ลูกบ้านสุดน่ารักของเจ้าบ้านมือสังหาร

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ไม่รู้ว่าเดินมานานแค่ไหนแล้วในที่สุดจ้าวเถี่ยจู้และหลีหลิงเอ่อร์ก็หาตึก A ของสาขาภาษาต่างประเทศจนเจอตัวตึกเป็๲สีขาวและมีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือกำแพงมีภาพแกะสลักสไตล์ยุโรปจ้าวเถี่ยจู้และหลีหลิงเอ่อร์หาห้องเรียนที่เป็๲จุดหมายจนพบหลีหลิงเอ่อร์ในตอนนี้ไม่ได้เอามือคล้องไว้ที่แขนของจ้าวเถี่ยจู้อีกต่อไปแต่เปลี่ยนมาเป็๲เดินตามหลังแทน

        ในห้องมีคนนั่งอยู่ประมาณยี่สิบกว่าคน เมื่อเห็นว่ามีคนใหม่เดินเข้ามาพวกเขาจึงอดหันไปมองไม่ได้ ผู้หญิงเมื่อเห็นจ้าวเถี่ยจู้ก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาทันทีแต่เมื่อเห็นหลีหลิงเอ่อร์ ดวงตากลับเป็๞ประกายขึ้นมาความสวยของหลีหลิงเอ่อร์นี่มีผลกับทั้งหญิงและชายจริงๆหลีหลิงเอ่อร์เมื่อคนในห้องมองมาที่ตนก็ส่งยิ้มให้อย่างคนมีอัธยาศัยดีคนในห้องก็ส่งยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน

        จ้าวเถี่ยจู้มองสำรวจไปรอบๆ ห้องมีผู้ชายแค่สามคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ในห้องนี้และทั้งสามต่างก็มองมาที่หลีหลิงเอ่อร์ด้วยแววตาเป็๲ประกาย เขาเดินเข้าไปหาที่นั่งเมื่อเจอก็ทรุดตัวนั่งลง หลีหลิงเอ่อร์ที่ตามหลังมาด้านหลังก็ทรุดตัวนั่งลงข้างๆเขา ห่างจากทั้งสองไปไม่ไกลมีชายอ้วนคนหนึ่งส่งยิ้มมาให้พร้อมทั้งเดินตรงเข้ามาหาชายอ้วนทรุดนั่งลงอีกฝั่งของข้างๆ ตัวเขา จากนั้นจึงพูดแนะนำตัว “สวัสดี ผมชื่อฟั่นเจี้ยน มาจากไหวเป่ย นายละ”

        “ผมชื่อจ้าวเถี่ยจู้ คนฝูชิง” เขาแนะนำตัวกลับไปพลางคิดฟั่นเจี้ยนเนี่ยนะ ยิ่งกว่าชื่อเขาอีก

        “ฮ่าๆ ชื่อพวกเรานี่ไม่เหมือนใครเลยเนอะ แล้วสาวสวยคนนี้คือ...” ฟั่นเจี้ยนนิ่งอย่างอึ้งไปสักพักหลังจากได้ยินชื่อเขาจากนั้นจึงหัวเราะออกมา

        “ฉันชื่อหลีหลิงเอ่อร์ เป็๞คนปักกิ่งชื่อของฉันไม่ตลกเหมือนชื่อพวกนายเลยเนอะ” หลีหลิงเอ่อร์แนะนำตัวจบก็หัวเราะออกมา

        “คนปักกิ่งนี่เอง ถึงว่าสวยมากเลย” ใบหน้าของฟั่นเจี้ยนยังคงมีรอยยิ้มขณะพูด

        “ขอบคุณนะ”

        “เถี่ยจู้ นายอยู่หอไหน” ฟั่นเจี้ยนหันมาถามเขาซึ่งเขาก็คุ้นเคยกับคำถามนี้ดีจึงตอบกลับอย่างไม่รู้สึกอะไร “พวกเราอยู่ข้างนอกน่ะ มีบ้านอยู่ในเมืองฝูเจี้ยนนี่เอง”

        “ผมอยู่ในโรงเรียน อยู่ตึกสามห้อง 308 ที่นั่งอยู่ตรงนั้นสองคนคือหลิวติงและโจวเซ่าเป็๞รูมเมทผมเองถ้าว่างก็ไปนั่งเล่นห้องผมได้นะ”

        “ได้เลย”

        ขณะที่จ้าวเถี่ยจู้และฟั่นเจี้ยนกำลังนั่งคุยกันอยู่นั้นก็มีคนเดินเข้ามาเพิ่มในห้องอยู่ตลอดเวลา จนเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ในห้องก็มีคนนั่งอยู่หกสิบกว่าคนเห็นจะได้ขณะนั้นเองที่หน้าประตูห้องก็ปรากฎเงาของผู้หญิงคนหนึ่งห้องที่ตอนแรกมีเสียงพูดคุยกันอย่างเซ็งแซ่ ตอนนี้เสียงเริ่มเบาลงและเงียบไปในที่สุดผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าประตูเป็๞คนสวยเหมือนกับหลีหลิงเอ่อร์ไม่มีผิดเพียงแต่ในแววตามีแต่ความหยิ่งยโสหญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาในห้องพร้อมทั้งกวาดสายตามองไปรอบๆเมื่อเห็นหลีหลิงอ่อร์สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็๞เหมือนเดิมในเวลานั้นเขา๱ั๣๵ั๱ได้ถึงความไม่เป็๞มิตรจากสายตาของเธอ

        หญิงสาวคนนั้นเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่งโดยที่เธอไม่คุยกับคนข้างๆเลยแม้แต่น้อย เธอวางกระเป๋าที่มีตัวย่อภาษาอังกฤษว่า LV ไว้ที่โต๊ะข้างตัวแววตาของผู้หญิงที่นั่งอยู่รอบๆ เปล่งประกายเมื่อเห็นกระเป๋าของเธอ เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อยจากนั้นจึงหยิบ IPHONE 4 ขึ้นมากดเล่นทำให้คนไม่น้อยอดมองด้วยความอิจฉาไม่ได้

        คนในห้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่มักจะเป็๞ผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ถ้านับจ้าวเถี่ยจู้แล้ว ในห้องมีผู้ชายอยู่ประมาณยี่สิบคนเห็นจะได้ขณะนั้นเองหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดสูทสีดำ ในมือถือแฟ้มก็เดินเข้ามาในห้องเธอเดินไปที่เวทีด้านหน้าคนที่อยู่ในห้องทุกคนจึงเงียบลงทันทีแล้วมองไปที่หญิงสาวที่ยืนหน้าห้องแทนจ้าวเถี่ยจู้หรี่ตามองผู้หญิงตรงหน้า เธอสูงประมาณ 170 แต่ถ้ารวมกับส้นสูงที่เธอใส่ น่าจะสูงถึง 180 เลยทีเดียว เธอใส่แว่นตาสีแดง ม้วนผมไว้กลางศีรษะริมฝีปากที่แสนจะเซ็กซี่นั่นถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีแดง ใบหน้าจิ้มลิ้มและไฟตรงมุมปากช่วยให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นเธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไว้ภายใต้เสื้อสูทสีดำ หน้าอกที่ใหญ่เกินตัวของเธอทำให้เสื้อเชิ้ตมีช่องว่างระหว่างกระดุมเม็ดแรกและเม็ดที่สองซึ่งเขาเหมือนจะเห็นอะไรก็ไม่รู้สีแดงซ่อนอยู่ด้านในเธอใส่กระโปรงสั้นคลุมเข่าสีดำเช่นเดียวกับเสื้อสูท และใส่รองเท้าส้นสูงสีดำเพียงแค่หญิงสาวคนนี้ปรากฏตัว สายตาของทุกคนในห้องต่างก็จับจ้องไปที่เธอเป็๞ตาเดียวแม้ว่าเธอจะมีรูปร่างและความสวยเหมือนกับหลีหลิงเอ่อร์แต่เธอมีความเป็๞ผู้ใหญ่และเซ็กซี่กว่ามากถ้าเปรียบหลีหลิงเอ่อร์เป็๞ดอกไม้ก็คงเป็๞เหมือนกับดอกหญ้า น่ารักและสดใสส่วนหญิงสาวอีกคนจะเป็๞ดอกอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากดอกกุหลาบสีแดง มีเสน่ห์และเซ็กซี่รอให้คนมาเด็ดดม

        “สวัสดีทุกคน” เธอทักทายด้วยน้ำเสียงราบเรียบเสียงของเล็กและก็แหลม แต่ไม่ใช่แบบที่ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายหูแต่เป็๲แบบที่ทำให้รู้สึกคันในหัวใจยุบยับยุบยับ รื่นหูเป็๲ที่สุด “ฉันเป็๲อาจารย์ที่ปรึกษาของสาขานี้ ชื่อหลินต๋า ฉันหวังว่าพวกเราจะสามารถผ่าน๰่๥๹เวลาสี่ปีในมหาวิทยาลัยไปด้วยกันอย่างงดงาม” เธอพูดจบ คนในห้องต่างก็ปรบมือกันยกใหญ่โดยเฉพาะพวกผู้ชายที่ปรบมือกันเสียงดังเป็๲พิเศษ เธอยิ้มก่อนจะพูดต่อ “เอาล่ะ มากันพอสมควรแล้วฉันอยากจะขอตัวแทนนักศึกษาหนึ่งคนเดินเก็บใบตอบรับ มีใครจะอาสาไหม”

        “ผมครับ ผมครับ ผมครับ” ผู้ชายที่อยู่ในห้องต่างก็ยกมืออาสากันอย่างถ้วนหน้ารวมถึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ จ้าวเถี่ยจู้อย่างฟั่นเจี้ยนด้วยชายหนุ่มหน้าแดงขณะที่ยกมือ เขาได้แต่มองอย่างหมดคำพูด คนพวกนี้นี่ทำอย่างกับไม่เคยเห็นสาวสวยไปได้

        “แหมะ มีน้ำใจกันทุกคนเลย ลำบากใจนิดหน่อยนะเนี่ย ไม่รู้จะเลือกใครดีเลย” อาจารย์หลินต๋าขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างลำบากใจแต่ท่าทางแบบนั้นกลับยิ่งทำให้ผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านล่างคลั่งเข้าไปใหญ่

        “งั้นอาจารย์ซุ่มเอาละกัน” อาจารย์หลินต๋าบอกพร้อมทั้งหยิบใบรายชื่อขึ้นมาดูอยู่สักครู่ก่อนจะเรียกชื่อ “จ้าวเถี่ยจู้ ช่วยอาจารย์เก็บหน่อยนะ” เขาตะลึงไปชั่วขณะไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าจะเรียกชื่อเขาที่เป็๞คนเดียวที่ไม่ได้ยกมือเมื่อสักครู่เขาหันไปมองรอบๆ ก็เห็นแต่รังสีฆ่าฟันมองตอบกลับมา เขาจึงตอบปฏิเสธ “อาจารย์ครับ ผมไม่ว่าง”

        “หา?” อาจารย์หลินต๋ามองมาที่เขาอย่างแปลกใจที่เธอเรียกชื่อนี้เพราะว่าเป็๲ชื่อที่ดูซื่อๆ ดีแต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธออกมา หรือว่าจะไม่ใช่ผู้ชาย “นักศึกษาจ้าวคะ ช่วยอาจารย์หน่อยได้ไหมคะอาจารย์จะต้องตอบแทนเธออย่างแน่นอน” อาจารย์หลินต๋ายิ้มพร้อมทั้งกะพริบตาปริบๆออดอ้อน ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

        “เอ่อคือ... เห็นแก่ที่อาจารย์ขอร้อง งั้นผมเก็บให้ก็ได้ครับ” ตอนแรกจ้าวเถี่ยจู้ก็คิดจะทำเป็๞เงียบๆแต่เหมือนว่าอาจารย์คนนี้ยิ่งเขาปฏิเสธ เธอก็จะยิ่งอยากให้ทำนะสิ สู้เขารับคำเธอตอนนี้เธอจะได้ไม่ต้องมาทำตาเยิ้มใส่จนเขาเคลิบเคลิ้มดีกว่า

        เขาลุกขึ้นยืน เดินไปที่แถวหน้าสุดเพื่อเก็บใบตอบรับหลีหลิงเอ่อร์เลิกคิ้วมองเขาราวกับดูถูกที่เขาไม่มั่นคงกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่แต่เขาก็ไม่สนใจยังคงเดินเก็บใบตอบรับต่อ ตอนที่รับใบตอบรับจากพวกผู้ชายเขารู้สึกได้ถึงสายตาแห่งความอิจฉาที่มองมา แต่เขาก็ไม่สนใจอีกเช่นกันจนมาถึงหญิงสาวที่ใช้กระเป๋า LV เธอมองเขาอย่างเหยียดหยามก่อนจะหยิบใบตอบรับจากในกระเป๋าโยนให้เขาซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจ และยอมก้มลงเก็บแต่โดยดี

        เขาใช้เวลาเก็บเพียงไม่นาน จากนั้นจึงเดินถือใบตอบรับปึกนี้ไปมอบให้แก่อาจารย์หลินต๋าที่หน้าเวทีซึ่งอาจารย์ก็รับและพูดขอบคุณเขา ก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเขายังคงยืนอยู่ไม่ไปไหน “นักศึกษาจ้าว มีอะไรงั้นหรือ”

        “อาจารย์ ของตอบแทนที่บอกจะให้ล่ะครับ” เขาถามอีกฝ่าย

        “ดูสิ แป๊บเดียวอาจารย์ก็ลืมเลย แล้วนักศึกษาอยากได้อะไรตอบแทนค่ะ”

        “ผมจะรู้ได้ไง อาจารย์เป็๲คนพูด พูดออกมาแล้วจะมาเรียกคืนไม่ได้นะครับ”

        “งั้นขออาจารย์คิดก่อนนะ เอาแบบนี้ดีไหมพวกเราค่อยหาเวลาส่วนตัวไปนั่งคิดด้วยกัน” คนตรงหน้าพูดพร้อมทั้งย้ำตรงคำว่าส่วนตัว เป็๞พิเศษ อีกทั้งยังทำตาหวานเยิ้มใส่เขา ตอนแรกเขาก็คิดจะปฏิเสธแต่พอโดนแบบนี้เข้า... จ้าวที่ตอนนี้กลายเป็๞สาวกอาจารย์สาวไปอีกคนแล้วได้แต่รับคำอย่างทำอะไรไม่ได้ “ได้ครับ”

        “พี่เถี่ยจู้เนี่ยใจอ่อนจริงๆ เลย ถึงว่าทำไมถึงไม่มีแฟน เพราะพี่ไม่มีความปลอดภัยนี้เอง” เมื่อกลับมานั่งที่ หลีหลิงเอ่อร์ก็ใช้มือหยิกเขาก่อนจะพูดตัดพ้อ 

        เขาก็ได้แต่ยอมรับอย่างจนปัญญา

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้