ระหว่างที่ซูอินกำลังง่วนอยู่กับการซื้อของ ในคฤหาสน์ตระกูลหลิง อู๋อู๋กำลังติดต่อเ้าหน้าที่ด้านการศึกษาที่มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวของเธอ
ตอนแรกเธอคิดไว้อย่างดิบดีว่าครอบครัวเธอเลี้ยงดูซูอินมาตั้งหลายปี แน่นอนว่าซูอินต้องยอมจำนนต่อพวกเขา ถึงแม้ไม่มั่นใจว่าซูอินจะยอมช่วยเหลือธุรกิจของทั้งคู่ พวกเขาจึงคิดจะใช้ประโยชน์จากด้านอื่นๆ เช่นคะแนนสอบขึ้นมัธยมปลายในครั้งนี้
แต่เมื่อคะแนนออกมา ปรากฏว่าซูอินเป็นักเรียนที่สอบได้คะแนนเป็อันดับหนึ่ง
ในวันนั้นที่กระทรวงศึกษาธิการหลังจากที่รู้คะแนนสอบ อู๋อู๋แทบกระอักเื แต่อยู่ต่อหน้าหรงชิวจึงต้องรักษาท่าที จนเกือบสำลักเืภายใน
สอบได้อันดับหนึ่งและยังเป็คะแนนที่สูงมาก คะแนนขนาดนี้สะดุดตาเกินไป ทั่วทั้งเมืองผิงรวมไปถึงคนจากมณฑลต่างก็จับตามอง ต่อให้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นแค่ไหน เธอก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ
เมื่อเห็นว่าหนทางไม่ราบรื่น แต่การศึกษาของบุตรสาวเป็สิ่งที่รอช้าไม่ได้ เมิ่งเมิ่งเสียเวลาอยู่ในชนบทตั้งหลายปี เดิมทีพื้นฐานก็แย่มากแล้ว หากชั้นมัธยมปลายยังไม่ได้เข้าโรงเรียนดีๆ อีก ชีวิตนี้คงพังแน่ๆ
หลิงจื้อเฉิงยุ่งอยู่กับเื่งาน ไม่มีเวลาสนใจเื่นี้ อู๋อู๋จึงต้องจัดการเอง
“ที่ปรึกษาซุน คุณเป็เพื่อนที่ดีของจื้อเฉิง รบกวนช่วยถามให้ได้ไหมคะ…อ่า ตกลงค่ะ เดี๋ยวสักวันหนึ่งเราไปกินข้าวด้วยกันนะคะ”
“รองครูใหญ่จ้าว ใครบ้างไม่รู้ว่าที่โรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่งสามารถสร้างวิทยาเขตใหม่ขึ้นได้เพราะความสามารถของคุณ ลูกของฉันแค่พื้นฐานแย่ไปสักหน่อย แต่เื่ค่าธรรมเนียมเข้าเรียน ครอบครัวของฉันยอมจ่ายมากขึ้นนะคะ คุณลองดูให้หน่อยได้ไหมว่ามีโควตาหรือไม่ รบกวนช่วยมอบให้ฉันสักหนึ่งที่ หากว่าสามารถเข้าห้องเรียนทดลองได้…ใช่ค่ะ ห้องเรียนที่คุณครูหวังเป็คนดูแล พวกเราจะบริจาคที่นั่งในห้องสมุดให้เลยค่ะ ที่ทำไปก็เพื่อลูกของฉัน คุณกับจื้อเฉิงก็เป็เพื่อนที่ดีต่อกัน ถือเสียว่าช่วยเหลือกันนะคะ”
การจะเข้าโรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่งไม่ใช่เื่ยาก แต่อู๋อู๋อยากได้มากกว่านั้น ห้องเรียนโอลิมปิกมุ่งเน้นเพื่อเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเยี่ยนซานและมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา ทั่วทั้งเมืองมีคนจับจ้องอยู่ เธอทำอะไรไม่ได้จึงไม่คาดหวัง แต่มันคงดีกว่าหากเลือกสิ่งที่รองลงมา ห้องเรียนทดลองถือว่าเป็สิ่งที่ดี
อู๋อู๋รู้เื่ภายในของที่นี่ดี ห้องเรียนธรรมดาส่วนใหญ่คือนักเรียนที่มีผลการเรียนแย่ซื้อที่เข้าไป แต่ห้องเรียนทดลองไม่เหมือนห้องธรรมดา ไม่เพียงแค่มีครูดี แต่สภาพแวดล้อมล้วนเป็นักเรียนที่มีผลการเรียนดี ไม่ต้องพูดถึงแนวโน้มสามปีหลังจากนี้ที่มีพวกเขาคอยดูแล เมิ่งเมิ่งจะต้องก้าวหน้าอย่างแน่นอน
ใบหน้าของเธอยกยิ้ม พยายามพูดดีจนปากแห้ง คิดไม่ถึงว่าเธอกลับได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิด
“ไม่ได้หรือคะ”
“ห้องเรียนทดลองของปีนี้เข้มงวดมากหรือคะ”
ปลายสายอย่างรองครูใหญ่จ้าวซึ่งรับผิดชอบค่าธรรมเนียมของโรงเรียนถอนหายใจยาว “ไม่ใช่แค่ห้องเรียนทดลอง ห้องเรียนธรรมดาก็ไม่ได้เหมือนกัน คุณหมออู๋ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วย แต่คะแนนของลูกคุณผ่านหนึ่งร้อยมานิดเดียว คะแนนเท่านี้…ค่อนข้างไกลจากคะแนนที่เรารับไปสักหน่อย หากทางโรงเรียนของเรารับเข้าเรียนก็คงไม่สามารถอธิบายเื่นี้กับผู้ปกครองคนอื่นๆ”
เพราะเป็โรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดในเมือง โรงเรียนจึงค่อนข้างเลือกนักเรียน
เื่ค่าธรรมเนียมเข้าเรียน ทางโรงเรียนของเรา้าอย่างแน่นอน
แต่ถ้าเป็นักเรียนที่มีผลการเรียนแย่เกินไป ต่อให้จ่ายค่าธรรมเนียมมากเพียงใด ทางโรงเรียนก็ไม่สามารถรับเข้ามา เพื่อไม่ให้ระดับของโรงเรียนตกต่ำลง
ในทางกลับกันมีผู้ปกครองจำนวนมาก้าหยิบยื่นค่าธรรมเนียมเข้าเรียนให้ทางโรงเรียน โรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่งขาดแค่โควตารับนักเรียน ไม่ได้ขาดแคลนเงิน!
โรงเรียนที่ดี จะต้องยอดเยี่ยมแบบนี้!
ตอนแรกเธอคิดว่าอำนาจการเงินของหลิงจื้อเฉิงและมิตรภาพที่ก่อขึ้นในงานเลี้ยงครั้งก่อน ให้เงินเป็การส่วนตัวเพื่อเพิ่มทรัพย์ในคลังของเขา รองครูใหญ่ก็ยินยอมให้เกียรติ แค่นักเรียนมีผลการเรียนแย่ไม่เกี่ยวกับคนอื่น แต่ครั้งนี้ทางโรงเรียนมีคำสั่งว่าให้ตรวจสอบรายชื่อนักเรียน เขาซึ่งเป็รองครูใหญ่อย่างไรก็ต้องไว้หน้าครูใหญ่
ในเื่นี้ครูใหญ่ให้เหตุผลแบบคลุมเครือ ด้วยคำพูดไม่กี่คำ แต่รองครูใหญ่จ้าวกลับเข้าใจความหมายอย่างชัดเจน
ซึ่งตัวเขาเองก็เห็นด้วย พวกเขารับนักเรียนอันดับหนึ่งด้วยคะแนนสูงที่ไม่มีใครเทียบได้เข้ามา สามปีหลังจากนี้ไม่แน่ว่าเธออาจกลายเป็คนที่มีคะแนนสูงสุดในมณฑล เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีคนจำนวนมากกว่าเดิมที่เข้ามาหยิบยื่นค่าธรรมเนียมเข้าเรียน และสอบถามพวกเขาว่ายังมีโควตาว่างหรือไม่
คนเราต้องดูกันไปยาวๆ
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางบอกความลับภายในโรงเรียนแก่อู๋อู๋ เพราะพวกเขาไม่ได้สนิทสนมกันถึงขั้นนั้น
“คุณหมออู๋ คุณกับประธานหลิงควรให้ความสนใจกับโรงเรียนมัธยมปลายโรงเรียนอื่นดีกว่าครับ โรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่งของเราอยู่ในระดับที่ดี แต่ในเมืองผิงก็ยังมีโรงเรียนมัธยมปลายดีๆ ไม่ได้มีแค่โรงเรียนของเราแห่งเดียว เอาละ ผมยังมีเื่อื่นๆ ต้องทำ วันนี้พวกเราคุยกันแค่นี้นะครับ”
เอ่ยจบรองครูใหญ่จ้าวก็วางสาย
ในคฤหาสน์ตระกูลหลิง เสียงที่ดังออกมาจากปลายสายเข้ามาในหู อู๋อู๋ที่เตรียมคำพูดจะโน้มน้าวอีกฝ่ายถึงกับหน้าชา ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอจึงรู้สึกตัวแล้ววางสาย
เธอนั่งอยู่บนโซฟา หลิงเมิ่งที่รอฟังผลลัพธ์เห็นท่าทีเช่นนั้นก็พอจะรู้แล้วว่าต้องไม่สำเร็จอย่างแน่นอน
แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ “คุณแม่ เป็ยังไงบ้างคะ”
อู๋อู๋ยกมือขึ้นกุมขมับพร้อมส่ายหน้า
“ทำไมเป็แบบนี้ล่ะ”
ภายใต้จิตสำนึกของหลิงเมิ่ง ไม่มีอะไรที่เงินทำไม่ได้ ั้แ่ที่เธอกลับมาอยู่กับตระกูลหลิง ทุกครั้งที่ไปห้างสรรพสินค้า เหล่าพนักงานขายที่เมื่อก่อนแทบไม่ปรายตามองเธอ ตอนนี้ต่างก็เตรียมขายของอย่างขยันขันแข็งเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา ไม่ใช่แค่ที่ห้างสรรพสินค้า แต่ที่โรงเรียนก็ด้วย แค่ซื้อของกินและแบ่งขนมให้เล็กๆ น้อยๆ หลายคนก็อยากจะติดตามเธอ แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องบุตรสาวของลุงทางฝ่ายบิดาอย่างซูเล่อที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง ลูกพี่ลูกน้องอย่างเมิ่งเวยลูกสาวของลุงทางฝ่ายมารดาที่คิดว่าตนเองหน้าตาสะสวยก็ยังเพิ่มความสนิทสนมกับเธอ
ถึงแม้จะไม่ได้จริงจังกับการสอบขึ้นมัธยมปลาย แต่หลิงเมิ่งก็ไม่เคยกังวลเื่นี้เลย
แม้จะไม่สามารถสลับคะแนนกับซูอิน แต่ซูอินยังคงติดค้างเธอ ถึงจะไม่สำเร็จ แต่ตระกูลหลิงร่ำรวย ถึงอย่างไรก็ต้องจ่ายเงินเพื่อให้เธอเข้าเรียนได้อย่างแน่นอน
แต่ในตอนนี้…เธอรู้สึกราวกับว่าเงินมีค่าไม่ต่างกับเศษดิน เธอเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย “คุณแม่…หรือว่าหนูจะไม่ได้เรียนหนังสือ”
เมื่อเห็นน้ำตาของเธอจากดวงตาที่ดูสิ้นหวังและหมดหนทาง อู๋อู๋ก็อดสงสารไม่ได้
“เมิ่งเมิ่งวางใจเถอะ เข้าโรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่งไม่ได้ ก็ยังมีโรงเรียนมัธยมลำดับที่สอง ลำดับที่สาม นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนในมณฑล โรงเรียนมัธยมเอกชนในต่างประเทศ…บ้านของเรามีเงิน ลูกต้องมีที่เรียน ดูอย่างผู้จัดการห้องจัดเลี้ยงที่โรงแรมของพ่อสิ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ แต่ก็ต้องมาทำงานให้เรา เรียนไม่เก่งไม่ใช่ปัญหา ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ”
ใช่แล้ว คนที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศยังต้องมาทำงานให้พวกเขา นั่นทำให้หลิงเมิ่งรู้สึกโล่งใจขึ้น
“หนูทราบค่ะ แต่คุณแม่คะ หนูยังอยากเรียนหนังสือ ซูอินได้เรียนโรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่ง หนูเป็ลูกสาวของคุณแม่ จะแย่กว่าซูอินไม่ได้”
แม้แต่ในเวลานี้เมิ่งเมิ่งก็ยังนึกถึงเธอ
อู๋อู๋รู้สึกประทับใจมาก เธอที่ท้อแท้สิ้นหวังไปแล้วกลับตัดสินใจลองอีกสักตั้ง “ตกลง อีกหลายวันกว่าจะถึงวันรับเข้าเรียน เดี๋ยวแม่จะลองติดต่อเพื่อนคนอื่นดู”
“คุณแม่ดีที่สุดเลยค่ะ”
หลิงเมิ่งร้องด้วยความดีใจและโผเข้าสู่อ้อมกอดของอู๋อู๋ เอ่ยคำสาบานต่างๆ นานา “คุณแม่คะ ครั้งนี้หนูสอบได้คะแนนน้อย ต้องขอโทษคุณแม่กับคุณพ่อ แต่คุณแม่วางใจเถอะค่ะ ขอแค่หนูได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่ง หนูจะตั้งใจเรียน สามปีนี้หากได้ครูดีๆ มาสอน หนูต้องตามทันแน่นอนค่ะ”
ซูอินเป็นักเรียนที่สอบได้คะแนนสูงเป็อันดับหนึ่ง คะแนนสูงแม้แต่เธอยังใ
จะตามให้ทันหรือ อู๋อู๋ค่อนข้างสงสัย แต่ความตั้งใจนี้ของบุตรสาวก็โจมตีหัวใจของเธออย่างเลี่ยงไม่ได้ ครั้งนี้อู๋อู๋ไม่ได้โทรศัพท์หาใครอีก แต่กลับขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและเรียกคนขับรถมา ตัดสินใจจะไปเยี่ยมเพื่อนของเธอด้วยตนเอง
คำพูดบางอย่างคุยกันทางโทรศัพท์คงไม่ชัดเจน พูดต่อหน้าถึงจะได้ผล
อู๋อู๋คิดไม่ผิด แต่น่าเสียดายที่ครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่งออกคำสั่งมา ทำให้การเดินสายพูดคุยเื่นี้ของเธอไม่มีทางสำเร็จอย่างแน่นอน