จากนั้น หัวหน้าตระกูลหวังถอยออกไปอย่างเคารพ ต่อจากนี้ เขาต้องเร่งรักษาอาการาเ็ของตนเองและคัดเลือกผู้ที่มีพลังบ่มเพาะสูงเพื่อร่วมเดินทางไปยังตระกูลหลินด้วย เนื่องจากบรรพบุรุษของตระกูลหวังได้สั่งการเช่นนี้ เขาย่อมต้องทำภารกิจให้สำเร็จอย่างแน่นอน
...
สถานการณ์ของตระกูลหลินในขณะนี้ตกอยู่ในความเคร่งเครียดอย่างที่สุด
ณ จวนของหลินฮ่าว
"นางรักษาได้หรือไม่? อาอวี่เป็อย่างไรบ้าง?"
ทันทีที่หมอเดินออกจากห้อง หลินฮ่าวพุ่งเข้าไปทันที เขาจับตัวหมอไว้แน่นและถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
หลินเสวียนก็ใช้จิตััตรวจสอบหมอผู้นี้เช่นกัน
หมอผู้นี้เป็ผู้ที่มีพร์ด้านการแพทย์มากที่สุดในตระกูลหลิน เคยช่วยชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน แต่ในตอนนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามอันร้อนรนของหลินฮ่าว หญิงชรากลับขมวดคิ้ว นางอ้าปากเหมือนจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เงียบไป
ใจของหลินเสวียนพลันหนักอึ้ง ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะมีปัญหามากกว่าที่คิด เมื่อเห็นเช่นนี้ ดวงตาของหลินฮ่าวก็แดงก่ำขึ้นทันที
"หลินฮ่าว ข้ารู้สึกละอายใจยิ่งนัก..." หญิงชราก้มศีรษะลงและกล่าวออกมา
ในวินาทีนั้นเอง หลินฮ่าวอุ้มหลินเสวียนพุ่งเข้าไปในห้องอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเห็นเสวียนอวี่ที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าของหลินฮ่าวก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เมื่อหลินเสวียนใช้จิตััเห็นภาพนี้ หัวใจของเขาก็พลันบีบรัดแน่น นางอ่อนแอลงกว่าเดิมเสียอีก! ในการรับรู้ของหลินเสวียน เขาััได้ว่าเสวียนอวี่อ่อนแอเป็อย่างมาก ลมหายใจของนางแ่เบาราวกับใกล้จะดับสูญ พลังชีวิตของนางเปรียบเสมือนเปลวเทียนที่ริบหรี่ใกล้จะดับ
ยิ่งไปกว่านั้น ใน "สายตา" ของหลินเสวียน เขาสามารถเห็นร่องรอยของคำสาปที่อยู่บนร่างของมารดา
คำสาปเหล่านี้เก่าแก่และมีสีเข้ม แผ่กลิ่นอายอัปมงคลออกมา ราวกับเศษสนิมสัมฤทธิ์ที่เกาะตัวกันเป็ใบหน้าผีโบราณ มันกำลังดูดกลืนพลังชีวิตของเสวียนอวี่อย่างบ้าคลั่ง เพียงชั่วข้ามคืน เส้นผมอันงดงามของนางก็กลายเป็สีขาวโพลน
หลินเสวียนรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง ทว่าน่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
"หลินฮ่าว ถอยไป ให้ข้าดูหน่อย!"
เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยโทสะดังขึ้น นั่นคือ หลินเป่า หนึ่งในบรรพชนของตระกูลหลิน
หลินเป่าผอมแห้งคล้ายภูตผี เขาเป็หนึ่งในบรรพชนที่เคยมอบของขวัญให้แก่หลินฮ่าว
"บรรพชนหลินเป่า!"
หลินฮ่าวรีบลุกขึ้นพร้อมอุ้มหลินเสวียน ก่อนจะหลีกทางให้หลินเป่า
หลินเป่าเดินไปที่ข้างเตียงของเสวียนอวี่ เขายื่นมือขวาไปแตะที่หว่างคิ้วของนาง
บึ้ม!
แสงเรืองรองเข้มข้นเปล่งออกมาจากฝ่ามือของหลินเป่า ทว่าในวินาทีนั้นเอง สีหน้าของเขากลับมืดครึ้มลง
เมื่อวานนี้พวกเขาเพิ่งจัดงานเฉลิมฉลองการถือกำเนิดของอัจฉริยะประจำตระกูลหลินไปแท้ๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้กลับไปบำเพ็ญเพียรใน่ปลีกวิเวก ก็ได้รับข่าวนี้เสียก่อน
เสวียนอวี่คือมารดาของหลินเสวียน อีกทั้งหลินเป่ายังพึงพอใจในตัวของนางมาก นางเป็หญิงที่ตั้งครรภ์มาเป็เวลาหนึ่งร้อยปี และให้กำเนิดอัจฉริยะเหนืุ์ของตระกูลหลิน ทั้งยังต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาลตลอดเวลาหนึ่งร้อยปี
ดังนั้น ทันทีที่ได้รับข่าว หลินเป่าจึงรีบรุดมาทันที
"บรรพชนหลินเป่า ข้ามิเคยได้ยินเกี่ยวกับคำสาปเช่นนี้มาก่อนเลย"
"ยิ่งไปกว่านั้น คำสาปนี้ซับซ้อนเกินไปและเก่าแก่เป็อย่างมาก ดูเหมือนจะเป็บางสิ่งที่หลงเหลือมาจากยุคโบราณ"
หมอเดินเข้ามาจากด้านนอกก่อนจะกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น
"ข้า… ไม่รู้เลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ข้าไม่สามารถแตะต้องจุดที่มีสนิมสัมฤทธิ์เหล่านี้ได้เลย"
"และที่สำคัญ... ฮูหยินเสวียนอวี่น่าจะได้รับคำสาปนี้มานานถึงร้อยปีแล้ว"
"ตลอด่เวลาหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา คำสาปนี้ได้แทรกซึมเข้าไปในทุกส่วนของร่างกายนางแล้ว!"
เมื่อได้ยินคำพูดของหมอ หัวใจของหลินเสวียนก็จมดิ่งลงอีกครั้ง
หนึ่งร้อยปีอย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้น นั่นก็หมายความว่า… มารดาของเขาถูกสาปั้แ่ตอนที่เริ่มตั้งครรภ์เขาเลยหรือไม่…
ดังที่คาดไว้ หมอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อว่า
"เหตุผลที่หลินเสวียนใช้เวลานานถึงเพียงนี้กว่าจะลืมตาดูโลก อาจเป็เพราะคำสาปนี้เอง"
"พูดตามตรง ข้าแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่า นางทนอยู่ในสภาพนี้มาได้ถึงหนึ่งร้อยปีได้อย่างไร…"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของหลินฮ่าวก็แดงก่ำขึ้นกว่าเดิม หัวใจของเขาเหมือนถูกมีดกรีดออกเป็ชิ้นๆ ด้านหลินเสวียนก็มีสีหน้าเ็าขึ้นเรื่อยๆ
มีใครบางคนกล้าคิดเล่ห์เหลี่ยมใส่เขา ช่างเป็การหาที่ตายแท้ๆ!
หมอเฒ่ากล่าวต่อว่า
"หากพยายามขจัดสนิมสัมฤทธิ์นี้ออกไปโดยใช้กำลัง มันจะกลายเป็ปัญหาที่ไม่มีวันแก้ไขได้!"
"สำหรับฮูหยินเสวียนอวี่… นางสามารถอยู่ได้อีกมากที่สุดเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น!"
"หนึ่งสัปดาห์?"
เมื่อบรรพชนหลินเป่าได้ยินดังนั้น เขาแสยะยิ้มเย็น
"ไม่มีคำสาปใดในโลกนี้ที่ข้าถอนออกไม่ได้!"
ตูม!
เสียงะเิเบาๆ ดังขึ้นในห้อง พร้อมกับแสงสว่างไหลเวียนไปทั่ว! ลวดลายิญญาปรากฏขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด! ราวกับดวงอาทิตย์ที่ผลิบานในฤดูใบไม้ผลิ!
พลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของหลินเป่า!
ดั่งคลื่นมหาสมุทรที่ซัดกระหน่ำ พลังชีวิตอันกว้างใหญ่ปกคลุมไปทั่วทั้งจวนในพริบตา!
ซู่! ซู่! ซู่!
ภายในห้อง กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงมา พืชสีเขียวเริ่มเติบโตขึ้น! สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงภาพมายา แต่เป็การฟื้นคืนชีพของไม้ในตัวบ้าน โต๊ะ และเก้าอี้ พวกมันถูกกระตุ้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตอันไร้สิ้นสุด!
และนี่เป็เพียงเศษเสี้ยวของพลังเท่านั้น!
พลังชีวิตที่แท้จริงได้ไหลเวียนเข้าสู่ร่างของเสวียนอวี่เพื่อขับไล่คำสาป!
ทว่า… สนิมสัมฤทธิ์กลับไม่ขยับเขยื้อนเลย!
แม้จะถูกล้างด้วยพลังชีวิตอันหนาแน่น แต่มันยังคงหยั่งรากลึกอยู่เช่นเดิม!
ไม่เพียงแต่ไม่ถูกขจัดออกไป แต่กลับยิ่งต่อต้านกระแสพลัง! มันราวกับคนบ้าผู้ฝ่าคลื่นมหาสมุทร พลิกกระแสพลังชีวิต และพุ่งตรงไปเกาะติดแขนของหลินเป่า!
ยิ่งไปกว่านั้น มันกลับเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว!
ในชั่วขณะที่ััสนิมสัมฤทธิ์ สีหน้าของหลินเป่าก็เปลี่ยนไปทันที!
เขาถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นและตัดชิ้นเนื้อของตนเองออกอย่างไร้ความลังเล!
เนื้อนั้นยังไม่ทันตกลงสู่พื้น ก็ถูกกัดกร่อนจนกลายเป็ควันสีเขียวซีดในทันที!
ชี่…
กลุ่มควันบิดตัวไปมาอย่างรุนแรง ดิ้นรนเหมือนสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะตาย มันปลดปล่อยกลิ่นอายอัปมงคลออกมาอย่างหนาแน่น!
หลังจากดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง ควันสีเขียวก็ทำท่าจะสลายไป แต่ทว่ามันกลับไม่หายไปโดยสิ้นเชิง กลับกัน มันกลายเป็ลำแสงพุ่งไปเกาะติดแขนของเสวียนอวี่อีกครั้ง!
ในความคลุมเครือ มันค่อยๆ แปรสภาพเป็ใบหน้าผีอันน่าสะพรึงกลัว!
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนในตระกูลหลินต่างสูดหายใจลึก สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก!
สนิมสัมฤทธิ์นี้… แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่?!
ที่จริงแล้ว ผลลัพธ์เช่นนี้ถือเป็เื่ปกติ!
สนิมสัมฤทธิ์นี้เป็สิ่งที่หวังเถิงเฟยได้มาจากโชควาสนา พลังของมันลึกลับยากจะหยั่งถึง! ดาบเล่มนั้นเก่าแก่เกินไป ดำรงอยู่มานับไม่ถ้วนปี บนด้ามดาบมีเศษสนิมสัมฤทธิ์ก่อตัวขึ้นจากกาลเวลาที่ผ่านพ้นไป!
เมื่อสนิมสัมฤทธิ์นี้ถูกดึงออกมา ความงามสง่าของดาบบรอนซ์ก็มลายหายไปในพริบตา!
คำสาปเช่นนี้ไม่มีทางถอนได้ มันถูกปลูกฝังลงในร่างของเป้าหมายอย่างแเีจนไม่อาจรับรู้ได้เลย! แท้จริงแล้ว แทนที่จะเรียกมันว่าคำสาป มันกลับคล้ายกับรูปแบบหนึ่งของ "ภาวะพึ่งพาอาศัยกัน" มากกว่า! สนิมสัมฤทธิ์นี้… ไม่อาจถูกกำจัดออกไปได้!
ในความเป็จริง เมื่อสนิมบรอนซ์นี้ถูกปลูกฝังไว้บนตัวเสวียนอวี่ในอดีต หากไม่ใช่เพราะหลินเสวียนช่วยกดมันเอาไว้ขณะอยู่ในครรภ์ของนาง มันคงแสดงอาการออกมาั้แ่หนึ่งร้อยปีก่อนแล้ว!
แต่เมื่อหลินเสวียนถือกำเนิด สนิมสัมฤทธิ์ก็ไม่ถูกกดข่มอีกต่อไป มันจึงสำแดงฤทธิ์ออกมาอย่างสมบูรณ์!