เช้าวันนี้ ณ เรือนท้ายจวน
“คุณหนูเ้าคะสายข่าวของบ่าวรายงานว่า ขบวนเดินทางของนายท่านใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้วเ้าค่ะ” เสี่ยวหลานเข้ามารายงานซินเยว่อย่างเร่งรีบ
“หืม สายข่าว? ถ้าข้าไม่รู้มาก่อนว่าพี่เป็สาวใช้ของท่านแม่ ข้าคงคิดว่าพี่มีอาชีพซื้อขายข่าวเป็แน่ อืม หรือข้าจะเปิดหอขายข่าวให้พี่เสี่ยวหลานเป็ผู้จัดการเื่การขายข่าวดีไหม”
“คุณหนูอย่าล้อบ่าวสิเ้าคะ บ่าวก็แค่อาศัยการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี และมีสหายอยู่ด้านนอกจวนมากมาย แม้บ่าวจะไม่อยากรู้พวกเขาก็เอามานั่งเล่าให้บ่าวฟังอยู่ดีเ้าค่ะ” เสี่ยวหลานทำเป็เขินอายกลบเกลื่อน
“อั้ยโย่ว นี่ขนาดไม่อยากรู้นะเนี่ยถ้าเกิดอยากรู้จะขนาดไหนนะ คิก ๆ ๆ เอาล่ะ ๆ ข้าไม่ล้อพี่เสี่ยวหลานแล้ว ข้าจะจบงานสุดท้ายในจวนเร็ว ๆ นี้แหละ พี่ต้องคอยดูต้นทางให้ข้าด้วยล่ะ”
“งานอะไรหรือเ้าคะคุณหนู?” เสี่ยวหลานถามด้วยความอยากรู้
“งานเชือดคนในจวนแบบไม่มีเืแต่เ็ป” แค่คิดก็สนุกแล้ว
“เื่คอยดูต้นทางคุณหนูไว้ใจบ่าวได้เลยเ้าค่ะ บ่าวจะจัดการให้ดีที่สุด” เสี่ยวหลานพยักหน้าเข้าใจในทันที
หลายวันต่อมาเสี่ยวหลานที่ทำหน้าที่คอยดูต้นทาง หันไปเรียกซินเยว่เมื่อเป้าหมายกำลังเข้ามาใกล้ “คุณชายใหญ่กำลังเดินมาทางนี้แล้วเ้าค่ะคุณหนู”
“ถ้าพี่ชายคนดีของข้ามาถึงแล้วถาม ก็บอกไปว่าข้าจะรออยู่อีกด้านของสวนไผ่ เพราะหากใกล้เรือนมากเกินไปท่านแม่จะรู้เห็นเหตุการณ์เอาได้” ท่านแม่อยู่ในเรือนกำลังฝึกออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ที่นางสอนให้เมื่อหลายวันก่อนอย่างขะมักเขม้น จึงไม่อยากให้มีเสียงอะไรไปรบกวนการฝึกของท่านแม่
เมื่อวานนี้ซินเยว่สั่งให้เสี่ยวหลานไปหาคน เพื่อส่งเทียบเชิญให้กับคุณชายใหญ่ โดยแจ้งว่าเป็เทียบเชิญจากสวีเฟิงหนึ่งในสหายของเขา ในเทียบเชิญระบุว่าให้พาซินเยว่ไปเล่นที่จวนด้วย เพราะ่นี้รู้สึกคันไม้คันมืออยากทุบตีอะไรสักหน่อย รออยู่ไม่นานก็เห็นเด็กหนุ่มร่างใหญ่เดินมากับคนสนิท มองดูขนาดตัวของทั้งสองคนแล้วมันช่างแตกต่างกันยิ่งนัก
“ซินเยว่ วันนี้เ้าต้องตามข้าไปที่จวนของสวีเฟิง” ซีห่าวพูดจาเสียงดังแกมบังคับซินเยว่ให้ทำตาม
ซินเยว่ยืนกอดอกมองหน้าเด็กหนุ่ม จากนั้นก็ชี้นิ้วมาที่ปากของตนเองและพูดออกไปด้วยเสียงดังเน้น ๆ ทีละคำ “ข้า…ไม่…ไป”
“เ้า! บังอาจขัดคำสั่งข้างั้นรึ ซินเยว่เ้าจำไม่ได้แล้วหรือข้าบอกเ้าไว้ว่าอย่างไร” ซีห่าวกัดฟันพูดออกมาด้วยความโมโห
“ข้าจะจำได้หรือจำไม่ได้แล้วยังไง ก็บอกไปแล้วว่าข้าไม่ไปเ้าจะทำอันใดข้าได้งั้นรึ” พูดจากวนประสาทกระตุ้นต่อมโมโหเพิ่มเข้าไป
“ฉู่เหอ ไปลากตัวนางนั่นมาเดี๋ยวนี้” แต่ยังไม่ทันที่บ่าวคนสนิทจะก้าวเท้าออกไป ซินเยว่ใช้กำลังภายในดีดก้อนหินใส่ที่ขาของซีห่าวอย่างแรง จากเสียงกระทบของก้อนหินที่โดนขา ก็พอจะเดาได้ว่ากระดูกอาจจะร้าวแล้วกระมัง
“ตึง! โอ๊ยยยยย เจ็บ ๆ ๆ ขาของข้านี่เ้าทำบ้าอะไรทำไมข้าถึงเจ็บขาขนาดนี้” ซีห่าวที่ล้มลงไปใช้มือกุมขาเอาไว้ด้วยความเ็ป
‘จิ๊ ๆ ๆ ล้มได้เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจริง ๆ’
“คุณชาย ๆ ท่านเจ็บมากหรือไม่ขอรับ” ฉู่เหอรีบเข้าไปประคองและเอ่ยถามด้วยความใ
“เ้าโง่! ถ้าข้าไม่เจ็บข้าจะร้องให้เ้าได้ยินทำไมรีบเข้ามาพยุงข้าขึ้นสิ ฮึ่ม นังตัวดีวันนี้เ้าอย่าคิดว่าจะรอดไปได้ ข้าไม่ปล่อยเ้าไปแน่แล้วเ้าจะยืนมองอีกนานไหมยังไม่มาช่วยพยุงข้าอีก”
บ่าวคนสนิทผู้มีรูปร่างผอมบาง รีบเข้าไปช่วยคุณชายที่ขนาดตัวต่างกันหลายเท่า อย่างทุลักทุเลสุดท้ายก็ล้มลงไม่เป็ท่าอีกครั้ง
“รีบไปตามคนมาช่วยข้าสิ เร็ว!! เหตุใดถึงได้มีความคิดชักช้าอืดอาดเช่นนี้” ซีห่าวตะคอกสั่งฉู่เหอเสียงดัง
ฉู่เหอรีบวิ่งออกไปจากสวนไผ่ แต่ระหว่างทางเขากลับเจอเสี่ยวหลาน ที่ะโออกมาจากหลังพุ่มไม้ขวางหน้าไว้
“จะรีบไปที่ไหนหรือฉู่เหอ” เสี่ยวหลานเอ่ยถาม
“เฮ้ย! นังเสี่ยวหลานเ้าจะะโออกมาขวางข้าทำไม ใหมดหลีกไปข้ากำลังรีบต้องไปตามคนมาช่วยคุณชายใหญ่ ที่ถูกเ้านายของเ้าทำร้าย คราวนี้อย่าคิดว่าจะรอดไปได้ พวกเ้าทั้งนายทั้งบ่าวโดนหนักแน่”
พูดจบฉู่เหอกำลังจะก้าวเท้าวิ่งออกไป
“ฉู่เหอออ เมื่อเดือนที่แล้วเ้าแอบเอาอะไร เข้าไปที่โรงรับจำนำงั้นหรือ” เสี่ยวหลานเอ่ยถามขึ้นอย่างช้า ๆ ทำให้ฉู่เหอต้องหยุดเท้าที่กำลังจะออกวิ่งอยู่กับที่ พร้อมเหงื่อที่เริ่มไหลลงมาตามใบหน้า
“อืม อ้อ!! ใช่ ๆ ๆ ข้าจำได้แล้วเ้าแอบเอาของมีค่าในจวน ไปจำนำได้เงินมาหลายตำลึงเงินเลยมิใช่หรือ”
“ตุบ เสี่ยวหลานคนงามที่มีจิตใจเมตตา เ้าอย่าเอาเื่นี้ไปบอกใครเลยนะ ขอเพียงเ้าเก็บเื่นี้ไว้เป็ความลับ ข้ายินดีทำตามคำสั่งของเ้าทุกอย่างได้โปรดเห็นใจข้าเถอะนะ”
ฉู่เหอคุกเข่ายกมือไหว้อ้อนวอนเสี่ยวหลานซ้ำไปซ้ำมา ‘แย่แล้วอุตส่าห์วางแผนขโมยของในห้องคุณชายออกมา ยังมีคนอย่างเสี่ยวหลานจับได้อีก’
“ตกลง ข้ารับปากเ้าว่าจะไม่บอกใคร ขอแค่เ้าค่อย ๆ เดินไปตามคนมาช่วยไม่ต้องรีบ ถ้าข้าเห็นเ้าพาคนกลับมาภายในสองเค่อ ข้าอาจจะมีเื่ไปพูดคุยกับอิงจื่อสักเล็กน้อย หลังจากนางได้ฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลายเป็เื่ใหญ่ไหมนะ”
‘ข้าไม่น่าพลาดเลยจริง ๆ อิงจื่อสาวใช้ทำความสะอาดในเรือนคนนั้น ไม่ว่าเื่ใดที่นางได้รู้แล้วโลกก็ต้องรู้’
“ได้ ๆ ๆ ข้าจะค่อย ๆ เดินไปตามที่เ้าบอก ขอบคุณที่เ้าเมตตาเห็นใจงั้นข้าไปก่อนนะ” ฉู่เหอหันหลังค่อย ๆ ก้าวเดินไปอย่างช้า ๆ
‘งานในส่วนของข้าเรียบร้อย กลับไปนั่งดูนายหญิงออกกำลังกาย ท่าทางประหลาด ๆ ที่คุณหนูสอนดีกว่า หุ ๆ ๆ’
