บุรุษสวมหน้ากากแววตาจมดิ่ง มองขึ้นไป้า สีหน้าฉายแววเยาะหยัน "ก็เพราะว่างานที่ทำล้วนต้องเอาชีวิตไปแลกมา ดังนั้นถึงรู้คุณค่าของเงินแต่ละตำลึงเป็พิเศษ"
ถังชิงหรูเห็นเขามีท่าทางจริงจังขนาดนี้ ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "กล่าวได้มีเหตุผล จนข้าเกือบจะเชื่อแน่ะ"
บุรุษสวมหน้าหน้ากาก "..."
ถังชิงหรูลุกลงจากเตียง ยกน้ำชามาดื่ม ขมวดคิ้วกล่าวว่า "ชานี้ที่จริงถ้วยหนึ่งราคาเพียงแค่หนึ่งตำลึง ท่านขายสิบตำลึง ช่างรู้จักทำการค้า"
"บุรุษเ่าั้หาได้มาเพื่อดื่มชา แต่มาชมสาวงาม สิบตำลึงที่ขายจึงไม่ใช่น้ำชา แต่เป็รอยยิ้มกับถ้อยคำฉอเลาะของโฉมสะคราญเ่าั้ต่างหาก เด็กอย่างเ้าย่อมไม่เข้าใจอยู่แล้ว" บุรุษสวมหน้ากากเผยรอยยิ้มที่มีกลิ่นอายชั่วร้าย
"ข้าแค่อยากบอกว่า ท่านตระหนี่ถี่เหนียวเกินไป เป็ลูกผู้ชายแต่คิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ต่อไปจะตบแต่งภรรยาได้ไหมเนี่ย" ถังชิงหรูชี้ไปที่ถ้วยชาก่อนชี้ไปด้านนอก "อย่าว่าแต่องค์กรมือสังหารที่ทำเงินให้ท่านไม่เว้นแต่ละวัน เอาแค่หอนางโลมเล็กๆ แห่งนี้ก็สร้างรายได้มหาศาลแล้วกระมัง"
"แล้วไง? ถึงอย่างไรคุณชายเยี่ยงข้าก็ไม่จ่ายค่ายาถึงห้าร้อยตำลึงแน่ อย่าว่าแต่ห้าร้อย แค่ห้าสิบตำลึงก็ไม่ให้" บุรุษสวมหน้ากากกล่าวด้วยน้ำเสียงเอ้อระเหย "ตอนนี้เ้าอยู่ในฐานะเชลย ความเป็ความตายล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคุณชายเยี่ยงข้า เ้าควรดีใจที่ตนเองยังมีคุณค่าให้ใช้สอยอยู่ มิเช่นนั้นข้าคงสังหารเ้าไปแล้ว"
ถังชิงหรูมองออกว่าคนผู้นี้เห็นเงินสำคัญยิ่งชีพ เฉินิในตอนนั้นมือเติบเสียยิ่งกว่าอะไรดี เงินของนางยามนี้ก็ได้มาจากเขาเสียเป็ส่วนใหญ่ ชาวบ้านเ่าั้ไม่มีเงินมาหาหมอ ดังนั้นนางจึงไม่เคยเก็บเงินค่ารักษา พอมองจากมุมนี้ ที่โรงหมอของนางยังอยู่ได้ แม้ไม่เรียกเก็บเงินชาวบ้านตาดำๆ เ่าั้ ก็เพราะการสนับสนุนด้านการเงินของเฉินิทั้งสิ้น หากไม่มีเขาสักคน โรงหมอคงปิดกิจการไปนานแล้ว
นางเขียนเทียบยามอบให้กับบุรุษสวมหน้ากาก
เขาส่งใบรายการให้บริวารไปจัดเตรียม แต่แม้จะกล่าวเช่นนั้น แท้จริงแล้วคือไปเอายาที่โรงหมอของถังชิงหรู ตอนนี้ที่นั่นมีสาวใช้เฝ้าอยู่สองคน เพียงแค่เห็นสัญลักษณ์แทนตัวถังชิงหรู พวกนางก็จะจัดโอสถให้โดยไม่เก็บเงิน
แต่ยามที่ไปเอาของก็ฉวยโอกาสพาสาวใช้สองคนกลับมาด้วย พอพวกนางสองคนเห็นถังชิงหรู ต่างก็โผเข้ามากอดพลางร้องไห้โฮ
ถังชิงหรูตบหลังของพวกนางเบาๆ กระซิบเสียงเบา "ที่นี่มีพญามารอยู่ ขืนพวกเ้าร้องไห้กันขนาดนี้ ระวังจะถูกเขาจับโยนออกไป"
สาวใช้ทั้งสองได้ยินเช่นนั้นก็ไม่กล้าร้องไห้อีก พวกนางปาดน้ำตา ลอบมองใครบางคนที่สวมหน้ากากอย่างระมัดระวัง
"แม่นาง ทำไมเขาต้องสวมหน้ากากด้วยเล่า หรือว่าหน้าตาอัปลักษณ์" หวนเอ๋อร์เป็คนพูดอะไรไม่ค่อยคิดเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร ปรกติถังชิงหรูก็มักหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกกับนิสัยที่แก้ไม่หายของอีกฝ่าย แต่วันนี้นางกลับรู้สึกสาแก่ใจอยู่บ้าง
ทว่าเล่นแค่พองามถึงเวลาก็ควรหยุด หากยั่วโทสะใครบางคนมากเกินไป เดี๋ยวจะกลายร่างเป็พญามารกลืนกินคนเข้าไปจริงๆ
"พวกเ้ามาทำอันใดที่นี่" ถังชิงหรูหันมาถามจิ่นเอ๋อร์
"แม่นาง จู่ๆ ท่านก็หายตัวไป รู้หรือไม่ว่าพวกเราเป็ห่วงมากแค่ไหน หากชิ่งอ๋องยังอยู่ พวกเราคงไปร้องเรียนแล้ว แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็ใต้เท้าเมิ่ง พวกเราก็เลยไม่กล้าเสนอหน้าไป มิเช่นนั้นเดี๋ยวโชคร้ายจะมาถึงตัว ดังนั้นจึงได้แต่ตามหาท่านเอาเอง แต่ข้ากับหวนเอ๋อร์ค้นหาไปทั่วเมืองแล้ว ก็ไม่พบท่านเสียที"
"ขออภัยด้วยนะ" ถังชิงหรูปรายตาไปที่บุรุษสวมหน้ากาก "ใครใช้ให้ข้าโชคร้าย พอออกจากบ้านก็ไปพบโจรเด็ดบุปผา[1]เข้า หากมิได้คุณชายท่านนี้ช่วยเหลือ ไม่แน่ว่าข้าอาจตายไปแล้วก็ได้"
"โจรเด็ดบุปผา?" สาวใช้สองคนร้องออกมาพร้อมกันด้วยความใ
"โจรเด็ดบุปผาที่ไหนถึงมีรสนิยมประหลาดขนาดนี้" บุรุษสวมหน้ากากว่ากระทบ
"ย่อมเป็โจรเด็ดบุปผาที่ไร้มนุษยธรรม" ถังชิงหรูยกยิ้มน้อยๆ "คุณชายมิเคยเห็นหรอกหรือ"
"ขอบคุณคุณชายที่ช่วยแม่นางของเรา" หวนเอ๋อร์คุกเข่าโขกศีรษะให้เขาทีหนึ่ง
ถังชิงหรูกับบุรุษสวมหน้ากากต่างอึ้งงันไปชั่วขณะ
สถานการณ์ที่แท้จริงเป็เช่นไร มีแต่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ โจรเด็ดบุปผาที่กล่าวอ้างแท้จริงแล้วใช้เพื่อหลอกด่ากระทบกระเทียบ และที่บอกว่าคนผู้นี้ช่วยชีวิตนางไว้ ก็เพื่อไม่ให้สาวใช้สองคนนึกวิตกกังวล แต่พวกนางไม่ทราบที่มาที่ไป จึงนึกว่าเขาเป็ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตถังชิงหรูไว้จริงๆ
"ลุกขึ้นเถิด" บุรุษสวมหน้ากากรับการคำนับของหวนเอ๋อร์อย่างหน้าตาเฉย
ถังชิงหรูถลึงตาใส่เขาทีหนึ่งพลางลอบด่าในใจว่าไร้ยางอาย
"พวกเ้าอยู่บ้านเฉยๆ ก็ดีอยู่แล้ว จะออกมาทำไม ข้ายังมีธุระอื่นที่จัดการไม่เสร็จ พวกเ้ากลับไปรอที่บ้านเถิด" ถังชิงหรูไม่อยากให้สาวใช้สองคนตกอยู่ในอุ้งมือมาร จึงพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างร้อนใจ
"แม่นางอยู่ที่ไหน พวกบ่าวก็จะขอติดตามไปรับใช้ที่นั่น แม่นางทำงานหนักอยู่ข้างนอก จะให้พวกเรานั่งเฉยรออยู่ในเรือนได้อย่างไร" จิ่นเอ๋อร์กล่าว
ถังชิงหรูคร้านจะปากเปียกปากแฉะ ด้วยอุปนิสัยของพวกนางสองคน เกลี้ยกล่อมไปก็ไร้ประโยชน์ นางไปยืนที่หน้าต่าง มองทหารลาดตระเวนด้านนอก
"ทหารรักษาเมืองชิ่งเพิ่มการกวดขันมากขึ้นใช่หรือไม่" ถังชิงหรูเอ่ยถาม
"เ้าค่ะ นับั้แ่ใต้เท้าเมิ่งมารับตำแหน่งดูแลเมืองชิ่ง ก็มีคนจำนวนมากถูกจับตัวไปทุกวัน ขอเพียงมีความสัมพันธ์กับจวนชิ่งอ๋อง แม้แต่บ่าวไพร่เล็กๆ คนหนึ่งก็ยังไม่อาจพ้นเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย" หวนเอ๋อร์มุ่นคิ้วพลางบอกเล่า "ใต้เท้าเมิ่งผู้นั้นเป็คนน่ากลัวยิ่งนัก ไฉ่เอ๋อร์เพื่อนบ้านของพวกเราแค่ขายดอกไม้ให้จวนชิ่งอ๋องบ่อยครั้ง ยังถูกจับตัวไป"
ถังชิงหรูยิ้มเยาะ "เห็นเงาคันศรในจอกสุราเป็อสรพิษ[2]ไปได้ แต่ก็ถูกแล้วล่ะ เขา่ชิงสิ่งของผู้อื่นมา ย่อมหวาดกลัวเ้าของจะมาทวงคืน แต่การดึงผู้บริสุทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้อง ช้าเร็วย่อมทำให้ประชาชนโกรธแค้นก่อให้เกิดจลาจล ถึงเวลานั้น ผลลัพธ์คงไปไกลเกินกว่าที่พวกเขาคาดคะเนไว้"
บุรุษสวมหน้ากากมองแผ่นหลังของถังชิงหรู สตรีธรรมดาคนหนึ่ง เริ่มแรกก็แต่งกายเป็บุรุษมาเป็หมอเทวดา ยามนี้ยังมีความรู้กว้างขวาง มิน่าเล่าเฉินิถึงได้หลงใหลนางนัก เพราะว่านางแตกต่างจากสตรีทั่วไปนี่เอง
ผู้หญิงของเฉินิ..
ดูเหมือนจะน่าสนใจ
เขาหมุนแหวนปันจื่อ[3]ในมือเล่น พลางมองนางอย่างเอ้อระเหย ดวงเนตรภายใต้หน้ากากพยัคฆ์ทอประกายวาวโรจน์เยี่ยงดวงตาของสัตว์ร้าย
"คนอย่างเมิ่งหลิง เมื่อได้ฉายาว่าหัตถ์ปีศาจ ย่อมมีเล่ห์กลของตนเองอย่างแน่นอน" บุรุษสวมหน้ากากกล่าวเสียงเรียบ "เดิมทีเขาเป็ทายาทตระกูลสูงศักดิ์ แต่เพราะตระกูลต้องโทษปะา ก็เลยต้องกลายมาเป็ชายบำเรอของผู้อื่น เมื่อก่อนเมิ่งหลิงเป็คุณชายผู้สูงศักดิ์กอปรไปด้วยความรู้ความสามารถ หากเ้าได้เห็นเขาในอดีต ย่อมไม่มีทางเหลียวแลบุรุษเสเพลไม่ได้ความอย่างเฉินิเป็แน่"
ถังชิงหรูหันกลับไปมองบุรุษสวมหน้ากาก ความประหลาดใจวาบผ่านแววตา "ดูเหมือนว่าท่านจะชื่นชมเขาเป็พิเศษ"
"ก็แค่พูดความจริงเท่านั้น" บุรุษสวมหน้ากากเอนกายนอนลง "สองวันนี้ข้าจะอยู่รักษาาแที่นี่ สาวใช้สองคนของเ้าหากไม่อยากถูกล่วงเกิน ทางที่ดีบอกให้พวกนางอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ก่อนไปจากที่นี่ ข้าไม่้าเห็นพวกนางมาปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าสายตา"
"ที่นี่?" สาวใช้ทั้งสองหน้าถอดสี
ที่นี่คือหอนางโลม แม่นางของพวกตนเป็หญิงสาวยังไม่ออกเรือน จะมาอยู่สถานที่แบบนี้ได้อย่างไร
"คุณชาย มิสู้ท่านไปรักษาาแที่จวนของพวกเราดีกว่ากระมัง" จิ่นเอ๋อร์มองบุรุษสวมหน้ากากอย่างระมัดระวัง
หวนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างรีบพยักหน้าคล้อยตาม "ที่นี่มิค่อยสะดวก แม่นางของพวกเรายังไม่ออกเรือนอาจเสื่อมเสียชื่อเสียงได้"
"สตรีคนหนึ่งปลอมตัวเป็บุรุษมารักษาคนไข้ ไม่รู้ว่าเห็นร่างกายของบุรุษมาแล้วเท่าไร อย่างนางยัง้าชื่อเสียงอยู่อีกหรือ" บุรุษสวมหน้ากากมองถังชิงหรูอย่างเหยียดหยัน
ถังชิงหรูกลอกตาอย่างไม่สบอารมณ์ "ท่านหาใช่คู่หมั้นของข้าเสียหน่อย จะยุ่งให้มากเื่ไปไย คนเป็หมอ หน้าที่ก็คือช่วยเหลือผู้คน อีกอย่างข้าไม่เคยคิดเื่แต่งงาน ย่อมไม่นำพาความคิดเห็นของบุรุษเ่าั้"
"..." สาวใช้สองคนต่างตะลึงพรึงเพริด
บุรุษสวมหน้ากากยังแทบไม่อยากเชื่อ
สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย
ใต้หล้านี้มีสตรีคนไหนกล้าพูดว่าตนเองไม่คิดแต่งงานกันบ้าง หรือว่าดวงตะวันจะขึ้นทางทิศตะวันตกไปเสียแล้ว
ถังชิงหรูไม่สนใจท่าทางตกตะลึงของพวกเขา นางแค่พูดในสิ่งที่ใจคิด ้าแบบนี้มันน่าใมากนักหรือ นางไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด
"ทุกคนฟังทางนี้ หากพบเห็นบุรุษได้รับาเ็ อย่าให้ความช่วยเหลือเป็อันขาด มิเช่นนั้นมีโทษตายสถานเดียว" ที่ถนนใหญ่ มีขุนพลผู้หนึ่งนำพาทหารจำนวนมากมาขวางถนนและตรวจสอบแขนของผู้คนที่สัญจรไปมาทุกคน
ถังชิงหรูหันไปมองบุรุษสวมหน้ากาก
ดูท่าเป้าหมายสังหารของเขาครานี้จะพิเศษยิ่ง แม้ว่าเขาจะไม่พูดตอนนี้ แต่กระดาษย่อมมิอาจห่อไฟ ด้วยสถานการณ์เบื้องหน้า ไม่ช้าคงเป็ที่รู้กันว่าผู้ถูกลอบสังหารคือผู้ใด
"จิ่นเอ๋อร์ หวนเอ๋อร์ พวกเ้ากลับบ้านไปก่อน" ถังชิงหรูเตรียมการสำหรับสาวใช้ทั้งสอง "ตอนนี้สถานการณ์วุ่นวาย หากพวกเราหายไปทั้งบ้าน ต้องตกเป็ที่สงสัยของหัตถ์ปีศาจผู้นั้น และถ้าเขาระแวงพวกเราขึ้นมา ต่อไปพวกเราคงไม่มีบ้านให้กลับอีกแล้ว ต่อให้กลับไปได้ ก็ไม่แคล้วถูกจับไปสอบสวนอยู่ดี"
"แม่นาง..." จิ่นเอ๋อร์อยากติดตามถังชิงหรู นางรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายมีเื่ปิดบังพวกตนอยู่
"เอาตามนี้แหละ" ถังชิงหรูตัดบทเสียงเรียบ "รอให้าแของคุณชายผู้นี้ทุเลาก่อนข้าค่อยกลับบ้าน พวกเ้ากลับไปรอข้าที่นั่น จริงสิ สวนผักกับสมุนไพรคงต้องมอบให้พวกเ้าดูแลจัดการแล้ว ไว้ข้ากลับไปจะต้องไปพิสูจน์ผลงานของพวกเ้าเสียหน่อย"
"จิ่นเอ๋อร์ พวกเราฟังคำของแม่นางเถิด แม่นางเป็คนเก่งกล้า พวกเราสองคนอยู่ไป มีแต่จะนำพาความยุ่งยากมาให้แม่นางเปล่าๆ " หวนเอ๋อร์เป็ฝ่ายยอมอ่อนข้อ ด้วยรู้สึกประหลาดชอบกล คุณชายที่สวมหน้ากากผู้นี้ดูเหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ หากพวกนางสองคนยืนกรานจะอยู่ อาจทำให้เ้านายของตนเองต้องเดือดร้อน
หวนเอ๋อร์แม้ไม่ฉลาดนัก แต่เป็คนรู้กาลเทศะพอสมควร หากนางสังเกตรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่าง ก็สามารถเชื่อมโยงไปถึงเื่อื่นๆ ได้ หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง
พอหวนเอ๋อร์กล่าวเช่นนี้ จิ่นเอ๋อร์ย่อมไม่แข็งขืน นางมองถังชิงหรูด้วยความห่วงใย กล่าวว่า "เช่นนั้น จิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์จะไปรอท่านที่บ้าน ท่านต้องรีบกลับมานะเ้าคะ"
ถังชิงหรูตบๆ หลังมือของทั้งสองคน หันไปพูดกับบุรุษสวมหน้ากาก "รบกวนคุณชายให้คนส่งพวกนางกลับไปด้วย พวกนางเป็เพียงหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ไม่อาจถูกคนหยามิ่ศักดิ์ศรี"
"เ้าไม่ใส่ใจแม้แต่ชื่อเสียงของตนเอง แต่กลับห่วงใยชื่อเสียงของสาวใช้ ผู้หญิงอย่างเ้าช่างน่าทึ่งแท้ๆ " บุรุษสวมหน้ากากเอ่ยเสียงเรียบ "เด็กๆ ไปส่งแม่นางน้อยสองคนนี้"
มีบุรุษคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก คนผู้นั้นมองจิ่นเอ๋อร์และหวนเอ๋อร์ ก่อนกล่าวว่า "ไปกันเถอะ"
จิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์ตามบริวารของบุรุษสวมหน้ากากไป ในห้องจึงเหลือเพียงเขาและนางสองคน
บุรุษสวมหน้ากากมองแผ่นหลังของถังชิงหรู ดวงตาทอประกายจางๆ "สตรีเช่นเ้าต้องมาอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ไม่รู้สึกคับข้องใจบ้างเลยรึ"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] โจรเด็ดบุปผา หมายถึงโจรปล้นสวาท
[2] เห็นเงาคันศรในจอกสุราเป็อสรพิษ ใช้เป็ความเปรียบคนที่มักหวาดระแวงเกินเหตุ แค่เห็นเงาของคันศรในจอกสุรา ก็นึกว่าเป็งูพิษ
[3] แหวนปันจื่อ หรือแหวนสำหรับสวมนิ้วโป้ง สมัยโบราณใช้สวมเพื่อป้องกันนิ้วเสียดสีกับสายธนู แต่ต่อมาก็กลายเป็เครื่องประดับของชนชั้นสูง