ก่อนหลินซือฉิงจะมา เธอไม่เคยคิดว่าตนจะต้องเจอสถานการณ์เช่นนี้ หญิงสาวคิดเพียงว่ามีความเป็ไปได้มากที่ชายสวมหน้ากากจะลักพาตัวเซียวฉี่มาที่โรงงานร้างแห่งนี้เพื่อข่มขู่ตระกูลหลิน แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะคิดผิดอย่างมหันต์
ร่างของตัวประหลาดพวกนี้ถูกปกคลุมไปด้วยขนยาวรุงรัง ร่างกายผอมโซ เบ้าตาลึกโบ๋ แต่กลับมีแรงมหาศาลจนน่าใ อีกทั้งประกายตาสีเขียวอันน่าพิศวง ตกลงพวกมันเป็ตัวอะไรกันแน่? หรือจะเป็อย่างที่เย่เฟิงบอก โรงงานร้างแห่งนี้ซ่อนความลับบางอย่างของไช่เฉ่าหงและเพ่ยเค่อกรุ๊ป หญิงสาวอดคาดเดาขึ้นมาไม่ได้ แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีเวลาให้เธอคิดอะไรได้มากนัก
ตัวประหลาดขนยาวซึ่งสามารถคว่ำรถบรรทุกได้ปรากฏตัวตรงหน้าเธอกะทันหัน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนของมัน จนแทบจะอาเจียน ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เรียวขาของเธอก็ถูกตัวประหลาดจับเอาไว้
“โฮกก!” ตัวประหลาดขนยาวร้องคำราม มันยกตัวหญิงสาวมาขวางระหว่างตัวเองกับทหาร
มันคิดจะใช้เธอเป็ตัวประกัน!
“อย่ายิง!” เหลยิวิ่งเข้ามา สีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที!
ตัวประหลาดขนยาวเหล่านี้เพิ่งทุบหัวคนในทีมของเขาราวกับลูกแตงโม แม้มันจะถูกคนอื่นในทีมยิงตายอย่างรวดเร็ว แต่คนในทีมที่ตายไปก็ไม่อาจกลับมามีชีวิตได้อีกแล้ว ซ้ำตอนนี้หลินซือฉิงยังถูกมันจับเป็ตัวประกัน!
“ซือฉิง!” ท่ามกลางสถานการณ์กลับตาลปัตร หลินเต๋อเทียนถึงกับทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเห็นลูกสาวถูกจับเป็ตัวประกันก็ยิ่งเครียด
เมื่อเห็นสถานการณ์ของพวกตัวประหลาดในตอนนี้ หลินเต๋อเทียนก็พยายามหาวิธีที่พอจะเป็ไปได้ ชายวัยกลางคนก่นด่าตัวเองในใจที่ประมาทเกินไป หากหลินซือฉิงเป็อะไรไป เขาคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิต
เวลานี้ทุกคนต่างประหม่าและกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้า ทั้งยังจ้องหลินซือฉิงและตัวประหลาดขนยาวไม่กะพริบตา
“แค่กๆ…” หลินซือฉิงถูกตัวประหลาดขนยาวบีบคอลอยกลางอากาศ ทำให้รู้สึกราวกับขาดอากาศหายใจ เธอพยายามดิ้นรนไม่หยุด ทว่าไร้ประโยชน์ แม้แต่รถบรรทุก มันก็ยังคว่ำได้ เธอเป็เพียงเด็กสาวมหาวิทยาลัย จะมีแรงขัดขืนฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไร?
“ทุกคนถอยไปซะ” น้ำเสียงอึมครึมฟังดูน่ากลัวดังจากรอบทิศราวกับเสียงของภูตผี “ไม่งั้นฉันจะให้พวกแกได้เห็นฉากเด็ด! หึหึ~ เ้านั่นชอบเล่นกับเด็กสาวบอบบางเนื้อตัวนุ่มนิ่มแบบนี้เป็พิเศษเลยแหละ ไม่รู้ว่าเด็กนี่จะทนได้ไหมนะ…”
“แกเป็ใคร?” เมื่อหลินเต๋อเทียนได้ยินดังนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
หากยังสามารถเจรจากับอีกฝ่ายได้ก็ถือเป็เื่ดี แต่เกรงว่าหากเจรจากันไม่ได้ ชีวิตลูกสาวของเขาคงต้องจบลงเช่นกัน
“ไม่ใช่เื่ของแก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ!” น้ำเสียงมืดมนตวาดโต้ จากนั้นทุกคนก็เห็นตัวประหลาดกฉีกทึ้งเสื้อผ้าของหลินซือฉิงอย่างหยาบคาย
“ทุกคนถอย!” เหลยิหน้าถอดสี ะโสั่งการโดยไม่รอคำสั่งจากหลินเต๋อเทียน
เ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติรีบปฏิบัติตามคำสั่ง ขยับออกห่างทันที
“หึๆ ถอนกำลังทหารออกไปข้างนอก ไม่งั้นฉันจะให้พวกแกได้เห็นฉากเด็ดที่ว่า…” เสียงดังกล่าวยังออกคำสั่งต่อไป
มือที่เต็มไปด้วยขนของตัวประหลาดหยุดห่างจากหน้าอกของหลินซือฉิงไม่ถึงหนึ่งเิเ ดูก็รู้ว่าทุกอย่างอยู่ในกำมือของมัน!
หัวใจของหลินเต๋อเทียนรวมถึงคนอื่นแทบหยุดเต้น หากเกิดอะไรขึ้นกับหลินซือฉิงที่นี่ ผลที่ตามมาย่อมเกินกว่าจะจินตนาการได้! มันคิดจะทำอะไร? ในสถานที่เช่นนี้ยังคิดจะย่ำยีหลินซือฉิงงั้นเหรอ?
น่าชิงชังเกินไปแล้ว!
ฉัวะ!
ขณะที่หลินเต๋อเทียนสั่งให้หลินซิวอู่นำกำลังออกไป ลำแสงสีทองก็ตัดผ่านด้านหลังตัวประหลาดขนยาว!
ฉัวะ!
แสงกระบี่อันคมกริบฟันผ่านร่างตัวประหลาดจนขาดออกเป็สองท่อนภายในพริบตา ลำแสงสีทองนั้นสว่างจ้าจนทำให้ตาของทุกคนพร่ามัว ตัวประหลาดทรงพลังถูกกระบี่ตัดขาดเป็สองท่อน!
ตุบ!
ร่างของหลินซือฉิงหลุดจากมือของตัวประหลาดและหล่นลงในอ้อมกอดของใครบางคนอย่างแ่เบา
สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปกะทันหันทำให้คนทั้งหมดไม่ทันตอบสนอง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก พวกเขาเห็นเพียงชายสวมหน้ากากสีขาวใบหน้าบูดบึ้งคนหนึ่งพร้อมกระบี่สีทองในมือ
ชายสวมหน้ากาก!
เมื่อสถานการณ์เป็เช่นนี้ก็เท่ากับว่าชายสวมหน้ากากอยู่ฝั่งเดียวกับพวกเขา!
หลินเต๋อเทียนและเหลยิถึงกับมึนงงชั่วขณะ พวกเขารู้สึกว่าเื่ที่เกิดขึ้นช่างเหลวไหลสิ้นดี
ชายสวมหน้ากากคนนี้ย่อมเป็เย่เฟิง ขณะรถบรรทุกถูกตัวประหลาดคว่ำ เขาก็อุ้มซูเมิ่งหานพร้อมใช้ทักษะล่องหนควบคู่กับย่างก้าวไร้เงา วิ่งออกไปในที่ห่างไกลโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ชายหนุ่มให้ซูเมิ่งหานซ่อนตัวในสถานที่แห่งหนึ่ง และใช้ทักษะอำพรางตาไม่ให้ใครพบเห็นร่องรอยของซูเมิ่งหาน ก่อนกำชับอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามออกจากที่ซ่อนเด็ดขาด
หลังจากนั้นเย่เฟิงก็สวมหน้ากาก แล้ววิ่งออกจากที่ซ่อน เมื่อกลับมาจึงเห็นหลินซือฉิงถูกตัวประหลาดจับเป็ตัวประกัน
ชายหนุ่มใช้ทักษะล่องหนแอบอยู่ด้านหลังของตัวประหลาด ก่อนส่งพลังชี่เข้าไปในแหวนกระบี่ัโบราณ และเรียกกระบี่สีทองเล่มยาวออกมาฟันร่างตัวประหลาดจนขาดเป็สองท่อน
หลังจากเลื่อนพลังถึงระดับสิบปี กระบี่เจินชี่ของเขาก็เปลี่ยนเป็สีทอง!
“ไม่เป็อะไรใช่ไหม?” เย่เฟิงก้มมองพร้อมถามเสียงทุ้ม ก่อนจะเห็นท่าทีของหญิงสาวที่แทบหมดสติ โชคยังดีที่เธอยังคงรักษาสติเอาไว้ได้ จึงรู้ว่าเป็ชายสวมหน้ากากช่วยเธอ
ไม่ใช่เพียงเพราะเธอถูกตัวประหลาดบีบคอแรงเกินไป แต่กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนของมันทำให้หญิงสาวทนแทบไม่ไหว ยังดีที่เธอรอดมาได้โดยไม่หมดสติไปซะก่อน
“ขอบคุณ…” หลินซือฉิงพูดอย่างอ่อนแรง
“เราแค่มีศัตรูร่วมกัน” เย่เฟิงกล่าวด้วยเสียงทุ้ม เขาสามารถใช้จิตหยั่งรู้ได้ในระยะหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น ทำให้ไม่อาจพบร่องรอยน่าสงสัย แต่ชายหนุ่มก็พอเคาดเดาได้ว่าน้ำเสียงอึมครึมเมื่อครู่ดังมาจากสถานที่ที่ห่างออกไป
คนผู้นี้คือผู้สมรู้ร่วมคิดของไช่เฉ่าหงเหรอ?
เย่เฟิงแน่ใจมากว่าโรงงานร้างนี้ เป็สถานที่ที่ไช่เฉ่าหงเก็บซ่อนพวกตัวประหลาดเอาไว้ และผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นของเขาก็ต้องอยู่ที่นี่แน่
“นาย” หลินเต๋อเทียนลำคอแห้งผาก เมื่อเห็นชายสวมหน้ากากประคองลูกสาว เขายังไม่กล้าประมาทจึงรีบร้อนกล่าว “ขอถามอะไรหน่อยสิ…”
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ในเวลานั้นเอง จิตหยั่งรู้ทำให้เย่เฟิงััได้ว่าบางสิ่งพุ่งเข้ามา ภายใต้บรรยากาศยามค่ำคืนมีด บินสามเล่มก็พุ่งไปยังร่างของหลินเต๋อเทียนที่กำลังพูดอยู่
“เป้าหมายคือคนตระกูลหลินงั้นเหรอ? ฝีมือการใช้อาวุธลับไม่เลวเลย” เย่เฟิงยิ้มเยาะ เขาปล่อยหลินซือฉิงลงยืน ก่อนตั้งท่าเตรียมใช้วิชากรงเล็บั! เมื่อะเิพลังชี่ออกมาพร้อมอาศัยความสามารถของจิตหยั่งรู้ ทำให้รู้วิถีของมีดบินอย่างง่ายดาย
แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง!
เขาใช้มือเพียงข้างเดียวก็สามารถหยุดอาวุธลับทั้งหมดนั้นได้อย่างง่ายดาย หากเย่เวิ่นเทียนได้เห็นว่าเย่เฟิงสามารถใช้วิชากรงเล็บัขั้นสองได้ ย่อมต้องใจนกู่ร้องคำว่าอัจฉริยะออกมาแน่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้