“เหล่าหลิน ใครมาท้าประลองเหรอสั่งสอนพวกคนเกาหลีกับคนญี่ปุ่นไปยังไม่พออีกหรือไง” ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีชายชราท่าทางแข็งแกร่งดุดันผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพูดขึ้นด้วยเสียงดัง
“เ้าสี่ แกมีโอกาสชนะเยอะนะ ตาแก่นี่ดูไม่เหมือนหมอเลยสักนิด” หวังเซิงพูดขึ้นเบาๆ
“เธอบอกว่าใครไม่เหมือนหมอ เธอมันตาบอด ปลายนิ้วนิ้วนางข้างขวาเธอมีด่างขาวถ้าชีวิตที่ผ่านมาไม่ปล่อยปละละเลยขนาดนี้ก็จะเป็อันตรายต่อเธอแล้วก็ต่อผู้หญิงได้นะ จะให้ฉันสั่งยาจีนรักษาอาการให้หน่อยไหมล่ะ” ชายชราพูดด้วยเสียงดัง
“พวกยอดฝีมือในประเทศเนี่ยเรียนไปมั่วซั่ว เรียนกระทั่งฝ่ามือแปดทิศ[1]กับไทเก๊ก แต่น่าจะเพิ่งเริ่มเรียนวิชาแพทย์เมื่อสามสิบปีมานี้เองสินะใช้กำลังภายในควบคู่กับการฝังเข็มงั้นเหรอ ได้ผลไม่เลวเลยนี่” กัวไฮว่มองชายชราพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“ธะ...เธอรู้ได้ยังไง เหล่าหลิน แกเป็คนบอกเขาเหรอ” กรรมการสมาคมท่านนี้มีชื่อว่าอู๋ซู่ซาน ตอนแรกเขาได้เป็ศิษย์อาจารย์สำนักฝ่ามือแปดทิศต่อมาก็ได้ลักลอบเรียนไทเก๊ก สามสิบปีก่อนเขาได้บังเอิญพบกับหลินฉางเทียนหลังจากที่ทั้งสองได้พูดคุยกัน อู๋ซู่ซานก็เกิดความสนใจในวิชาแพทย์ยี่สิบปีก่อนจึงได้ใช้กำลังภายในและการฝังเข็มในการก่อตั้งวงการป่าดอกซิ่ง[2]
“เหล่าอู๋ เหล่าหลินบอกว่าอะไรเหรอ” ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่ชายชราใส่ชุดฉางเผาคนที่สามก็เดินเข้ามาในห้อง
“พ่อหนุ่ม ฉันขอแนะนำให้เธอรู้จักหน่อยนะ นี่คือหมอผีจางเทียนเจิงหมอยุทธอู๋ซู่ซาน หมอแร่ฉินหลง หมอไฟซุนเซิง เป็กรรมการทั้งสี่ท่านของสมาคมพ่อหนุ่มคนนี้จะมาท้าทายสมาคม พวกเธอคิดเอาเถอะว่าจะทำยังไง” หลินฉางเทียนพูดยิ้มๆ
“เหล่าหลิน ถ้าไม่มีเื่รีบร้อนอะไรฉันกลับก่อนล่ะตระกูลกู่ส่งหมอยุทธที่ถูกพิษเข้าเส้นเืมาให้รักษาคนนึง จะชักช้าไม่ได้” จางเทียนเจิงมองกัวไฮว่แวบหนึ่งก่อนจะพูดยิ้มๆ
“ฉันมียาอยู่หม้อหนึ่ง เตรียมจะออกจากหม้อแล้วล่ะ เหล่าหลินถ้าพ่อหนุ่มคนนี้มาท้าจริงๆ งั้นหมอแผนโบราณมือเทพอย่างแกก็มาจัดการสักหน่อยสิ” พูดเสร็จ ฉินหลงก็หมุนตัวออกไป
“ผมไปแล้วนะ พอดีบำบัดแบบร้อนให้คนคนนึงอยู่ ลืมเื่นี้ไปเลย” ซุนเซิงรีบพูด
“ขอเวลาพวกคุณไม่นานหรอกครับ ทั้งสี่คนแข่งด้วยกันเถอะถ้าผมแพ้ให้คนใดคนหนึ่ง ผมจะจากไป” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “หมอแร่ฉินหลง ผมมียาลูกกลอนอยู่เม็ดนึงเพิ่งทำมาไม่นานมานี้เอง ที่นี่ก็มีสมุนไพรหมด ถ้าคุณทำยาออกมาได้เหมือนกันผมก็จะยอมแพ้” กัวไฮว่ส่งกล่องไม้จันทน์ใบนั้นให้ฉินหลง จากนั้นก็หยิบถุงผ้าใบหนึ่งออกมาทำให้มีกลิ่นหอมกระจายไปทั่ว
“เหล่าฉิน แกจัดการเขาไปเถอะ พวกเราไปแล้วนะ” จางเทียนเจิงกับซุนเซิงพูดยิ้มๆ
“อย่าเพิ่งไปกัน ถ้าพวกแกไปจะต้องเสียใจแน่” ในตอนที่ฉินหลงเปิดกล่องไม้จันทน์นั่นเองฉินหลงก็ะโขึ้นมาเสียงดัง “พ่อหนุ่ม ฉันชื่อฉินหลงร่ำเรียนมาจากสำนักบู๊ตึ๊ง ไม่ทราบว่าอาจารย์ของพ่อหนุ่มเป็ใครกันเหรอ ยาลูกกลอนนี่พ่อหนุ่มเป็คนทำเองจริงๆ เหรอ” ฉินหลงพูดพลางประสานมือคารวะ
“สำนักโรยราไปแล้ว ไม่อาจบอกคนนอกได้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่ม ยานี่ฉันทำไม่ได้จริงๆ ฉันแพ้แล้วล่ะ” ฉินหลงพูดอย่างไม่อ้อมค้อม “แต่ว่าที่พ่อหนุ่มบอกว่าเป็คนทำยานี่เองฉันไม่เชื่อหรอกนะ”
“รอให้ผมชนะพวกสามคนที่เหลือก่อนเดี๋ยวผมจะทำยาอีกเม็ดให้คุณดูเองในเมื่อคุณยอมแพ้แล้วงั้นก็ไปยืนด้านข้างเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆอย่างไม่ไว้หน้าฉินหลงแม้แต่น้อย
“เหล่าฉิน เด็กนี่คงไม่ใช่ญาติแกหรอกนะ ไม่เห็นจะต้องมาหลอกกันแบบนี้นี่” จางเทียนเจิงพูดยิ้มๆ
“หมอผีจางเทียนเจิง จากนิ้วมือของคุณคุณน่าจะเป็ยอดฝีมือในการใช้ยาหรือจะพูดอีกอย่างก็คือน่าจะเป็ยอดฝีมือในการใช้พิษผมพูดถูกไหมครับ” กัวไฮว่หรี่ดวงตาพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“รู้ว่าฉันชื่อจางเทียนเจิงแล้วยังจะรู้ว่าฉันเป็หมอผีที่ใช้พิษในการรักษาอีกใช้พิษดับพิษ เธอจะประลองยังไงเหรอ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย” จางเทียนเจิงพูดด้วยเสียงดัง
“คุณอู๋ไม่พูดไม่จาเลยนะครับ ดูท่าทางน่าจะเตรียมประลองอยู่” กัวไฮว่มองอู๋ซู่ซานพร้อมกับพูดยิ้มๆโดยไม่ได้แยแสจางเทียนเจิงเลยแม้แต่น้อย
“หมอไฟซุนเซิง คุณกับหมอยุทธ คนหนึ่งไฟคนหนึ่งยุทธ แต่ใช้เข็มเหมือนกันงั้นก็มาประลองพร้อมกันเลยเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่ม ใครๆ ก็พูดอวดดีได้ ถ้าเธอชนะฉันได้ ฉันจะเลิกใช้เข็มไปตลอดเลย” ซุนเซิงพูดเสียงดัง
“วิชาแพทย์หัวซย่ามีเนื้อหากว้างขวางลึกซึ้ง ทั้งยังทำให้สมาคมแพทย์สะดวกสบายอีกพวกเราแค่มาแลกเปลี่ยนความรู้กันเฉยๆ ไม่ต้องเลิกใช้เข็มก็ได้ครับงั้นเรามาเริ่มกันเถอะ จะได้ไม่เสียเวลาพวกคุณ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่ม ที่นี่คือสมาคมแพทย์แผนจีน เธอจะประลองยังไงพวกเราก็จะทำตามนั้นออกไปจะได้ไม่ว่าเราเอาเปรียบ” จางเทียนเจิงพูดด้วยเสียงดัง
“คุณเชี่ยวชาญในการใช้พิษ งั้นคุณก็เลือกมาสักคนหนึ่งให้เขากินพิษเดี๋ยวผมจะถอนพิษเอง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่มพูดซะเพลินเลย หนทางแห่งพิษน่ะคือจุดกำเนิดในการทำร้ายคนถึงเธอจะถอนพิษได้แต่มันก็ส่งผลต่อร่างกายคนมหาศาลอยู่ดี แล้วถ้าเธอถอนพิษไม่ได้เสียเวลาอันมีค่าในการถอนพิษถึงฉันจะออกหน้าก็ไม่ได้จะช่วยชีวิตคนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะจะใช้วิธีประลองแบบนี้ไม่ได้หรอก” จางเทียนเจิงพูดเสียงดัง
“งั้นคุณให้พิษกับผม เื่ทั้งหมดเดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “คุณถามคุณฉินดูก็ได้ว่าถ้าพิษทำร้ายไปถึงต้นตอยาผมช่วยฟื้นฟูได้หรือเปล่า”
“เ้าสี่ แกอย่ามาวุ่นวายเลย ฉันว่าวิธีของแกไม่ได้เื่ แกคิดดูนะถ้าแกกินพิษไปไม่ว่าแกจะถอนพิษได้หรือไม่ได้มันก็จะส่งผลกระทบต่อการประลองถัดไปของแกอยู่ดี” หวังเซิงพูดเบาๆ อยู่ด้านข้าง
“ทั้งสามท่านพูดถูกแล้วล่ะครับ ไม่งั้นเอาแบบนี้ดีไหมให้คุณจางให้พิษกับพี่ แล้วเดี๋ยวผมช่วยพี่ถอนพิษเอง” กัวไฮว่หรี่ตามองหวังเซิงพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“ให้ตาย งั้นแกทำเองเถอะ ฉันยังไม่มีลูกมีเมีย วันเวลาดีๆของฉันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเอง” หวังเซิงพูดพลางก้าวถอยไปข้างหลัง
“เหล่าจาง ฉันว่าที่พ่อหนุ่มพูดก็ใช้ได้อยู่นะแกให้พิษกับฉันแล้วให้พ่อหนุ่มถอนพิษให้” ฉินหลงก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“เหล่าฉิน แกจะบ้าเหรอ” จางเทียนเจิงพูดพร้อมกับเบิกตาโพล่ง
“พ่อหนุ่ม ไม่ทราบว่าเธอเห็นด้วยหรือเปล่า” ฉินหลงมองกัวไฮว่พร้อมกับถามขึ้นโดยไม่ได้สนใจสีหน้าตกตะลึงของจางเทียนเจิง
“คุณฉินอุตส่าห์เอาตัวเองมาลองพิษ ผมจะช่วยสุดฝีมือเลยนะครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็ยังไงยาเม็ดนั้นก็จะเป็ของคุณฉิน” กัวไฮว่จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าตาแก่นี่คิดอะไรอยู่ยาลูกกลอนเม็ดเมื่อสักครู่ ไม่เพียงแต่จะสามารถถอนพิษได้สำหรับนักยุทธแล้วการได้ระดับพลังกายก็เป็สิ่งที่ไม่เลวเลย
“สรุปจะประลองไหม รีบบอกมาเร็วๆ ถ้าหากไม่กล้าผมก็จะไม่รบกวนพวกคุณแล้วนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ได้ ในเมื่อเหล่าฉินจะเข้าร่วม งั้นก็ทำตามแบบที่เธอบอก” จางเทียนเจิงพยักหน้า จากฝีมือด้านยาพิษของตนและยาลูกกลอนของเหล่าฉินแล้วคงจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเหล่าฉิน
“พ่อหนุ่ม ไม่ทราบว่าที่เธอบอกว่าให้พวกเราสามคนมาประลองด้วยกันเธอจะให้เราสองคนประลองยังไงเหรอ” อู๋ซู่ซานถามยิ้มๆ
“งั้นก็ให้พิษที่คุณจางทำขึ้นเข้าไปลึกอีกหน่อย ร่างคุณจางใหญ่ออกขนาดนั้นเดี๋ยวผมจัดการฝังเข็มกับใช้ความร้อนบำบัดเองพอถ้ารักษาคุณฉินหายดีแล้วผมก็จะกินพิษ แล้วพวกคุณค่อยมารักษาผมก็ได้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
[1] เป็หนึ่งในสามของศิลปะป้องกันตัวแขนงหลักของบู๊ตึ๊ง
[2] เป็คำเรียกยุคแห่งการแพทย์แผนโบราณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้