ปราศจากสุ้มเสียงใด ในห้องหนังสืออันเงียบสงัด มีกลิ่นหมึกจางๆ และความอัปยศที่ไม่อาจเอ่ยถึงลอยอยู่ในมวลอากาศ
“สหายท่านนี้ นายอยากให้ฉันออกไปเป็เป้าล่อะุอย่างนั้นหรือ?” เฝิงเฉวียนคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป ชายหนุ่มยกมือขึ้นและชี้นิ้วหัวแม่มือมาที่ตัวเอง ก่อนจะเอ่ยถาม “ฉันอุตส่าห์ไปตามนายมาจากสุดหล้าฟ้าเขียว จ่ายเงินให้นายด้วยแตะเอียที่สะสมมาตลอด 16 ปี เพื่อให้นายเอาฉันไปเป็เป้าล่อะุอย่างนั้นเหรอ?”
“ก็น่าจะหมายความตามนั้นแหละ” เสิ่นิกล่าวด้วยความเย็นใจ
“ทราบแล้ว ต่อให้ฉันเป็ลูกนอกสมรส เป็นายน้อยตระกูลเฝิงแค่เพียงครึ่งหน้า แต่ยังไงฉันก็เป็บุตรชายของหัวหน้าตระกูลเฝิงนะ นายจะให้ฉันเป็เป้าล่อะุให้นายเหรอ? ฝันไปเถอะ!” เฝิงเฉวียนไม่ถ่มน้ำลายรดหน้าเขาก็บุญแล้ว
“นี่เป็วิธีเดียว การดวลกันระหว่างสไนเปอร์ใช้ระยะยิงและอุปกรณ์เป็ตัวตัดสิน เมื่อระยะห่างระหว่างนักแม่นปืนเป็หลักกิโลเมตรขึ้นไปและวัดกันด้วยหน่วยมิลลิเมตร ระยะยิงจะไร้ผลไปโดยปริยาย ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีความแตกต่างอะไร ระหว่างการยิงเข้าที่โพรงเบ้าตาหรือการยิงเข้าที่ขอบเบ้าตา...
เมื่อเทียบอุปกรณ์กันแล้ว ปืนของผมยังอ่อนกว่าของผีูเาในทางพีชคณิต แม้ผมจะหัวหมุนมาตลอดคืน แต่ผมก็สามารถทำให้ช่องว่างลดลงจาก 800 เมตรเหลือเพียง 500 เมตรได้
ภายใต้ข้อเสียเปรียบที่ไม่อาจเอาชนะได้นี่ จึงต้องแก้ไขโดยอาศัยมนุษย์เท่านั้น” เสิ่นิไม่รู้สึกถึงพฤติกรรมอันเลวร้ายของการที่อยากจะให้เ้านายของตนไปเป็เป้าล่อะุ พนักงานทุกคนไม่ได้คิดแบบนี้กันหรือไง?
“ฝันไปเถอะ ฉันจะไม่เข้าป่าเพื่อไปเป็เป้าให้ผีูเานั่นหรอก” เฝิงเฉวียนพูดหน้าตาเฉย “ไพร เธอไปกับเขา”
เ้านายสั่งให้ไพรไปกับเสิ่นิสองต่อสอง เสิ่นิเริ่มเตรียมตัวเข้าสู่ภารกิจแล้ว ใจของเขาสงบนิ่งเหมือนน้ำ แต่แก้มของไพรกลับแดงระเรื่อ หญิงสาวรู้สึกประหม่า
“รับทราบ...” ในฐานะทาสของตระกูลตาเฝิง ไพรไม่มีสิทธิ์พูดคำว่า “ไม่” อย่าว่าแต่เฝิงเฉวียนให้เธอไปเป็เป้าะุเลย ต่อให้นายขอให้เธอตายตอนนี้ เธอไม่สามารถโอดครวญได้
“คุณจะไปกับผมเหรอ?” เสิ่นิลังเลเล็กน้อย
“ทำไม? ดูถูกกันหรือยังไง? อยากเช็กดูไหมว่าฉันมีคุณสมบัติพอที่จะฆ่านายได้หรือเปล่า?” ไพรมีสีหน้าที่ดุร้าย ราวกับว่าเธอแทบรอไม่ไหวที่จะถลกหนังของเสิ่นิ เมื่อวานเธออาจเห็นเสิ่นิเป็เหมือนศัตรูที่สังหารบุพการีของเธอ แต่ ณ ขณะนี้ เขากลับเป็คู่แค้นที่ทำลายพรหมจรรย์
“ไม่ใช่ว่าดูถูกคุณหรอกนะ แต่คุณมีอคติกับผม หากคุณเข้าไปในป่าแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ผมก็อาจจะถูกฆ่าตาย” เสิ่นิกุมศีรษะด้วยความลำบากใจ
“นายนี่เื่เยอะฉิบหาย” เฝิงเฉวียนหยิบจี้หยกที่เอวออกมาและโยนให้เสิ่นิ “รับไว้ นี่คือป้ายประจำตัวนายน้อยคนที่สิบห้าของตระกูลเฝิง หากเห็นป้ายนี้ก็เหมือนกับเห็นฉัน ทาสของตระกูลเฝิงต้องน้อมรับคำสั่ง จตุปีศาจแห่งพสุธายิ่งต้องเชื่อฟัง หากฝ่าฝืน ตามกฎของบ้านจะต้องถูกมีดแทงสามทีหกรู”
“นายน้อย?!” ไพรกล่าวด้วยความกังวล เธอรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง “ป้ายประจำตัวของตระกูลเฝิงเป็ของสำคัญยิ่ง จะให้คนชั่วแบบนี้หยิบยืมไปได้อย่างไร?”
“ทำไม? เธอคิดจะสั่งสอนฉันว่าควรเป็นายน้อยตระกูลเฝิงอย่างไรอย่างนั้นหรือ? ช่างกล้านี่ จะลองดีหรือไง?” อยู่ๆ สีหน้าของเฟิงชวนก็นิ่งขรึมลง หนุ่มน้อยชำเลืองมองไปที่ไพรผู้ซึ่งคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอโทษ
“ข้าน้อยไม่กล้า! นายน้อยได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย!”
“โขกหัวเก้าสิบเก้าครั้ง” เฝิงเฉวียนกล่าวเนิบๆ
ไพรล้มกระแทกศีรษะลงกับพื้นอย่างไม่ลังเล พื้นแทบแตกเป็เสี่ยงๆ ตึง! ตึง! ตึง! เสียงเหมือนกับค้อนทุบหิน เมื่อศีรษะกำลังจะแตก จู่ๆ เสิ่นิก็ก้าวไปข้างหน้าและหยุดเธอไว้
“เฮ้ๆๆ ทำไมนายต้องเข้ามายุ่งทุกเื่เลย? นายเป็บอดี้การ์ดหรือตำรวจกันแน่?” เฝิงเฉวียนกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“เธอยังมีประโยชน์ ถ้านายทำเธอยับเยิน แล้วเธอจะไปกับฉันได้ยังไง?” เสิ่นิช่วยสาวงามโดยใช้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมา
“ไม่ต้องมายุ่ง!” ไพรผลักมือเสิ่นิออก หญิงสาวยังคงโขกศีรษะต่อไป
“พอแล้ว ไปเตรียมตัวเถอะ รีบไปสังหารผีูเานั่น ฉันไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว” เฝิงเฉวียนเองก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็แบบไหน เขาแค่รู้สึกว่าตัวเองเป็คนเลว
และนั่นเอง ไพรก็ได้รับมอบหมายให้เป็คนของเสิ่นิ ช่างเคราะห์ร้ายยิ่งนัก
“ถอดเสื้อผ้าออก!” ในขณะที่อยู่ในห้องเครื่องมือ เสิ่นิก็กล่าวขึ้น
“นาย!” ไพรแทบอยากจะกระแทกหอกใส่ไอ้คนเหลือขอนี่
“นายอยากตายหรือยังไง อยากให้ฉันถอดให้นายดูด้วยหรือเปล่า ไอ้โรคจิต!” นี่เป็ครั้งแรกที่เซี่ยวอี๋ยืนหยัดเพื่อน้องสาว ด้วยอายุแล้ว เซี่ยวอี๋แก่กว่าไพร 2 ปี
“อย่าเข้าใจผิด ชุดราชวงศ์ถังของคุณไม่เหมาะสำหรับการล่าสัตว์ อยู่ในป่าจะสะดุดตาเกินไป สวมนี่ซะ” หลังจากพูดจบ เสิ่นิก็หันกลับมาและโยนชุดปั่นจักรยานรัดรูปสีดำไปให้ไพร
เมื่อมีป้ายสัญลักษณ์อยู่ ไพรไม่มีสิทธิ์ขัดขืน เธอทำได้แค่เพียงเดินไปที่ห้องด้านหลังและเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความโกรธ เมื่อเธอเดินกลับออกมาอีกครั้ง เซี่ยวอี๋ถึงกับอ้าปากค้าง
เพียงถอดชุดราชวงศ์ถังตัวโคร่งออก และเปลี่ยนเป็เสื้อปั่นจักรยานแบบรัดรูปแล้ว ไพรก็มีรูปร่างที่สันทัด แข็งแกร่งและดูสง่างาม กางเกงปั่นจักรยานเ้ากรรมซึ่งยาวเท่าต้นขาทำให้ส่วนเป้ารู้สึกแน่นมาก ราวกับจะรัดเข้าไปอยู่ข้างใน
“เธอหุ่นดีจริงๆ!” เซี่ยวอี๋้าจะบอกว่าหลังจากที่ฝึกฝนแล้ว เธอก็ยังไม่สามารถพัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงและกระชับได้เช่นไพร
“มัน...แน่นไปหน่อย” ไพรหน้าแดง เธออึดอัดมากจนต้องใช้นิ้วดึงคอเสื้อลง ส่วนที่แน่นสุดคือส่วนหน้าอก ชุดปั่นจักรยานเป็ชุดแบบสวมทั้งตัว แม้ผ้าจะยืด แต่ก็ไม่ได้นึกถึงหัวอกของคนที่มีหน้าอกไซส์ 34E เลย
“อย่ามัวแต่ยืนอยู่อย่างนั้น ทำอะไรสักอย่าง” เสิ่นิบีบสีเขียวให้เซี่ยวอี๋หลายหยด รวมทั้งสเปรย์สีน้ำตาลด้วย นอกจากนี้ยังมีแอร์บรัชสำหรับวาดภาพ เขาให้เซี่ยวอี๋แปลงโฉมเสื้อผ้าให้ไพร
เสิ่นินำสีน้ำมันทางกลยุทธ์มาตรงหน้าไพร ไพรสูงแค่เพียง 164 เิเ เพียงพอให้เสิ่นิจูบถึงหน้าผากเธอได้
“คุณแพ้หมึกหรือเปล่า?” เสิ่นิถาม
“ฉันแพ้นายมากกว่า” ไพรกัดฟันกรอด
“ฮ่าๆ ถ้างั้นคุณก็อยู่ยงคงกระพันแล้วล่ะ!” เสิ่นิยิ้มและใช้นิ้วป้ายสีน้ำมันลงบนใบหน้าของไพร ทาน้ำมันหนาที่แขนและขา ด้วยความไม่สม่ำเสมอของสีซึ่งประกอบด้วยสีดำ สีเขียวและสีกาแฟ ดูราวกับเป็ภาพวาดนามธรรมของ Picasso แต่เมื่อเข้าไปในป่า มันจะเป็การพรางตัวและการหลอกการมองเห็นที่ดีที่สุด
ไพรไม่เข้าใจความสำคัญของเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เธอรู้สึกแค่ว่าผู้ชายตรงหน้านี่เป็หัวขโมย! เขาไม่เพียงแต่ใช้อุบายแอบซุ่มดูเรือนร่างของเธอในห้องน้ำเท่านั้น แต่ยังทำลายความบริสุทธิ์ของเธอด้วย! ตอนนี้ยังใช้อำนาจของนายน้อยหาประโยชน์ใส่ตนอีก!
สองนิ้วนั้นััใบหน้า แขนและขาของเธอ เขาััด้วยความช่ำชองจนไพรอดไม่ได้ที่จะรู้สึกบางอย่าง แม้ว่าไพรจะไม่ได้คิดถึงเื่ชู้สาว แต่ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็ผู้หญิงที่โตเต็มวัย 20 ปีแล้ว ถูกผู้ชายคนหนึ่งทาถูอยู่เป็เวลา 5 นาที หากไม่รู้สึกอะไรก็ไม่ใช่คนแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเทคนิคของเสิ่นิ ต่อให้เป็คนอื่นนวด มันก็ให้ผลเช่นเดียวกัน
สำหรับเสิ่นิซึ่งได้รับความรังเกียจจากไพรเป็ทุนเดิมนั้น ปฏิกิริยาเช่นนี้จึงถูกตำหนิว่าเป็ความผิดของหัวขโมยเสิ่นิไปโดยปริยาย!
“เสร็จแล้ว” เสิ่นิใช้สีไปทั้งหมด 3 กล่อง เขาจ้องตอนไพรกลายร่างเป็ “อวตาร” ลายพราง แม้แต่ผมยาวสีดำก็ถูกย้อม “คุณว่าเป็อย่างไรบ้าง?”
“พอเห็นแบบนี้แล้ว โชคดีที่ฉันไม่ได้ไปกับนาย” เซี่ยวอี๋ถอนหายใจ
“นายมีกลยุทธ์อะไรก็รีบว่ามา ถ้าหญิงสาวผู้นี้ถูกแตะต้องแม้แต่เพียงขนคิ้ว ก็ไม่ต้องเรียกว่าไพรแล้ว!” ไพรท่าทางอาจหาญในชุดพรางตัว
“คุณใช้ปืนเป็ไหม?” เสิ่นิถาม
เมื่อพูดถึงปืน สปิริตของไพรก็ฟื้นขึ้นมา เท้าข้างหนึ่งฟาดไปที่ด้ามหอกสีเงินวาววับบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ กับชายหนุ่ม หอกพุ่งเป็วงกลมในอากาศและตกลงในมือของเธอ เธอพุ่งหอกนั้นออกไปเหมือนกับปืนสั้น เจาะกำแพงอิฐที่อยู่ข้างๆ เสิ่นิจนเป็รู เขามองจนเผลอขมิบรูก้นแน่น
“ผมไม่ได้หมายถึงอันนั้น ผมหมายถึงปืนนี้” เสิ่นิถอนหายใจและทำท่ายิงปืน
“ตระกูลเฝิงล้วนเป็ผู้ชำนาญศิลปะการต่อสู้ ปืนต่างประเทศและปืนใหญ่ จะอยู่ในสายตาเราได้อย่างไร? มีเพียงคนขลาดเท่านั้นแหละที่ต้องซ่อนตัวให้ห่างออกไปหลายพันไมล์เพื่อสังหารผู้อื่น” ไพรแสดงความดูถูกซึ่งเป็การตอบคำถามว่าไม่เป็
“ก็แปลว่าไม่เป็ล่ะสิ ถ้างั้นเอาเ้านี่ไป เก็บหอกของคุณไว้ที่บ้าน มันสะดุดตาเกินไป” เสิ่นิพูดพลางยื่นมีดจู่โจมทางยุทธวิธีสไตล์อเมริกันให้สองเล่ม
“เล็กแบบนี้ จะใช้การได้เหรอ?” ไพรดูิ่ซึ่งๆ หน้า
“มีดเล่มนี้เป็อุปกรณ์ต่อสู้ที่ผลิตโดยบริษัท MAD DOG ของอเมริกา เป็มีดเพียงชนิดเดียวที่ผ่านการทดสอบอันโหดร้ายของหน่วยซีลชายฝั่งตะวันตกในปี 1992 เป็ที่รู้จักกันในนามราชันแห่งดาบสมรภูมิ แต่ชื่อที่แท้จริงของมันก็คือ ‘หมาบ้า’ ” เสิ่นิยิ้มแล้วพูดว่า “มันช่างเหมือนคุณมาก”
“ไอ้หัวขโมยสัปดน แกด่าใคร?” ไพรสวนกลับ
“ถ้าคุณยืนกรานจะเรียกผมอย่างนั้นจริง ก็ช่วยเพิ่มคำคุณศัพท์ให้ด้วยได้หรือไม่?”
“หัวขโมย! สัปดน! (ใหญ่) มาก!” ไพรพูดกับเสิ่นิทีละถ้อย ทีละคำ
“ขอบคุณ” เสิ่นิยิ้ม
8 โมงเช้า รถส่งของจากซูเปอร์มาร์เก็ตคันหนึ่งขับเข้ามาในคฤหาสน์จักรพรรดิ โดยปกติรถจะหยุดเพื่อขนถ่ายของลงประมาณ 20 นาที ก่อนจะขับออกไปจากคฤหาสน์ นั่นทำให้แพนด้า นกกระยางขาวซึ่งเกือบทำให้เสิ่นิกลายเป็ขันทีกระพืบปีก พั่บ พั่บ บินลอดออกจากประตูที่เปิดอยู่ไป นี่คือการไปเดินเล่นด้วยตัวเอง เผื่อจะได้เจอนกตัวเมียสักสองสามตัวเพื่อผสมพันธุ์ด้วย
และท่ามกลางูเา ที่ข้างโขดหิน ผีูเาซึ่งแบก Barrett ส่องรถกระบะคันนั้นจากกระจกปืนซุ่มยิง กระบะบรรทุกของด้านหลังว่างเปล่า มีคนขับเคราใหญ่เพียงคนเดียวในห้องโดยสาร ทุกอย่างดูปกติ แต่ที่มุมปากของผีูเาซึ่งเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนแห้งกรังกลับเผยอขึ้นเล็กน้อย “เ้าสองคนนั่น...คิดจะมาล่าสัตว์เหรอ? ว่าแต่จะมาเป็ผู้ล่า? หรือจะมาเป็เหยื่อ? "
เสิ่นิระมัดระวังตัวเป็อย่างดี เขาและไพรห้อยตัวอยู่ใต้โครงรถบรรทุกเหมือนกับแมงมุม
แต่ถึงอย่างนั้น ก็สามารถปกปิดได้แค่เพียงฉาบฉวย ความดันลมยางที่ผิดรูปของรถบรรทุกซึ่งเกิดจากน้ำหนักของคนทั้งสองนั้น ทำให้สุดยอดนักแม่นปืนสามารถสังเกตเห็นได้ เห็นได้ชัดว่าผีูเาเป็ระดับยอดฝีมือ เขารีบเคลียร์พื้นที่และเริ่มเข้าสู่โหมดป้องกันและตอบโต้การลอบโจมตี อุปกรณ์สู้รบ 30 กิโลกรัมพร้อมด้วยเสื้อผ้าลายพราง
ท่ามกลางป่าเขาที่สูงชันแห่งนี้ เขายังวิ่งเหินได้เหมือนกับลิง คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ราวกับเป็สัตว์ที่เกิดในป่าแห่งนี้
“ใส่เ้านี่ซะ นับจากนี้ไป คุณคือสหายร่วมรบของผม” เสิ่นิที่โหนอยู่ใต้ท้องรถยื่นหูฟังสื่อสารขนาดเล็กให้กับไพร
“สหายร่วมรบเหรอ? ฉันแค่อยากฆ่านายเท่านั้น” ไพรสวมหูฟังและพูดว่า “พวกนายชาวนิรวานฆ่าพ่อแม่ฉัน นายเป็หัวขโมยที่แอบดูฉันในอ่างอาบน้ำ ทำลายพรหมจรรย์ของฉัน ด้วยแค้นนี้เราอยู่ร่วมโลกกันมิได้ เมื่อกิจต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว ฉันจะสังหารนายก่อน แล้วจึงฆ่าตัวตายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของฉันไว้"
“ไว้เรารอดแล้วค่อยมาคุยกันว่าจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างไร...” เสิ่นิกล่าวด้วยรอยยิ้ม