ถังชิงหรูตบๆ หลังมือเฉินิปลอบประโลมให้เขาคลายความตึงเครียด
ตอนนี้ร่างกายเขาอ่อนแอมาก ไม่อาจถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์รุนแรง แต่คนผู้นี้เ้าอารมณ์มาแต่ไหนแต่ไร มีหรือจะฟังคำเกลี้ยกล่อมของนาง
หลังกินดื่มอิ่มท้อง ถังชิงหรูก็ประคองเฉินิขึ้นเตียง เขารั้งนางไว้ พลางเอ่ยปากอย่างขัดเขิน "เ้า... อย่าไปเลย อยู่เป็เพื่อนข้าได้หรือไม่"
ถังชิงหรูเริ่มหน้าง้ำ แต่เพราะความมืดจึงเห็นสีหน้าไม่ชัด ทว่าจากเสียงสูดลมหายใจหนักหน่วงก็พอคะเนได้ว่ายามนี้นางกำลังควบคุมอารมณ์ของตนเองอยู่
เฉินิรู้ตัวว่าตนเองเอ่ยวาจาคลุมเครือไปหน่อย แท้จริงแล้วเขาไม่กล้าคิดสิ่งใดเกินเลย เพียงแค่รู้สึกว่าการที่นางมาฟุบหลับอยู่ข้างเตียงคงไม่สบายเป็แน่ หากให้นางนอนบนเตียงเขานอนพื้น นางก็คงไม่เห็นด้วย อย่างไรเสียร่างกายของเขาก็ยังอ่อนแอทนความลำบากไม่ไหว ดังนั้นถึงได้ทำหน้าหนาเอ่ยปากเช่นนี้
ตอนแรกถังชิงหรูนึกว่าเฉินิคิดนอกลู่นอกทาง ต่อมาพอสงบใจได้มาใคร่ครวญดู ยามนี้เขาไม่น่ามีแก่ใจมาคิดถึงเื่พรรค์นี้ ต่อให้นางโผเข้าสู่อ้อมอก ก็ไม่แน่ว่าเขาจะนำพา ความคิดเพียงหนึ่งเดียวของเฉินิคือไปจากกรงขังแห่งนี้ แล้วกลับวังหลวงไปช่วยพระเชษฐาที่อยู่หัวเดียวกระเทียมลีบไร้คนช่วยเหลือ ควบคุมสถานการณ์โดยรวมให้มั่นคง
"เตียงหลังนี้กว้างขวาง ข้าจะฝืนใจนอนเบียดกับท่านสักสองสามวันก็ได้" ถังชิงหรูเข้าใจความคิดของเขา จึงไม่ทำกระมิดกระเมี้ยน
นางผลักเขาให้เขยิบไป แล้วนอนลงข้างกาย
เฉินิเห็นนางยอมนอนอย่างว่าง่าย ทั้งไม่มีท่าทางระมัดระวังตนเองสักนิด ในความซาบซึ้งก็มีความวิตกอยู่เล็กน้อย
เขานอนลง พูดข้างหูนาง "หากเป็ชายอื่นให้เ้านอนด้วย เ้าจะนอนหรือไม่"
"หากไม่เพราะความจำเป็บังคับ ข้าจะนอนเตียงเดียวกับท่านทำไม หากมีเวลาคิดฟุ้งซ่านมากนัก มิสู้เอาเวลามาพักผ่อนจะดีกว่า" ถังชิงหรูตอบกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์
"ข้าแค่รู้สึกว่าเ้าไม่มีความระวังต่อบุรุษเอาเสียเลย หากเป็ชายอื่น พวกเขาไม่มีทางควบคุมอารมณ์ได้แบบนี้ แม้ว่าหน้าตาเ้าจะไม่นับว่าสะสวยแต่ถึงอย่างไรก็เป็สตรี ผู้ชายน่ะไม่สนหรอกว่าเ้าจะหน้าตางดงามหรือไม่ แค่ดับไฟก็..." เฉินิยังพูดไม่จบ ก็รู้สึกเจ็บที่ท้องก่อนร่วงลงมาจากเตียง
ถังชิงหรูลุกขึ้นมานั่งถลึงตาใส่เฉินิอย่างขุ่นเคือง "ต้องขออภัยที่ข้ามันไม่สวย เช่นนั้นท่านก็อย่านอนตรงนี้เลย จะได้ไม่ทำให้ท่านใตอนกลางดึก"
เฉินิเจ็บจนแทบไม่ไหว ยกมือกุมท้องด้วยความเ็ป ก่อนฝืนลุกขึ้น แค่นเสียงเยาะ "สตรีอะไรช่างดุร้ายยิ่ง บุรุษหน้าไหนจะกล้าแต่งงานกับเ้ากันฮึ"
"เื่นั้นไม่ต้องให้ท่านมาเป็กังวล หากแม่นางเยี่ยงข้าคิดจะแต่งงาน มีคนอยากมาสู่ขอเยอะแยะไป แต่ข้าเป็คนช่างเลือก ประเภทที่อ่อนปวกเปียก ถูกแตะนิดเดียวก็ลงไปนอนกองที่พื้นเสียแล้ว เดี๋ยวก็ถูกพิษเดี๋ยวก็ได้รับาเ็ทุกสองสามวัน บ้างก็เจ็บป่วยเป็ว่าเล่น แบบนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาข้าหรอก" ถังชิงหรูกล่าวจบก็นอนลง
"เ้าว่าใครอ่อนปวกเปียก" เฉินิปีนขึ้นมาบนเตียง ยกมือบีบคอนาง พลางเค้นถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
ถังชิงหรูคว้าข้อมือของเขา ก่อนบิดข้อมือควบคุมเขาไว้ หลังจากนั้นก็พลิกร่างขึ้นทาบทับ เมื่อครู่บุรุษอยู่บนสตรีอยู่ล่าง ยามนี้สตรีอยู่บนบุรุษอยู่ล่างบ้าง นางก้มลงเชยคางของบุรุษในอ้อมแขนวางท่าประหนึ่งจักรพรรดินี คลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย "ใครรับก็คนนั้นนั่นแหละ"
"น่าชังนัก" เฉินิดิ้นรนสุดแรง แต่ถังชิงหรูทับเขาไว้อย่างเอาเป็เอาตาย สุดที่จะขยับได้
เขาไม่ยอมถอดใจ ดิ้นรนขัดขืนสุดกำลัง สองเท้าต่อสองเท้าล้วนถูกงัดมาใช้ เตียงใหญ่เกิดเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด หากมีคนจากด้านนอกผ่านมาได้ยินเสียงแบบนี้คงนึกไปว่าด้านในกำลังประกอบกิจกรรมร้อนแรง แต่แท้จริงแล้ว พวกเขากำลังศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่
ถังชิงหรูไม่นึกว่าเฉินิจะเรี่ยวแรงเยอะขนาดนี้ ขนาดยังป่วยอยู่ การจะควบคุมเขากลับไม่ง่ายอย่างที่คิด
แต่จะว่าไปก็จริงอยู่ บุรุษผู้นี้วรยุทธ์ไม่เลว หากไม่ล้มป่วย เกรงว่าคงบุกออกไปจากสถานที่เสื่อมโทรมเช่นนี้นานแล้ว แต่เพราะถูกโรคภัยรุมเร้า ถึงยอมสงบเสงี่ยมสักสองสามวัน
"ไม่เล่นแล้ว" ถังชิงหรูเหนื่อยจนทนไม่ไหว จึงเป็ฝ่ายขอสงบศึกก่อน
ด้านหนึ่งเพราะนางเหนื่อยแล้วจริงๆ อีกด้านก็ไม่อยากให้เฉินิต้องเหนื่อยล้าเกินไป การออกกำลังที่สิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไม่เหมาะกับเขาในเพลานี้
พอเฉินิปล่อยมือ ถังชิงหรูก็ฉวยโอกาสนี้กลับลงมานอน แต่พอนางนอนลงแล้ว เขากลับพลิกกายทาบทับนางไว้
ถังชิงหรูถลึงตาใส่เขาอย่างหงุดหงิด นางไม่ออกแรงสู้ แต่กลับถากถางเขาด้วยดวงเนตรคู่งาม
"วิธีแบบนี้ต่ำช้าเกินไป ข้าไม่ยอมแพ้หรอก" ถังชิงหรูแค่นเสียงเยาะ "หากแน่จริงก็ต้องมาแข่งขันกันอย่างยุติธรรมสิ"
"สตรี ไม่ว่าจะประลองกันอย่างไรก็ไม่มีทางใช้คำว่ายุติธรรมได้ เมื่อฝ่ายหนึ่งแข็งแกร่ง อีกฝ่ายอ่อนแอ เช่นนั้นจะยุติธรรมได้จริงหรือ" เฉินิยิ้มอย่างเ้าเล่ห์กล่าวว่า "ดังนั้นอย่าเอ่ยถึงความยุติธรรม มีแต่คนเขลาเท่านั้นแหละถึงจะเชื่อว่าเื่พรรค์นั้นมีอยู่จริง"
"หากชอบทับก็ทับไปเลย ถึงอย่างไรท่านก็ไม่กล้าทำอะไรอยู่แล้ว อย่างมากข้าก็คิดเสียว่าถูกผีอำก็ได้" ถังชิงหรูกล่าวจบก็หลับตานอน
เฉินิเห็นนางหลับไปจริงๆ ก็หน้าดำทะมึน ยิ่งคำพูดของนางที่ว่าเขาเป็ผีอำ นั่นเป็การหยามโดยตรง แต่จะบันดาลโทสะก็ไม่ได้เสียด้วย
สตรีผู้นี้... ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก เมื่อสองวันก่อนยังสงบเสงี่ยมอยู่ดีๆ มาวันนี้อุปนิสัยเดิมเริ่มกลับมาอีกแล้ว
แต่นี่ถึงจะเป็ยายตัวแสบที่เขารู้จัก ่ที่เปลี่ยนเป็คนสุภาพอ่อนโยน เขารู้สึกไม่คุ้นเอาเสียเลย แบบนี้ดีกว่าเยอะ
"เฉินิ..." ถังชิงหรูลืมตาขึ้นมองเขาแล้วกล่าวว่า "อย่ารักข้าเลยนะ"
อย่ารักข้า เพราะไม่ช้าก็เร็วข้าอาจจะต้องจากไป เมื่อไรก็ตามที่หายานอวกาศพบ นางจะไปจากดาวดวงนี้
ถังชิงหรูไม่เคยคิดมาก่อนว่าหากหายานอวกาศไม่เจอจะทำอย่างไร ในความคิดเห็นของนาง ตราบใดที่เสี่ยวอียังอยู่ ตนเองต้องกลับไปที่เดิมได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นหากนางเกิดความรักที่นี่ ก็คงโหดร้ายเกินไปสำหรับตนเองและคนผู้นั้น ทางที่ดีคืออย่ามีความรัก ให้นางได้ท่องเที่ยวบนดาวดวงนี้สักรอบ หลังจากนั้นค่อยหาโอกาสกลับไปยังที่เดิม
พอได้ยินคำกล่าวของนาง สีหน้าของเฉินิก็บูดบึ้งยิ่งกว่าเดิม "ช่างหลงตัวเองเสียไม่มีใครเกิน แม้ว่าตอนนี้เปิ่นหวางจะตกต่ำ แต่ก็แค่ชั่วคราว สักวันหนึ่ง เปิ่นหวางจะต้องได้คืนสถานะอ๋อง หลังจากนั้นก็จะแต่งคุณหนูจากสกุลใหญ่สักคนมาเป็ชายา เด็กสาวที่เติบโตมาในบ้านป่าเมืองเถื่อน ชาติกำเนิดเป็เพียงบ่าวเช่นเ้า ข้าไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว"
"ท่านคิดได้เช่นนี้ก็ดีแล้ว" ถังชิงหรูแสร้งยิ้มอย่างโล่งอก "ข้าแค่กลัวท่านหิวจะกินไม่เลือกน่ะสิ ถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีพวกเราแค่สองคน ท่านเห็นแต่สาวบ้านป่าอย่างข้าทั้งวัน เกิดยอมลดมาตรฐานของตนเองขึ้นมา ข้ามิตกอยู่ในอันตรายหรอกหรือ"
บรรยากาศหลังจากนั้นยิ่งอึดอัดกว่าเดิม ถังชิงหรูไม่พูด เฉินิก็สงวนวาจา ทั้งสองต่างนอนอยู่บนเตียงแต่หันหลังชนกัน
แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนร่างของคนทั้งสอง ถังชิงหรูหลับตา แต่พอได้ยินเสียงลมหายใจของคนข้างกาย ก็ชวนให้คิดฟุ้งซ่าน
เฉินิยังไม่หลับ ฟังจากการหายใจของเขาก็รู้ได้ นางรู้สึกใจไม่แข็งพอที่จะรับกับสถานการณ์เช่นนี้ จึงมิอาจข่มตาหลับอย่างสบายใจ
วันรุ่งขึ้น นางขึ้นเขาแต่เช้าตรู่ ก่อนที่จะไป ก็เตรียมอาหารเช้าไว้เป็ผัดเห็ดจานหนึ่ง
อันที่จริงพวกเขาขาดแคลนเครื่องปรุงอาหารเป็อย่างยิ่ง ไม่มีทั้งน้ำมัน ไม่มีทั้งเกลือ ดังนั้นยามผัดผักออกมาจึงไร้รสชาติแต่ทั้งสองก็กินจนหมดเกลี้ยงทุกวัน เฉินิเห็นผัดเห็ดอยู่ในกระทะ ตักขึ้นมาได้หนึ่งชามเต็มๆ แม้หน้าตาจะดูไม่น่ากินเท่าไร แต่สำหรับเขาแล้ว นี่คืออาหารเลิศรสที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเคยกินอะไรมามากน้อยแค่ไหน ก็มิอาจเทียบกับอาหารที่ได้กินใน่เวลานี้ได้ นั่นเป็เพราะว่าในอาหารทุกจานล้วนเจือไปด้วยความจริงใจของสตรีคนนั้น
ถึงไม่ใช่ความรัก แต่อย่างน้อยก็เป็ความจริงใจ แค่นึกถึงจุดนี้ แม้ว่าสตรีคนนั้นจะเคยยั่วโทสะเขาอย่างไร เขาล้วนให้อภัยได้ทั้งสิ้น
"หญิงโง่ผู้นั้นยังไม่ได้กินแน่ๆ " เฉินิเทออกไปครึ่งหนึ่ง เหลือไว้ในกระทะ
นางมีน้ำใจต่อเขา เขามีหัวใจให้นาง เมื่อนาง้าเว้นระยะความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคน เช่นนั้นก็ช่วยสนองตามที่สตรีผู้นั้น้าก็แล้วกัน เขาคงได้แต่ซ่อนความรู้สึกไว้ในส่วนลึก ไม่ทำให้นางลำบากใจ
เมื่อวานเขาคิดทั้งคืน ที่นางปฏิเสธเขาและคอยเตือนสติเื่ระยะห่างระหว่างเขากับนางอยู่บ่อยครั้ง เป็เพราะว่านางรักน่าหลันหลิงหรือไม่
น่าหลันหลิงเป็สุภาพบุรุษ หน้าตาหล่อเหลาเหนือสามัญ พวกเขาเติบโตมาด้วยกันย่อมก่อเกิดเป็ความรักได้ไม่ยาก หากนางจะรักคนผู้นั้นก็ไม่แปลกอันใด ได้แต่เสียดายที่ตนเองกับนางรู้จักกันช้าไป จึงพลาดโอกาสที่จะได้รักกัน แต่ตราบใดที่สองคนนั้นยังไม่แต่งงาน เขาจะไม่มีวันยอมแพ้ นอกเสียจากว่าพวกเขากราบไหว้ฟ้าดินกันแล้ว ตนเองถึงจะยอมถอดใจ
"ดูท่าความเป็อยู่ของเ้าไม่เลวเลย" บุรุษคนหนึ่งปรากฏตัวที่ประตู จ้องมองเขาอย่างเ็า
"เฉินิมองคนผู้นั้น ใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็บึ้งตึง เขาวางชามในมือลง หัวเราะเสียงเย็นถามขึ้นว่า "เ้ามาทำอันใด"
"ย่อมแวะมาดูเ้าน่ะสิ" คนผู้นั้นเดินเข้ามา มองเฉินิอย่างพินิจั้แ่หัวจรดเท้า "ดูท่าแม่นางผู้นั้นคงดูแลเ้าอย่างดีเยี่ยม ช่างน่าหงุดหงิดเสียจริงเชียว"
เฉินิหัวใจสะดุดไปหนึ่งจังหวะ มองคนผู้นั้นอย่างหวาดระแวง คนผู้นี้หาใช่ใครอื่นแต่เป็เมิ่งหลิง
"นางเป็ผู้บริสุทธิ์ เ้าอย่าดึงนางเข้ามาพัวพัน นางแค่มีจิตใจดีงาม เห็นคนป่วยหรือถูกทำร้ายก็ทนไม่ได้ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ หากเ้ากล้าแตะต้องนางล่ะก็ ข้าจะทำให้เ้าอยู่ไม่สู้ตาย" เฉินิหรี่ตาลงเล็กน้อย เอ่ยวาจาข่มขู่
"จุ๊ๆ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน" เมิ่งหลิงเดินเข้ามา ยกมืออุดจมูก ทำสีหน้าสะอิดสะเอียนมองไปโดยรอบ ก่อนมาหยุดลงที่ร่างของเฉินิ "ด้วยสภาพเ้าตอนนี้ แม้แต่ตนเองยังเอาตัวไม่รอด ยังคิดจะปกป้องนาง? หากข้าคิดจะทำซะอย่าง นางจะรั้งอยู่ที่นี่ได้หรือ เ้ายังนึกว่าตนเองเป็ชิ่งอ๋องผู้สูงศักดิ์คนเดิมอยู่หรือไร"
เฉินิกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วลั่นดังกร๊อบ
เมิ่งหลิงเห็นท่าทางของเขาก็มิได้นำพา เขาโบกพัดอย่างเอ้อระเหย กล่าวเสียงเรียบ "ข้าแค่มาแจ้งข่าว พระเชษฐาของเ้าผู้นั้น... ประชวรหนักจนลุกไม่ขึ้น เกรงว่าคงเหลือชีวิตอีกไม่กี่วันแล้ว หากเ้าเป็ห่วงว่าเขาจะเดียวดาย จะไปอยู่เป็เพื่อนก็ได้ ถึงข้าไม่สังหารเ้า แต่หากเ้าจะฆ่าตัวตาย ข้าก็ไม่รั้งหรอกนะ ฮ่าๆ ๆ "
พอเฉินิได้ยินข่าวนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็เหี้ยมเกรียม ไม่นำพาอันใดทั้งสิ้น กระโจนเข้าหาเมิ่งหลิงบีบคอเขาอย่างแรง เมิ่งหลิงยกขาถีบออกไป ปัง! ร่างของเฉินิกระเด็นไปกระแทกกับผนัง เดิมทีบ้านหลังนี้ก็จะพังมิพังอยู่รอมร่อ พอถูกกระแทกอย่างแรง ก็เริ่มโคลงเคลง เมิ่งหลิงเห็นเช่นนั้นก็เลิกคิ้ว เหยียดยิ้มมุมปาก ก่อนกระโจนออกไปด้านนอก แล้วยืนมองบ้านทั้งหลังพังลงมาทับร่างของเฉินิให้ตายอยู่ในนั้น