แสงไฟริมแม่น้ำที่เริ่มมืดลงทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนดำสนิท ทั้งเมืองเริ่มเข้าสู่่เวลาแห่งการหลับใหล
ลู่เป๋าเหยียนยืนอยู่บนสวนดอกไม้ลอยฟ้าชั้นบนสุดในมือคีบบุหรี่ที่กำลังส่งควันลอยล่องขึ้นผ่านหน้าของเขาและจางหายไปเหลือเพียงแต่กลิ่นฉุนของมันที่ยังคงอยู่
ครั้งที่แล้วที่เขาสูบบุหรี่คือในคืนหลังจากที่เธอถูกคนร้ายจับตัวไปูเี่อันต้มซุปเอาไปให้เจียงเส้าข่ายที่โรงพยาบาลจนดึกมากแล้วเธอก็ยังไม่กลับมา ราวกับเธอได้ลืมไปแล้วว่าตอนนี้เธอแต่งงานแล้วและมีสามีกำลังรอคอยอยู่ที่บ้าน
ตอนกลางวันเขาเข้าไปช่วยแก้มัดเชือกอยู่ข้างกายเธอแต่เธอกลับรีบพุ่งเข้าไปหาเจียงเส้าข่าย เขาส่งเสียงเรียกเธอแต่เธอกลับกำลังเสียน้ำตาให้กับเจียงเส้าข่าย
ตอนนั้นเขาคิดว่าสงสัยสิ่งที่เสิ่นเยว่ชวนพูดจะเป็ความจริง คนที่เธอชอบก็คือเจียงเส้าข่าย
ถ้าเป็แบบนั้นจริงๆเขาควรจะปล่อยเธอไป?
ที่จริงเขาควรทำอย่างนั้นเพราะประวัติของตระกูลขาวสะอาด เจียงเส้าข่ายเองก็มีอำนาจมากพอที่จะปกป้องเธอ
เมื่อเทียบกันแล้วเจียงเส้าข่ายดูจะเป็ตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ
แต่ภายในใจของเขาเขาอยากจะพุ่งตัวไปโรงพยาบาล แล้วจับเธอมัดเอาไว้ข้างกายไม่ให้ไปไหนไปตลอดชีวิตสายตาของเธอจะต้องมองมาทางเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ความถูกต้องกับความ้าส่วนตัวต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเขาไม่เคยรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อนเถ้าบุหรี่ที่อยู่ตรงหน้าเริ่มทับถมมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนหลังที่เขาพาเธอไปโรงพยาบาลระหว่างทางูเี่อันถามว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่
จะให้เขาตอบเธออย่างไรกัน? เขากลัวหากต้องเห็นสีหน้าอันดีใจของเธอยามที่เป็อิสระจากเขาเขากลัวใจเขาเองจะรับไม่ได้จนเผลอทำร้ายเธอ
หรือบีบบังคับเธอเหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
ถ้าไม่ใช่เพราะมีอุบัติเหตุไม่คาดฝันเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเหมือนกันว่า ตอนนี้เขาจะกำลังทำอะไรอยู่
เขาเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้มานานมากเหลือเกิน
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำลู่เป๋าเหยียนจึงดับบุหรี่ในมือและเดินกลับไปูเี่อันยืนมองเขาด้วยสายตาะระแวดระวัง บนคอของเธอยังคงมีรอยแดงที่เขาทิ้งเอาไว้
ไฟบางอย่างในตัวเขาเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งเขาจึงรีบเบือนสายตาจากจุดนั้นไปจ้องมองดวงตาใสแจ๋วของเธอแทน
“เื่เมื่อกี้นี้...”
“ฉันลืมไปหมดแล้ว!”ูเี่อันพูดขัดขึ้นมา แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่อยากนึกถึงเื่เมื่อกี้อีก
“ฉันต้องขอโทษด้วย”ลู่เป๋าเหยียนพูด
ูเี่อันไม่ตอบรับหรือปฏิเสธเธอสะบัดผ้าห่มแล้วล้มตัวนอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหากำแพงในทันที เธอคิดอยู่สักพักแล้วจึงหยิบหมอนสองใบมาวางคั่นไว้ตรงกลางเตียง
ลู่เป๋าเหยียนเห็นการกระทำของเธอแล้วเขายิ้มเยาะตัวเองออกมา และเดินเข้าห้องหนังสือไป
เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาอีกูเี่อันจึงพลิกตัวนอนหงายพลางมองประตูไม้โอ๊คที่ปิดสนิท จากนั้นจึงหลับตาลง
ลู่เป๋าเหยียนไม่อยู่ในห้องนอนแล้วก็ดีเธอจะได้ไม่ต้องนอนตัวเกร็งไปหมด
ที่จริงูเี่อันเริ่มง่วงมานานแล้วไม่นานหลังจากล้มตัวลงนอนจึงหลับไปในทันทีเมื่อเข้าสู่นิทราเธอก็ฝันเห็นเหตุการณ์ในวันที่เธอถูกฆาตกรโรคจิตจับตัวไว้
เธอถูกเขาจับมัดให้นอนกองอยู่ที่พื้นพลางแกว่งมีดไปมาบนตัวเธอ
“เดี๋ยวฉันช่วยสลักสัญลักษณ์สวยๆไว้บนตัวเธอดีไหม”
“ไม่นะ...”เธอส่ายหน้าพลางร้องไห้ “ปล่อยฉัน ปล่อยฉันออกไป”
ค่ำคืนที่แสนเงียบสงบเสียงร้องของเธอลอดผ่านประตูไม้โอ๊คเข้ามาในห้องหนังสือ
ลู่เป๋าเหยียนรีบปิดเอกสารและเดินออกไปในทันทีที่ได้ยินเขาเห็นูเี่อันขดตัวดิ้นไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มน้ำตาไหลเธอออกมาจากเปลือกตาไม่ยอมหยุด พลางส่งเสียงร้องขอให้ใครสักคนปล่อยตัวเธอดูท่าคงกำลังฝันร้าย
หัวใจเขาเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเขารีบเดินเข้าไปกุมมือเธอ จากนั้นเธอก็ละเมอขึ้นว่า
“ช่วยฉัน...ลู่เป๋าเหยียนนายอยู่ไหน ช่วยฉันด้วย...”
คนที่ตอนกลางวันดูเก่งกล้าไม่ยอมแพ้ใครแต่พอฝันร้ายเท่านั้น ก็กลับกลายเป็ปีศาจตัวน้อยแสนอ่อนแอที่กำลังถูกทำร้ายเสียงสั่นๆ ของเธอทำเอาใจของเขาอ่อนยวบ
“ตื่นเถอะเจี่ยนอัน” เขาลองส่งเสียงปลุกเธอ “เธอแค่ฝันร้าย”
ูเี่อันจับมือเขาไว้แน่นเหมือนคนจมน้ำที่กำลังยึดเหนี่ยวขอนไม้เพียงหนึ่งเดียวที่ลอยอยู่ตรงหน้าพลางเรียกชื่อเขาไม่หยุด
“ลู่เป๋าเหยียนลู่เป๋าเหยียน ช่วยฉันด้วย...”
ตอนที่เธอถูกจับตัวไว้ในใจของเธอก็ร้องเรียกหาเขาแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า?
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกสงสารูเี่อันจับใจเขากอดเธอเอาไว้ในอ้อมอกพลางตบหลังเธออย่างแ่เบาราวกับกำลังปลอบโยนเด็กน้อยที่ร้องไห้กลางดึกการกระทำของเขาทำใหู้เี่อันหยุดร้องไห้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เธอค่อยๆ ขยับเข้าสู่อ้อมกอดของเขาให้มากขึ้นอย่างหาที่พึ่งอันแสนปลอดภัย
หางตาของเธอยังคงมีคราบน้ำตาขนตางอนยาวมีหยดน้ำใสเกาะอยู่ ช่างดูน่าสงสารเหลือคณนา
ลู่เป๋าเหยียนได้ยินเสียงถอนหายใจของตัวเอง
เป็ซะแบบนี้แล้วจะให้เขาปล่อยมือเธอไปได้ยังไง?
วันรุ่งขึ้นลู่เป๋าเหยียนตื่นแต่เช้าูเี่อันยังคงนอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดเขาเฉกเช่นเมื่อวาน เขาค่อยๆ ขยับตัวออกห่างแต่เธอกลับทำท่าเหมือนตื่นตระหนก พลางขมวดคิ้วและขยับเข้าไปในผ้าห่มนอนขดตัวงอราวกับกุ้ง
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกมีอะไรบางอย่างผิดปกติทำไมหน้าเธอถึงซีดขนาดนี้
เดิมทีูเี่อันก็เป็คนขาวมากอยู่แล้วแต่เป็ความขาวแบบคนสุขภาพดีที่มีเืฝาด แต่ในตอนนี้ใบหน้าเธอดูขาวซีดริมฝีปากอิ่มก็ดูซีดเซียวจนน่าเป็ห่วง
“เจี่ยนอัน!”ลู่เป๋าเหยียนเขย่าไหล่เธอ “ูเี่อัน ตื่นสิ!”
“อืม...”ูเี่อันส่งเสียงประท้วง เธอขมวดคิ้วยุ่งกว่าเดิมขณะมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม
“ตื่นสิ!”ลู่เป๋าเหยียนส่งเสียงเรียกดังกว่าเดิมอย่างร้อนใจ
ูเี่อันลืมตาที่ดูอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเห็นดังนั้นลู่เป๋าเหยียนก็ยิ่งร้อนใจเข้าไปใหญ่
“เธอไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
เธอปวดท้องมากเหมือนอย่างทุกทีใน่เวลาแบบนี้
ก่อนหน้าที่ประจำเดือนจะมาถ้ากินไม่ดีหรือพักผ่อนไม่เพียงพอละก็ อาการปวดของเธอจะเพิ่มขึ้นมากแต่ก่อนเคยปวดหนักถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นก่อนที่ประจำเดือนจะมา เธอมักจะใส่ใจกับการกินการนอนเป็พิเศษจนเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมาอาการปวดได้หายไป แต่่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเธอทั้งถูกจับตัว ทั้งเครียดเื่ลู่เป๋าเหยียน อาการจึงกำเริบคราวนี้เธอปวดยิ่งกว่าครั้งก่อนๆ เสียอีก
เธอพยายามลุกขึ้นนั่งเมื่อสบตาเขาเธอก็เบือนหน้าออกพลางส่ายหน้า
“ฉันไม่เป็ไร”
เธอฝืนเดินไปยังห้องน้ำเมื่อออกมาอาการง่วงงุนก็เริ่มดีขึ้นบ้าง เหลือแต่เพียงความปวดหน่วงๆ ตรงท้องน้อยที่ทำเอาแทบทนไม่ไหว
ลู่เป๋าเหยียนกุมมือเธอขึ้นมา
“เดี๋ยวฉันพาเธอไปโรงพยาบาล”
ูเี่อันนิ่งไปอยู่นานกว่าจะมีแรงพูดตอบเขา
“นายรู้จักอาการปวดประจำเดือนใช่หรือเปล่ามันไม่ใช่โรคร้ายอะไร ไม่จำเป็ต้องไปเสียเงินรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรอกนอนพักแค่วันเดียวก็หายแล้ว”
ว่าแล้วเธอก็เดินกลับไปที่เตียงเธอรู้สึกเพลียมาก แต่เพราะความเ็ปที่เหลือทน ทำให้นอนไม่หลับเสียที จึงได้แต่หลับตานอนพักเท่านั้น
ลู่เป๋าเหยียนรินน้ำอุ่นให้เธอ
“หิวหรือเปล่าเดี๋ยวฉันเรียกคนให้เอาอาหารเช้าขึ้นมาให้”
“อืม”ูเี่อันตอบกลับไปอย่างเพลียๆ อาหารเช้าที่ถูกส่งขึ้นมาเป็ขนมปังทาแยมหอมๆ กับนมร้อนหนึ่งแก้วูเี่อันกินไปได้สองคำก็รู้สึกกินไม่ลง จึงดื่มนมไปอีกครึ่งหนึ่งจากนั้นก็เอนนอนลงบนเตียงอย่างหมดแรง
ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอันคุ้นเคยหยุดอยู่ที่ข้างเตียงมืออุ่นยกขึ้นมาอังหน้าผากเธอ เธอรู้ดีว่าเป็มือของใครจึงยิ้มออกมาทั้งที่ยังหลับตา
“ฉันไม่มีไข้นายควรไปบริษัทได้แล้ว”
“ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันเข้าใจไหม”
“อืม...”
เสียงของเธอแ่เบาเหมือนกำลังจะหลับลู่เป๋าเหยียนลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบจากนั้นจึงเรียกให้เลขามาช่วยดูแลเธอ เขาถึงวางใจไปทำงานได้
เลขาสาวที่ถูกเรียกมาเองรู้ดีถึงอาการปวดประจำเดือนที่ผู้หญิงหลายคนต้องพบเจอแต่เธอไม่นึกเลยว่าูเี่อันจะปวดท้องมากขนาดนี้มิน่าลู่เป๋าเหยียนถึงได้สั่งให้เธอมาคอยเฝ้า
เธอนอนหลับเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาคงไม่มีใครคิดว่านี่คือภรรยาของผอ.ใหญ่เครือบริษัทลู่ลู่เป๋าเหยียนสั่งเอาไว้ว่าใหู้เี่อันพักผ่อนมากๆเลขาสาวเองไม่กล้าเข้าไปรบกวนจึงหยิบโน้ตบุ๊คที่ทำการปิดเสียงแล้วเรียบร้อยเดินไปนั่งเช็คอีเมลอยู่ที่ห้องรับแขกเธอเปิดประตูทิ้งไว้เพื่อคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของูเี่อัน
ที่จริงูเี่อันไม่ได้หลับลึกจึงพอรู้ตัวอยู่บ้างว่ามีใครมา เธอตื่นอีกทีก็เที่ยงแล้วหน้าผากของเธอมีเหงื่อซึมออกมาบางเบา ว่าแล้วจึงลุกออกจากเตียงและก็พบกับเลขาสาวที่ยืนคอยอยู่หน้าประตูห้อง
“คุณนายตื่นแล้วเหรอคะ”
“คุณ...”
“ท่านผอ.ไม่อยากให้คุณอยู่คนเดียวจึงสั่งให้ฉันมาอยู่เป็เพื่อนคุณนายค่ะ” เลขาสาวอธิบายพลางยิ้ม“คุณนายรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยังคะ ยังปวดอยู่หรือเปล่า”
“ดีขึ้นมากแล้วขอบคุณค่ะ”
ูเี่อันหยิบเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำเลขาสาวที่มองตามหลังเธอไปถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย ที่เมื่อคืนชุดนอนตัวงามที่ตนอุตส่าห์เลือกสรรอย่างดีไม่ได้ถูกใช้งานดั่งที่ควรและก็ต้องถอนหายใจอีกครั้งว่า คุณนายของท่านผอ.หุ่นดีเหลือเกิน
จากการพบกันอย่างเร่งด่วนเมื่อคืนเธอก็แค่รู้สึกว่าูเี่อันเป็คนสวย แต่ในสายตาเธอตอนนีู้เี่อันเป็คนที่สวยไร้ที่ติั้แ่หัวจรดเท้าขาเรียวยาวและทรวดทรงอกเอวที่ถึงแม้จะไม่ได้ดึงดูดสายตาในทันที เหมือนกับพวกผู้หญิงที่ชอบอวดความเซ็กซี่แต่ทุกอย่างกลับดูน่ามองไปหมด มิน่าผอ.ลู่ถึงได้หลงรักเธอ
เมื่อูเี่อันเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยทางโรงแรมก็ให้คนมาส่งอาหารเที่ยง เป็อาหารที่รสชาติไม่จัดมาก หน้าตาดูน่าทานทำเอาท้องเธอเริ่มร้อง เลขาสาวพูดขึ้นว่า
“ท่านผอ.คนสั่งกับทางโรงแรมให้เตรียมไว้เป็พิเศษแน่เลยค่ะ”
“เอ่อ?” ูเี่อันไม่ค่อยเข้าใจ
“คุณนายลองคิดดูนะคะว่าโรงแรมห้าดาวแบบนี้ ปกติเขาจะจัดอาหารเป็พวกโจ๊กแบบนี้หรือเปล่า”
อาจเป็เพราะอายุที่ใกล้เคียงกันูเี่อันเองก็ไม่ใช่คนถือตัว เวลาเลขาสาวพูดกับเธอจึงค่อนข้างสบายๆ ูเี่อันเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอมองอาหารที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็แย้มยิ้มออกมา
เลขาจึงพูดต่อว่า“ท่านผอ.เป็ห่วงความรู้สึกของคุณนายมากนะคะ เมื่อวานฉันบอกกับเขาว่าทิ้งให้คุณอยู่คนเดียวที่โรงแรมคงไม่ดี เขาจึงเลิกงานก่อนกำหนดเพื่อกลับมาที่นี่”
“เมื่อวานเขากลับมาก่อนเหรอคะ”
ูเี่อันรู้สึกแปลกใจที่เธอรู้มาคือเมื่อคืนเขาควรเลิกงานประมาณเที่ยงคืน แต่ห้าทุ่มเขาก็ไปปรากฏตัวที่สวนสาธารณะเธอนึกว่าเขาทำงานเสร็จก่อนเวลา ที่ไหนได้เขาตั้งใจเลิกงานก่อนเพื่อมาหาเธอ
มิน่าตอนเธอถามเขาเขาจึงไม่ยอมตอบ แถมทำหน้านิ่งถามเธอย้อนกลับอีก เธอก็กลัวว่าเขาจะโกรธเลยไม่ได้ซักไซ้ต่อ
“ไม่ใช่แค่ท่านผอ.หรอกค่ะเขายังสั่งให้ทุกคนเลิกงานก่อนเวลาด้วย” เลขาสาวยิ้ม “ผู้ช่วยเสิ่นยังบอกเลยค่ะว่าคุณคือฮีโร่ของพวกเรา เอ่อ...ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ คุณนายกับท่านผอ.แอบคบกันมานานหลายปีแล้วใช่ไหมคะ?”
ูเี่อันถามอย่างสงสัย“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ”
“เพราะว่าหลายปีมานี้ท่านผอ.ไม่เคยคบใครเลยน่ะสิคะ!”เลขาสาวตอบ “ถึงคนข้างนอกจะลือกันว่าหานรั่วซีเป็แฟนของเขาแต่คนในบริษัทรู้ดีค่ะว่าหานรั่วซีก็แค่เกาะท่านผอ.เพื่อให้ตัวเองโด่งดังก่อนหน้านี้ที่มีข่าวออกมาว่าท่านผอ.จะแต่งงาน พวกเรายังเดากันเลยค่ะว่าพวกคุณคงแอบคบกันมานานหลายปีแล้ว”
“เปล่าหรอกค่ะ”ูเี่อันกล่าว “แต่ว่าพวกเรารู้จักกันมาั้แ่เด็ก”
“ว้าว!”เลขาสาวอุทาน “มิน่าล่ะคะ เพราะโตมาด้วยกันนี่เอง!”
