“บอกข้าที เ้าทำได้ยังไงกัน?” มีเสียงหนึ่งทำลายความเงียบ ซึ่งผู้พูดก็คือโจวมู่ไป๋!
นาทีนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องสองเงาร่างบนเวทีประลอง ราวกับไม่อยากพลาด่เวลาสำคัญไป
“เ้าไม่จำเป็ต้องรู้ เพราะอีกเดี๋ยวเ้าก็จะตายแล้ว!” เย่เฟิงบ้วนเืทิ้ง ก่อนจะกล่าวเสียงเ็าเช่นนั้น นาทีต่อมาผู้คนเห็นโจวมู่ไป๋ยกมือขึ้นจับที่ลำคอของตน ก่อนจะมีเืพุ่งกระฉูดออกมา ดวงตาคู่นั้นของโจวมู่ไป๋ค่อย ๆ ว่างเปล่าไร้สีสัน ปากขยับคล้ายอยากพูดบางอย่าง แต่กลับทำไม่ได้ ชีวิตกำลัง... จะดับสูญ!
“ตุบ!” ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของโจวมู่ไป๋ล้มลงไปกองกับพื้น แววตาของเขาไม่เต็มใจนัก จนกระทั่งวินาทีที่ตาย ดวงตาของเขาก็ยังไม่ปิด นอนตายตาไม่หลับ โจวมู่ไป๋ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่... ร่วงโรยแล้ว ทว่าตายด้วยน้ำมือของเย่เฟิงที่อยู่เพียงขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8!
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ครู่ต่อมาก็มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้น
เื่ที่เกิดขึ้นช่างน่าใมาก เหล่าผู้าุโของสำนักยุทธ์เทียนเสวียนที่นั่งชมอยู่บนอัฒจันทร์ต่างลุกขึ้นยืน พวกเขาไม่อยากเชื่อ
ด้านล่างอัฒจันทร์ ผู้คนไม่น้อยต่างไม่อยากเชื่อสายตาของตนว่าทั้งหมดนี้เป็ความจริง พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าพลังของเย่เฟิงจะแกร่งกล้าถึงเพียงนี้ แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ เขาก็ยังฆ่าตายได้!
“เป็ไปได้ยังไง เด็กคนนี้ทำได้ยังไงกัน? การโจมตีสุดท้ายของโจวมู่ไป๋เห็นชัด ๆ ว่าฆ่าเขาได้แน่นอน แต่ทำไมคนที่ตายกลับเป็โจวมู่ไป๋ล่ะ?” เฉินเซี่ยงเทียนกล่าว เื่นี้เกินความคาดหมายของเขาไปมาก ทำให้หัวใจของเขามิอาจสงบนิ่งได้
“ถ้ารู้ว่าไอ้สวะนี่มีพลังแบบนี้ ข้าคงสังหารมันไปนานแล้ว!” แววตาของเฉินอ้าวเทียนเผยประกายคมกริบพลางมีไอสังหารแผ่ออกจากร่าง เขาไม่สนใจเย่เฟิงในตอนที่ยังอ่อนแอ แต่บัดนี้เย่เฟิงแข็งแกร่งจนทำให้เขาตระหนักได้ว่ามิอาจกุมชีวิตของเย่เฟิงได้แล้ว แม้แต่ผู้าุโอู๋แห่งกลุ่มผู้คุมกฎยังแววตาสั่นระริก อัจฉริยะมากฝีมือเช่นนี้ หากเขาลงโทษอีกฝ่าย เกรงว่าเขาคงได้ถูกถอดออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน เมื่อถึงระดับการบ่มเพาะอย่างเขา มีหรือจะแยกแยะผิดถูกไม่ได้ เพียงแต่ไม่อยากลุยน้ำโคลนก็เท่านั้น
“เด็กคนนี้ ข้าว่าไม่มีใครในขั้นบ่มเพาะกายาเอาชนะเขาได้ เห็นทีงานประลองยุทธ์คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ ทั้งนี้จะได้ไม่ล่วงเกินพรรคเทียนจีเ้า” ผู้าุโอู๋กล่าว ทำเฉินเซี่ยงเทียนเผยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก่อนจะได้ยินผู้าุโอู๋พูดต่อ “เช่นนั้นข้าขอลา ผู้าุโเฉินจัดการให้เรียบร้อยด้วย”
เมื่อกล่าวจบ ผู้าุโอู๋ไม่รอให้เฉินเซี่ยงเทียนพูด เขาก็สะบัดแขนเสื้อก่อนจะจากไป
“ตาเฒ่าเ้าเล่ห์!” เฉินเซี่ยงเทียนก่นด่าขณะมองแผ่นหลังของผู้าุโอู๋ มีหรือที่เขาจะไม่รู้ความคิดของอีกฝ่าย นกสองหัว คำนี้น่าจะเหมาะกับอีกฝ่าย
“ผู้าุโเฉิน ข้าพรรคเทียนอวิ๋นขอลา!” หลังจากผู้าุโอู๋จากไป ผู้าุโหัวหน้าของพรรคเทียนอวิ๋นก็กล่าวลาเช่นกัน
“พรรคเทียนเซียวขอลา!” ผู้าุโพรรคเทียนเซียวทยอยลุกขึ้นและกล่าวลา ก่อนจะออกไปพร้อม ๆ กับผู้ฝึกยุทธ์พรรคเทียนอวิ๋น
ฉากนี้ทำให้เฉินเซี่ยงเทียนนิ่งงันไปชั่วขณะแล้วเผยสีหน้าไม่ค่อยดี คนเหล่านี้กลับลำเร็วมาก ตอนมายังคอยเอาใจเฉินเซี่ยงเทียน แต่พอเห็นพรรคเทียนจีเขาถูกเย่เฟิงโค่นได้ก็ต่างแยกย้ายกันไปทันที นี่ทำให้เฉินเซี่ยงเทียนไม่ชอบใจยิ่งนัก ส่วนผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ ในพรรคเทียนจีก็มีสีหน้าไม่ดีเท่าไร
“เฮ้อ!” บนเวทีประลอง เย่เฟิงถอนหายใจ เขาเพิ่งเอาชนะโจวมู่ไป๋ที่อยู่ขั้นรวมชี่ แต่ตัวเองก็าเ็มาก อีกอย่างหากเขาไม่ได้ตื่นรู้ในอำนาจหอกจนบรรลุขั้นผันแปร ป่านนี้เขาคงถูกอีกฝ่ายฆ่าตายไปแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็อยู่เพียงขั้นบ่มเพาะกายา หากเขาอยู่จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาและมีไพ่ตาย ก็อาจจะสู้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ได้อย่างราบรื่น จากนั้นเย่เฟิงเงยหน้ามองไปที่พรรคเทียนจีพร้อมกล่าวขึ้น “พรรคเทียนจีจะมีใครออกมาสู้หรือไม่?”
ผู้คนได้ยินเช่นนั้นก็ตะลึงเล็กน้อย พวกเขาชินกับความบ้าระห่ำของเย่เฟิงแล้ว แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เย่เฟิงกำลังตบหน้าพรรคเทียนจีและเฉินเซี่ยงเทียนฉาดใหญ่
เฉินเซี่ยงเทียนได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็เผยสีหน้าบูดเบี้ยว โจวมู่ไป๋ขั้นรวมชี่ถูกเย่เฟิงฆ่าตาย แล้วผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาในพรรคเทียนจีมีหรือจะใช่คู่ต่อสู้ของเย่เฟิง?
หากเป็ผู้ฝึกยุทธ์สามอันดับแรกในรายนามขั้นบ่มเพาะกายา พวกเขาอาจจะเอาชนะเย่เฟิงได้ แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ใน่ปิดด่าน มิอาจต่อสู้ได้
ส่วนผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ ในพรรคเทียนจีได้ยินเช่นนั้นต่างก็เผยสีหน้าย่ำแย่ ถูกเย่เฟิงยั่วยุ แต่พวกเขากลับไม่มีความกล้าออกไปสั่งสอนอีกฝ่าย
“ดูท่าพรรคเทียนจีจะไม่มีใครแล้ว! เ้าพวกอ่อนหัด” เย่เฟิงแสยะยิ้ม จากนั้นทะยานร่างขึ้นฟ้าไปเยือนอัฒจันทร์ของพรรคเทียนเสวียน ขณะมองใบหน้าซีดเซียวของซ่งซินหลิง เขาก็ดูเป็กังวลอย่างมาก จากนั้นเขาอุ้มร่างนางขึ้นมา ก่อนจะทะยานออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีก ส่วนคนอื่น ๆ ของพรรคเทียนเสวียนก็ตามหลังเย่เฟิงไป
“เย่เฟิง! ไม่ช้าก็เร็วข้าจะทำให้เ้าตายไร้ที่ฝัง!” เฉินเซี่ยงเทียนกล่าวพร้อมมีไอสังหารปะทุออกจากร่าง ครั้งนี้พรรคเทียนจีเป็ผู้จัดงานประลองยุทธ์ เดิมทีถือเป็เกียรติยศของพรรคเทียนจีเขา แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากเย่เฟิงปรากฏตัว งานประลองยุทธ์ก็วุ่นวาย ศิษย์มากฝีมือหลายคนของพรรคเทียนจีพ่ายแพ้ให้เย่เฟิง แม้แต่โจวมู่ไป๋ที่อยู่ขั้นรวมชี่ก็ยังถูกฆ่าตายคาเวทีประลอง วันนี้พรรคเทียนจีเขาถูกตบหน้าฉาดใหญ่และยังอับอายขายหน้าไม่มีชิ้นดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เฉินเซี่ยงเทียนปรารถนาจะฆ่าเย่เฟิงอย่างถึงที่สุด
“วันงานประลองสำนักยุทธ์จะเป็วันตายของเ้า!” เฉินเซี่ยงเทียนคิดในใจ ตอนนี้เขาทำได้เพียงปล่อยพวกเย่เฟิงไป
“ไปแล้ว! เย่เฟิงกับผู้ฝึกยุทธ์ของพรรคเทียนเสวียนไปกันหมดแล้ว!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน ทำให้แววตาของทุกคนเผยประกายแหลมคม วันนี้เย่เฟิงผู้อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8 ได้สร้างเื่ราวที่น่าตกตะลึงหลายเื่ เฉินอ้าวเทียน โจวมู่ไป๋ เซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ และซ่างกวนหงที่เกลียดเย่เฟิงเข้ากระดูกดำ พวกเขาวางแผนจะฆ่าเย่เฟิงในงานประลองยุทธ์ครั้งนี้ และแย่งชิงผลเทียนเสวียนมาจากเย่เฟิง
แต่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเขาจึงไหว้วานให้เฉินเซี่ยงเทียนเชิญผู้าุโอู๋จากกลุ่มผู้คุมกฎมาและให้เขาลงโทษเย่เฟิงในข้อหาฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ฆ่าเย่เฟิงไม่สำเร็จ เย่เฟิงแสดงฝีมือ ใช้พลังของตนเอาชนะเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายา ซึ่งเขาเอาชนะได้ทุกคน ทั้งยังสังหารเสิ่นหลงผู้เป็ศิษย์สายตรงของเฉินเซี่ยงเทียน เขาคนเดียวสู้กับเซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่และเฟิงเฉียนสองคน ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ทำลายการบ่มเพาะของเซิ่งจื่อ แม้แต่อาจารย์ของเฟิงเฉียนมาช่วย เขาก็ยังคงฆ่าเฟิงเฉียน
ศึกสุดท้าย เย่เฟิงเผชิญหน้ากับโจวมู่ไป๋ผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองหลวงอาณาจักรจ้าว แม้โจวมู่ไป๋จะแสดงพลังของขั้นรวมชี่ออกมา แต่ก็ยังคงถูกเย่เฟิงฆ่าตาย ทั้งหมดนี้ฟังไปแล้วก็คล้ายตำนานเล่าขาน ปาฏิหาริย์ที่เย่เฟิงสร้างในวันนี้จะต้องแพร่สะพัดไปทั่วสำนักยุทธ์เทียนเสวียน
แต่ความคิดของเหล่าผู้คน เย่เฟิงย่อมไม่มีทางรู้ ขณะนั้นเขามาถึงลานบ้านแห่งหนึ่งในพรรคเทียนเสวียน ในนี้มีบ้านอยู่หนึ่งหลัง ทั้งยังมีผู้คนมากมายอยู่ที่นี่ จากนั้นเย่เฟิงวางร่างซ่งซินหลิงที่ไม่ได้สติลงบนเตียง เขาหันไปพูดกับผู้าุโพรรคเทียนเสวียนคนก่อนหน้านี้ “ผู้าุโ อาการของสหายข้าเป็อย่างไรบ้าง แล้วสามารถรักษาได้หรือไม่?”
ผู้าุโคนนั้นมีฝีมือในการรักษาที่ดีเยี่ยม แต่กลับเห็นเขาส่ายหัวพร้อมกล่าวขึ้น “ชีพจรได้รับความเสียหายมาก เกรงว่าจะรักษาไม่ได้!”
เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ใจเต้นตึกตัก ซ่งซินหลิงคือสหายที่เขาพบเจอในเทือกเขาปี้หลิง จึงเป็สาเหตุให้โจวมู่ไป๋เข้าใจนางผิด และนำมาซึ่งการฆ่าตัวตาย ทั้งยังเกี่ยวพันกับเย่เฟิง ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเห็นซ่งซินหลิงมีอันเป็ไป
“ผู้าุโ ไม่มีวิธีอื่นเลยหรือ?” เย่เฟิงเอ่ยถาม
“มี แต่ด้วยระดับการบ่มเพาะของเ้าในตอนนี้ยังเข้าถึงของระดับนั้นไม่ได้” ผู้าุโคนนั้นขบคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะผงกศีรษะขึ้นลง และคำพูดของเขาก็ทำให้เย่เฟิงเห็นความหวัง
“ใช้ยาปราณคืนชีพได้หรือไม่?” จู่ ๆ เย่เฟิงฉุกคิดถึงยาปราณคืนชีพที่เขาได้รางวัลอันดับที่ 1 จากการทดสอบของหุบเขาเทียนเสวียน ซึ่งยาปราณคืนชีพนั้นสามารถชุบชีวิตของผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นยุทธ์แท้ได้หนึ่งครั้ง เื่นี้เขาไม่กังขาแน่นอน เพราะเขาผ่านการใช้ยานั้นมากับตัวเองแล้ว
“สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ทั่ว ๆ ไป มันอาจจะช่วยนางได้ แต่เท่าที่ข้าตรวจสอบ นางมีร่างกายที่ไม่เหมือนใคร ยาธรรมดาจึงไม่มีผลต่อนาง แม้จะเป็ยาปราณคืนชีพก็ตาม” ผู้าุโคนนั้นอธิบายให้เย่เฟิงฟังพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย พอพูดจบเขาก็ถอนหายใจยาว ทำให้บรรยากาศตึงเครียดกว่าเดิม ส่วนเย่เฟิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามต่อ “เช่นนั้นท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าจะช่วยนางได้อย่างไร?”
แววตาของผู้าุโคนนั้นเผยประกายคมกริบขณะมองเย่เฟิง เขาชื่นชมในตัวเย่เฟิงมากขึ้น ไม่พูดถึงพลังและพร์ของเย่เฟิง การที่เย่เฟิงไม่ทอดทิ้งสหายเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกอยากช่วยเย่เฟิงอย่างเต็มที่
“ต้องใช้ยาคืน์ถึงจะช่วยชีวิตนางได้” ผู้าุโคนนั้นตอบกลับ
“ยาคืน์?” เย่เฟิงกะพริบตาปริบ ๆ เขาไม่เคยได้ยินชื่อยานี้มาก่อน ฤทธิ์ของมันเหนือกว่ายาปราณคืนชีพอย่างนั้นหรือ!
“ใช่ ยาคืน์!” ผู้าุโคนนั้นพยักหน้า ก่อนจะพูดต่อ “ยานี้เป็สิ่งล้ำค่าอย่างมาก ข้าแค่ได้ยินมาเท่านั้น แต่ยังไม่เคยเห็น เท่าที่ข้ารู้ ยานี้ยังไม่เคยปรากฏในอาณาจักรจ้าว บางทีนอกอาณาจักรจ้าวอาจจะมียานี้อยู่ เพียงแต่เ้าในเวลานี้ยังเข้าถึงของระดับนั้นไม่ได้”
เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวถามว่า “ในเมื่อข้าเข้าถึงไม่ได้ เช่นนั้นข้าควรทำอย่างไร ได้โปรดผู้าุโชี้แนะข้าที?”
เมื่อกล่าวจบ เย่เฟิงโค้งคำนับผู้าุโคนนั้นทันที ซ่งซินหลิงต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ตอนนี้จะไปตามหายาคืน์ได้จากที่ไหน
“ถ้าเ้าเชื่อข้า งั้นก็ฝากเด็กคนนี้ไว้กับข้าก่อน ข้าจะผนึกน้ำแข็งนางไว้เป็การชั่วคราว เพื่อรักษาชีวิตของนางไม่ให้ดับสูญ เมื่อถึงวันที่เ้าได้รับยาคืน์ก็ค่อยมาหาข้า” ผู้าุโคนนั้นกล่าว
“ผนึกน้ำแข็ง?” เย่เฟิงพึมพำ เขาไม่คิดว่าจะมีเคล็ดวิชาเช่นนี้อยู่ในยุทธภพนี้ ผนึกชีวิตคน เมื่อมีกำลังมากพอก็ค่อยรักษา ช่างเป็วิธีการที่ไม่เลวทีเดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้