเท่านั้น ฮึๆๆๆ” เหมือนว่าอันเต๋อเซิ่งจะพอใจจนลืมตัว
“ดังนั้นแกยังมีเวลาเลือกอีก 15 นาที ให้พวกฉันออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย ฉันรับรองได้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ตาย และจะไม่โดนน้องหลู xxx จนตาย! ไม่อย่างนั้นน้องหลูคงไม่รังเกียจจะทำเื่แบบนั้นต่อหน้าแก—”
“พวกแกมันพวกเดรัจฉาน!” เถารั่วเซียงด่าด้วยความโมโห “ฉินหลาง ไม่ต้องสนใจฉัน ให้งูพวกนี้ฆ่าพวกสารเลวนี่ให้หมด! กินพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่กระดูกเลย! นายอย่ายอมจำนนนะ พวกมันไม่มีทางปล่อยฉันไปแน่!”
“เ้าหนู แกรีบตัดสินใจเองเถอะ!” อันเต๋อเซิ่งยังคงกดดันฉินหลางต่อ “แกยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะตาย แต่เธอยังมีเวลาอีกไม่ถึงสิบห้านาทียาก็จะออกฤทธิ์แล้วนะ หรือว่าก่อนตายแกอยากจะดูหนังสดก่อนสิบห้านาที?”
*เซ่อเซียง : ยาหอมชนิดหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้