ค่ายกลสี่ทิศที่ล้อมรอบแท่นบูชาค่อยๆ สลายไป ส่วนด้านนอกนั้นมีเสียงถอนหายใจ และเสียงพูดคุยกันแ่เบาถึงเื่อะไรบางอย่าง ผมได้ยินไม่ค่อยชัดแล้วก็ไม่อยากจะฟังด้วย
ทว่าตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ๆ เมื่อลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือรองเท้าหนังหุ้มข้อที่ขาวสะอาดจนเกินไป เมื่อมองขึ้นไป้า ก็พบว่าเป็ซ่งฉียวนที่มีสีหน้าถมึงทึง เขามองผมด้วยสายตาที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง คล้ายกับไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจอมปีศาจที่สง่าผ่าเผยอย่างผมถึงได้ทำเื่ที่เสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้ไป
ผมนอนกอดไข่ใบหนึ่งเอาไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ ซึ่งนั่นไม่ใช่แนวทางของอวี๋เคอจริงๆ
เพียงแต่ว่าความซับซ้อนภายในดวงตาของเขาเกิดขึ้นไม่นานนัก เพียงชั่วครู่สายตาที่มองผมก็เปลี่ยนเป็การดูถูกและเยาะเย้ย แม้กระทั่งไข่ที่กั้นกลางไว้ก็ยังรู้สึกได้ถึงการดูิ่ที่เขามีต่อผม
“เซียวอวิ๋น บนร่างเขามีาแมากพอแล้ว จับไปโยนลงบ่อเกลือเสีย”
!!! แย่แล้ว? บ่อเกลือ...
บ่อเกลือที่ซ่งฉียวนพูดถึงนั้นความหมายก็ตรงตามตัวอักษร ซึ่งไม่ต่างจากทะเลมรณะสักเท่าไร เพียงแต่ปริมาณเกลือที่อยู่ในนั้นมีมากยิ่งกว่า และก็ไม่รู้ว่าสำนักฉิงชางใช้วิธีการใดทำให้บ่อน้ำนั้นสูญเสียการลอยตัว อธิบายคือ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ตกลงไปในบ่อน้ำก็จะจมลงไปยังก้นบ่อทั้งหมด รวมถึงคนด้วย
ผมมองาแที่มีอยู่ทั่วร่างกายของตัวเอง แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว ความคิดที่อยากจะตายให้เร็วที่สุดนั้นยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น ผมลูบไข่ของหงส์เพลิงที่อยู่ในอ้อมแขน รู้สึกอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก
หากตายในปากของเ้า คงดีกว่าถูกซ่งฉียวนทรมาน
กู้จิ่นเฉิงที่ปลอมเป็เซียวอวิ๋นค่อยๆ เดินเข้ามา แย่งไข่หงส์เพลิงที่อยู่ในอ้อมแขนของผมแล้วส่งไปให้ซ่งฉียวน จากนั้นก็แบกผมขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย เดินไปยังบ่อเกลือโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ไม่รู้ว่าฝีมือการแสดงของเขาดีเกินไปหรือว่าภักดีต่อซ่งฉียวนไปแล้วจริงๆ พฤติกรรมของสุนัขรับใช้แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจได้อย่างชัดเจน
ซ่งฉียวนคอยติดตามผมอย่างใกล้ชิดด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้านใดๆ ด้านหลังของเขายังมีคนกลุ่มใหญ่ที่รอดูผมถูกทรมานจนร้องไห้ ยิ่งผมเ็ปทรมานมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น
เดาว่าเมื่อสักครู่ที่หงส์เพลิงเลือกจะนิพพานเพื่อปกป้องเ้าของนั้นทำให้พวกเขาไม่สบอารมณ์ รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่ไม่ได้เห็นหงส์เพลิงฉีกผมออกเป็ชิ้นๆ เวลานี้เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งฉียวนทั้งยังรู้สึกว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นผมประสบกับโชคร้ายแล้วในที่สุดนั้น การดูถูกและความคาดหวังล้วนปรากฏออกมาทางสีหน้า
ผมหัวเราะเยาะในใจ พวกเขาถึงกับอยากให้ผมตายขนาดนี้เชียว...
ถ้าอย่างนั้นผมก็... ตายไปเถอะ!
พูดตามตรง ตอนนี้ตัวผมเองก็อยากจะตายแล้วเหมือนกัน!!
บ่อเกลืออยู่ไม่ไกลจากแท่นบูชาที่พังมากนัก อย่างไรเสียสถานที่ที่ใช้สำหรับลงโทษมักจะรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันทั้งหมด
กู้จิ่นเฉิงไม่พูดอะไรสักประโยค สีหน้าก็ไม่แสดงอาการใดๆ เขาปกปิดได้อย่างแเีมาก จนถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแท้จริงแล้วเขาอยู่ข้างใครกันแน่ แต่ถ้าเขาไม่ได้้าจะช่วยผม เหตุใดจึงต้องลำบากปลอมเป็คนสนิทของซ่งฉียวน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้าใกล้ผม ทั้งยังไม่กลัวว่าผมจะพูดเื่นี้ออกมา แถมยังบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเองกับผมโดยตรง?
ั้แ่เข้ามาอยู่ในโลกของนิยายเื่ “มหันตภัยแห่งแดนเซียนปีศาจ” ไม่ว่าจะเป็ซ่งฉียวนหรือกู้จิ่นเฉิง ล้วนทำให้ผมรู้สึกไม่เข้าใจ เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับตัวละครในนิยายของผม
เวลานี้ผมไม่ได้คาดหวังว่ากู้จิ่นเฉิงจะช่วยผมออกไป ผมแค่ขอให้เขาช่วยทำให้ผมตายไปแบบง่ายๆ ก็พอ
ตอนนี้ใกล้จะถึงอู่สือ [1] ซานเค่อ [2] แล้ว เป็เวลาที่เหมาะแก่การลงโทษปะาอย่างยิ่ง น้ำภายในบ่อเกลือสงบนิ่งเป็อย่างมาก เมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยงตรงก็ยิ่งเป็ประกายใสกระจ่าง ดูสวยงามเป็อย่างยิ่ง
ทว่าใจของผมกลับไม่สงบลงเลยแม้แต่น้อย ที่จุดตันเถียน [3] ของผมมีพลังชีวิตที่ซ่งฉียวนเหลือเอาไว้เพื่อประคองลมหายใจเฮือกสุดท้าย ตอนนี้ร่างกายผมเป็เพียงแค่มนุษย์ธรรมดาๆ จึงคิดหาวิธีอื่นไม่ออกและผมก็ไม่มีความสามารถพอที่จะจัดการพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเองได้
ทุกวันนี้ แม้จะอยากตายแค่ไหนก็ยังยาก
ยามนี้ถูกกู้จิ่นเฉิงแบกเอาไว้ ผมรู้สึกเหนื่อยจริงๆ จึงเอียงศีรษะเหลือบมองใบหน้าด้านข้างที่ปกคลุมด้วยิัปลอมของกู้จิ่นเฉิงอย่างใจลอย ผ่านไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นสมองก็เกิดประกายขึ้น มีความคิดดีๆ ขึ้นมาแล้ว
กลุ่มคนจำนวนมากได้รวมตัวกันล้อมบ่อเกลือเอาไว้ ซ่งฉียวนอยู่ไม่ไกลจากผมมากนัก แต่ก็ไม่นับว่าใกล้ ผมหวังว่าตัวเองจะดวงดีจนประสบความสำเร็จ จึงทำท่าฟุบลงบนตัวของกู้จิ่นเฉิง ขยับเข้าไปใกล้หูของเขา แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ “ฮือๆๆ ...”
กู้จิ่นเฉิง “...”
ผม “...”
มารดามันเถอะ! ผมดันลืมไปว่าตัวเองพูดไม่ได้!! ซวยจริงๆ !!!
เวลานี้หัวใจของผมแตกสลายเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
ผมปลอบใจตัวเองอยู่นานกว่าพละกำลังทั้งหมดจะคงที่ เวลานี้กู้จิ่นเฉิงได้วางผมลงที่ด้านหน้าและจับผมเอาไว้ จัดท่าทางให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมที่จะโยนลงไป
ผมแอบสะกิดแล้วดึงฝ่ามือของเขามาด้วยความเร่งรีบ ด้วยสภาพจิตใจที่รักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็ [4] เขียนตัวอักษรสามตัวลงข้างบนนั้นอย่างรวดเร็ว
ทำลาย พลัง ชีวิต
ครั้งนี้ไม่ว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม ผมก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว
หลังจากที่ผมเขียนเสร็จแล้ว ในที่สุดความสงบนิ่งที่เคยมีอยู่ในดวงตาของเขาก็ค่อยๆ จางหายไป ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย สีหน้าปรากฏความหวาดหวั่นอยู่บ้าง
“เซียวอวิ๋น เ้ามัวรออะไรอยู่หรือ? รีบจับโยนลงไปเสีย”
ซ่งฉียวนเร่งเขาจากทางด้านหลังด้วยความฉุนเฉียว ส่วนผมก็ปล่อยตัวตามสบายและรอรับความตาย เห็นได้ถึงความลังเลของกู้จิ่นเฉิง แต่ความปรารถนาของผมชัดเจนเป็อย่างมาก ซึ่งนั่นก็คือผมอยากจะตาย เมื่อผมตายแล้วเขาก็ไม่ต้องพยายามคิดหาหนทางที่จะช่วยหรือจัดการผม
เพียงแต่ว่าหลังจากที่ทำลายพลังชีวิตลง คาดว่ากู้จิ่นเฉิงก็น่าจะต้องหนีออกไปเช่นกัน เพราะผู้เที่ยงธรรมมากมายเช่นนี้ รวมทั้งซ่งฉียวนที่เก่งขั้นเทพเซียนซึ่งจ้องมองมาราวกับเสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อ ผมคาดว่าโอกาสที่เขาจะชนะนั้นมีไม่มาก...
ขณะนั้น คิ้วของเขาที่ขมวดมุ่นก็คลายลงอย่างรวดเร็ว ภายในแววตากระจ่างใสคู่นั้นเหมือนเห็นแนวโน้มว่าจะต้องปล่อยวางเื่ทางโลกแล้วกลับสู่แดน์ เห็นได้ชัดว่าอากาศไม่ได้หนาว ทว่าผมกลับตัวสั่นอย่างยิ่ง ขนลุกไปทั่วทั้งตัว
เขากดลงที่จุดตันเถียนของผมเบาๆ อย่างแเี จากนั้นก็จับผมโยนลงไปในบ่อเกลือโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าไร้ความปรานีอย่างแท้จริง
ณ ตอนนี้ผมแค่อยากจะพูดว่า : กู้จิ่นเฉิง เ้านี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ !
ตามด้วยเสียงดังตู้ม ละอองน้ำสาดกระเซ็น ผมจมลงไปใต้น้ำได้สำเร็จ าแที่มีเืสีแดงสดหยดลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อถูกแช่ลงไปในน้ำเกลือเช่นนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกเ็ปราวกับถูกมดจำนวนมากมายมหาศาลกัดกินหัวใจ น้ำเกลือค่อยๆ ซึมเข้าไปในาแทีละน้อย รวมถึงาแที่อยู่บนมือกับเท้าซึ่งมีสี่รูและตรงปอดซึ่งมีสองรู รวมกันแล้วทำให้ผมเ็ปจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
น้ำจำนวนมากไหลเข้าไปในโพรงปอด เติมให้ที่ว่างตรงนั้นเต็มอย่างรวดเร็ว ลมหายใจค่อยๆ ถูก่ชิง ่เวลาก่อนที่ผมจะหลับตาลงนั้นเมื่อมองผ่านผิวน้ำสีฟ้าที่เป็ประกายระยิบระยับ สิ่งที่มองเห็นก็คือกู้จิ่นเฉิงกำลังตกเป็เป้าหมายการถูกโจมตีจากรอบด้าน และซ่งฉียวนที่เพิ่งตระหนักได้ว่าผมอาจตายได้จึงรีบลงมาจับผมไว้
ทุกอย่างชัดเจนอย่างนั้น อีกทั้งผมยังรู้สึกมีความสุขมาก
ผมยกยิ้มมุมปาก หวังเป็อย่างยิ่งว่าหากตื่นขึ้นมาอีกครั้งจะได้กลับสู่โลกแห่งความเป็จริง และสามารถหนีออกไปจากโลกบ้าๆ ของนิยายเื่นี้ได้
......
เชิงอรรถ
[1] อู่สือ คือ่เวลาั้แ่ 11.00 - 13.00 น.
[2] ซานเค่อ เท่ากับประมาณ 45 นาที
[3] จุดตันเถียน คือจุดชีพจรสำคัญ อยู่ที่ใต้สะดือประมาณ 3 นิ้ว
[4] รักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็ คือสุภาษิตจีน อุปมาถึงเื่ที่รู้ว่าไร้หนทางที่จะรักษาแล้ว แต่ก็ยังคงมีความหวังแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหมายถึงความพยายามครั้งสุดท้าย