“อืม ข้ารู้แล้ว เ้าออกไปก่อน”
เสิ่นเสวียนพยักหน้าให้เด็กคนนั้น เขาชอบกฎของาามารตะวันตกมาก ผู้คนเชื่อฟังและเป็ระเบียบเรียบร้อย
“ไปที่หอประชุมกันเถอะ”
เสิ่นเสวียนลงจากเตียง จัดระเบียบเสื้อผ้าแล้วตบบ่าเสิ่นเลี่ยนเบาๆ จากนั้นก็ก้าวนำออกไปจากเรือนรับแขก
เสิ่นเสี่ยวเม่ยที่ได้ยินเสียงของเสิ่นเสวียนลุกขึ้นจากเตียงทันที นางไม่ใช่คนตื่นยาก แม้จะไม่อาจฝึกฝนได้ทั้งกลางวันกลางคืนเหมือนกับเสิ่นเสวียน แต่ปกติแล้วนางเป็คนตื่นเช้า กำลังฝึกฝนอยู่ภายในเรือน
ใน่สาย พวกเสิ่นเสวียนเข้ามารวมตัวกันในหอประชุมทั้งหมดแล้ว
าามารตะวันตกเตรียมอาหารเช้าไว้ให้พร้อม ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะของทุกคน
แต่สายตาของทุกคนในตอนนี้ต่างจ้องมองไปยังเสิ่นเลี่ยน
ขั้นบรรพบุรุษช่างสะดุดตายิ่งนัก อีกทั้งพวกเขายังมองเสิ่นเลี่ยนต่างไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง
หากเมื่อวานพวกเขาเห็นเสิ่นเลี่ยนเป็คนหนุ่มที่มีพร์คนหนึ่ง เช่นนั้นเขาในตอนนี้ก็มีพลังที่สามารถอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาได้แล้ว
“คุณชายเสิ่นทำได้อย่างไร”
าามารตะวันตกมองเสิ่นเลี่ยนพลางกล่าวถาม เขาฝึกฝนมานานขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย
“โอกาสและโชคบังเอิญเกิดขึ้นพร้อมกันเท่านั้น”
เสิ่นเสวียนที่นั่งอยู่ข้างๆ หัวเราะขึ้นเบาๆ
เสิ่นเลี่ยนได้ยินคำของเสิ่นเสวียนจึงยิ้มน้อยๆ เป็การยอมรับ
“ดูเหมือนว่าโอกาสและโชคนี้จะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว!”
ในแววตาของาามารตะวันตกมีเพียงความอิจฉา ไร้ซึ่งความริษยา
เริ่นเสี้ยวเทียนเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าทำไมพลังของเสิ่นเสวียนถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ตอนแรกที่ได้รู้จักเสิ่นเลี่ยน เขายังเป็ผู้ฝึกตนขั้นปรมาจารย์เท่านั้น ต่อสู้กับหมีปีศาจธุลีดินยังต้องใช้แรงอย่างมหาศาล ตอนนี้เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วัน พลังกลับถึงขั้นบรรพบุรุษไปแล้ว
เื้ัเื่นี้ต้องมีเสิ่นเสวียนมาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน
แม้แต่เสิ่นเลี่ยนยังทำได้ถึงขนาดนี้ แล้วกับเสิ่นเสวียนที่ลึกลับยิ่งกว่าล่ะ
สิ่งที่เขาไม่ค่อยเข้าใจคือเสิ่นเสวียนฝึกฝนจากอะไร หรือว่าเขาจะมาจากสำนักนอกรีตจริงๆ
“วันนี้ข้าเรียกพวกเ้ามารวมตัว เพราะมีเื่หนึ่งอยากบอกให้พวกเ้ารู้”
าามารตะวันตกที่ตะลึงในพลังของเสิ่นเลี่ยนตั้งสติกลับมาเป็ปกติแล้ว ขณะที่กล่าวเขาหันมองเสิ่นเสวียนไปด้วย
เสิ่นเสวียนไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแต่มองาามารตะวันตกกลับไปเท่านั้น
“ข้าเจอตัวเหลยป้าเทียนแล้ว เขาซ่อนตัวอยู่ที่จวนของาามารทิศเหนือ”
“าามารทิศเหนือมีพลังแข็งแกร่งกว่าข้ามาก ต่อกรด้วยไม่ง่ายเลย”
าามารตะวันตกกล่าวออกไปก่อนโดยไม่รอให้พวกเสิ่นเสวียนกล่าวอะไรเลย
“าามารทิศเหนือน่าจะโดนลอบสังหารเหมือนกันใช่ไหม” เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวกับาามารตะวันตก
“อืม ฉลาดมาก เ้ากล่าวไม่ผิดเลย สี่าามารโดนลอบสังหาร าามารทิศใต้ตายแล้ว ส่วนาามารตะวันออกหายตัวไป าามารทิศเหนือได้รับาเ็ ส่วนข้านับว่ายังดี”
“ดูเหมือนคนเ่าั้ไม่ได้เพ่งเล็งท่าน” เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวอย่างครุ่นคิด
เสิ่นเสวียนพลันถามาามารตะวันตก “ผู้าุโาามาร ่นี้หุบเขาสุขาวดีมีของล้ำค่าไร้สิ่งใดเทียบปรากฏขึ้นบ้างหรือไม่”
“มากมายเลย แต่ก็ไม่คุ้มค่าพอที่จะก้าวล่วงสี่าามารได้”
าามารตะวันตกส่ายหัวเพื่อยุติการคาดเดานี้ เมื่อเทียบกันแล้วไม่สู้บอกว่ามีคนอยากเข้าแทรกแซงหุบเขาสุขาวดีเพื่อผลประโยชน์จะดีกว่า การกำจัดคนสี่คนที่ไม่เชื่อฟังออกไปเป็เื่ที่เข้าใจได้
“เช่นนั้นมีสิ่งของอะไรที่พิเศษบ้างไหม”
“สิ่งของที่พิเศษ?”
าามารตะวันตกกล่าวพึมพำพลางทำสีหน้าครุ่นคิด
คิดไปคิดมา ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“สุสานใหญ่แห่งหนึ่งในหุบเขาสุขาวดีกำลังจะเปิดออก จะเกี่ยวกับเื่นี้ไหม”
“สุสานใหญ่ ท่านหมายถึงสุสานของผู้เฒ่าจี๋เล่ออย่างนั้นหรือ”
เริ่นเสี้ยวเทียนตระหนักรู้ได้จึงถามออกไป หากไม่กล่าวถึงเขาคงลืมไปแล้ว ผู้เฒ่าจี๋เล่อคือคนผู้หนึ่ง ส่วนสุสานของผู้เฒ่าจี๋เล่อผู้นี้เขาเคยได้ยินเื่เล่ามาเท่านั้น ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
“ใช่แล้ว สุสานของเขา” าามารตะวันตกพยักหน้า หากกล่าวถึงเหตุผลแล้ว ่นี้คงมีเพียงเื่นี้ที่ค่อนข้างเป็เื่ใหญ่
“ใครเล่าเื่นี้ให้ฟังได้บ้าง”
เสิ่นเสวียนมองเริ่นเสี้ยวเทียนและาามารตะวันตกไปมา คนหนึ่งถามคนหนึ่งตอบ ทำให้เขาไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร ส่วนเสิ่นเลี่ยนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยที่นั่งอยู่ข้างๆ ต่างมีสีหน้าสงสัย
“ข้าเล่าให้ฟังแล้วกัน”
เริ่นเสี้ยวเทียนดื่มน้ำชาเพื่อให้คอชุ่มชื้น คราวนี้นับว่าได้รู้เื่ที่เสิ่นเสวียนไม่รู้บ้างแล้ว
“ผู้เฒ่าจี๋เล่อคือผู้เฒ่าในตำนานคนหนึ่ง เขามีชื่อเสียงมากเมื่อพันปีก่อน และเขาคือผู้สร้างหุบเขาสุขาวดี ในตอนนั้นที่สร้างหุบเขาสุขาวดีขึ้นมา เขา้าสร้างดินแดนในอุดมคติ น่าเสียดายที่ภายหลังกลายเป็สถานที่ไร้กฎเกณฑ์ไป”
“ทั้งชีวิตของเขาเปี่ยมไปด้วยตำนาน เดิมทีเป็เด็กในหมู่บ้านบนูเาธรรมดาๆ ต่อมาขณะกำลังตัดฟืนได้เข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งและได้รับการสืบทอดพลังมา จึงได้เดินเข้าสู่โลกของการฝึกฝนนับแต่นั้น อายุสามสิบปีได้เข้าร่วมกองทัพ อายุห้าสิบปีกลายเป็ปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ แต่ต่อมาเขาเบื่อหน่ายชีวิตภายใต้กฎเกณฑ์ จึงขอลาออกและลงจากตำแหน่ง อายุหกสิบปีทะลวงเลื่อนไปถึงขั้นจักรพรรดิได้สำเร็จ ได้รับแต่งตั้งเป็จักรพรรดิในแคว้น ผู้คนเรียกเขาว่าจี๋เล่อกง ทว่าเส้นทางการฝึกฝนของเขาเพิ่งเริ่มขึ้น ได้ยินว่าตอนที่เขาอายุแปดสิบปี เขาเลื่อนไปถึงขั้นเกียรติยศ อายุร้อยปีเข้าสู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็ผู้บรรลุได้สำเร็จ”
ความสำเร็จของผู้เฒ่าจี๋เล่อทำลายกฎเกณฑ์การฝึกฝนที่ให้ความสำคัญกับพร์มาอย่างยาวนาน จากเด็กในหมู่บ้านบนูเาที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่ง เริ่มเข้าสู่การฝึกฝนเมื่อมีอายุสามสิบปี แต่สุดท้ายก้าวหน้าไปถึงขั้นที่ผู้คนมิอาจเอื้อม
ตอนที่เริ่นเสี้ยวเทียนกำลังเล่า แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความเคารพเลื่อมใส ผู้เฒ่าจี๋เล่อเป็คนธรรมดาที่กลายเป็ตำนานคนหนึ่ง และยังกลายเป็เป้าหมายสำคัญของคนส่วนมากอีกด้วย
ต่อมาผู้เฒ่าจี๋เล่อสร้างสุสานของตนเองขึ้นมาและปิดตายสุสานนั้นเอาไว้ แต่เพื่อผลประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ในทุกๆ สามสิบปี เส้นทางมุ่งเข้าสู่สุสานจะปรากฏขึ้นเอง เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้าไปรับโอกาสและโชค
“อีกสิบวันหลังจากนี้คือวันที่สุสานจะเปิดออกอีกครั้ง”
าามารตะวันตกกล่าวเสริม หากว่าไม่กล่าวถึงเขาคงลืมไปแล้ว
“ที่แท้ก็มีเื่ดีๆ เช่นนี้ด้วย”
เสิ่นเสวียนได้ฟังเื่เล่าของผู้เฒ่าจี๋เล่อแล้วรู้สึกเหลือเชื่อเป็อย่างมาก สำหรับพวกเสิ่นเสวียนแล้วนับเป็เื่น่ายินดีที่ยิ่งใหญ่มาก สามสิบปีมีหนึ่งครั้ง หากพลาดครั้งนี้ไปแล้วจะต้องรอไปอีกสามสิบปี
“แต่เื่นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารไม่มากนัก แม้สุสานจะเปิดออก แต่ต้องมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีจึงจะเข้าไปได้ สี่าามารเข้าไปไม่ได้เลย” าามารตะวันตกส่ายหัว
“แม้เข้าไปไม่ได้ แต่ใช่ว่าจะลงมือไม่ได้ หากข้าเดาไม่ผิด อีกฝ่ายน่าจะกลัวว่าสี่าามารจะร่วมมือกัน”
“ดังนั้นจึงแยกกันลอบสังหารในเวลาเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลัง” เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวต่อท้าย
าามารพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ก็อาจเป็ไปได้”
“ไปกันเถอะ”
เสิ่นเสวียนลุกขึ้นยืนแล้วจัดระเบียบเสื้อผ้า
“ไปไหน” เริ่นเสี้ยวเทียนและาามารตะวันตกถามขึ้นพร้อมกัน
“ไปหาคนที่จวนาามารทิศเหนือ”
“น้องชายใจเย็นๆ ก่อน าามารทิศเหนือชอบปกป้องคนใต้บัญชา เกรงว่าเ้าจะเอาตัวเขามาไม่ได้”
าามารตะวันตกห้ามเสิ่นเสวียนไว้ทันที
“ไม่ได้ก็ต้องได้ เขาสมควรตาย”
เสิ่นเสวียนเรียกเสิ่นเลี่ยนและเสิ่นเสี่ยวเม่ย ทั้งสองคนเดินตามหลังเสิ่นเสวียนไปทันที
กองกำลังของเสิ่นเสวียนในตอนนี้มิอาจดูถูกได้เลย เสิ่นเลี่ยนเข้าสู่ขั้นบรรพบุรุษแล้ว ทำให้พลังของเสิ่นเลี่ยนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก ส่วนเสิ่นเสี่ยวเม่ยที่ปกติแล้วดูไม่มีพิษมีภัย แต่พลังที่นางเปิดเผยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจกลับทำให้เริ่นเสี้ยวเทียนอดประหลาดใจไม่ได้
“ช้าก่อน พวกเราไปด้วยกัน”
“รอข้าด้วย”
เริ่นเสี้ยวเทียนและาามารตะวันตกกล่าวขึ้นแทบจะพร้อมกัน แล้วพวกเขาก็ตามพวกเสิ่นเสวียนไปติดๆ
“ข้าชื่นชอบนิสัยมีแค้นต้องชำระของเ้ามาก ไปเถอะ ข้าอยากเห็นเหมือนกันว่าเ้าเหนือจะกล้าล่วงเกินข้าาามารตะวันตกเพียงเพราะเ้าชั่วคนหนึ่งหรือเปล่า”
“ข้าไม่ขอกล่าวอะไรแล้วกัน ทำให้เสร็จไป”
เริ่นเสี้ยวเทียนยิ้มอย่างร่าเริง ในเมื่อเขาร่วมมือกับเสิ่นเสวียนช่วยาามารตะวันตกให้รอดมาได้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะล่วงเกินาามารทิศเหนือแล้ว
ในหุบเขาสุขาวดีแห่งนี้ พลังคือเ้านาย สี่าามารมีอำนาจได้ขนาดนี้ หยั่งรากลึกได้ถึงเพียงนี้เป็เพราะพลังที่แข็งแกร่ง หากพ่ายแพ้ไป พลังอำนาจที่สั่งสมมาจะพังทลายลงในทันที
“ดี แต่าามารทิศเหนืออยู่ห่างจากพวกเรามาก ทุกคนขึ้นมาบนพรมวิเศษของข้าแล้วกัน”
าามารตะวันตกพลันสะบัดแขนเสื้อออกไป ทำให้พรมวิเศษปรากฏขึ้นตรงหน้าของทุกคน
จากนั้นทุกคนก็ะโขึ้นไป แล้วมันก็มุ่งหน้าออกจากเขาน้ำเต้าภายใต้การควบคุมของาามารตะวันตก