เฟิงซื่อตกตะลึง หยุดเดินแล้วหันไปมองหลินฟู่อินด้วยความประหลาดใจ “ฟู่อิน เ้าหมายถึงเ้าจะไปชายแดน? ถ้าอย่างนั้นบ้านและร้านค้าที่นี่ล่ะ?”
เมื่อก่อนหลินฟู่อินคิดว่าจะอยู่ในเมืองสักพักก่อนจะย้ายไปยังชายแดน ตอนนี้หลินฟู่อินมีเหตุผลเื่ธุรกิจที่มั่นคงอย่างหนึ่ง และอย่างที่สองเป็เพราะ้าอยู่ห่างจากผู้คนที่บ้านเดิม
นางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหลินต้าหลางจึงเป็คนที่เหมือนมีะเิฝังอยู่ ใครจะรู้ว่าตอนไหนจะไปเหยียบและโดนะเิเข้ากัน?
อีกอย่างคือแนวโน้มของการพัฒนาเมืองเล็กไม่ดีเท่าเมืองใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่หลินฟู่อินได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของเมืองชิงเหลียนด้วยตาของตัวเอง
นางมั่นใจว่าหากนางทำผลิตภัณฑ์เสริมความงาม สถานที่วางขายของเ่าั้จะต้องอยู่ในเมืองใหญ่มากกว่า
“ท่านป้าสอง ตอนนี้กิจการในเมืองกำลังจะมั่นคงแล้วเ้าค่ะ และในเมืองก็มีผู้คนมากกว่า ข้า้าไปที่ที่มีผู้คนมากขึ้นเพื่อทำธุรกิจและหาเงินเพิ่มเ้าค่ะ!” หลินฟู่อินมองไปยังเฟิงซื่อด้วยดวงตาใสกระจ่างและกล่าว
“แล้วเ้าจะเดินทางไปชายแดนอย่างไรกัน? ในเมืองไม่ดีกว่าหรือ?” เฟิงซื่อยังไม่อาจยอมรับได้ นางเป็ภรรยาของชาวนามาตลอดชีวิต ทุกวันมีงานบ้านและงานอื่นๆ ให้นางดูแล ตอนนี้นางรู้สึกว่าชีวิตกำลังไปได้สวยทีเดียว
ถ้าเป็ก่อนหน้านี้ นางคงไม่กล้าคิดถึงเื่ทั้งหลายนี่
เฟิงซื่อไม่เข้าใจความทะเยอทะยานของหลินฟู่อิน นางคิดเพียงว่าการทำงานเท่านี้เพียงพอแล้วสำหรับเด็กสาว เหตุใดจะต้องเดินทางไปห่างไกลจากบ้านกัน?
หลินฟู่อินเข้าใจความคิดของเฟิงซื่อดี แต่ไม่เป็การดีที่จะทิ้งครอบครัวเฟิงซื่อเอาไว้ที่เมืองหรือที่หมู่บ้านหูลู่
ถึงแม้นางจะปล่อยให้ครอบครัวเฟิงซื่ออาศัยที่เมือง ก็น่าจะถูกรบกวนได้อย่างง่ายดายโดยคนสกุลหลิน
แต่หากพวกเขาไม่อยากติดตามนางไป นางก็ไม่คิดบังคับใจใคร
แต่ถึงเวลาที่ต้องอธิบายให้ฟังแล้ว
“ท่านป้าสอง ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่แย่เท่าไร แต่ในอนาคตล่ะเ้าคะ? ท่านก็เห็นแล้วว่าครอบครัวท่านปู่ ท่านย่าและท่านลุงคิดเพียงหาทางบังคับเอาเงินจากข้าไปช่วยเหลือพี่ต้าหลางให้เรียนต่อและสอบเลื่อนระดับ นั่นต้องใช้เงินต่อปีมากถึงพันหรือหมื่นตำลึง ถ้าสมบัติน้อยๆ ที่ข้ามีในอนาคตไม่สามารถจ่ายให้เขาในการสอบได้อีกต่อไปล่ะเ้าคะ?” หลินฟู่อินถามด้วยรอยยิ้ม
เฟิงซื่อตะลึงงัน
นางไม่ใช่คนโง่ นางสามารถเห็นถึงนิสัยของคนบ้านเดิมที่พยายามบังคับเอาเงินจากหลินฟู่อินไม่ว่าวิธีใดก็ตาม
แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะหลินต้าหลางกำลังจะไปสอบแล้ว อย่างน้อยปู่หลินที่้ารักษาหน้าตาคงไม่ทำเื่ใหญ่โตเช่นนี้ แต่ตอนนี้ชายชราก็ยื่นหน้าออกมาด้วย ทั้งหมดเพื่ออะไรกัน?
สิ่งนั้นก็คือ บ้านเดิมไม่สามารถหาเงินให้หลินต้าหลางใช้ได้อีก
ตอนนี้หลินฟู่อินกำลังเตรียมการให้กับทารกแรกเกิดไม่กี่เดือน ถ้าเช่นนั้นแล้วบ้านรองล่ะ?
บ้านรองเองมีลูกสามที่กำลังเรียนอยู่นะ!
ถ้าเกิดลูกสามได้ทุนในการเรียนต่อล่ะ? ถ้าหากลูกสามได้เป็ซิ่วไฉ?
เฟิงซื่อส่ายหัวรุนแรง ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด!
แต่พวกเขาจะไปหาเงินได้มากมายจากที่ไหนกัน? ทางเดียวที่นึกออกก็คือติดตามหลินฟู่อิน
แต่ว่า…
“อาเฟินและอาฟางน่ะ ข้าเคยพูดเมื่อนานมาแล้วว่าอนาคตข้าจะไป พวกนางจะตามข้าไปด้วย แต่… ต้องดูแลท่านลุงสอง” เฟิงซื่อมองไปยังหลินฟู่อินด้วยใบหน้าลำบากใจ
หลินฟู่อินพยักหน้าของนาง นางรู้ว่าเฟิงซื่อยังไม่สามารถปล่อยหลินต้าเหอได้ และหลินต้าเหอคงไม่ติดตามพวกนางไปยังชายแดนแน่นอน
หลินต้าเหอไม่สามารถออกจากบ้านเกิดได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่สามารถจากปู่หลินและอู๋ซื่อไปได้
ถึงแม้เขาจะไม่มีความสำคัญในใจของปู่หลินและอู๋ซื่อก็ตาม
“ท่านป้าสอง ข้าต้องคุยกับท่านให้เข้าใจก่อน อย่างไรข้ายังต้องเตรียมสิ่งของ” หลินฟู่อินตบมือของเฟิงซื่อ และแนะนำให้นางคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
เฟิงซื่อตกลง
ถึงงานเลี้ยงของหลินต้าหลางจะจัดขึ้นสามวัน หลินฟู่อินอยู่ที่บ้านใหญ่ตลอดทั้งวัน ยกเว้นวันแรกและวันที่สองนางหยุดอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงดูน้องๆ
วันที่สาม นางวางแผนจะกลับไปยังเมือง
เฟิงซื่อพาหลินเฟินและหลินฟางไปที่บ้านใหญ่เพื่อช่วยเหลือในตอนเช้า
เมื่อหลินฟู่อินเตรียมตัวพร้อมแล้ว นางจึงไปยังบ้านรองสกุลหลิน นางกำลังจะขอติดรถม้าของหลิวฉินกลับไปยังเมือง
เพราะเป็วันที่สามของการจัดงานเลี้ยง จึงไม่มีความยุ่งยากเช่นวันแรก ยังมีสิ่งของเหลือและสามารถเก็บไว้ในที่เย็นได้ เพียงเพิ่มอาหารอีกไม่กี่จานก็สามารถจัดการได้แล้ว
ส่วนใหญ่แล้วในวันแรกและวันที่สองของงานเลี้ยง เนื้อปลาและเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ๆ ช่วยบรรเทาความยากได้เช่นกัน ทุกคนมีน้ำมันและน้ำในท้องแล้ว ดังนั้นวันที่สามจึงไม่ต้องกังวลเื่อาหารมากนัก
หลิวฉินจะนำผู้ช่วยหลักกลับไปยังเมือง
แต่นางไม่คาดคิดว่าจะเห็นหลินฟางร้องไห้และวิ่งไปยังบ้านของตน ก่อนหน้าที่นางจะเดินมาไม่กี่ก้าว
หลินฟู่อินขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นกัน? ดูเหมือนว่าทิศทางจะมาจากทางบ้านใหญ่ อาจจะเกิดเื่ขึ้นกับใครในบ้านรอง หรือกำลังมีปัญหาอยู่ที่บ้านใหญ่?
“ฟู่อิน เร็วเข้า รีบไปที่บ้านใหญ่ พี่สาวข้าจะไม่รอดแล้ว!” ทันทีที่หลินฟางเห็นนาง นางเหมือนคนที่ลอยคออยู่ท่ามกลางน้ำแล้วเห็นขอนไม้ นางคว้าแขนเสื้อหลินฟู่อิน จากนั้นก็พาไปทางบ้านใหญ่ขณะที่ร้องไห้ไปด้วย “ฟู่อิน พี่สาวข้ารอให้เ้าช่วย เ้าต้องช่วยนาง…”
“เกิดอะไรขึ้น?” หลินฟู่อินจับมือของหลินฟางไว้และพูดอย่างใจเย็น “ท่านอย่าเพิ่งตระหนกไป อันดับแรกท่านอธิบายให้ข้าฟังก่อน แล้วข้าจะได้คิดช่วยเหลือได้”
หลินฟางร้องไห้ขณะที่นางเดินไปด้วย นางกัดฟันแน่น “ท่านปู่และท่านย่า้าให้ท่านพี่แต่งงานกับเศรษฐีเจิ้งที่มีฐานะร่ำรวยในฐานะนางบำเรอคนที่แปด พวกเขาบอกว่ากำลังจะพานางไปที่ประตูสกุลเจิ้งวันนี้!”
“อะไรนะ? เป็นางบำเรอ?” หลินฟู่อินก็ตกตะลึงเช่นกัน
ปู่หลินก็เป็บัณฑิตด้วยไม่ใช่หรือ? ถึงเขาจะสอบไม่ผ่านแต่อย่างน้อยเขาก็อ่านหนังสือมามาก เขาอ่านหนังสือมามากเช่นนี้เขาต้องไม่อยากให้บัณฑิตเช่นเขาส่งหลานสาวไปเป็นางบำเรอไม่ใช่หรือ?
“ประเด็นคือเจิ้งไจ่จ้าวอายุจะหกสิบปีเข้าไปแล้ว แต่ยังมากตัณหา เขามีนางบำเรอถึงแปดคน ข้าได้ยินป้าๆ ในหมู่บ้านเล่าว่าเจิ้งไจ่จ้าวมีนิสัยชั่วร้ายมาก เขาชอบทุบตีผู้คนด้วยแส้ ข้าไม่รู้ว่านางบำเรอถูกเฆี่ยนตีจนพิการและตายไปแล้วกี่คน!”
หลินฟางได้เรียนรู้หลายเื่จากการติดตามหลินฟู่อินในทุกวัน
นางรู้ว่านางบำเรอที่ถูกซื้อตัวไปไม่พิการก็เสียชีวิต และทางการก็ไม่สามารถจัดการเื่เหล่านี้ได้
ถึงแม้นางบำเรอทั้งหลายจะมีครอบครัวและทำการร้องเรียนไป แต่พอเ้านายพวกเขาจ่ายค่าปิดปาก จากนั้นก็ติดสินบนกับทางการ เื่ทั้งหมดก็จะเงียบหายไป
หลินฟางคิด ในใจร่ำไห้อย่างรุนแรงมากขึ้น
ในใจนึกเกลียดชังปู่หลินเต็มหัวใจ
โอ้ เศรษฐีเจิ้งที่ร่ำรวยผู้นั้นเป็คนชอบความรุนแรง?
ไม่แปลกใจที่หลินฟางร้องไห้ขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม นางไม่มีทางยอมให้หลินเฟินตกไปอยู่ในมือคนน่ารังเกียจเช่นนั้น
“เดี๋ยวก่อน แล้วปู่หลินไปรู้จักคนแซ่เจิ้งนั่นได้อย่างไรกัน?” ถึงในใจหลินฟู่อินจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่สมองของนางยังมีสติดี
ปู่หลินมีอำนาจแค่ในหมู่บ้านหูลู่ ข้างนอกนั่นใครจะสนใจเขากัน?
เขาติดต่อกับคนโรคจิตเจิ้งไจ่จ้าวได้อย่างไรกัน? หลินฟู่อินคาดเดา แต่ต้องดูว่าหลินเฟินรู้จักมาก่อนหรือไม่
หลินฟางรีบเปิดปากและก่นด่าด้วยความเกลียดชัง “เพราะสุนัขบัดซบหลินต้าหลาง! เขาพูดว่ามีสหายร่วมชั้นอยู่หนึ่งคนเป็หลานชายของเศรษฐีเจิ้ง หลานชายของเศรษฐีคนนั้นได้พบกับพี่อาเฟิน เขาบอกว่าเป็สตรีแบบที่ท่านลุงเขาชอบ… นี่มันไร้สาระชัดๆ! เป็ความผิดของหลินต้าหลาง เขาขายน้องสาวเพื่ออนาคตของตัวเอง เขาขายพี่สาวของข้า!”
“ขาย?” หลินฟู่อินดวงตาเย็นเยียบ นั่นคือสิ่งที่นางคาดเดาเอาไว้ เื่นี้เกี่ยวข้องกับหลินต้าหลาง!
“ใช่แล้ว หลินต้าหลางพูดต่อหน้าท่านพ่อ ท่านแม่และพี่สาวข้า รวมทั้งท่านปู่ว่าเจิ้งไจ่จ้าว้าจ่ายเงินหกร้อยตำลึงเงินเพื่อซื้อท่านพี่ของข้า! เขายังพูดอีกว่าเพราะเห็นแก่หน้าซิ่วไฉผู้เฒ่าจึงเสนอราคาที่สูงมาก!” หลินฟางกัดฟันของนางแน่น ดวงตาแดงก่ำไปด้วยเส้นเืและความโกรธ
หลินฟู่อินเหยียดหยัน “เขาเห็นว่าปีนี้ไม่สามารถรีดไถเงินจากข้าไปได้ ดังนั้นเขาจึงเกิดความคิดบัดซบกับพี่สาวท่าน พี่อาฟาง”
หากจะนับตามจริง ในบรรดาเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน หลินเฟินเองก็โตแล้ว นางเกือบจะเป็สาวแล้ว หลังจากที่นางไม่ได้ออกไปเผชิญดวงอาทิตย์ใน่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว นางจึงเติบโตมาโดยมีผิวขาวและน่ามองยิ่งนัก
หลินต้าหลางเป็นักคำนวณที่ดีดลูกคิดเก่งนัก!
“อย่าห่วงเลย ข้าจะไม่ปล่อยให้หลินต้าหลางและปู่หลินขายพี่อาเฟินให้ไปเป็นางบำเรอของคนอื่นแน่” หลินฟู่อินพูด
ใบหน้าของหลินฟางยังดูไม่ได้ และหลินฟู่อินรู้ทันทีว่ามีเื่อื่นอีก
นางขมวดคิ้วและมองหลินฟาง ก่อนจะเอ่ยปากถาม “ยังมีเื่อะไรที่ท่านไม่ได้เล่าให้ข้าฟังอีก?”
หลินฟางกัดริมฝีปากของนาง แรงที่นางใช้มากเสียจนกัดริมฝีปากห้อเื
หลินฟู่อินเอื้อมมือไปจับคางของนางลงและกล่าวว่า “อย่ากัดอีกเลย ท่านพูดอะไรหน่อย ท่านยังปิดบังเื่อะไรจากข้า?”
“ท่านพ่อ… ท่านพ่อของข้าก็เห็นด้วย” ความเ็ปฉายชัดบนใบหน้าและแววตาของหลินฟาง
“ท่านลุงสอง? เหอะ… ข้าเองก็ไม่คิดว่าท่านพ่อของท่านจะเห็นด้วยในเื่นี้เช่นกัน” หลินฟู่อินไม่เคยคิดว่าหลินต้าเหอจะเห็นด้วยกับการที่หลินฟานจะถูกซื้อตัวไปเป็นางบำเรอ ใบหน้าของนางมืดลงทันควัน
ั้แ่สมัยโบราณ การแต่งงานแบบคลุมถุงชนในต้าเว่ยเป็อย่างไรก็ยังเป็อย่างนั้น
เนื่องจากมีบิดาซึ่งเป็หัวหน้าครอบครัวตกลงกันไว้ เื่นี้อาจจะจัดการยากขึ้น
“ท่านลุงสองเขา… อืม เพียงกตัญญูต่อท่านปู่ ท่านเข้าใจหรือไม่?” หลินฟู่อินกัดฟัน เสียงของนางหยุดลงเพียงครึ่งนึง
นางรู้สึกโกรธมาก เื่ทั้งหมดจะสร้างความเสียหายทางจิตใจให้หลินเฟินมากเพียงใดกัน?
หลินฟางฟังถ้อยคำหลินฟู่อิน นางกัดฟันและเอ่ยเหยียดหยัน “มันไม่ใช่เื่ท่านพ่อกตัญญูต่อท่านปู่ แต่หลินต้าหลางบอกว่าถ้าท่านพ่อตกลงจะขายพี่สาวข้าให้เศรษฐีเจิ้งเป็นางบำเรอคนที่แปดแล้ว ไม่เพียงเขาจะมอบเงินให้กับท่านพ่อหกร้อยตำลึงเงิน เขายังจะมอบเงินให้เป็ทุนการเรียนของซานหลาง ถ้าซานหลางได้ทุนในการเรียน คงจะดีกว่านี้มาก…”
“อืม เื่ทั้งหมดเป็เช่นนี้สินะ” หลินฟู่อินหัวเราะเยาะและพยักหน้า เขารู้แผนการของหลินต้าหลาง สิ่งแรกที่เขา้านั่นคือชักจูงเกี่ยวกับการให้หลินซานหลางได้เรียนต่อและมีความสำเร็จ
ต่อมาหลินต้าหลางก็พูดแต่ด้านดีของเจิ้งไจ่จ้าว เศรษฐีโรคจิตผู้นั้น ถึงแม้เด็กสาวที่บ้านจะไม่รู้ แต่เมื่อเด็กสาวตกไปอยู่ในบ้านของเขาแล้ว ไม่ว่าเด็กสาวจะมีชีวิตรอดต่อไปได้หรือไม่ได้ก็ไม่มีใครรู้
แล้วเขาจะต้องจ่ายเงินให้สูญเปล่าไปกับการเรียนของน้องชายทำไมกัน น่ากลัวจริงๆ
ทั้งสองพูดไปขณะวิ่งไปด้วย ในที่สุดหลินฟู่อินและหลินฟางก็มาถึงบ้านใหญ่
เนื่องจากยังเป็่บ่ายของงานเลี้ยง บริเวณลานบ้านใหญ่สกุลหลินจึงเต็มไปด้วยผู้คน
หลินฟู่อินตามหลินฟางตรงไปยังห้องปู่หลินและอู๋ซื่อ
ทันทีที่นางเดินเข้าไปในห้องก็กวาดตามองไปรอบห้อง
หลินเฟินทิ้งร่างของนางลงกับพื้นและร้องไห้ขณะที่ดวงตาตั้งมั่น เฟิงซื่อสะอื้นไห้เข้าไปจับมือของนางไว้
หลินต้าเหอยืนนิ่งงันไป เขารู้สึกอับอายขณะที่มองภรรยาและบุตรสาวบนพื้น
หลินต้าหลางดูร้อนใจ ปู่หลินใบหน้าดำมืด อู๋ซื่อรู้สึกว่าโชคไม่ดี ขณะที่หลินต้าซานและจ้าวซื่อร่าเริง
คนพวกนี้เป็คนแบบไหนกัน? หลินฟู่อินคิดอย่างกรุ่นโกรธ
“ตายจริง ฟู่อิน ไม่มีใครเรียกเ้าให้มาด้วยซ้ำ เ้ามาทำไมกัน? เหตุใดเ้าไม่กลับไปซะล่ะ นี่เป็เื่ธุรกิจและการหารายได้นะรู้หรือไม่?” จ้าวซื่อเห็นหลินฟู่อินเดินเข้ามาเป็คนแรกก็พูดบีบให้นางเดินออกไป
อย่างไรเสียหากนางขายหลินเฟินได้ นางจะสามารถทำเงินได้ถึงหกร้อยตำลึงเงินสำหรับหลินต้าหลาง ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็ต้องทำดีกับหลินฟู่อินตอนนี้
อีกอย่างเมื่อวานจ้าวซื่อจงใจโยนกับดักเงินสองร้อยตำลึงเงินไป แต่หลินฟู่อินไม่หลงกล นางถึงกับใส่ร้ายครอบครัวหญิงสาว และตอนนี้เมื่อนางมองเห็นหลินฟู่อิน นางจึงรู้สึกอยากเข้าไปกัดเนื้อของเด็กสาวเพื่อบรรเทาความโกรธของนาง
“ข้าได้ยินมาว่าบ้านใหญ่สกุลหลิน้าขายหลานสาวเพื่อเงิน และเร่งให้จัดการอย่างรวดเร็ว” หลินฟู่อินไม่ได้มองจ้าวซื่อ เพียงกวาดดวงตาทรงผลซิ่งไปยังปู่หลิน “ท่านปู่ ท่านวางแผนที่จะขายหลานสาวไปเป็นางบำเรอของเศรษฐีจริงหรือเ้าคะ?”
ใบหน้าของปู่หลินย่ำแย่ทันที หลังจากที่นางกล่าวประชดประชันว่า ‘ขายหลานสาว’ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งมืดครื้มลงไปอีก
เขายังไม่ทันคิดหาวิธีตอบโต้กลับ หลินต้าหลางพลันลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ที่เขานั่งอยู่ ชี้ไปทางจมูกของหลินฟู่อินและพูดด้วยความโกรธ “ฟู่อิน เหตุใดเ้าจึงพูดจารุนแรงเช่นนี้? เ้าหมายความว่าอย่างไรที่กล่าวว่าท่านปู่ขายหลานสาว? นี่คือหลินเฟิน ภรรยาคนที่แปดที่กำลังจะได้รับเงินจำนวนมหาศาลจากเศรษฐีเจิ้งเป็ของขวัญ!”
“โอ้? ข้อเสนอเงินก้อนโต? ท่านเป็บัณฑิต ท่านย่อมรู้ว่าภรรยาคนที่แปดหมายถึงนางบำเรอสินะ?” หลินฟู่อินเยาะเย้ยหลินต้าหลางที่ทำสีหน้าเคร่งขรึม “ท่านเป็ถึงบัณฑิต แต่ท่านไม่มีความละอายแก่ใจบ้างเลยหรือ? ท่านจะขายลูกพี่ลูกน้องของท่านไปเป็นางบำเรอ แล้วยังพูดได้อย่างหน้าชื่นตาบานเสียด้วย?”
หลินต้าหลางโกรธจนตบโต๊ะชาที่ทรุดโทรม และพูดด้วยความเกรี้ยวกราด “เ้าหมายความเช่นไรที่ว่าข้าขายลูกพี่ลูกน้อง? เื่นี้มาเกี่ยวอะไรกับข้ากัน? นี่เป็เพราะท่านลุงสองเองต่างหากที่้าให้ลูกสาวแต่งงานกับเศรษฐีเจิ้งน่ะ และเงินทองนี่ก็ไม่ใช่ของข้า แต่เป็ของเขา! ถ้าเ้าไม่เชื่อข้า เ้าก็ถามเขาสิ!”
หลินต้าหลางชี้นิ้วไปยังหลินต้าเหอ จากนั้นก็บังคับให้เขาจ้องตาก่อนพูด “ท่านลุงสอง บอกหลินฟู่อินไปสิว่าท่านยินดีที่จะให้ลูกสาวแต่งงานกับเศรษฐีเจิ้ง!”
หลินต้าเหอถูกบังคับทางสายตาโดยหลินต้าหลางเช่นนี้ ใบหน้าเขาแดงก่ำ “ข้า…” ครึ่งค่อนวันผ่านไปเขายังไม่กล่าวอะไรสักคำ
“ท่านกล้าที่จะขายน้องสาวไปให้คนอื่น แต่ท่านไม่กล้าที่จะยอมรับ เ้าคนขี้ขลาด!” หลินฟู่อินมองตรงไปยังคนไร้ยางอายหลินต้าหลาง นางขมวดคิ้วและมองอย่างเ็า “วันนี้ ในตอนนี้ข้าจะดูซิว่าใครหน้าไหนมันกล้าขายพี่อาเฟิน!”
หลินฟู่อินกล่าวตามใจตน จากนั้นก็ดึงหลินเฟินที่กำลังร้องไห้และแทบหายใจไม่ทันให้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง หลินเฟินสะบัดมือเฟิงซื่อออก นางลุกขึ้นและมายืนแอบอยู่ด้านหลังหลินฟู่อิน
หลินฟู่อินหันไปจับมือเด็กสาวอย่างผ่อนคลาย มองเข้าไปในดวงตาและกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “พี่อาเฟิน ท่านไม่ต้องกลัวไป ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”
“อืม…” หลินเฟินสำลักและพยักหน้า ตอนนี้นางมีเพียงสองคนที่ไว้ใจเท่านั้น หนึ่งคือหลินฟู่อิน และอีกคนคือน้องสาวนาง หลินฟาง
นางไม่ได้โง่เขลา หลินฟู่อินมาที่นี่ได้เพราะน้องสาววิ่งไปขอความช่วยเหลือ
เมื่อเห็นว่าหลินฟางยังอยู่ในอารมณ์ปกติ หลินฟู่อินจึงส่งเด็กสาวให้หลินฟางซึ่งยืนอยู่เคียงข้างนาง “พี่อาฟาง ข้าฝากท่านดูพี่อาเฟินด้วย”
“ตายจริง ความรักระหว่างพี่น้องเช่นนั้นหรือ?” จ้าวซื่อจับริมฝีปากของนางก่อนหัวเราะประชดประชัน “ฟู่อิน ข้าคิดว่าเ้าคงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มากสินะ นี่เป็เื่ภายในของบ้านรอง เมื่อบ้านรองจะให้ลูกสาวแต่งงาน ใครกันที่จะหยุดเื่นี้ได้?”
หลินฟู่อินมองไปที่จ้าวซื่อก่อนจะหัวเราะ “ท่านไม่ต้องพูดมากความ วันนี้ถึงจะไม่ใช่พี่อาเฟิน แต่เป็ท่านลุงใหญ่้าขายเสี่ยวเถากับเสี่ยวเหอให้เป็นางบำเรอคนอื่น ข้าก็จะหยุดเช่นกัน!”
“ถุย ถุย ถุย” ทันทีที่ได้ฟังหลินฟู่อินพูดจาไม่ดี จ้าวซื่อถ่มน้ำลายกลับทันที “เ้ากำลังพูดว่าใครจะขายเสี่ยวเถาและเสี่ยวเหอไปเป็นางบำเรอกัน? ลูกเสี่ยวเถาและเสี่ยวเหอของข้าจะมีงานแต่งงานที่ดี และข้าจะเป็ท่านย่าด้วย อย่ามาทำลายชื่อเสียงดีๆ ของเสี่ยวเถาและเสี่ยวเหอที่นี่นะ!”
“ไอหยา ดูเหมือนท่านป้าใหญ่จะไม่ใช่คนโง่นี่” หลินฟู่อินผงกหัว จากนั้นะโสุดเสียงกลับไป “ถ้าลูกสาวของท่านเป็ลูกสาว แล้วลูกสาวของผู้อื่นไม่ใช่ลูกสาวเช่นนั้นหรือ? ลูกสาวของท่านจะได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดี และท่านจะได้เป็ท่านย่าอย่างนั้นสินะ แล้วลูกสาวผู้อื่นล่ะควรจะถูกขายไปเป็นางบำเรอให้กับตาแก่ตัณหากลับเพื่อลูกชายของท่านหรือ? หน้าของท่านอยู่ที่ไหนกัน? ท่านไม่สามารถหยิบมันขึ้นมาจากหลุมใช่หรือไม่? หรือเป็เพราะหน้าของท่านเน่าเหม็นเกินไป? เหตุใดไม่ทิ้งมันไว้ในหลุมเสียล่ะ?”
หลินฟู่อินด่ากราดได้ทรงพลังมาก นั่นรวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องในการขายหลินเฟินเพื่อเงินออกไป
ผ่านไปสักพักใบหน้าของทุกคนในห้องราวกับเปิดโรงย้อมผ้า สีแดง ขาว น้ำเงิน เขียว คราม ม่วง…
“อย่างไรก็ดี ข้าขอประกาศไว้วันนี้เลยว่าถ้าท่านยืนกรานจะขายพี่อาเฟินไปเป็นางบำเรอตาเฒ่าวันนี้ ข้าก็จะใช้เงินที่มีเชิญทุกคน จากทุกบ้าน ทั้งชาวบ้านและคนในเมืองมาเล่าเื่เกี่ยวกับสกุลหลิน บัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่ที่ขายหลานสาวของเขาให้กับตาเฒ่าเศรษฐีอายุราวหกสิบปีเป็นางบำเรอเพื่อนำเงินไปช่วยการสอบเลื่อนชั้น!” หลินฟู่อินมองไปยังหลินต้าหลาง และเลิกคิ้วเย้ยหยัน “ข้าอยากจะดูน้ำหน้าเ้านักหลินต้าหลาง ว่าจะยังมีหน้าไปสอบเลื่อนระดับอีกหรือไม่!”
ถูกข่มขู่โดยหลินฟู่อินอย่างคุกคามเป็คราแรก ท่าทีของหลินฟู่อินเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาชี้นิ้วไปยังหลินฟู่อินและคำรามว่า “เ้ากล้าเช่นนั้นหรือ!”
หลินฟู่อินเงยหน้า ยิ้มกดดันและพูด “เ้า ก็ ลอง ดู สิ!”
วันนี้หลินฟู่อินมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับทุกคนในสกุลหลิน ในถิ่นของสกุลหลินเอง
เป็ครั้งแรกที่ปู่หลินได้เห็นพลังของหลินฟู่อิน ด้วยความตื่นตระหนกเขาตบโต๊ะเสียงดัง ดวงตาแก่ชราของเขามืดครื้มลง ยืนขึ้นและชี้ไปยังหลินฟู่อิน “ฟู่อิน ข้านึกว่าเ้าเป็คนดี! แต่ดูเ้าสิว่าเ้าทำอะไรลงไป เ้าพูดอะไรออกมากัน? นี่เ้าตั้งใจจะทำลายต้าหลางจริงๆ หรือ?”
“ข้าไม่ใช่คนที่จะทำลายเขา ท่านต่างหากที่กำลังทำลายเขา!” หลินฟู่อินส่ายหัวเ็า “ท่านควรเป็คนดี อย่าทำงานเครื่องเคลือบหากไม่มีเพชร ถ้าครอบครัวไม่มีเงิน เช่นนั้นหลินต้าหลาง ท่านควรจะหาเงินระหว่างเรียน ทุกคนจะชื่นชมท่าน แต่หากท่านทำตัวเป็ปีศาจคอยสูบเืสูบเนื้อจากคนในครอบครัว ถึงวันหนึ่งท่านได้เป็ขุนนาง ผู้คนก็จะรังเกียจท่าน”
ปู่หลินโกรธมากและใช้มือทุบอกก่อนไอออกมา “หูข้างไหนของเ้า… ที่ได้ยินว่าต้าหลางกล่าวว่าเขา้าเงินจากการขายอาเฟินกัน?”
อู๋ซื่อสบช่องที่จะแทรกแซงจึงพยักหน้าและจ้องไปที่หลินฟู่อินตามคำพูดของปู่หลิน “ใช่แล้ว หูข้างไหนของเ้ากันที่ได้ยิน หรือว่าตาข้างไหนที่มองเห็น?”
“โอ้ ท่านปู่ ท่านย่า ท่านเห็นหรือไม่ ท่านเพิ่งกล่าวว่าเงินจากการขายพี่อาเฟินนี่นา? ท่านย่าเองก็ยอมรับเช่นกันว่ากำลังจะขายพี่อาเฟิน?” หลินฟู่อินมองปู่หลินและอู๋ซื่อที่รีบร้อนและเผลอยอมรับว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการขายหลินเฟิน นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังอย่างเ็า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้