ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนหยุดนิ่งลง เขายืนอยู่ภายในกำแพงมิติ กวาดตามองโลกหลังกำแพงด้วยความสนใจ
เสี่ยวเหยียนก็หยุดนิ่งแล้วเช่นกัน ร่างเล็กๆ ของมันกำลังหายใจหอบแรงเนื่องจากเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไป ยิ่งทำให้มันดูน่ารักมาก
เสิ่นเสวียนหันมองเสี่ยวเหยียนที่พื้นด้วยสีหน้ามีความสุข
“เสี่ยวเหยียน พวกเราทำสำเร็จแล้ว”
“จี๊ดๆ”
เสี่ยวเหยียนส่งเสียงร้องพลางพยักหน้าอย่างชอบใจ เสี่ยวเหยียนไม่ได้มีความคิดซับซ้อนมากนัก ตอนที่มันปรากฏตัวขึ้น เสิ่นเสวียนช่วยชีวิตมันเอาไว้ ทำให้มันยอมรับเสิ่นเสวียนในฐานะครอบครัวของตนเอง เป็เหมือนกับพ่อแม่ เื่ของเสิ่นเสวียนจึงเป็เื่ของมันไปโดยปริยาย
“ไปกันเถอะ ตามข้ามา”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสี่ยวเหยียนอีกครั้ง ร่างจิติญญาเดินไปจนสุดกำแพงแล้วถอนหายใจออกมา จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไป
เสี่ยวเหยียนไม่รอช้า เดินตามเสิ่นเสวียนเข้าไปทันที
เมื่อผ่านกำแพงมิติเข้าไป จะพบเจอกับโลกที่น่าอัศจรรย์
ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยสีเขียว เสียงนกร้อง และกลิ่นหอมของดอกไม้ หรือได้ยินเสียงสัตว์ดังออกมาจากป่าดงดิบบางแห่งด้วย
นี่คือภายในผังเมืองซานเหอ เสิ่นเสวียนและเสี่ยวเหยียนยืนอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจี ความรู้สึกกำลังบอกเขาว่าเขาได้เข้ามาแล้วจริงๆ
หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาในโลกใบนี้ เขาครุ่นคิดถึงการคลายผนึกผังเมืองซานเหออยู่ตลอดเวลา
เขาครุ่นคิดไปต่างๆ นานาว่า หลังจากคลายผนึกของผังเมืองซานเหอเรียบร้อยแล้ว จะเอาของล้ำค่าที่เก็บซ่อนไว้ั้แ่ชาติก่อนออกมา แล้วปิดผนึกมันไว้อีกครั้งเพื่อตนเอง
ผังเมืองซานเหอคือศาสตราเทพ
เขาขุดเจอผังเมืองซานเหอที่แนวชีพจรสายฟ้าในสระ์แห่งคุนหลุนตะวันตก ั้แ่ที่มันยอมรับเขาเป็นายจนกระทั่งเขาะเิตนเอง ผ่านเวลาไปเพียงสองวันเท่านั้น ตอนที่เขาเพิ่งเจอศาสตราเทพ จักรพรรดิเซียนสามคนจากอาณาจักรเซียนพลันปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา และเขารู้ได้ทันทีว่าโดนสามคนนั้นเพ่งเล็งอยู่นานแล้ว
เขาที่มีร่างเซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ไม่กลัวจักรพรรดิเซียนคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็สามคนยังคงเป็ภัยต่อเขามาก
แล้วการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น
ในการต่อสู้ครั้งนั้น เสิ่นเสวียนทำให้ผังเมืองซานเหอยอมรับเขาเป็นายได้สำเร็จ จนมิติภายในผังเมืองถูกเปิดออก เขาจึงเคลื่อนย้ายของล้ำค่าที่เก็บรวบรวมมาทั้งชีวิตเข้าไปในมิติของผังเมืองซานเหอทั้งหมด
หากต้องสู้อย่างสุดชีวิต เสิ่นเสวียนมั่นใจว่าจะสังหารสองคนจากสามคนนั้นได้ แต่ในความเป็จริงตนเองกลับกลายเป็จุณไปเสียเอง
เขามีความลับอย่างหนึ่งที่มีเพียงเขาที่รู้
ตอนนั้นหลังจากทำให้ผังเมืองซานเหอยอมรับเป็นายได้สำเร็จ จิติญญาของผังเมืองซานเหอบอกเขาว่า หากะเิตนเองตายไป เศษเสี้ยวจิติญญาจะเข้าไปอยู่ในผังเมืองซานเหอและมีโอกาสเกิดใหม่สูงมาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจะเิร่างตนเองเพื่อเกิดใหม่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำสำเร็จได้จริงๆ
หลังจากเกิดเื่ขึ้น จักรพรรดิเซียนน่าจะสังเกตเห็นเงื่อนงำบางอย่าง จึงไล่ตามเขามายังสถานที่ห่างไกลราวหมื่นลี้เช่นนี้
“ว่าอย่างไร คิดไม่ถึงใช่ไหมว่าข้าจะทำสำเร็จ แล้วเ้าจะต้องตายตลอดกาลเช่นนี้”
เสิ่นเสวียนได้ยืนอยู่บนพื้นจริงๆ ทำให้อารมณ์ของเขาค่อนข้างพลุ่งพล่าน
จักรพรรดิเซียนผู้นั้นที่โดนลูกหลงจากการะเิร่างของเสิ่นเสวียนเป็คนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด น่าเสียดายที่ิญญาเทพแตกสลายไปแล้ว และนี่คือจุดจบของการทำให้เขาขุ่นเคืองใจ
“มาสิ เข้ามาที่อกข้า”
เสิ่นเสวียนเรียกเสี่ยวเหยียนที่ยืนอยู่บนพื้น เสี่ยวเหยียนกระโจนขึ้นไปที่หน้าอกของเสิ่นเสวียนในทันที
เมื่ออยู่ด้านนอก เขาเป็เพียงร่างจิติญญา แต่ในผังเมืองซานเหอแห่งนี้ เขาคือผู้สร้างโลกอย่างแท้จริง
เขาคือประมุขของที่นี่ และด้วยฐานะประมุข แม้แต่จักรพรรดิเซียนยังไม่กล้าเข้ามาหาเื่เขาถึงในนี้ เขาสามารถแสดงร่างมายาออกมาได้ดั่งใจปรารถนา ที่ไม่ต่างอะไรกับร่างจริงเลย
“พวกเราไปหาสหายเก่ากันเถอะ”
เสิ่นเสวียนอุ้มเสี่ยวเหยียนไว้แล้วมองูเาแม่น้ำห่างออกไป จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา พลางกระโจนไปอย่างรวดเร็วราวกับิญญาหายตัว
เขารู้จักที่นี่ดี ในูเาลูกใหญ่เบื้องหน้าเป็สถานที่ที่เขาเก็บซ่อนของล้ำค่าเอาไว้
พาหนะของเขา กระบี่เซียนเจ็ดสีก็ซ่อนอยู่ที่นั่นเช่นกัน
กระบี่เซียนเจ็ดสีอยู่ในระดับศาสตราเซียน กระบี่เซียนเจ็ดสีสามารถรวมตัวกันกลายเป็ค่ายกลปะาเซียนได้ ซึ่งมีอานุภาพไร้ขีดจำกัด เป้าหมายของเขาครั้งนี้คือดูว่าจะเอากระบี่เซียนเล่มหนึ่งออกมาเป็พาหนะได้หรือไม่ เมื่อนึกไปถึงตอนที่โดนคนขี่นกมองเขาอย่างต่ำต้อยบนเรือเสวียนอู่ก่อนหน้านี้ ทำให้เขาไม่พอใจสักเท่าไร
พาหนะเป็สิ่งสำคัญมากจริงๆ
เสิ่นเสวียนกำลังกระโจนไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นร่างของเขาก็ร่วงหล่นลงไปที่พื้น และถอยหลังไปสิบกว่าก้าวจึงตั้งหลักได้อีกครั้ง
“หืม?”
เสิ่นเสวียนอุ้มเสี่ยวเหยียนไว้ พลางมองมิติเบื้องหน้าด้วยสีหน้าสงสัย
เขาเหาะมายังไม่ถึงสิบลี้เลยด้วยซ้ำ กลับโดนบางอย่างขวางทางไว้
เบื้องหน้ามีม่านพลังโปร่งใสขวางทางเขาอยู่
“เฮ้อ บ้าจริง ค่ายกล...”
เสิ่นเสวียนเห็นดังนั้นก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาทำอะไรค่อนข้างระมัดระวัง เขาเก็บของไว้ในผังเมืองซานเหอแล้วและยังสร้างค่ายกลเอาไว้อีก เพราะในตอนนั้นหลังจากะเิร่างตนเองแล้ว เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะฟื้นคืนได้อีกไหม การที่เขาสร้างค่ายกลเอาไว้เช่นนี้นับเป็เื่ปกติ แต่เพราะเหตุนี้จึงมีม่านพลังขวางทางเขาอยู่
“น่าเสียดาย!”
เสิ่นเสวียนพยักหน้าพลางกล่าวด้วยความเสียดาย แม้กระบี่เซียนเจ็ดสีจะเป็ศาสตราเซียน แต่เพราะยอมรับตนเองเป็นายไปแล้ว แม้อยู่ในขั้นหยวนก่อกำเนิดก็ไม่ใช่เื่ยากที่จะใช้มัน ทว่าค่ายกลนี้ทำให้เขาเข้าไปเอามันออกมาไม่ได้
เพราะค่ายกลนี้ถูกสร้างขึ้นจากพลังที่เหลืออยู่ก่อนที่เขาจะะเิร่างตนเอง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำลายได้ในตอนนี้
เขาไม่มีทางทำลายมันได้เลยหากยังไม่ถึงขั้นมหายาน นี่ยังถือว่าน้อยมากแล้วเพราะมันยอมรับเขาเป็นาย ไม่อย่างนั้นต่อให้เป็ต้าหลัวจินเซียนก็ทำลายได้ยากมาก
ในเมื่อเดินหน้าต่อไปไม่ได้แล้ว ความฝันที่อยากเอากระบี่เซียนของเขาออกมาก็พังทลายลงที่ตรงนี้
เสิ่นเสวียนมองไปรอบๆ พลางส่ายหัวอย่างหมดหนทาง เขารู้ว่าแม้ครั้งนี้จะคลายผนึกของผังเมืองซานเหอได้ แต่ยังไม่มีความก้าวหน้าสำหรับเขาอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่ที่นี่เท่านั้น ไม่ว่าเป็สถานที่ใดที่เขาเก็บของล้ำค่าเอาไว้ จะถูกปกป้องด้วยค่ายกลทั้งหมด และของล้ำค่าที่สำคัญมากบางส่วนยังมีเพียงไอพลังจิติญญาเซียนที่แท้จริงของเขาเท่านั้นจึงจะทำลายค่ายกลได้
“พวกเรากลับกันเถอะ”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสี่ยวเหยียนในอ้อมอก
“จี๊ดๆ”
แต่เสี่ยวเหยียนกลับส่ายหัว แล้วมันก็ะโลงไปจากอ้อมอกของเสิ่นเสวียน มันไปยืนอยู่บนพื้นหญ้าแล้วส่งเสียงเรียกเสิ่นเสวียน บอกเสิ่นเสวียนว่ามันอยากอยู่ที่นี่ต่อ
เสิ่นเสวียนทำได้เพียงยิ้มรับความ้าของเสี่ยวเหยียน
“ได้ อยู่เล่นที่นี่ไปแล้วกัน”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับมันเล็กน้อย จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป
แม้ผังเมืองซานเหอหลายๆ ส่วนยังถูกผนึกเอาไว้ แต่เพราะมันคือศาสตราเทพ ภายในนั้นจึงเปี่ยมไปด้วยพลังบริสุทธิ์ เหมาะสมกับการฝึกฝนยิ่งนัก จึงไม่ต้องเป็ห่วงเสี่ยวเหยียนเลย
เสิ่นเสวียนเดินมาถึงกำแพงมิติแล้วเดินผ่านออกไป เขาหันมองมิติของผังเมืองซานเหอด้านหลังอีกครั้งพลางยิ้มมุมปาก
แม้จะไม่ช่วยอะไรเขาได้เลย แต่เขาก็พอใจมากแล้วที่เปิดมิติของผังเมืองซานเหอได้สำเร็จ
นี่คือก้าวที่สำคัญ หลังจากคลายผนึกได้แล้ว มิติที่เคยใช้เก็บของก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความสำคัญต่อเขามากขนาดนั้นแล้ว
ทว่าผังเมืองซานเหอมีความลึกลับมากเกินไป คนรู้น้อยจะดีกว่า บางครั้งไม่รู้เื่อะไรก็นับเป็เื่ที่ดี หากเริ่นเสี้ยวเทียนรู้เื่ศาสตราเทพของตนเองแล้วเขาโดนจักรพรรดิเซียนจับตัวไป อีกฝ่ายคงทำทุกวิถีทางเพื่อล้วงความลับจากเริ่นเสี้ยวเทียน และตนเองคงถูกเปิดเผยตัวตนออกมา
ภายในมิติใต้หนองน้ำ จิติญญาของเสิ่นเสวียนกลับเข้าสู่ร่างแล้ว เขาจึงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
“เฮ้อ!”
ทันทีที่กลับเข้าร่าง เขารู้สึกเวียนหัวตาลายไปหมด เป็ผลจากการใช้พลังจิติญญามากเกินไป
“ไม่รู้ในหัวเ้าคิดอะไรอยู่ ยอมเสียพลังจิติญญาไปมากมายขนาดนี้ แต่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากข้า”
เสวียนหลิงเอ่อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองมาจากด้านข้าง