“เหอะๆ น้องซีสุ่ย ข้าอายุเยอะกว่าเ้า เช่นนั้นก็เรียกเ้าว่าน้องสาวก็แล้วกัน ขอแสดงความยินดีกับเ้าด้วย เ้าเก็บซ่อนได้อย่างลึกซึ้งเสียจริงๆ แซงหน้าข้าไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว!” หลงผี่ฟูก็เป็วีรบุรุษผู้องอาจคนหนึ่งเช่นเดียวกันจึงไม่อิดๆ ออดๆ รีบเอ่ยปากพูดขึ้นโดยทันที
“เหอะๆ โชคดีเกิดการเข้าใจได้ในฉับพลันเลยไม่คาดคิดว่าจะแซงหน้าพี่หลงก่อนก้าวหนึ่ง” เยว่ซีสุ่ยยิ้มขึ้น รอยยิ้มที่งดงามจนแทบจะล่มเมืองของนางทำเอาทุกคนเคลิบเคลิ้มไปตามๆ กัน
“ยอดเยี่ยม! ไม่คาดคิดว่าวิชาสะกดจิตให้ลุ่มหลงของตระกูลเยว่เมื่อเข้าสู่ระดับเทพแล้วจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ แม้แต่พวกข้าก็เกือบจะเผลอสติไปด้วย! น้องซีสุ่ยมีเสน่ห์งดงามน่าหลงใหลมาโดยกำเนิดเรียกได้ว่าในใต้หล้านี้หาผู้ใดเทียบเคียงได้ไม่!”
เย่รั่วสุ่ยหัวเราะเหอะๆ แม้จะพูดหยอกล้อขึ้นแต่เขาเองก็แอบสรรเสริญขึ้นภายในใจ หญิงสาวของตระกูลเยว่เมื่อกลายเป็เทพวิชาสะกดจิตให้ลุ่มหลงอานุภาพพลันร้ายกาจขึ้นมาถึงเพียงนี้ ถ้าหากเป็ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งกลุ่มอยู่ต่อหน้าของเยว่ซีสุ่ยคงไม่มีโอกาสได้ต่อต้านใดๆ อย่างแน่นอน มีแต่ต้องยืนรอความตายเพียงเท่านั้น
“อืม...ไม่พูดเล่นแล้ว พวกเราพูดเข้าเื่เป็การเป็งานกันเลยดีกว่า!”
จ้าวเกาะเร้นลับที่เอาแต่กินอยู่อย่างเอร็ดอร่อยใบหน้าพลันเคร่งขรึมจริงจังขึ้น จากนั้นทำการกางม่านพลังครอบขึ้น ครอบผู้คนทั้งหมดเอาไว้ภายในแล้วเริ่มเอ่ยปากพูดขึ้น
“ความจริงแล้วครั้งนี้ที่พวกเรามาก็เพราะเ้ากลายเป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพแล้ว ดังนั้นเดิมทีเื่ราวที่เ้ายังไม่ควรจะรู้จึงต้องมาบอกกล่าวต่อเ้าให้รู้เอาไว้ ส่วนหลงผี่ฟูเ้าก็ใกล้จะกลายเป็เทพแล้วจึงถือโอกาสให้เ้ารู้เอาไว้พร้อมกันด้วยเลย!”
“เชิญท่านจ้าวเกาะพูดมาได้เลย!”
เยว่ซีสุ่ยยิ้มขึ้นจางๆ รู้ว่าเื่สำคัญกำลังจะมาแล้วรีบตั้งใจฟังขึ้นมาทันที ส่วนหลงผี่ฟูดวงตาทอประกายแสงแหลมคมขึ้นสีหน้าแสดงความสนอกสนใจออกมาเต็มที่
“ประการแรก... ข้อตกลงของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพของทั้งสามเขตปกครองไม่สามารถเข้าร่วมการสู้รบแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ของปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปได้ มิฉะนั้นจะถูกผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพทั่วทั้งทวีปัเพลิงร่วมมือกันรุมสังหาร ข้อตกลงนี้ไม่ใช่จ้าวเทวะของนครแห่งเทพหรือท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่เป็ผู้ตั้งขึ้น แต่เป็ข้อตกลงที่มีมาั้แ่เริ่มก่อตั้งทวีปัเพลิงขึ้นมา เป็ข้อตกลงที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพรุ่นาุโทั้งหลายร่วมกันกำหนดขึ้นมา ข้อตกลงนี้ดำรงอยู่มานับหลายแสนปีแล้ว สิ่งนี้พวกเ้าจะต้องจำเอาไว้ให้ดี มีเื่บาดหมางหรือความแค้นส่วนตัวสามารถทำการล้างแค้นได้ แต่ห้ามทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อนไปด้วยเป็อันขาด! หาไม่แล้วละก็จะไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือพวกเ้าได้อย่างแน่นอน!”
“ไม่ใช่จ้าวเทวะของนครแห่งเทพหรือท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่กำหนดขึ้นมา? ทวีปของเราเมื่อก่อนมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพ?” ข้อตกลงของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพนั่นเยว่ซีสุ่ยรู้ั้แ่นานแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าข้อตกลงนี้เป็สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพาุโรุ่นก่อนๆ กำหนดขึ้นมา ครั้นแล้วนางจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “หลายแสนปีก่อนทวีปของเรามีผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพด้วย?”
“เหอะๆ แม้พลังฟ้าดินในทวีปัเพลิงจะเบาบางเป็อย่างมาก แต่ระยะเวลาหลายร้อยปีปรากฏผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพขึ้นมาสักคนนั้นถือว่าไม่แปลกแต่อย่างใด ตาแก่เสว่หนึ่งพันปีก่อนกลายเป็เทพ เ้าหนูเย่ห้าร้อยปีก่อนกลายเป็เทพ พวกเ้าทั้งสองก็กลายเป็เทพในเวลาไล่เลี่ยกัน แล้วเช่นนี้เ้าคิดว่าเมื่อก่อนจะไม่มีเทพอย่างนั้นรึ?” จ้าวเกาะเร้นลับรู้ว่านางจะต้องมีคำถามเช่นนี้จึงได้รีบพูดตอบออกมา
หืม?
เยว่ซีสุ่ยและหลงผี่ฟูมองตากันทั้งสองต่างเห็นได้ซึ่งแววตกตะลึงและสงสัยที่อยู่ภายในั์ตาของอีกฝ่าย หลงผี่ฟูลังเลอยู่ชั่วครู่จึงเอ่ยถามขึ้น “ไม่คิดว่าทวีปัเพลิงจะมีประวัติยาวนานถึงหลายแสนปีแล้ว ถ้าหากเว้นห่างหลายร้อยปีถึงจะมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพปรากฏขึ้นมาคนหนึ่งละก็ ถ้าเป็เช่นนั้นทวีปัเพลิงของเราก็ต้องมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพนับร้อยแล้วสิ? แล้วพวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันหมดแล้วตอนนี้? เท่าที่ข้ารู้มาผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพมีอายุขัยดำรงอยู่ได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นถึงหนึ่งแสนปีมิใช่รึ?”
“แหะๆ!” เย่รั่วสุ่ยพลันยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเอ่ยขึ้น “พวกเขาขึ้นไปข้างบน... โลกจักรวาลชั้นบน โลกจักรวาลแห่งเทพ หรือก็คือดินแดนแห่งเทพนั่นเอง!”
“โลกจักรวาลแห่งเทพหรือดินแดนแห่งเทพ?” หลงผี่ฟูปรากฏสีหน้าแสดงความเข้าใจเป็อย่างนี้นี่เองออกมา แต่ต่อมากลับยิ่งมีความสงสัยเพิ่มมากยิ่งขึ้นจึงเอ่ยถามขึ้นต่อ “แล้ว...ทำไมพวกท่านทั้งหลายไม่ขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพ? พวกข้าทั้งสองคนสามารถขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพได้หรือไม่?”
“ถูกต้อง ข้าดูในบันทึกของตระกูลบอกไว้ว่าปฐมาจารย์บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งตระกูลทั้งห้าท่านล้วนกลายเป็เทพกันทุกท่าน สุดท้ายล้วนขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพพร้อมกันทั้งห้า!” เยว่ซีสุ่ยก็รู้สึกสงสัยเช่นกันจึงได้เอ่ยถามสิ่งที่สงสัยอยู่ภายในใจมาแสนนานออกมา
“เหอะๆ...” ผู้เฒ่าเทพาทั้งสามท่าน เย่รั่วสุ่ยรวมไปถึงจ้าวเกาะเร้นลับหัวเราะอย่างเจื่อนๆ ออกมาพร้อมๆ กัน จากนั้นต่างนิ่งเงียบลง สุดท้ายเป็เย่รั่วสุ่ยที่พูดขึ้น
“ปฐมาจารย์บรรพบุรุษของพวกเรานั้นได้ขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพจริง แต่ว่าพวกเขาเป็กลุ่มสุดท้ายที่ได้ขึ้นไปบนดินแดนแห่งเทพ แน่นอนว่าพวกเรานั้นอยากขึ้นไปเช่นเดียวกัน พลังฟ้าดินภายในทวีปัเพลิงนั้นเบาบางเป็อย่างมาก ถ้าหากอยากที่จะฝึกฝนให้ถึงระดับขอบเขตขุนพลเทพ์หรือระดับที่สูงขึ้นไป หากไม่ขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพ้าแทบจะไม่มีทางฝึกฝนให้สำเร็จได้เลย เพียงแต่...พวกเราขึ้นไปไม่ได้ ไม่เพียงแค่พวกเรา คาดว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพของอีกทั้งสองเขตปกครองก็คงอยากที่จะขึ้นไปด้วยเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าไม่มีใครสามารถที่จะขึ้นไปได้ นอกจากไอ้หัวโล้นไอ้ลูกพันธุ์ผสมของนครแห่งเทพและท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่มีใครสามารถขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพได้ ทวีปัเพลิงเปรียบดั่งบ่อน้ำที่ถูกปิดตาย บ่อน้ำที่ถูกปิดตายด้วยฝาบ่อที่แ่า...”
ระดับขอบเขตขุนพลเทพ์? ไอ้หัวโล้นไอ้ลูกพันธุ์ผสม? บ่อน้ำที่ถูกปิดตาย?
เยว่ซีสุ่ยและหลงผี่ฟูมองตากันอีกครั้งต่างหน้าเปลี่ยนสีขึ้นโดยทันที เหนือกว่าระดับขอบเขตเทพ์ขึ้นไปยังมีระดับขอบเขตขุนพลเทพ์และระดับอื่นๆ ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า? ทำไมเย่รั่วสุ่ยถึงเรียกจ้าวเทวะของนครแห่งเทพว่าไอ้หัวโล้นไอ้ลูกพันธุ์ผสม? ทวีปัเพลิงเปรียบดั่งบ่อน้ำที่ถูกปิดตาย?
“ทำไมเมื่อก่อนสามารถขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพแต่ตอนนี้พวกเราไม่สามารถขึ้นไปได้?” เยว่ซีสุ่ยเมื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่เย่รั่วสุ่ยพูดออกมาให้ฟังสักพักจึงได้เอ่ยถามขึ้นอีก
“ก็เพราะว่าไอ้หัวโล้นน่ารังเกลียดนั้นทำการปิดตายทวีปัเพลิงของเราเอาไว้อย่างไรล่ะ!” จ้าวเกาะเร้นลับแสดงออกถึงความโกรธแค้นอย่างเด่นชัดไม่ต่างจากเย่รั่วสุ่ยแม้แต่น้อย เขาถึงกลับเอ่ยปากด่าทอคำหยาบคายออกมา จากนั้นมองมายังทั้งสองคนพร้อมกับพูดขึ้นอย่างช้าๆ
“ต่อไปเดี๋ยวข้าจะพูดถึงความลับยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปัเพลิงให้พวกเ้าฟัง... พวกเ้าจำเอาไว้ว่าห้ามแพร่งพรายออกไปเป็อันขาด มิฉะนั้นละก็ทวีปัเพลิงจะต้องเกิดความโกลาหลชุลมุนวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน สุดท้ายอาจจะทำให้ทั้งโลกจักรวาลชั้นนอกทวีปัเพลิงนี้สูญสลายไป... ความจริงแล้วทุกๆ โลกจักรวาลชั้นนอกพลังกฎเกณฑ์พลังฟ้าดินจะมอบปากทางเชื่อมต่อเพื่อขึ้นไปยังดินแดนแห่งเทพให้ไว้อยู่หนึ่งแห่ง ซึ่งปากทางเชื่อมต่อที่ว่านั้นอยู่บนเกาะม่วงซึ่งห่างจากเกาะเร้นลับเพียงไม่กี่พันกิโลเมตร บนเกาะม่วงมีด่านทดสอบห้าด่าน ขอเพียงแค่อาศัยพลังฝีมือของตนเองผ่านด่านทดสอบทั้งห้าด่านไปได้ก็จะสามารถเข้าไปยังภายในค่ายกลเคลื่อนย้ายของเกาะม่วงเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังดินแดนแห่งเทพ เพียงแต่เมื่อหลายพันปีก่อนจ้าวเทวะของนครแห่งเทพได้ไปที่เกาะม่วงแห่งนั้น...”
.................................
จ้าวเกาะเร้นลับพูดอธิบายให้เยว่ซีสุ่ยและหลงผี่ฟูฟังอย่างละเอียดเป็เวลากว่าครึ่งชั่วโมงถึงได้บอกเล่าต้นสายปลายเหตุของเื่ราวทั้งหมดออกมาได้อย่างชัดเจน พูดจบเยว่ซีสุ่ยและหลงผี่ฟูนิ่งเงียบไปไม่ได้พูดอะไรออกมาอยู่สักพัก แต่สีหน้าของทั้งสองที่แสดงออกมานั้นตื่นเต้นเร้าใจและโกรธแค้นมากเป็พิเศษ
“ถ้าขืนยังเป็เช่นนี้ต่อไป ก็หมายความว่าพวกเราจะต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่สามารถที่จะะโออกไปจากบ่อน้ำที่ถูกปิดตายแห่งนี้ได้? หรือว่าผู้คนนับพันล้านคนในทวีปัเพลิงจะต้องแบกรับชะตากรรมเช่นนี้ไปตลอดกาล? เช่นนี้ช่างน่าสังเวชใจและน่าเคียดแค้นยิ่งนัก!”
เยว่ซีสุ่ยถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมกับส่ายหัวไปมาเบาๆ อารมณ์ปลื้มปีติยินดีที่สามารถบรรลุถึงระดับขอบเขตเทพ์ได้ของนางกลับถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกเ็ปรวดร้าวแทน
“ไม่! พวกเรากำลังเฝ้ารอ เฝ้ารอผู้มีพร์สูงส่งเลิศล้ำแห่งยุคบังเกิดขึ้นมา! เฝ้ารอผู้มีพร์สูงส่งเลิศล้ำแห่งยุคผู้นั้นนำพาทุกคนเพื่อต่อสู้ปลดแอกชะตากรรมอันเลวร้ายของทวีปัเพลิง!” สุดท้ายเย่รั่วสุ่ยลุกขึ้นยืน สายตามองไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ มองไปยังขุนเขาสูงตระหง่านที่ถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกสีขาวแห่งนั้น
“ถูกต้อง นอกเสียจากว่าจะมีผู้มีพร์สูงส่งเลิศล้ำแห่งยุคถือกำเนิดขึ้นมา หาไม่แล้วพวกเราคงต้องอยู่ต่อไปภายในบ่อน้ำที่ถูกปิดตายแห่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทำได้แค่เพียงเหม่อมองดูโลกอันสวยงามที่อยู่ภายนอกบ่อน้ำที่ถูกปิดตายแห่งนี้จวบจนกระทั่งทวีปัเพลิงสูญสลายไปเองในที่สุด...” จ้าวเกาะเร้นลับถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ส่ายหน้าออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง
ทุกคนนิ่งเงียบลง ต่างล้วนสาดสายตามองไปทางด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันออกในตอนนี้เริ่มมีแสงอรุโณทัยสาดส่องขึ้นมาให้เห็น พระอาทิตย์สีแดงเพลิงค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ ความมืดของรัตติกาลค่อยๆ หดหายไป แสงแดดที่อบอุ่นเริ่มสาดส่องไปทั่วทั้งเกาะแห่งทะเลสาบแห่งความเงียบสงบพร้อมกับนำพาแสงสว่างสาดส่องสว่างขึ้นทั่วทุกแห่งหน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้