นกอินทรีสีขาวหยกขนาดใหญ่ส่งเสียงร้องแสบแก้วหูออกมา เมื่อรวมเข้ากับลมที่รุนแรงที่อยู่เบื้องหน้า ก็ทำให้ฝุ่นทรายและก้อนกรวดปลิวฟุ้งขึ้นไปในอากาศคล้ายกับพายุกำลังมา ทำให้ผู้คนต่างหรี่ตาลง ่เวลาถัดมาก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่ง ส่วนนกอินทรีั์ตัวนั้นก็สยายปีกอกเชิดขึ้นในขณะที่ยืนอยู่บนพื้นดิน มันมีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าปกติทั่วไป เมื่อจ้องมองไปยังผู้คนที่อยู่รายรอบจึงมีท่าทางที่ดูน่าเกรงขาม
"นายชื่ออะไร?" ชายหนุ่มเมินเฉยต่ออันตรายขณะที่อยู่ในสนามรบ ก่อนจะจ้องมองไปทางฉินโจ้ว สายตาที่เฉียบคมของเขาดูราวกับจ้องมองได้ถึงก้นบึ้งของหัวใจ ถึงแม้ว่าจะเป็เพียงคำถามธรรมดาทั่วไป แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาให้ความรู้สึกไม่ต่างจากคำสั่ง
เนื่องจากความแข็งแกร่งของชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่ ทำให้ทั้งสองฝ่ายจึงหยุดมือลงชั่วคราว เมื่อยังไม่ได้แบ่งแยกมิตรศัตรู ทั้งคู่จึงไม่อยากสร้างปัญหาให้เพิ่มขึ้นอีก แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่พูดออกมา ทำให้สมาชิกของทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก สีหน้าเต็มไปด้วยความยินดี เมื่อเขาไม่รู้จักกับฉินโจ้ว นั่นก็เท่ากับว่าถ้าไม่เป็มิตรก็ต้องเป็ศัตรู
ดวงตาของฉินโจ้วจ้องเขม็ง ในขณะที่มองไปยังชายหนุ่มผู้ลึกลับ อุปกรณ์ระดับทองทั้งหมดที่อยู่บนร่างของสัตว์เลี้ยงนกอินทรีขาวไห่ตงชิงซึ่งถือว่าดีที่สุด นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าชายผู้นี้ไม่เพียงแข็งแกร่ง แต่ยังร่ำรวยเงินทองอยู่ไม่น้อย นี่เป็ความประทับใจแรกของฉินโจ้ว เมื่อสายตาของเขาเหลือบไปเห็นมีดที่อยู่ในมือ ถึงกับทำให้ใจของเขาเต้นรัว พระเ้าช่วย... นั่นมันอุปกรณ์ิญญาไม่ใช่หรือ
อุปกรณ์ิญญาถึงอย่างไรก็เป็อุปกรณ์ิญญา ต่อให้กลายเป็ของที่ไร้ค่า จะกี่ชิ้นก็ตาม ก็ใช่ว่าคุณจะสามารถหาพวกมันมาได้ ในใจของเขาเองก็รู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมอยู่บ้าง
หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายเห็นว่าเป็เวลาที่ดีในการฟื้นฟูพลังชีวิต ซึ่งก็อยู่ในสายตาของฉินโจ้ว แต่เขาเองก็ไม่ได้ลงมือเพื่อหยุดยั้ง สำหรับเขาแล้วไม่ว่าชีวิตของหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายจะมีค่าหรือไม่ก็ตาม ในความเป็จริงก็ไม่มีความแตกต่างกันแม้แต่น้อย
จากที่มองดูหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทราย ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักกับชายหนุ่มคนนี้ แต่ดูเหมือนจะรู้จักแค่ผิวเผินเท่านั้น เมื่อตัดสินจากความหวาดหวั่นที่ปรากฏอยู่ในดวงตา ดูท่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่คงจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร
"แล้วนายเป็ใคร?" ฉินโจ้วเหลือบตามองและถามขึ้น
"นี่นายไม่รู้จักฉันอย่างนั้นหรือ?" ชายหนุ่มแสดงท่าทางแปลกใจออกมา ราวกับได้เจอเื่แปลกใหม่
"แล้วนายคิดจะทำอะไรกัน?" น้ำเสียงของฉินโจ้วค่อนข้างเ็า เพราะเขาพบว่ากองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตเริ่มมีการเปลี่ยนวิธีในการสู้รบ ใช้การโจมตีด้วยม้วนคัมภีร์เวทอย่างต่อเนื่องแทน โดยไม่สนใจชีวิตและความตายของพวกเดียวกันเองแม้แต่น้อย และพยายามสร้างความเสียหายให้กับกองกำลังทั้งหลายที่มาช่วยสนับสนุนฉินโจ้ว ไม่ถึงสิบวินาที กองกำลังทั้งหลายก็สูญเสียคนไปนับพัน กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตหลังจากที่เข้ายึดครองพื้นที่มาเป็เวลานาน มีข้อมูลเชิงลึกอยู่มากมาย ทรัพยากรก็มีอยู่มากมายราวกับสายน้ำที่ไม่มีวันหยุดไหล ซึ่งถ้าเป็แบบนี้ต่อไป คนนับพันของกลุ่มนกหัวขวานคงถูกทำลายจนหมดเป็แน่ และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อได้ข่าวว่าสำนักงานใหญ่ถูกโจมตี สมาชิกที่เหลือของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตก็คงจะมาถึงอีกภายในไม่เกินครึ่งชั่วโมง เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็ 'ลมกระจ่างจันทร์แรม' กลุ่มแมลงตัวเล็ก หรือแม้แต่ 'น้องชายมีด' ก็คงจะถูกคลื่นฝูงชนเหล่านี้กลืนไปจนไม่มีใครเหลือรอดชีวิต
"ผมคิดว่า ไท่อี่เทพสายฟ้า เป็วิชาที่ทรงพลังมาก ผมจึง้าประลองกับคุณ" ชายหนุ่มคนดังกล่าวจ้องมองมาที่ฉินโจ้วอย่างท้าทาย ซึ่งในความเป็จริงนั้นราวกับจ้องมองเหยื่อ
"ผมไม่มีเวลาและก็ไม่สนใจด้วย" ฉินโจ้วตอบปฏิเสธไป
"คงต้องถามดาบในมือของผมก่อน ว่าจะตกลงหรือเปล่า?" รอยยิ้มที่มุมปากของเด็กหนุ่มแฝงไว้ด้วยความรู้สึกชั่วร้ายแผ่กระจายออกมาจนคนทั่วไปรู้สึกได้
ทันทีที่สิ้นเสียงของชายหนุ่ม ฉินโจ้วก็เคลื่อนไหวทันที ไม่ใช่การเคลื่อนไหวแบบธรรมดาทั่วไป แต่เป็การโจมตีใส่แบบสายฟ้าแลบที่เป็ไปด้วยความดุดัน ม้วนคัมภีร์เวทนับโหลถูกโยนออกมา เวทธาตุที่ทรงพลังเริ่มก่อตัวขึ้นในอากาศ ่เวลาต่อมาพวกมันก็กลายเป็พายุแห่งการทำลายล้าง ซึ่งมันรวดเร็วราวกับูเาไฟะเิ ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าจนบดบังแม้แต่แสงอาทิตย์ ความรุนแรงของอาวุธเวทถาโถมมาระลอกแล้วระลอกเล่า
'ทะเลเพลิงเผาผลาญ'
'โลกแห่งความหนาวเหน็บ'
'พายุทอร์นาโด'
'พายุทราย'
......
หลายวันมานี้ฉินโจ้วรวบรวมม้วนคัมภีร์เวทมาได้ 53 ม้วน ั้แ่ระดับเบื้องต้นไปจนถึงระดับสูง ครอบคลุมทุกประเภทของเวท ไม่ว่าจะเป็ ลม สายฟ้า น้ำแข็ง ไฟ แสงสว่าง ความมืด และเวทมิติ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างทันที เขาได้เปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็โลกแห่งเวทมนตร์ โดยมีฉินโจ้วเป็ศูนย์กลาง ภายในรัศมี 500 เมตร ในพื้นที่ราบโลหิต ท่วมท้นไปด้วยเวทมนตร์นานาชนิด แสงแต่ละสีแสดงถึงเวทแต่ละชนิด ซึ่งเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอย่างรุนแรง เมื่อเวทมนตร์จำนวนมากถูกใช้ขึ้นในเวลาเดียวกัน พลังทำลายจึงน่ากลัวจนไม่อาจจินตนาการได้ การที่อยู่ต่อหน้าพลังเช่นนี้ ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง
กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากฝนโปรยภายใต้แสงแดดอันร้อนแรง ผู้เล่นทั้งหลายต่างสลายไปอย่างเงียบเชียบ หลายคนยังไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะกลายเป็แสงสีเทาแห่งความตายและกลับไปเกิดใหม่
สมาชิกกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้จากระยะไกล ในใจก็ยังรู้สึกเย็นวาบ เขาเป็ใครกัน ทำไมถึงมีม้วนคัมภีร์จำนวนมากมายเช่นนี้ ในกองทหารรับจ้างเองยังไม่มีม้วนคัมภีร์เวทมากมายถึงเพียงนี้เลย นั่นทำให้พวกเขารู้สึกยอมแพ้ ความกล้าหาญและจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูเช่นนี้ การต่อสู้ครานี้คงไม่มีทางชนะอย่างแน่นอน
ในเกมจะมีผู้เล่นสักกี่คนที่โชคดีได้เห็นม้วนคัมภีร์เวทมากกว่าห้าสิบม้วนและถูกใช้งานในเวลาเดียวกัน ไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้เห็น เพียงแค่ได้ยินก็ยังยากเลย ม้วนคัมภีร์ระดับสูงจำนวนมากที่เห็นอยู่นี้เทียบเท่าได้กับสินค้าทั้งหมดของหลายกิลด์รวมกันเลยทีเดียว
สวยงามยิ่งนัก ไม่ว่าใครเห็นก็คงต้องพูดไม่ต่างกัน เพราะมันช่างงดงามเสียจริง คล้ายกับหลังจากที่จุดดอกไม้ไฟแล้วมีแสงส่องสว่าง สวยงามจับตา แต่ผู้ที่ได้เห็นต่างไม่มีใครคิดเช่นนั้น เพราะมันคือแสงแห่งความตาย ในแต่ละครั้งที่แสงนั้นจุดประกายขึ้น ก็จะนำพาชีวิตไปด้วยจำนวนหนึ่ง สมาชิกของกองทหารหมาป่าโลหิตได้แต่มองเวทมนตร์ที่ส่องประกายสวยงามที่ปกคลุมพวกเขาอยู่อย่างไร้ซึ่งหนทางและผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหลือทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่สวยงามก่อนที่จิตสำนึกของพวกเขาจะจางหายไป
"ไอ้บ้าเอ๊ย..." ชายหนุ่มคนนั้นถึงกับอุทานขึ้นมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ก่อนที่กลุ่มดาบแสงจะะเิออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็ม่านคุ้มกันปกป้องร่างกายเอาไว้อย่างแ่า ถึงเขาเองจะผ่านประสบการณ์ที่เสี่ยงตายมามาก แต่ก็ยังมีความรู้สึกกังวลขึ้นในใจ
ฉินโจ้วพยายามขว้างม้วนคัมภีร์เวทไปไกลสุดแรงเท่าที่จะเป็ไปได้ แต่เนื่องจากเวทมนตร์บางประเภทนั้นโจมตีเป็วงกว้าง และยังมีเวทมนตร์อีกไม่น้อยที่โจมตีแบบไร้ทิศทาง ซึ่งเขาเองก็อยู่ในทิศทางการโจมตีดังกล่าวด้วย นั่นเป็เหตุที่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับะโใส่ฉินโจ้วว่าบ้า แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่ยอมปล่อยให้ไป นี่ไม่ใช่เรียกว่าคนบ้าแล้วจะให้เรียกว่าอะไร
บอลสายฟ้าที่ส่องสว่างจ้าก่อตัวขึ้นอยู่บนมือของเขา ฉินโจ้วไม่สนใจเวทมนตร์ที่ทำให้ตนเองนั้นาเ็ ก่อนจะเริ่มเปิดฉากโจมตีทันที เนื่องจากพลังชีวิตของเขานั้นมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นนี่จะเป็อาวุธเวทที่จะทำให้เขาชนะ เขาเองค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับศัตรูได้ก่อนที่พลังชีวิตของเขาจะหมดลง แต่โชคไม่ดีที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวนั้นไหวตัวทัน จึงป้องกันตนเองก่อนเป็อันดับแรก ซึ่งทำให้ฉินโจ้วค่อนข้างทึ่งในความรวดเร็วในปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อชายหนุ่มยังไม่ได้ลงมือ ฉินโจ้วจึงหันไปหาหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายแทน
หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายหยิบเอาม้วนคัมภีร์เวทสามเล่มออกมาในชั่วพริบตาและใช้งานขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่เขาจะถูกปกคลุมด้วยเวทธาตุแสง เวทธาตุน้ำแข็ง และเวทธาตุดิน ฉินโจ้วถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะหวาดกลัวความตายเป็อย่างมาก ไม่อย่างนั้นแล้ว ใครจะสามารถถือครองม้วนคัมภีร์เวทสายป้องกันได้ถึงสามเล่ม ถึงแม้ว่าเขาจะเป็ผู้นำกลุ่มเอง แต่ก็ไม่ใช่เื่ง่ายเลยในการที่จะได้รับม้วนคัมภีร์เป็จำนวนมากเช่นนี้
ชายหนุ่มยังไม่ถูกสังหาร หมาป่าเดียวดายเองก็มีเวทป้องกัน ทำให้ฉินโจ้วมองไปรอบๆ และจับจ้องไปที่อินทรีตัวใหญ่ไห่ตงชิง ก่อนที่ชายหนุ่มจะรู้สึกเย็นวาบที่หัวใจและเอ่ยขึ้นมาว่า "นายกล้าหรือ?"
ฉินโจ้วแค่นยิ้ม ก่อนจะปล่อยไท่อี่เทพสายฟ้าออกไป
ไห่ตงชิงก็เป็สัตว์ป่า ดังนั้นจึงมีทักษะที่น้อยกว่าผู้เล่น เนื่องจากมีร่างกายที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถต้านทานเวทมนตร์ในการโจมตีได้ อีกทั้งยังมีปีกที่กว้างถึงสามจ้าง ซึ่งสามารถสร้างคลื่นลมแรงได้ ที่เปลี่ยนทิศทางของเวทเบื้องต้นได้ เพื่อใช้ตอบโต้การโจมตีบางอย่าง มีพลังชีวิตที่ค่อนข้างสูง เพียงพึ่งพาการป้องกันเบื้องต้นเหล่านี้ และยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันภายใต้การโจมตีด้วยเวท ก็คงพูดได้ว่ามันค่อนข้างแข็งแกร่งพอสมควร
ปังง...
เสียงะเิดังขึ้นราวกับฟ้าผ่า ก่อนที่ร่างของไห่ตงชิงจะสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง ปีกข้างหนึ่งกระจายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย และมันก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเ็ป การป้องกันดูเหมือนจะมีช่องโหว่เกิดขึ้น การโจมตีทุกประเภทที่ััถูกร่างกาย จะมีตัวเลขความเสียหายจำนวนมากลอยขึ้นเหนือหัว
ภายใต้แสงแห่งดาบ ชายหนุ่มถึงกับคำรามก้อง แต่ดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะไม่กระจายผ่านออกมา คล้ายกับถูกเวทมนตร์ปัดป้องออกไป สายตาแดงก่ำคู่หนึ่งจดจ้องมาทางฉินโจ้วอย่างโกรธแค้น ราวกับ้าจะกินเืกินเนื้อ
ฉินโจ้วก็ไม่ได้ใส่ใจกับสายตาที่จ้องมองมา ก่อนจะปล่อยไท่อี่เทพสายฟ้าออกไปอีกครั้ง
ปังง...
และแล้วปีกอีกข้างของอินทรีั์ก็ถูกทำลายลง ร่างกายเริ่มโงนเงนไปมา สั่นเทิ้มราวกับเวทมนตร์แห่งความโกรธเกรี้ยวพรั่งพรูอยู่ภายใน อินทรีั์ได้แต่ส่งเสียงร้องครวญครางอยู่นานราวสามสิบวินาทีจึงได้สงบลง ร่างของนกอินทรีั์ก็ซีดจางก่อนจะกลายเป็แสงสีเทาและสลายหายไปในช่องมิติสัตว์เลี้ยง 'ไห่ตงชิง' ได้ตายลงแล้ว
เนื่องจากปลดปล่อยเวทออกไปอย่างต่อเนื่อง ฉินโจ้วจึงเริ่มกลืนยาเพื่อฟื้นฟู
ถึงแม้ว่าหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทราย ชายหนุ่ม และฉินโจ้วนั้นจะอยู่กึ่งกลางสนามรบ ซึ่งเป็บริเวณที่มีโอกาสโดนเวทมนตร์โจมตีน้อยที่สุด แต่พวกเขาก็ยังคงปลดปล่อยทักษะของตนค้างไว้อยู่
แต่ดูเหมือนว่าสมาชิกคนอื่นๆ ของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตที่อยู่ในระยะการโจมตีของเวทนั้นจะไม่รู้สึกมีความสุขนัก สองนาทีต่อมาเมื่อผลของเวทระดับพื้นฐานได้ผ่านพ้นไป มีเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่ยังคงยืนอยู่ได้ หลังจากที่เวทมนตร์ระดับกลางได้หายไปในทันที สามนาทีต่อมาก็เหลือคนที่มีชีวิตรอดอยู่ไม่ถึงพัน ห้านาทีต่อมาหลังจากเวทมนตร์ระดับสูงได้หยุดลง ในรัศมีห้าร้อยเมตร ก็ปรากฏว่ามีแต่พื้นที่ว่างเปล่า บนพื้นเกลื่อนกลาดไปด้วยอุปกรณ์ที่ส่องประกายภายใต้แสงตะวัน แต่ไม่มีผู้เล่นที่มีชีวิตหลงเหลืออยู่เลย
ด้วยการโจมตีเวทครั้งนี้ กองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตถูกฆ่าไปมากกว่า 7,000 คน อาจเป็เพราะว่าพวกเขานั้นอยู่กันอย่างเบียดเสียดมากเกินไป ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งผลเสียหายเป็วงกว้างถึงเพียงนี้
"มอบชีวิตของนายมาซะ" ชายหนุ่มะโก้องพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ฉินโจ้วในทันที หลังจากที่เวทมนตร์ได้ผ่านพ้นไป เขาเปิดการโจมตีเข้าใส่ โดยไม่้ารอแม้เพียงเสี้ยววินาที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียดชังดังก้องไปทั่วเขตเหยียนหวง
ก่อนจะเห็นเพียงดาบแสงจำนวนนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาจากความว่างเปล่า คล้ายกับดาวตกที่ไล่ตามดวงจันทร์ ดวงดาว รวดเร็วราวกับสายฟ้า อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกของ์และปฐี จนผู้คนไม่สามารถต้านทานได้ เป็ทักษะดาบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำให้รู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย
ในขณะนั้นฉินโจ้วดูเหมือนกำลังอยู่ในท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่มีดาวตกพุ่งลงมาจากฟากฟ้า ทุกเส้นสายของแสงที่ส่องประกายเต็มไปด้วยความรุนแรงในการทำลายล้าง ถ้าถูกเข้าคงไม่แคล้วต้องตายอย่างแน่นอน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงสว่าง และรับรู้ได้ถึงความอ่อนแอของตนที่เกิดขึ้นอยู่ในใจ ฉินโจ้วก็ไม่ใช่มือใหม่ ในเวลาคับขันเช่นนี้ ไท่อี่เทพสายฟ้าถูกใช้ออกไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดูเหมือนจะเป็การต่อสู้ด้วยการใช้ชีวิตแลกด้วยชีวิต ถ้าเขาโจมตีใส่ศัตรู จะอย่างไรอีกฝ่ายก็ต้องช่วยเหลือ เขาไม่เชื่อหรอกว่า ศัตรูกล้าที่จะมาแข่งกับเขา
ซึ่งแน่นอนว่า เขานั้นกลัวก่อนจะหันกลับมาป้องกัน
"ทักษะดาบดาวตก หรือนายคือ ‘คุณชายดาวตก’" น้องชายมีดไม่รู้ว่าถอยห่างออกมาเกือบสิบเมตรั้แ่เมื่อไร ก่อนจะะโขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แม้ว่าปากกำลังพูด แต่มือของเขาก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ประกายแสงมีดสว่างวาบขึ้น สมาชิกของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตสามคนก็ร่วงหล่นลงกับพื้น มีรอยเืปรากฏขึ้นที่ลำคอ ก่อนจะกลายเป็แสงสีเทาแห่งความตายไป เมื่อเริ่มใช้ทักษะดาบ ดาบก็พุ่งออกไปราวกับลูกธนู ก่อนจะทิ้งสมาชิกคนอื่นๆ ไว้อยู่เื้ั
เดิมทีนั้นเขาถูกกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตโจมตีและกำลังตกอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบ ก่อนจะถูกการโจมตีด้วยเวทอย่างต่อเนื่องของฉินโจ้ว แรงใจที่กำลังจะเริ่มหมดลงของเขาก็กลับกลายเป็เพิ่มสูงขึ้น ก่อนที่จะฝ่าแนวป้องกันของกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตออกมา และเริ่มทำการโจมตีสวนกลับ ในเวลาอันสั้นเขาก็ถูกทำลายโดยน้องชายมีดที่บุกเข้าไปถึงด้านใน เพื่อช่วยสนับสนุนฉินโจ้ว
หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา มีดกระหายเืได้ตัดผ่านช่องว่าง ตัวมีดร่วงหล่นราวกับก้อนเมฆสีแดง สะท้อนให้เห็นท้องฟ้าครึ่งหนึ่งเป็สีแดง ซึ่งแน่นอนว่านั่นก็คือทักษะเฉพาะ 'อาทิตย์อัสดง' โดยร่วมมือกับคุณชายดาวตกและพุ่งเป้าไปทางฉินโจ้ว
สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างชัดเจน ชัยชนะในครั้งนี้จะได้มาก็ต่อเมื่อเมามายซบตักสาวงามนั้นถูกสังหาร ถึงแม้ว่าเขานั้นไม่อยากจะเชื่อเช่นนั้นก็ตามที แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเมามายซบตักสาวงาม คุณชายดาวตกเองก็มีความแข็งแกร่งเป็อย่างมาก ในฐานะ 1 ใน 4 คุณชาย เขาเชื่อว่าคุณชายดาวตกนั้นสามารถสังหารฉินโจ้วได้อย่างง่ายดาย แต่หลังจากที่ได้เห็นศักยภาพของเมามายซบตักสาวงามแล้ว หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายเองก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ มีความรู้สึกว่าเื่นี้เหมือนจะเกินการควบคุมไปแล้ว ถ้าเขาร่วมมือกับคุณชายดาวตก ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การต่อสู้ที่ดี แต่มันก็ไม่ได้ผิดกฎอะไร ซึ่งจะหันหลังกลับตอนนี้ก็คงสายไปเสียแล้ว
"ออกไปซะ นายคิดจะทำอะไรกัน"
เมื่อคุณชายดาวตกเห็นว่าหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายนั้นยื่นมือเข้ามาช่วย ทำให้เขารู้สึกโกรธขึ้นมาทันที หลังจากที่ผ่าไท่อี่เทพสายฟ้าออกเป็สองส่วนแล้ว เขาก็หันไปฟันเมฆสีเืทิ้ง ซึ่งนั่นทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นราวกับเสียงฟ้าคำราม
ร่างของหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายหยุดนิ่งราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่ และเริ่มสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง ทำให้เขาต้องถอยหลังไปสามก้าว ใบหน้าแดงก่ำก่อนจะปรายตามองไปยังคุณชายดาวตก ดูเหมือนว่าร่างกายท่อนบนของคุณชายดาวตกสั่นไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ถูกผลักให้ถอยหลังไปแต่อย่างใด สำหรับเขานั้นไม่ว่าศัตรูจะมีหนึ่งคนหรือสองคนก็ตาม เขาก็ไม่รู้สึกเสียเปรียบแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเขาเองจะไม่ได้เตรียมตัวเพื่อมาต่อสู้กับหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทราย แต่ถึงอย่างไรความแข็งแกร่งก็คงเปรียบเทียบกับเขาไม่ได้อยู่ดี
หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะก้าวถอยหลังกลับมา ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่พอใจในตัวของคุณชายดาวตก แต่เขาเองก็ไม่ควรที่จะหาเื่กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าในเวลานี้ ไม่เช่นนั้นคงจะคาดเดาผลที่ตามมาไม่ได้ เขาควรจะยอมๆไปก่อน
"นายฆ่าอินทรีของฉัน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยชีวิตนายเอาไว้ไม่ได้หรอก นายต้องตาย" หลังจากที่ถูกหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายขัดจังหวะ คุณชายดาวตกพยายามระงับความโกรธของเขาเอาไว้ แต่สีหน้าก็เผยความร้ายกาจออกมาและไม่อาจมีรอยยิ้มได้อีกต่อไป
คุณชายดาวตกก้าวออกไปข้างหน้า พร้อมกับแสงที่ะเิออกมา ก่อนที่ฉินโจ้วจะถูกปกคลุมไปด้วยความมืด การโจมตีที่รุนแรงได้ถูกเรียกใช้ขึ้นทันที มีดวงดาวปรากฏขึ้นมาเป็จำนวนมาก ทั้งหนาแน่นราวกับสายฝน หนักหน่วงคล้ายกับขุนเขา ปกคลุมร่างของฉินโจ้วไว้ราวกับหลุมขนาดใหญ่
ฉินโจ้วเรียกใช้ทักษะวิชาตัวเบา 'ย่ำหิมะไร้รอย' ก่อนจะกลายเป็ควันสีเทาเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีที่อันตรายอย่างต่อเนื่องที่มาจากทุกทิศทาง มีเสียงะเิดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจากการปะทะกันของไท่อี่เทพสายฟ้ากับดาบเงา หลังจากรับการโจมตีครั้งที่ห้า ฉินโจ้วเริ่มรู้สึกแย่ลง ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ร่างกายของฉินโจ้วเริ่มอ่อนล้าลงมากโดยเริ่มสูญเสียพละกำลังไปทีละส่วน และเริ่มเคลื่อนไหวได้ช้าลงตามลำดับ ถ้าเป็แบบนี้ต่อไป ฉินโจ้วคงตกอยู่ในหลุมโคลนแห่งนี้ ไม่เกินครึ่งนาทีก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
เป็ทักษะดาบที่รุนแรงเป็อย่างมาก!
นี่คือพลังของทักษะดาบที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่คิดเลยว่าจะมีผลกระทบน่ามหัศจรรย์เช่นนี้ หมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายได้เรียนรู้ 'อาทิตย์อัสดง' ที่ก่อนหน้านี้ดูเป็ทักษะที่ทรงพลังมาก แต่พอมาเทียบกับทักษะดาบดาวตก จึงเห็นได้ทันทีว่าด้อยกว่า ด้วยเหตุนี้คุณชายดาวตกที่ได้เรียนรู้ทักษะดาบถึงขั้นสมบูรณ์ กับหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายที่ได้เรียนรู้เพียงทักษะเดียว นั่นคือที่มาที่ไป เมื่อทักษะดาบยังไม่เป็หนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ จึงทำให้ความรุนแรงลดลงเป็อย่างมาก
เมื่อนับดูแล้วนี่เป็ครั้งที่สองที่ฉินโจ้วมีโอกาสได้เห็นศิลปะวิชาการต่อสู้ ครั้งแรกคือตอนที่เขาได้เห็นทักษะมีดทลายภูผา เป็ศิลปะวิชาการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งในเวลานั้นเป็เพียงทักษะวิชามีดเท่านั้น และมันยังไม่ได้แสดงศักยภาพที่แท้จริง แต่ในครั้งนี้เมื่อฉินโจ้วได้เห็นคุณชายดาวตกใช้ทักษะดาบดาวตก เขาจึงรู้ทันทีว่านี่เป็ศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง ซึ่งมีพลังมหาศาลเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้ถึง
ฟุ่บ...
เสียงของเงาดาบที่พุ่งทะลุอุปกรณ์ที่สวมใส่ ฉินโจ้วโดนฟันด้วยดาบไปหนึ่งที ค่าความเสียหายลอยขึ้น 2,000 หน่วย
"หน่วง"
ทักษะหน่วงระดับเลเวล 100 แปรสภาพเป็กระแสลมขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้าใส่ดาวตก ดาบแสงเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น คุณชายดาวตกก็ปลดปล่อยดาบนับร้อยเล่ม ก่อนจะพุ่งโจมตีเข้าใส่กระแสลมสีเทาของทักษะหน่วงจนแตกสลายไป ไม่คิดเลยว่าเวทดาบดาวตกจะส่งผลเช่นนี้ เมื่อเวทถูกทำลายฉินโจ้วได้แต่นิ่งงันไปชั่วครู่ จากนั้นร่างกายก็ได้รับาเ็เพิ่มขึ้นอีกสองแผล นี่ถ้าเขาไม่มีพลังชีวิตมหาศาล เป็แค่คนธรรมดาทั่วไปป่านนี้ก็คงนอนเป็ศพไปแล้ว
"ดาวตกไล่ตามจันทรา"
ดาบแสงนับพันเล่มรวมเข้าด้วยกัน ส่องสว่างกระจ่างจ้าราวกับดวงจันทร์ ก่อนจะยิงเข้าใส่ฉินโจ้วด้วยความเร็วคล้ายกับดาวตก ซึ่งฉินโจ้วไม่มีเวลาที่จะตอบโต้ ในเวลานั้นดาบแสงก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ใน่เวลานั้นทำให้ฉินโจ้วรู้สึกว่าตกอยู่ในสถานการณ์คับขันแล้ว
ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ณ ที่ห่างไกลออกไป ใบหน้าที่หม่นหมองของหมาป่าเดียวดายแห่งทะเลทรายก็เริ่มมีรอยยิ้มผุดขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้